บทที่ 135 ปรากฏตัวในห้องของเธอกะทันหัน
ซวี่เสี่ยวกวงเพิ่งจะอ้าปากจะพูดเรื่องของตัวเอง แต่เหยียนเชียนอี้กลับหันไปมองชูฮวา “มีอะไรเหรอ”
ซวี่เสี่ยวกวงเลยค่อยๆ หุบปากลง มองชูฮวาด้วยสายตาเฉียงๆ
ชูฮวาก้มลงมองหน้าจอโปร่งแสงที่ฉายออกมาจากสร้อยข้อมือของเธอ แล้วถามว่า “เชียนอี้ เธอรู้จักเดนนิสไหม”
ชื่อฟังดูคุ้นๆอยู่บ้าง
เหยียนเชียนอี้ค่อยๆ นึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อคืนเธอเพื่อจะหลบเลี่ยงคำถามของมู่หยุนเลี่ย เลยพูดชื่อดาราคนหนึ่งออกไปแบบส่งเดช
แต่จริงๆ แล้ว เดนนิสทำอะไรหรือเป็นใคร เธอเองก็ไม่รู้
อย่าว่าแต่ตอนนี้เธอเพิ่งตื่นจากการหลับใหลมา 2 ปีเลย แม้แต่เมื่อก่อน เธอก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องวงการบันเทิงเท่าไร
ที่ในหัวเธอมีชื่อของเดนนิสอยู่ ก็น่าจะเพราะเธอได้ยินเพื่อนผู้หญิงพูดถึงบ่อยๆ
พอเห็นว่าเหยียนเชียนอี้ไม่ตอบ ซวี่เสี่ยวกวงรีบหาโอกาสแสดงตัวทันที
“ผมรู้ ผมรู้! เขาคือไอดอลสายร้องเต้นที่ดังไปทั่วจักรวาล เมื่อปีที่แล้วเขาเริ่มเล่นละครด้วย ผู้หญิงหลายคนคลั่งไคล้เขามาก!”
ชูฮวาอุทานด้วยความตกใจ “เมื่อก่อนฉันก็ชอบเขาอยู่นะ หน้าตาก็หล่อดี แต่ไม่คิดเลยว่าชีวิตส่วนตัวของเขาจะยุ่งเหยิงขนาดนี้ คบผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ในเน็ตกำลังพูดถึงเรื่องของเขากันเต็มไปหมด”
ซวี่เสี่ยวกวงเสริมอีกว่า “แบบนี้เขาเรียกว่าจอมบริหารเวลา หรือ ‘เจ้าแห่งปลา’ ของแท้เลย”
“น่าเสียดายนะ หน้าตาดีซะเปล่า คราวนี้ดับแน่ๆ” ชูฮวาเก็บหน้าจอโปร่งแสงลง แล้วเริ่มจับตะเกียบกินข้าว
พอเห็นเหยียนเชียนอี้ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ชูฮวาถามขึ้นมา
“เชียนอี้ เป็นอะไรไป หรือเธอจะเป็นแฟนคลับของเดนนิสด้วย สามีของเธอยังหล่อกว่าเดนนิสตั้งเยอะเลยนะ”
“เปล่า ไม่มีอะไร” เหยียนเชียนอี้ดึงสติกลับมา
ตอนนี้เธอรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
ไม่ใช่เพราะเดนนิส แต่เพราะตัวเอง
เมื่อคืนเธอเพิ่งจะบอกมู่หยุนเลี่ยไปว่า ไอดอลในดวงใจของเธอคือเดนนิส แต่วันนี้เดนนิสกลับโดนแฉเรื่องฉาว
มู่หยุนเลี่ยต้องเอาเรื่องนี้มาล้อเธอแน่ ว่าตาเธอแย่มากถึงขั้นชอบผู้ชายแบบนั้น
ถ้ารู้แบบนี้ เมื่อคืนเธอควรพูดชื่อดาราคนอื่นไปแทน
“พี่ ผมพูดเรื่องของผมได้หรือยังครับ” ซวี่เสี่ยวกวงพูดด้วยรอยยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยความระมัดระวังและรอคอยคำตอบ
ตอนเที่ยงที่มาท้าเหยียนเชียนอี้ เขายังดูเป็นอันธพาลกร่างเต็มขั้นอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นลูกหมาตัวน้อยที่ว่านอนสอนง่าย ราวกับเป็นคนละคน
เหยียนเชียนอี้กัดตะเกียบเล็กน้อย “ว่ามาสิ”
