ตอนที่แล้วบทที่ 138 งานอดิเรกแปลกๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 140 จริงหรือที่มีปีศาจชายรูปงาม

บทที่ 139 ช่างน่าสงสาร


“ซวี่เสี่ยวกวงนี่แสบจริง แอบเอาอาหารติดตัวมาด้วย” ชูฮวาพูดขึ้น

“ก็เอามาให้เรากินบ้าง ไม่งั้นฉันจะแจ้งครูฝึก ครูบอกแล้วว่าถ้าแอบเอาอาหารมาจะโดนไล่ออก”

ซวี่เสี่ยวกวงทำหน้าลำบากใจ “ไม่มีแล้วๆ ชิ้นนี้ชิ้นสุดท้าย ฉันแอบเก็บไว้ให้พี่ฉันโดยเฉพาะ”

เหยียนเชียนอี้ยื่นช็อกโกแลตในมือให้ชูฮวา “เอาไปกินเถอะ”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันหาเอาจากผลไม้ป่าก็ได้” ชูฮวาไม่กล้ากินของเหยียนเชียนอี้

หยุนมู่จ้องซวี่เสี่ยวกวงด้วยสายตาคมกริบ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า “นายต้องมีอีกแน่ๆ”

ซวี่เสี่ยวกวงถอนหายใจยาว ก่อนหยิบช็อกโกแลตอีกชิ้นออกมาแล้วยื่นให้ชูฮวา “ชิ้นสุดท้ายแล้วนะ ให้สาวๆกินเถอะ”

ชูฮวารับไปอย่างดีใจ แกะห่อออกแล้วหักแบ่งครึ่ง ยื่นอีกครึ่งให้หยุนมู่

ทุกคนเดินมา 6 ชั่วโมงเต็มจนท้องร้องกันหมด การแบ่งกันกินจึงเป็นเรื่องธรรมดา

แต่หยุนมู่กลับไม่รับ และจ้องซวี่เสี่ยวกวงราวกับมีตาทะลุปรุโปร่ง “นายยังมีอีก”

“ไม่มีแล้ว”ซวี่เสี่ยวกวงหลบสายตาอย่างเห็นได้ชัด

ชูฮวาที่ชำนาญการสังเกตสีหน้าและอารมณ์คน มองแวบเดียวก็รู้ว่าซวี่เสี่ยวกวงโกหก “ซวี่เสี่ยวกวง เราอยู่ทีมเดียวกัน ถ้ามีของดีต้องแบ่งกันกิน นายไม่ร่วมมือแบบนี้ ฉันไม่อยู่ทีมเดียวกับนายแล้ว!”

“เฮ้อ…” ซวี่เสี่ยวกวงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหยิบช็อกโกแลตอีกชิ้นออกมาด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ แล้วหักแบ่งครึ่งให้หยุนมู่

เขาทำหน้าราวกับจะร้องไห้ “นี่แหละของจริง ไม่มีอีกแล้ว”

“ซวี่เสี่ยวกวง นายเก่งมากเลยนะ! ซ่อนช็อกโกแลตไว้ได้ตั้งสามชิ้น!” ชูฮวาประหลาดใจ “นายรอดการตรวจค้นของครูฝึกมาได้ยังไง”

ซวี่เสี่ยวกวงโยนช็อกโกแลตใส่ปาก ก่อนตอบว่า “ที่ดาวชั้นล่างของพวกเรา บ้านคนจนอย่างฉันไม่มีแม้แต่น้ำหล่อเลี้ยงชีวิตให้ดื่ม ฉันโตมากับการแย่งอาหารกับคนอื่น ถ้าไม่เรียนรู้วิธีซ่อนอาหารไว้ ฉันจะอยู่รอดมาถึงวันนี้ได้ยังไง”

คำพูดของเขาทำให้ชูฮวาตาแดงก่ำทันที “ช่างน่าสงสาร…”

เธอเริ่มรู้สึกผิดที่ข่มขู่เขาเมื่อครู่นี้ แม้จะแค่พูดให้กลัวเล่นๆ เพราะต่อให้ซวี่เสี่ยวกวงไม่แบ่งให้ เธอก็ไม่คิดจะฟ้องจริงๆ

ชูฮวาพูดด้วยความจริงจัง “ซวี่เสี่ยวกวง ต่อจากนี้ไป ฉันจะถือว่านายเป็นเพื่อนแท้ของฉัน ฉันจะดีกับนายให้มากๆ!”

