ตอน 6 ข้อมูลใหม่ ร้านค้าคะแนน
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณได้รับโอสถโลหิตปราณ”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณได้รับโอสถโลหิตปราณขั้นแรก”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณได้รับการบ่มเพาะพลังหนึ่งปี”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณได้รับการบ่มเพาะพลังหนึ่งปี”
….
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาเป็นระยะ และเฉินหยวนก็ทำทุกอย่างสำเร็จเว้นเสียแต่การใช้พลังจิต
รางวัลนั้นแทบจะไม่ถือว่าดี เป็นแค่โอสถโลหิตปราณและการบ่มเพาะพลังไม่กี่ปีเท่านั้น
ตู้ม
เสียงคำรามดังขึ้น เฉินหยวนเหมือนจะเกิดแผนดินไหวในตัวเขา มันปะทุเหมือนกับคลื่นสึนามิ
พลังยิ่งใหญ่เปรียบดั่งแม่น้ำยาวไร้สิ้นสุดในร่างกายของเขาได้ชำระล้างกระดูกและเซลล์ในร่างกายที่กำลังโหยหาพลังงาน
เขาสวาปามพลังงานและเซลล์ทั้งหมดในร่างกายก็ระเบิดแสงออกมาเป็นคลื่นอัศจรรย์ที่ทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงจนน่าตกใจ
ตู้ม
ราวกับเขาได้ทะลวงพันธนาการ รังสีรอบตัวของเฉินหยวนเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง มันน่ากลัวขึ้น
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตใด
แต่จากการรับรู้ของเขานั้น เฉินหยวนพบว่าพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว
เฉินหยวนลืมตา ดวงตาเปล่งแสงทองประกายระยับราวสายฟ้า
“ต้องขอบคุณพวกที่พิมพ์ในแชทสินะ”
เมื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย เฉินหยวนพอใจมาก
เขาไม่กลัวคนที่อยู่สูงกว่า แต่เขากลัวว่าคนจะกลายเป็นคนน่าเบื่อที่ไม่สนใจอะไรเลย
ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ระบบของเขาคงจะไร้ค่า
โชคดีที่คนเหล่านั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก พวกเขาเพียงแสร้งทำเป็นแนะนำ ทำให้ความยากของคำแนะนำนั้นไม่มากเกินไป
เขาทำตามคำแนะนำทั้งหมดอย่างง่ายดาย เหลือเพียงแต่เรื่องพลังจิตที่ยากที่สุดไว้
เฉินหยวนไม่รู้จะทำอย่างไรเกี่ยวกับคำแนะนำนี้ ส่วนใหญ่ก็เพราะว่าเขามิอาจรับรู้ได้ถึงพลังจิตของตัวเอง และเขายังรับรู้พลังจากสิ่งอื่นไม่ได้ด้วย
แต่เมื่อผ่านคำแนะนำมาแล้ว เฉินหยวนก็เปิดแผ่นหยกได้
ซึ่งมันไม่ยาก เขาเพียงแค่ต้องสัมผัสมันผ่านโลหิตและปราณ
“เคล็ดลับระดับสอง สิบแปดกระบี่สังหาร เคล็ดลับระดับสอง ทะลวงเวหา”
นี่คือเคล็ดวิชาที่เฉินหยวนได้รับมาจากแผ่นหยก พวกมันคือเคล็ดลับระดับสอง
แม้ว่าระดับจะไม่สูงมากนัก แต่มันก็พอดีกับการฝึกฝนของเฉินหยวน
ในตอนนี้เขาไม่มีอาวุธ แต่เขาก็ไม่มีเคล็ดวิชาลับเช่นกัน
การได้รับวิชาลับสองวิชามานี้ถือว่าเป็นการปิดจุดบกพร่องอย่างสมบูรณ์แบบ
“แบบนี้ก็แค่หาคำแนะนำเพิ่ม”
เฉินหยวนยิ้มเล็กน้อย เขาตั้งใจจะไปถามในกลุ่มแชทเพื่อที่จะได้รับคำแนะนำอีกจำนวนมาก
“แต่ตอนนี้ยังไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ ที่จำเป็นในตอนนี้คือการเข้าใจโลกใบนี้”
เขาไม่รู้เรื่องอะไรของโลกใบนี้เลย และเขาก็ไม่รู้อะไรจนอันตรายต่อการมีชีวิตรอด
คำแนะนำจะหาเมื่อใดก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
เมื่อคิดได้แบบนี้ เฉินหยวนออกจากโรงเตี๊ยมทันที เขาตามหาทางที่จะเข้าใจโลกของเมืองนี้
เขาโชคดีและได้เจอกับตำราที่คล้ายกับสารานุกรมของโลกในร้านตำรา
มันไม่ได้แพงมากอีกด้วย แค่ใช้ศิลาจิตก้อนเดียวก็ซื้อได้แล้ว
“โลกนี้เรียกว่าโลกเก้าสวรรค์สินะ”
เฉินหยวนดูข้อมูลกว้าง ๆ โลกที่เขาอยู่ตอนนี้คือโลกเก้าสวรรค์ซึ่งถือว่าเป็นโลกแฟนตาซี
โลกเก้าสวรรค์นั้นเต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์นับพัน
มีทั้งที่แข็งแกร่งที่ครอบครองอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล
ดินแดนใหญ่หลัก ๆ จะมีอยู่ห้าดินแดน ซึ่งก็คือตะวันออกรกร้าง ชายแดนใต้ แดนเหนือ ทะเลทรายตะวันตก และเขตกลาง
ไม่มีกลุ่มก้อนอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้ แต่มีหนึ่งกลุ่มที่ระดับสูงสุด
กลุ่มนั้นถูกเรียกว่ากลุ่มเซียน และแต่จะกลุ่มเองก็ให้กำเนิดมหาจักรพรรดิขึ้นมา
มหาจักรพรรดินั้นเป็นตัวตนที่ทรงอำนาจที่สุดบนโลกใบนี้ และเมื่อได้กลายเป็นมหาจักรพรรดิแล้วเขาจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้
การฝึกฝนในโลกนี้แบ่งเป็น “ขอบเขตร่างกาย ขอบเขตหยวนแท้ ขอบเขตทะเลเทวะ ขอบเขตพลังเทพ ขอบเขตวังวิญญาณ ขอบเขตราชาแท้ ขอบเขตผู้สร้าง ขอบเขตเซียน ขอบเขตเทพเซียน ขอบเขตจักรพรรดิ”
แต่ละขอบเขตแบ่งเป็นเก้าขั้น ขั้นแรกนั้นต่ำที่สุดและขั้นเก้าเป็นขั้นสูงสุด
ระดับของวิชา อาวุธวิเศษ และโอสถนั้นเองก็เช่นกัน เมื่อไปถึงขั้นเก้าแล้วก็จะได้ไปสู่ระดับเทพเซียนและระดับจักรพรรดิ
“ตอนนี้เราคงเป็นขั้นห้าสินะ”
คำอธิบายของขอบเขตในตำรานั้นละเอียดมาก โดยเฉพาะในขอบเขตแรก ๆ
ทำให้เฉินหยวนรับรู้ขอบเขตของตัวเองได้ไม่ยาก
“ร่างกายขั้นห้าก็ไม่เลว”
เฉินหยวนค่อนข้างพอใจ เพราะเขาเพิ่งจะข้ามมิติมาและเข้าถึงขั้นห้าได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ความเร็วการฝึกระดับนี้ แม้แต่พวกที่โอหังบนโลกใบนี้ยังทำไม่ได้เลย
“ตอนนี้เราอยู่ที่ตะวันออกรกร้าง เขตมังกรหลบ และอยู่ในเมืองช้างสวรรค์
เมืองช้างสวรรค์มีการเผชิญหน้าสามแพร่ง ควบคุมโดยตระกูลใหญ่สามตระกูล
ตำหนักเจ้าเมืองมีอำนาจมากที่สุด ตามด้วยตระกูลหลินกับตระกูลเย่”
“ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขตมังกรหลบคือสำนักชื่อสำนักกระบี่สวรรค์พิสดาร”
จากคำอธิบายในตำรา เฉินหยวนได้รับความรู้โดยทั่วไปของโลกเก้าสวรรค์มาแล้ว
และเขายังไม่รู้ข่าวคราวของเมืองที่เขาอยู่ในตอนนี้ด้วย
เขาไม่ได้ตามืดบอดอย่างเคยอีกแล้ว
“ในที่สุดก็รู้อะไรบ้างแล้ว”
เฉินหยวนถอนหายใจยิ้ม
“ได้เวลาไปหาคำแนะนำแล้วสินะ”
คิดแล้วเฉินหยวนก็เปิดกลุ่มแชท
เขาเห็นว่าคนในนั้นกำลังแชทคุยกันอย่างมีความสุข
เย่เฉิน
“คุณเฉินหยวนยังไม่มาอีกเหรอ?”
เย่เฉิน
“หรือว่าเขาเปิดแผ่นหยกแล้วเจอวิชาลับข้างใน”
เฉินหยวน
“ถึงคำแนะนำจะซับซ้อน แต่ทุกอย่างก็มีประโยชน์ ผมเปิดแผ่นหยกและได้วิชาลับมาสองวิชา แล้วก็รู้แล้วว่าตอนนี้ผมอยู่ในโลกไหน ผมอยู่ในโลกแฟนตาซีอย่างที่คิดเลย”
หวังหู่
“พี่ใหญ่เฉินหยวนตอบกลับมาแล้ว”
เย่เฉิน
“เป็นโลกแฟนตาซีจริงเหรอ? มันอันตรายมากไม่ใช่รึไง?”
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยง
“น่าอิจฉาจัง ได้ไปโลกแฟนตาซีแล้วมีโอกาสเป็นอมตะ ไม่เหมือนฉันที่ไม่มีหวังได้เป็นเซียนเลย”
ฉินห่าว
“ขีดจำกัดของโลกแฟนตาซีนั้นสูงมาก แต่มันก็อันตรายมากอีกด้วย โดยเฉพาะขั้นเริ่มต้น”
“เท่าที่รู้ มีแค่สองคนเท่านั้นที่รอดในขั้นเริ่มต้นของโลกแฟนตาซีมาได้ คนอื่น ๆ ตายกันหมดเลย”
“ระวังตัวด้วยล่ะเฉินหยวน”
เฉินเฉียนเฉียน
“โลกในช่วงแรกนั้นอันตราย หวงหยวนที่เข้าไปในโลกธรรมดาที่ดูปลอดภัยแต่ความจริงแล้วเต็มไปด้วยอันตราย เขาก็เลยตายทันที”
เฉินหยวน
“ก็ต้องทำให้ดีที่สุดแล้วยอมรับโชคชะตา ถ้าผมไปเจอบอสใหญ่ที่ฆ่าคนได้เป็นแถบ ผมก็คงไม่มีทางเลือก แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสองวิชาลับนี้ดี พอจะช่วยแนะนำหน่อยได้ไหม”
ไป่เย่
“พวกเราไม่เคยเห็นของแบบนั้น จะให้แนะนำมันก็ยาก ทำไมไม่ส่งจดหมายแดงให้เราดูล่ะ”
เฉินเฉียนเฉียน
“นี่ คิดจะจับเสือมือเปล่ารึไง เฉินหยวน เห็นแก่ว่าเราคนสกุลเดียวกัน ขอแนะนำให้นายขายวิชาลับทั้งสองในกลุ่มเพื่อเก็บคะแนนแล้วส่งผ่านจะหมายแดงมา”
เย่เฉิน
“ทุกท่าน คะแนนคืออะไรเหรอ?”
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยง
“มันหมายถึงคะแนนนั่นแหละ เห็นร้านค้าคะแนนข้างบนใหม่ ถ้าหากขายของให้กลุ่มแชทแล้วมีคนซื้อก็จะได้กำไรหนึ่งในสิบ เช่นเดียวกัน ถ้าหากเรามีคะแนน เราก็จะซื้อของข้างบนนั่นได้”
เห็นแล้วเฉินหยวนจึงมองร้านค้าคะแนนและพบว่ามีสินค้าขายอยู่จริง ๆ
และคะแนนของเขาก็เป็นไปตามคาด นั่นคือไม่มีเลย
หน้าใหม่ก็เป็นแบบนี้
มันไม่มีอะไรดีสำหรับพวกเขา แชทกลุ่มข้ามมิตินี้ไม่ต่างจากพวกขี้โกง
หลังจากใช้ความคิด เฉินหยวนตัดสินใจที่จะขายสองวิชาลับให้กับกลุ่มแชท
“ติ๊ง เฉินหยวนอัพโหลดสิบแปดกระบี่มรณะและได้รับ 200 คะแนน ถ้าหากมีคนซื้อไอเทม เฉินหยวนจะได้รับคะแนนหนึ่งในสิบ”
“ติ๊ง เฉินหยวนส่งจดหมายแดงให้กับทุกคน”
เมื่อเสียงดังขึ้น ทุกคนได้เห็นแจ้งเตือน
พวกเขาคลิกจดหมายแดงและได้รับมัน
เฉินหยวนไม่สนใจ เทียบกับคะแนนที่จะได้รับแล้ว คำแนะนำของทุกคนสำคัญกับเขามากกว่า
อย่างที่คนเคยบอกไว้ จะจับหมาป่าก็ต้องสละแกะสักตัว