“อีกหนึ่งเดือนจะมีการฝึกภาคสนามใช่ไหมครับ ตอนนั้นเรามาจัดทีมกันเถอะ งานสกปรกหรืองานหนักๆ ผมจัดการเองทั้งหมด พี่ก็แค่รับหน้าที่ชื่นชมวิว ถ่ายรูปสวยๆ ไปก็พอ”
เหยียนเชียนอี้ปฏิเสธทันทีโดยไม่คิด “ไม่จำเป็น ฉันกับชูฮวาแค่สองคนก็พอแล้ว”
“ผมรู้นะว่าพลังจิตของน้องสาวชูฮวาในกลุ่มนักเรียนใหม่ก็ไม่น้อยหน้าใคร แต่ทั้งสองคนเป็นผู้หญิง การฝึกภาคสนามมันต้องมีงานบางอย่างที่ต้องพึ่งผู้ชายอยู่ดี”
“ใครบอกว่าฉันเป็นน้องสาวนาย” ชูฮวากลอกตาใส่ซวี่เสี่ยวกวง “ตอนเที่ยงนายยังกร่างอยู่เลยไม่ใช่เหรอ บอกว่าไม่เห็นหัวคนที่ใช้เส้นเข้ามา แล้วนี่ทำไมถึงมาเลียแข้งเลียขาเอาตอนนี้”
ซวี่เสี่ยวกวงเบะปากเล็กน้อย “หน้าเด็กขนาดนี้ ดูยังไงก็เหมือนเด็กน้อยชัดๆ”
พูดจบก็หันไปส่งยิ้มประจบให้เหยียนเชียนอี้ “พี่ครับ เรื่องเมื่อก่อนมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ถ้าพี่รังเกียจผมเพราะผมผิวดำ ไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมล่ะก็ พรุ่งนี้ผมจะเริ่มทาครีมไวท์เทนนิ่ง ทาครีมกันแดดวันละหลายรอบ รับรองว่าจะขาวยิ่งกว่าผู้หญิงอีก!”
“ฮ่าๆ~” เหยียนเชียนอี้หลุดหัวเราะออกมา
“งั้นพี่ตกลงแล้วใช่ไหมครับ”
“ไว้ค่อยว่ากัน”
ชูฮวาหยิบตะเกียบเคาะคางตัวเองเบาๆ ขณะที่ครุ่นคิด
“ซวี่เสี่ยวกวง ถ้าอย่างนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอต้องช่วยพวกเราต่อแถวซื้อข้าวทุกมื้อทั้งกลางวันและเย็น”
ตอนที่เธอจะได้เป็นเพื่อนกับเชียนอี้ เธอต้องพยายามเยอะมาก จะให้ซวี่เสี่ยวกวงได้อะไรไปง่ายๆ ไม่ได้
“ได้เลย ไม่มีปัญหา!” ซวี่เสี่ยวกวงตบอกตัวเอง “ผมจัดการให้แน่นอน รับประกันว่าอาหารที่ได้จะสดใหม่และร้อนที่สุด!”
“นี่ บัตรอาหาร เอาเก็บไว้ให้ดีๆ ฉันรู้ว่านายไม่มีเงิน” ชูฮวาโยนบัตรอาหารของตัวเองและเหยียนเชียนอี้ให้ซวี่เสี่ยวกวง
ซวี่เสี่ยวกวงรับบัตรไปอย่างดีใจราวกับได้ตั๋วผ่านเข้าสู่เส้นทางของคนเก่ง
เหยียนเชียนอี้อายุยังน้อย แต่พลังจิตกลับสูงถึง 70+ ความแข็งแกร่งและพรสวรรค์แบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหมื่น!
ถ้าได้อยู่ใกล้คนเก่งแบบนี้ เขาก็จะเก่งขึ้นได้เหมือนกัน!
ดังนั้นโอกาสนี้ เขาจะไม่ปล่อยหลุดมือเด็ดขาด!
…
ในยามดึก เหยียนเชียนอี้กลับมาที่อพาร์ตเมนต์เช่าของเธอหลังจากตรวจคนไข้เสร็จ
เธอไม่ได้บอกแม่นมว่าคืนนี้จะกลับมา และตอนนี้แม่นมก็นอนหลับไปแล้ว
เหยียนเชียนอี้ย่องกลับเข้าห้องนอนอย่างเงียบๆ ปิดประตู ถอดหน้ากากออก แล้วนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
จากนั้นเธอเปิดบัญชีส่วนตัวขึ้นมา ตั้งใจจะเช็กยอดเงินในบัญชีด้วยความดีใจ
แต่ในห้องอันเงียบสงบ จู่ๆ เสียงของมู่หยุนเลี่ยก็ดังขึ้น “หาเงินมาได้เท่าไหร่แล้วล่ะ”
เหยียนเชียนอี้ตกใจจนเกือบล้มจากเก้าอี้
เมื่อหันกลับไปดู เธอก็พบว่ามู่หยุนเลี่ยกำลังนอนอยู่บนเตียงของเธอ!!!
“คุณ… คุณเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
มู่หยุนเลี่ยลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาหาเธอ “สองร้อยห้า…”
เหยียนเชียนอี้ลุกพรวดจากเก้าอี้ทันที “คุณบุกเข้าห้องฉันยังไม่ได้อธิบายเลย ยังจะมาด่าฉันอีกเหรอ”
“ไม่ได้ด่าคุณ” มู่หยุนเลี่ยพยักพเยิดไปที่หน้าจอโปร่งแสงของเธอ
เหยียนเชียนอี้หันไปมอง เห็นยอดเงินในบัญชีของตัวเองที่ขึ้นเป็น 2,500,000 หยวนแล้ว “มันคือสองล้านห้า ไม่ใช่สองร้อยห้า!”
ชัดเลยว่าเขากำลังล้อเลียนเธอ
การเอาผู้ชายอย่างเดนนิสที่เป็นพวกเจ้าชู้มาเป็นไอดอลในดวงใจ ถ้าไม่เรียกว่าตาแย่แล้วจะเรียกว่าอะไร
ในคืนที่ข่าวฉาวของเดนนิสถูกเปิดเผย มู่หยุนเลี่ยยังส่งข้อความมาถามเธอด้วยว่า [เห็นข่าวหรือยัง เขายังเป็นไอดอลในดวงใจคุณได้อีกไหม]
มู่หยุนเลี่ยถามต่อ “สัปดาห์ก่อนผมส่งข้อความหาคุณ ทำไมไม่ตอบ”
เหยียนเชียนอี้กลอกตา ข้อความแบบนั้น เธอจะตอบยังไงล่ะ จะให้เธอคร่ำครวญว่าตัวเองตามัวแค่ไหนเหรอ หรือจะบอกเขาว่า ไอดอลในดวงใจของเธอไม่ใช่พวกเจ้าชู้แบบเดนนิส แต่เป็นเขา ผู้บัญชาการสูงสุดแทนล่ะ
ไม่ว่าจะตอบแบบไหน เธอก็โดนล้ออยู่ดี เธอเลยไม่ตอบดีกว่า
เหยียนเชียนอี้นั่งกลับลงไปที่เก้าอี้ “ช่วงนี้ยุ่งเรื่องเรียน เลยไม่ได้ดู”
“ยุ่งเรื่องเรียน แล้วกลางคืนยังมีเวลาออกไปหาเงินอีกเหรอ”
“การช่วยชีวิตคนเป็นหน้าที่ของหมอ”
“อยากใช้ความยุ่งเหยิงมาปลอบใจตัวเองเหรอ” มู่หยุนเยี่ยถามอีก
เหยียนเชียนอี้ขมวดคิ้ว “ฉันจะปลอบใจตัวเองทำไม”
มู่หยุนเลี่ยแค่นเสียงเยาะ “ไอดอลในดวงใจของคุณเป็นคนแบบนั้น คุณไม่ร้องไห้เสียใจหน่อยเหรอ”
ในกองทัพยังมีเด็กสาวบางคนร้องไห้โฮหลังจากเห็นข่าวฉาวของเดนนิส
เหยียนเชียนอี้หัวเราะเสียงดังเกินจริง “โอ๊ย! คุณล้อเล่นหรือเปล่า ดาราหล่อๆ ในวงการบันเทิงมีตั้งเยอะ เดนนิสไม่อยู่ เดี๋ยวก็มีคนใหม่ขึ้นมาเป็นไอดอลคนโปรดของฉันแทน จะเสียใจทำไมล่ะ”
มู่หยุนเยี่ยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ เห็นรอยยิ้มสดใสที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าเธออาจจะเสียใจจนไม่ตอบข้อความของเขา
คืนนี้เขาจึงมาดูเธอด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า “ไอดอลในดวงใจ” ที่เธอพูดถึง จะเป็นเพียงความชื่นชมเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงต่อดาราคนหนึ่งเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เขาคงเข้าใจผิดไปเอง
“ก็ดีแล้ว” มู่หยุนเลี่ยพยักหน้า สีหน้าที่เย็นชาเข้มงวดของเขาดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เขาหันหลังเดินกลับไปที่เตียง และระหว่างเดินก็เริ่มถอดเสื้อออก…