ซวี่เสี่ยวกวงขนลุกซู่กับคำพูดซาบซึ้งนั้น “พอเถอะ ฉันไปจับปลาแล้วกัน พวกเธอรีบก่อไฟซะ”

เขาทนไม่ได้เวลาคนอื่นมาทำซึ้งใส่ โดยเฉพาะเด็กสาวที่ดูอ่อนหวานแบบนี้

และที่สำคัญ นอกจากเหยียนเชียนอี้แล้ว เขาไม่ได้สนใจเลยว่าใครจะมองเขาเป็นเพื่อนหรือไม่

เหยียนเชียนอี้พูดว่า “งั้นพวกเธอสองคนก่อไฟกันไปก่อน เดี๋ยวฉันไปดูข้างหลังว่ามีผลไม้ป่าที่กินได้ไหม”

หยุนมู่รีบเสนอ “ฉันไปกับเธอเอง”

“ไม่ต้อง นายช่วยชูฮวาก่อไฟเถอะ เธอทำคนเดียวไม่เป็นหรอก ฉันไปไม่ไกลหรอก แป๊บเดียวก็กลับมา”

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เหยียนเชียนอี้สังเกตว่าถึงแม้ชูฮวาจะดูเหมือนยากจน แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่ไม่ประสีประสาในเรื่องชีวิตประจำวันเอามากๆ หลายอย่างทำไม่เป็นเลย

แบบนี้น่าจะเป็นคุณหนูที่หนีออกจากบ้านมาใช้ชีวิตข้างนอกแน่ๆ

เมื่อถูกปฏิเสธ หยุนมู่ก็ไม่ได้ยืนกรานอีก เขาหันไปช่วยชูฮวาหาไม้แห้งมาวางเตรียมก่อไฟ

หลังจากวางไม้เรียบร้อย เขาก็มองไปในทิศทางที่เหยียนเชียนอี้เดินหายไป พลางครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนถามว่า “ชูฮวา เธอทำไฟเองได้ใช่ไหม”

“ได้สิ เรื่องแค่นี้ไม่ยากเลย” ชูฮวายิ้มแล้วหยิบอุปกรณ์จุดไฟออกมา “ก็แค่จุดไม้ให้ติดไฟใช่ไหมล่ะ”

“งั้นก็ดี ฉันไปหาที่ปลดทุกข์แป๊บ เดี๋ยวกลับมา”

“ไปเถอะ”

หยุนมู่ลุกขึ้นแล้วเดินตามทิศทางที่เหยียนเชียนอี้เดินไป

เหยียนเชียนอี้กำลังสำรวจในป่า เธอสังเกตว่าพื้นที่ตรงนี้อยู่ใกล้ลำธาร ดินชุ่มชื้น ทำให้มีโอกาสพบพืชสมุนไพรหายากได้

แต่หลังจากหามานาน เธอก็ไม่เจอเห็ดหลินจือหรือสมุนไพรล้ำค่าที่หวังไว้ เจอแต่เห็ดพิษจำนวนมาก แถมผลไม้ป่าก็ยังมีพิษอีก

ต้นไม้สมุนไพรที่พอใช้ประโยชน์ได้ซึ่งเธอเจอบางต้นก็ดูธรรมดาเกินไป

เพราะเธอแบกเป้มาได้เพียงใบเดียว พื้นที่จำกัด เธอจึงเลือกเก็บเฉพาะของที่ดีที่สุดกลับไปเท่านั้น

ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นในใจเธอ

ผลกระทบจากมลพิษในยุคเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้แม้แต่ธรรมชาติในป่าลึกก็ไม่สามารถหล่อเลี้ยงพืชหายากได้อีก

ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด

ทันใดนั้น เสียงระเบิดดัง “ปัง!” มาจากทิศทางลำธาร

เธอหันกลับไปมอง เห็นเงาของใครบางคนพุ่งผ่านต้นไม้ไปอย่างรวดเร็ว

มีคนแอบเฝ้าดูเธออยู่! ที่สำคัญ เธอไม่รู้ตัวเลย แสดงว่าคนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาตามไปดู เธอรีบวิ่งกลับไปยังลำธาร

เมื่อถึงที่นั่น เธอเห็นชูฮวานั่งแปะอยู่กับพื้น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าเปื้อนเขม่าดำไปหมด

“นี่! เธอทำอะไรเนี่ย” ซวี่เสี่ยวกวงยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกางเกงที่พับขึ้นและไม้เสียบปลาในมือ มองเธอด้วยสีหน้าตกใจปนขำ

