ตอนที่แล้วบทที่ 139 ช่างน่าสงสาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 141 ยิ่งชอบเธอมากขึ้น

บทที่ 140 จริงหรือที่มีปีศาจชายรูปงาม


ซวี่เสี่ยวกวงรีบกระโดดมายืนขวางหน้าเหยียนเชียนอี้ในท่าปกป้องเต็มที่ ชูฮวาก็ขยับตัวเข้ามาใกล้

หยุนมู่ลุกขึ้นมายืนข้างทั้งสามคน

ทั้งสี่คนมองรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง

“พี่ มันเป็นสัตว์ป่าหรือเปล่า” ซวี่เสี่ยวกวงถามเสียงเบา

เขาไม่ได้ยินอะไรเลย แต่ในเมื่อพี่บอกว่ามีอะไรเคลื่อนไหว แสดงว่าต้องมีแน่!

ยิ่งไปกว่านั้น ครูฝึกยังย้ำเตือนหลายครั้งว่าภูเขานี้เต็มไปด้วยอันตราย ห้ามประมาทเด็ดขาด

เหยียนเชียนอี้ส่ายหน้า “ไม่แน่ใจ ฉันได้ยินเหมือนเสียงสัตว์เลื้อยคลาน แต่บางครั้งก็คล้ายเสียงฝีเท้าคน”

เธอได้ยินเพียงเสียงแปลกๆ ที่ดังเข้ามาใกล้ แต่ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นอะไร

หลังจากที่เธอสังเกตว่ามีคนแอบดูเธออยู่ก่อนหน้านี้ เธอก็ยิ่งระมัดระวังตัวมากขึ้น

ทันใดนั้น สภาพอากาศที่เคยแจ่มใสกลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

เมฆดำหนาทึบก่อตัวขึ้นบดบังแสงอาทิตย์ ลมพัดแรงพาไอชื้นของภูเขาปะทะเข้ามา

ชูฮวาถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนแผ่นหลังจะแนบชิดกับเหยียนเชียนอี้ด้วยความหวาดกลัว “เชียนอี้… มัน… มันจะไม่มีปีศาจชายรูปงามแบบที่เธอเคยพูดจริงๆ ใช่ไหม”

ปีศาจชายรูปงาม หรือว่า…มู่หยุนเลี่ยเหรอ

ไม่น่าใช่ เขาไม่มีทางโผล่มาที่นี่ได้

ชูฮวาเอาศอกกระทุ้งหยุนมู่ “หยุนมู่ นายไม่ใช่ว่ามองเห็นอนาคตได้เหรอ นายรีบดูสิว่ามันคืออะไรกำลังเข้ามาใกล้เรา”

หยุนมู่ตอบอย่างจนปัญญา “การมองเห็นแบบนั้น ฉันทำไม่ได้ตอนนี้ ฉันต้องเห็นตัวคนก่อน”

ตอนนี้หยุนมู่สามารถมองเห็นอนาคตได้ก็ต่อเมื่อจ้องมองใครสักคนโดยตรง และสิ่งที่เขาเห็นก็จะเป็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

ถ้าพลังจิตของเขาสูงขึ้น เขาจะสามารถมองเห็นได้ไกลและครอบคลุมมากกว่านี้

ทันใดนั้น หยุนมู่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมา

เขาหันไปมองชูฮวาด้วยความตั้งใจ หวังว่าจะสามารถใช้การมองเห็นอนาคตของชูฮวา เพื่อรู้ว่าสิ่งที่กำลังเข้าใกล้พวกเขาคืออะไร

การจ้องมองในระยะประชิดของหยุนมู่ ทำให้ชูฮวาหัวใจเต้นแรง

เธอมองหยุนมู่ด้วยความตกตะลึง ริมฝีปากเผยยิ้มโดยไม่รู้ตัว

ว้าว~ ดวงตาสีเทาเข้มของหยุนมู่สวยจังเลย

แต่หยุนมู่ขมวดคิ้ว ก่อนจะรีบหลับตาและหันหน้าหนีทันที “ชูฮวา เธอกำลังทำอะไรกับฉัน”

เพียงสบตากับดวงตาสีเขียวมรกตของชูฮวา เขาก็ไม่สามารถใช้พลังพิเศษของตัวเองได้

“อ๊ะ! ขอโทษๆ เมื่อกี้ฉันอาจเผลอใช้พลังพิเศษใส่นาย”

บางครั้งเธอก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ หากเธอจ้องตาใครนานเกินไป เธออาจเผลอสะกดจิตคนๆนั้น เพื่อดึงความจริงออกมาโดยไม่ตั้งใจ

เมื่อตอนอายุ 15 มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาสารภาพรักกับเธอ

เธอแอบรู้สึกหวั่นไหว เพราะเขามีดวงตาที่สวยมาก เธอจึงจ้องตาเขาไม่วางตา

ตอนที่เด็กผู้ชายคนนั้นพูดว่า “ชอบเธอ”

เธอดีใจมากจนถามออกไปว่า “นายชอบฉันจริงๆ เหรอ”

ผลปรากฏว่า…

เด็กผู้ชายคนนั้นพูดความจริงออกมาหมด เขาบอกว่าเขาไม่ได้ชอบเธอเลย แต่ที่มาสารภาพรัก เพราะถูกพ่อแม่บังคับให้ทำ

“มาแล้ว! มาแล้ว! พวกนายสองคนเลิกทะเลาะกันได้แล้ว!” ซวี่เสี่ยวกวงพูดขึ้นทันที เขาได้ยินเสียงแปลกๆนั้นแล้ว จึงรีบมายืนขวางหน้าเหยียนเชียนอี้

ทันใดนั้น เด็กหนุ่มในชุดทหารลายพรางคนหนึ่งก็เดินออกมาจากพุ่มไม้

“…” ซวี่เสี่ยวกวงอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะร้องออกมา “เฮ้ย! นายนี่เอง! ทำเอาพวกเราตกใจหมด นึกว่าเป็นตัวประหลาดอะไรซะอีก!”

จู่ๆชูฮวาก็ร้องเสียงดัง

ซวี่เสี่ยวกวงที่เพิ่งจะผ่อนคลายลง ตกใจจนมองซ้ายมองขวาอีกครั้ง

“งูพิษ! งูพิษ!” ชูฮวาชี้ไปที่มือของเด็กหนุ่มในชุดทหาร

ทันใดนั้นก็เห็นงูพิษลายทอง (งูสามเหลี่ยมทอง) ถูกลากอยู่ในมือของอวี๋จิ่น

เหยียนเชียนอี้คลายความระแวดระวังในทันที ไม่แปลกใจเลยที่เธอรู้สึกว่าเสียงเคลื่อนไหวแปลกไป ที่แท้เสียงนั้นมาจากการที่งูถูกลากไปกับพื้นหญ้า

อวี๋จิ่นโยนงูในมือลงตรงเท้าของพวกเขาทั้งสี่คนแล้วพูดว่า “พวกนายจัดการเอา”

จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งที่มุมหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ

“แบ่งให้เรากินเหรอ”ซวี่เสี่ยวกวงถาม

อวี๋จิ่นเม้มปากก่อนพยักหน้าเบาๆ

“นายมันเพื่อนแท้!”ซวี่เสี่ยวกวงพูดด้วยความยินดี “พี่ เรามีอะไรกินแล้ว!”

ชูฮวากลับกระโดดถอยไปด้วยความกลัว “แต่นี่มันงูพิษ กินได้เหรอ”

“กินได้สิ! แถมอร่อยมากด้วย!” ซวี่เสี่ยวกวงหันไปถามเหยียนเชียนอี้ “ใช่ไหมพี่”

เหยียนเชียนอี้พยักหน้า “ไม่ใช่แค่กินได้ แต่นี่ยังเป็นของดีอีกด้วย”

ในตำราแพทย์แผนโบราณ งูพิษลายทองถือเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงเลือด เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก เปิดเส้นลมปราณ ขับลมและโรค ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง

หากนำมารับประทาน เพียงแค่ควักเครื่องในออก ถอนฟันพิษ และนำถุงพิษที่อยู่บริเวณข้างหัวออก ก็สามารถกินได้อย่างปลอดภัย

เหยียนเชียนอี้ก้มมองงูพิษที่อยู่ใต้เท้าด้วยความสงสัย เธอสังเกตเห็นรอยกัดที่เหมือนฟันมนุษย์บนตัวงู

เธอหันไปมองอวี๋จิ่นที่นั่งอยู่ไม่ไกล “นายกัดงูตัวนี้จนตายเหรอ”

ตอนฝึกที่ศูนย์ฝึก เธอเคยอยู่ทีมเดียวกับอวี๋จิ่น และได้ยินจากชูฮวาแล้วว่า อวี๋จิ่นมีความสามารถพิเศษเกี่ยวกับพิษ

อวี๋จิ่นไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ส่งเสียง “อืม” ออกมาจากจมูก

“ฮ่าๆๆๆ!”ซวี่เสี่ยวกวงหัวเราะลั่น “ฉันเคยเห็นแต่คนโดนงูกัดตาย นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนกัดงูพิษจนตาย อวี๋จิ่น นายมันสุดยอด! พิษของนายยังร้ายแรงกว่างูพิษอีก!” อวี๋จิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย

ชูฮวาถูแขนตัวเองแรงๆ เพราะแค่เห็นงูพิษตัวนี้ เธอก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัวอยู่แล้ว แต่พอรู้ว่าอวี๋จิ่นกัดงูจนตาย เธอถึงกับขนลุกไปทั้งตัว

ซวี่เสี่ยวกวงหยิบมีดพกออกมา “พี่ไปถูไม้ก่อไฟเถอะ เดี๋ยวฉันกับหยุนมู่ไปจัดการงูตัวนี้ที่ลำธารเอง”

ทันใดนั้น อวี๋จิ่นโยนอุปกรณ์จุดไฟมาให้

เหยียนเชียนอี้เหลือบมอง “มีอุปกรณ์จุดไฟแล้ว หยุนมู่ นายก่อไฟเถอะ อย่าให้ชูฮวาแตะของแบบนี้อีก ฉันกับเสี่ยวกวงจะไปจัดการงูเอง”

“พี่เรียกผมว่าอะไรนะ” ซวี่เสี่ยวกวงเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น

พี่เรียกเขาว่า “เสี่ยวกวง” แล้ว!

นี่หมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่ก้าวหน้าขึ้นแล้วใช่ไหม

ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าชื่อของตัวเองดูธรรมดาเกินไป ไม่เหมือนคนที่จะประสบความสำเร็จ

แต่ตอนนี้ พอได้ยินพี่เรียก มันกลับดูยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที!

“เลิกพูดมากได้แล้ว รีบจัดการเถอะ” เหยียนเชียนอี้พูดขณะหยิบงูพิษลายทองขึ้นมาด้วยมือเปล่า ก่อนจะเดินตรงไปยังลำธาร

"ได้เลย!" ซวี่เสี่ยวกวงรีบเดินตามหลังเหยียนเชียนอี้ไปอย่างกระตือรือร้น

"เชียนอี้นี่ใจกล้ามากเลย กล้าจับงูด้วยมือเปล่า ฉันแค่มองก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว" ชูฮวามองแผ่นหลังของเหยียนเชียนอี้ด้วยความชื่นชม

ถ้าจะให้เธอจับงูด้วยมือเปล่า เธอคงช็อกตายไปตรงนั้นแน่ๆ

"มา ฉันสอนเธอก่อไฟเอง" หยุนมู่หยิบอุปกรณ์จุดไฟที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา "พวกเราสาขาพิเศษ ในอนาคตจะต้องมีภารกิจเดี่ยวให้ทำบ่อยๆ ทักษะการเอาตัวรอดพื้นฐานแบบนี้ เธอต้องฝึกให้เป็น"

คำพูดของหยุนมู่ทำให้หัวใจของชูฮวาอบอุ่นขึ้น เธอพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

ตั้งแต่เธอออกจากบ้านมา เธอต้องอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด

แต่หลังจากได้เข้าเรียนที่โรงเรียนทหารสหพันธรัฐ เธอกลับได้เจอเหยียนเชียนอี้ หยุนมู่ และตอนนี้ยังมีซวี่เสี่ยวกวงอีก

พวกเขาดีกว่าคนในครอบครัวที่ทำร้ายเธอมากมาย เธอรู้สึกมีความสุข เป็นความสุขที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยในชีวิต!

เมื่อมาถึงลำธาร ซวี่เสี่ยวกวงรับงูพิษลายทองจากมือของเหยียนเชียนอี้ "พี่นั่งพักเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง"

เขาหันกลับไปมองอวี๋จิ่นที่นั่งอยู่ไกลออกไป ก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่น "ฉันจะเล่าเรื่องสนุกๆ ให้ฟัง รับรองว่าฮาจนขำตายแน่!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด