ตอน 5 สมาชิกกลุ่มเป็นบ้า เฉินหยวนเป็นปลื้ม
เหล่าหน้าใหม่ยุ่งเหยิงไปหมด พวกเขาไม่เข้าใจเฉินหยวนเลยแม้แต่น้อย
พวกเขายังคิดแต่เรื่องการเอาชีวิตรอด แต่เฉินหยวนกลับฆ่าคนไปแล้วสองคน
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอยู่ในโลกแฟนตาซี
ความต่างชั้นมันมากเกินไป
หวังหู่
“บัดซบ ทำไมคุณเฉินหยวนถึงทำได้ล่ะ? ไม่ได้อยู่ในโลกแฟนตาซีเหรอ ต่อให้เป็นชาวโลกแฟนตาซีที่อ่อนแอก็ไม่น่าจะฆ่าเขาได้ทีเดียวสองคน จริงไหม?”
เย่เฉิน
“มันเป็นโลกแฟนตาซีจริงงั้นเหรอ?”
เฉินฉีจี้
“บางอย่างมันก็เว่อไปหน่อย ไม่รู้ว่าจะประเมินอย่างไรเหมือนกัน”
ไม่เพียงแต่พวกหน้าใหม่จะแปลกใจ แต่สมาชิกเก่ายังแปลกใจอีกด้วย
พวกเขาไม่เคยเห็นสมาชิกใหม่ในกลุ่มแชทที่อุกอาจเช่นนี้ ข้ามมิติมาไม่ถึงสองชั่วโมงแต่กลับสังหารคนไปแล้วถึงสองคน
เฉินเฉียนเฉียน
“มันไม่ง่ายเลย ในโลกแฟนตาซี แค่ทำอะไรใส่เขาสักครั้งสองครั้งก็ตายแล้ว”
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยง
“ดูเหมือนว่าเขาจะมีชีวิตรอดในขั้นแรกได้นะ”
ไป่เย่
“ก็แค่สงสัยว่าจะทำยังไง ต่อให้มีปัญญาดั่งฟ้าดินและเป็นผู้บ่มเพาะพลังได้ แต่มันก็ยังยากที่จะฆ่าใครซักคน”
พวกเขาสงสัย
คนหน้าใหม่ในโลกแฟนตาซีฆ่าคนไปแล้วถึงสองคน
เรื่องที่เกิดขึ้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
พวกเขาต่างอยากที่จะรู้ว่าเฉินหยวนทำได้อย่างไร
เมื่อได้เห็นแบบนี้ เฉินหยวนก็ส่งรูปเดเสิทอีเกิลไปในกลุ่ม
เฉินหยวน
“ผมชอบพวกอาวุธน่ะ บังเอิญว่าได้มันมาจากที่บ้าน ผมพกติดตัวในตอนข้ามมิติมาไว้ป้องกันตัว แล้วก็ได้เจอกับผู้บ่มเพาะพลังที่ไม่ได้แข็งแกร่งเกินไปด้วย”
เขาไม่ปิดบังเรื่องที่เขามีปืน เขาเพียงแค่กุเรื่องที่มาของปืนเท่านั้น
แม้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ครอบครัวส่วนใหญ่จะมีอาวุธ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนที่ครอบครองได้
ยิ่งไปกว่านั้น คนอื่นยังไม่รู้จักตัวตนของเขาด้วย
เมื่อพวกเขาเห็นรูปเดเสิทอีเกิล มุมปากของพวกเขากระตุก
การผสมผสานกันระหว่างปืนในโลกปัจจุบันกับโลกแฟนตาซีนั้นดูแปลกตาเล็กน้อย
เย่เฉิน
“เดเสิทอีเกิลมันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? ฆ่าผู้บ่มเพาะพลังสองคนเนี่ยนะ?”
เขาแปลกใจเล็กน้อย พลังของปืนเดเสิทอีเกิลนั้นไม่เป็นที่กังขา แต่มันยังใช้ในโลกแฟนตาซีได้ ซึ่งเหนือความคาดหมายของเขา
ลองคิดดูแล้วเขาก็มองเดเสิทอีเกิลของตัวเองและตาลุกวาว
เฉินหยวนสามารถใช้เดเสิทอีเกิลในโลกแฟนตาซีได้ คงจะง่ายกว่าถ้าเขาไปที่โลกนารูโตะใช่ไหม?
หวังหู่
“น่าอิจฉาจัง ฉันมีแค่ท่อนไม้น่ะ”
เฉินฉีจี้
“ไม่แปลกเลยที่จะสู้สองคนได้”
ไป่เย่
“นายเตรียมตัวมาดี ถึงโลกแฟนตาซีจะมีคนที่มีพลังมหาศาล ทั้งเคลื่อนมิติและเคลื่อนขุนเขาทะเลได้ แต่ผู้บ่มเพาะธรรมดาที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปนั้นยังเทียบพลังของเดเสิทอีเกิลไม่ได้”
เหล็งเจี๋ยงเซี่ยง
“ถึงได้บอกไงว่าเดเสิทอีเกิลเป็นของดี ต่อให้ฉันเป็นอัศวินขั้นสามในตอนนี้ยังต้องอยู่ให้ห่างจากเดเสิทอีเกิลเลย”
ไป่เย่
“พวกโล่มนุษย์ก็เป็นแบบนี้ แต่จอมเวทย์น่ะแย่ยิ่งกว่า”
เฉินเฉียนเฉียน
“พลังทำลายของเดเสิทอีเกิลนั้นแข็งแกร่งมาก ในโลกจอมยุทธของฉันอย่างน้อยก็ต้องเข้าขั้นปรมาจารย์เสียก่อนถึงจะป้องกันกระสุนได้”
เฉินหยวนใบหน้าหยาบกร้านเมื่ออ่านแชทกลุ่ม
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยงกับไป่เย่น่าจะอยู่ในโลกแฟนตาซีตะวันตก คนหนึ่งเป็นตัวละครสายแทงค์เหมือนอัศวินจิตนักสู้ ส่วนอีกคนเป็นจอมเวทย์ ส่วนเฉินเฉียนเฉียนเขาน่าจะมาจากโลกจอมยุทธแต่เขาไม่รู้เรื่องของโลกจอมยุทธ
มันยังมีความแตกต่างในโลกจอมยุทธด้วย บางโลกจอมยุทธนั้นจำกัดอยู่แค่โลกเดียว ส่วนโลกอื่นนั้นสามารถข้ามจักรวาลได้ ขีดจำกัดด้านบนนั้นแตกต่างกัน
หวังหู่
“ยากที่สมาชิกเก่าจะเข้าใจได้ แล้วก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่หน้าใหม่อย่างพวกเราจะเข้าใจ”
เย่เฉิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
ในตอนนี้ เย่เฉินหน้าแดงไปหมด
เพราะเขาเองก็มีปืนเดเสิทอีเกิล
แต่ไม่มีให้ความสนใจถึงสาเหตุที่เฉินหยวนมีปืนเดเสิทอีเกิลที่บ้าน เพราะถ้าหากเฉินหยวนอยู่ในต่างประเทศมันก็ไม่แปลกที่เฉินหยวนจะมีของแบบนี้ ต่อให้มีบาซูก้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ทุกคนแชทกันอย่างออกรสออกชาติ
เฉินหยวนนิ่งไป
เลิกพูดแต่น้ำแล้วให้คำแนะนำมาเร็ว ๆ ได้ไหม
เฉินหยวน
“ทุกคนเลิกคุยกันแล้วให้คำแนะนำการบ่มเพาะพลังให้ผมได้ไหม”
เห็นแบบนี้แล้วทุกคนเริ่มใจกำลังใจ
โดยเฉพาะพวกหน้าใหม่ พวกเขาเริ่มแชทกันอีกครั้ง
นี่ไม่ใช่บ้านของพวกเขา แต่พวกเขาก็ดูจะไม่สนใจอะไรเท่าไหร่
หวังหู่
“มันไม่ง่ายเลย ดูเหมือนว่าคุณเฉินหยวนจะไม่เคยอ่านนิยาย ถ้าเป็นเรื่องแบบนี้ ก็แค่เอาแผ่นหยกวางไว้บนหน้าผากแล้วอ่านข้อมูลในนั้นสิ”
เย่เฉิน
“มั่วละ เขาเขียนแบบนั้นมาตั้งหลายปีแล้ว ตอนนี้เขาเขียนแบบใหม่แล้ว คุณเฉินหยวนเป็นผู้บ่มเพาะพลังแล้วไม่ใช่เหรอ? มันจะต้องมีพลังจิตหรือพลังเหนือธรรมชาติอะไรซักอย่างสิ ถ้าหากใช้พลังนั้นก็จะเปิดแผ่นหยกได้ถ้าพลังมากพอ”
ไค่ฉู
“หรือว่าทุบมันให้แตกแล้วจะมีอะไรขึ้นมา นิยายบางเรื่องที่อ่านก็ใช้วิธีนี้นะ”
คนหน้าใหม่ไม่เข้าใจที่พวกเขาคุยกันอยู่เลย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเงียบไปจากแชท
แน่นอนว่าบางคนก็หวังดี ส่วนบางคนนั้นประสงค์ร้าย
อย่างไค่ฉูที่คิดแค้นใจ เขาไม่อยากจะให้เฉินหยวนได้รับเคล็ดลับอะไรจากแผ่นหยกนั้น
โชคดีที่ยังมีสมาชิกเก่าในกลุ่ม แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสนใจก็ตาม
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยง
“แนะนำอะไรของนายน่ะ ถ้าทุบแผ่นหยกแล้วจะทำยังไงถ้ามันพัง? จำได้ว่าตอนที่คุณซูฮั่นใช้สิ่งนี้ เขาจะได้เก็บเกี่ยวสิ่งที่อยู่ข้างในแผ่นหยกจากการสัมผัสมันด้วยพลังจิต”
เฉินเฉียนเฉียน
“ทำไมฉันจำได้ว่าต้องหยดเลือดลงไปนะ?”
ไป่เย่
“???”
..
“ติ๊ง คุณได้รับคำแนะนำ (สัมผัสโลหิต) หลังจากทำสำเร็จคุณจะได้รับกล่องสมับติทองแดง”
“ติ๊ง คุณได้รับคำแนะนำ (ทำลายแผ่นหยก) คุณจะได้รับสมบัติทองแดงเมื่อทำสำเร็จ”
“ติ๊ง คุณได้รับคำแนะนำ (ใช้พลังจิตเปิดแผ่นหยก) คุณจะได้รับกล่องสมบัติเงินเมื่อทำสำเร็จ”
…
เฉินหยวนแปลกใจเล็กน้อย เขาจะได้กล่องสมบัติทองแดงอยู่เสมอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับกล่องสมบัติเงิน
ความยากของแต่ละภารกิจนั้นจะทำให้ได้รางวัลที่แตกต่างกันออกไป
อย่างเช่นคำแนะนำที่เฉินหยวนได้ในตอนนี้มีแต่คำแนะนำที่ง่าย ดังนั้นสมบัติที่เขาจะได้ทั้งหมดจึงล้วนเป็นสมบัติทองแดง
ส่วนการเปิดด้วยพลังจิตนั้นนับว่าเป็นภารกิจที่ยาก และจะได้สมบัติระดับเงินมาแล้ว
ระดับของสมบัติ : ทองแดง, เงิน, ทอง, แพลทตินัม, เอเมอรัล, ไดมอน, ลีเจน, อีปิก, ตำนาน
เฉินหยวน
“จะลองดูครับ”
หลังพูดจบแล้วเฉินหวนก็ปิดแชทกลุ่มและเริ่มทำการทดลอง
ยกเว้นข้อที่ต้องใช้พลังจิตแล้ว อย่างอื่นนั้นไม่ยากเลย