ชูฮวาทำปากเบะ น้ำเสียงสั่นเครือ “ก่อไฟนี่มันยากจริงๆ เลย…”

เหยียนเชียนอี้เดินเข้าไปตรวจดูสถานการณ์

ปรากฏว่าชูฮวาจุดไฟไม่ติด เลยเปิดอุปกรณ์จุดไฟทิ้งไว้ จนมันร้อนจัดและระเบิดขึ้นมา

“เธอบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เหยียนเชียนอี้ถาม

ชูฮวาส่ายหน้า ก่อนยกมือขึ้นมาขยี้ตาที่แดงก่ำเล็กน้อย ดูเหมือนจะตกใจไม่น้อย

ตอนที่เธอรู้สึกว่าอุปกรณ์จุดไฟเริ่มร้อนจนถือไม่ไหว เธอโยนมันทิ้งไปทันที

โชคดีที่เพียงไม่กี่วินาทีหลังโยน อุปกรณ์ก็ระเบิด หากช้ากว่านี้ มือของเธอคงแหลกละเอียดไปแล้ว

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจุดไฟเอง” เหยียนเชียนอี้พูด

“แต่ตอนนี้อุปกรณ์จุดไฟก็พังไปแล้ว…” ชูฮวารู้สึกผิดมาก “ในทีมเรามีแค่ฉันที่เอามา แถมยังทำมันพังอีก ฉันผิดเองที่ซุ่มซ่าม…”

“ไม่ต้องกังวลหรอก เราใช้วิธีถูไม้ให้เกิดไฟได้” เหยียนเชียนอี้เดินไปดูไม้ที่ยังอุ่นอยู่ การจุดไฟด้วยวิธีนี้ไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่อเห็นซวี่เสี่ยวกวงยังยืนอยู่ข้างๆ เหยียนเชียนอี้เงยหน้าขึ้นมองเขา “นายมัวยืนทำอะไรอยู่ ไปเอาปลามาสิ”

“เอ่อ…”ซวี่เสี่ยวกวงหัวเราะแห้งๆอย่างกระอักกระอ่วน “จับไม่ได้เลย ในน้ำแทบไม่มีปลาเลย บางทีมีปลาตัวเล็กๆ แต่เล็กจนกินไม่อิ่มแน่ๆ”

ตอนนี้เสื้อผ้าของเขาเปียกไปหมด หมวกกันแดดบนหัวก็เอียง ดูทุลักทุเลไม่น้อย

“พี่ เจอผลไม้ป่าไหม”ซวี่เสี่ยวกวงถาม

เหยียนเชียนอี้ส่ายหน้า

ซวี่เสี่ยวกวงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “งั้นพวกเราก็ลำบากแล้วสิ ยังไม่ทันเจอธง อาจจะอดตายซะก่อน!”

ขณะนั้นเอง หยุนมู่กลับมาที่ลำธาร ซวี่เสี่ยวกวงต่อว่าทันที

“ไอ้หมอนี่ นายไปไหนมา ทำไมปล่อยให้ชูฮวาอยู่จุดไฟคนเดียว นายรู้ไหมว่าเธอเกือบโดนอุปกรณ์จุดไฟระเบิดใส่!”

ได้ยินแบบนั้น ชูฮวาจมูกแดงขึ้นมาอีกครั้ง

ในฐานะนักเรียนโรงเรียนทหารสหพันธรัฐ หากเธอโดนอุปกรณ์จุดไฟระเบิดจนตาย คงได้กลายเป็นเรื่องตลกแห่งปีแน่ๆ

หยุนมู่เดินไปนั่งบนก้อนหินใหญ่แล้วพูดว่า “กินช็อกโกแลตหมดอายุของนายเข้าไป ท้องเสียหมด”

“หา! ช็อกโกแลตของฉันไม่ได้หมดอายุนะ!”ซวี่เสี่ยวกวงโกรธจัด “ฉันเตรียมไว้ให้พี่ฉันโดยเฉพาะ จะเป็นของหมดอายุได้ยังไง! นี่นายดูถูกว่าฉันจนเหรอ”

พูดจบเขาก็โยนไม้ไผ่ในมือทิ้ง แล้วพุ่งเข้าไปหาเรื่องหยุนมู่ทันที

“เงียบ! อย่าทะเลาะกัน!” เหยียนเชียนอี้พูดเสียงเข้ม พลางทำหน้าตึง “แถวนี้มีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด