ตอน 10 ไม่เดินตามผู้ใหญ่ สุนัขจึงกัด
ในโลกแห่งความตาย
เมื่อหวังหู่ได้เห็นข้อความในกลุ่มแชท หัวใจเขาแทบหยุดเต้นและเริ่มหวาดผวา
เขารีบวิ่งราวกับว่าจะมีบางอย่างที่เลวร้ายไล่ตามเขา
ตู้ม
ไม่นานหลังจากที่เขาวิ่งหนีก็มีเสียงดังสนั่นราวกับของหนัก ๆ ได้หล่นลงมา ตึกสูงใหญ่ถล่มลงมาพื้นแหลกสลาย รถหลายคันถูกบดเป็นชิ้น ๆ
“นี่มัน…”
หวังหู่เบิกตากว้างตกตะลึง เขารีบหันหลังหนีทันทีเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตราย
เขาวิ่งอยู่นานและใจเย็นลง เขาถ่ายรูปสิ่งที่เกิดขึ้นไกล ๆ ลงกลุ่มแชท
หวังหู่
“บ้าเอ้ย เมื่อกี๊เกือบตายไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องบอสเฉินหยวน ผมคงจะตายไปแล้ว”
เย่เฉิน
“ทำไมมันแปลกขนาดนั้น?”
หวังหู่
“ใช่ไหมล่ะ? รีบหนีให้ได้นะ พวกสมาชิกเก่าที่รอดมาได้จะต้องมีประสบการณ์ที่ถูกต้องแน่”
เมื่อเห็นตัวอย่างที่สอง สมาชิกใหม่คนอื่นเองก็แตกตื่น
เขารีบลุกขึ้นวิ่งหนีราวกับหนีโรคระบาดเพราะกลัวว่าจะติดเชื้อโรคร้าย
แน่นอนว่าบางคนยังไม่เชื่อ
ไค่ฉู
“แตกตื่นอะไรกัน? ถ้าหากเชื่อมั่นในสถานที่ที่อยู่มากพอก็ไม่ต้องกลัวเรื่องทัณฑ์สวรรค์หรอก”
คนอื่นไม่คิดจะสนใจเขาเท่าใดนัก
จากแชทที่ผ่าน ๆ มา พวกเขาบอกได้ว่าชายคนนี้พูดจาแปลก ๆ
เมื่อเห็นว่าถูกเมิน ไค่ฉูกัดฟันด้วยความแค้น
จากนั้นก็มีบางอย่างตกลงมา ไค่ฉูดวงตามืดสนิท ร่างของเขาสลายไป
“ติ๊ง ไค่ฉูเสียชีวิต”
ทุกคน
“...”
เมื่อเห็นข้อความระบบ ทุกคนเงียบไป
มันเป็นการตบหน้าที่เร็วเกินไปแล้ว
แต่พวกเขาก็ปลาบปลื้มที่พวกเขาฟังคำแนะนำ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะลงเอยอย่างไค่ฉู
หวังหู่
“ขอบคุณที่เตือนนะรุ่นพี่”
เย่เฉิน
“น่ากลัวสุด ๆ ไปเลย ถ้าไม่ใช่เพราะคนเก่า ๆ เตือน พวกเขาคงจะเป็นแบบไอ้โง่นั่นแล้ว”
พวกเขายังคงหวาดกลัวเพราะช่วงเริ่มต้นมันแปลกมาก ๆ
อันตรายมีอยู่ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะมีคนหรือไม่ก็ตาม
พวกเขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบไหนขึ้นมา
เหล็งเจี๋ยนเซี่ยง
“ยังไงก็เถอะ ถ้าอยากจะเลี่ยงช่วงเริ่มต้นให้ได้ก็อย่าโลภมาก ต่อให้มีภูเขาสมบัติข้างหน้าก็อย่าได้คิดแม้แต่น้อย แล้วก็อย่าติดต่อใครด้วย อย่าอยู่ที่เดิมนานเกินไป อย่าทำแบบนี้อย่างน้อยก็น่าจะรอดได้ดีกว่าเดิมมากแล้ว แต่จะรอดจริง ๆ ไหมก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา ทำให้ดีที่สุดแล้วให้ชะตานำพาไป”
ฉินห่าว
“พี่เหล็งพูดถูก ถ้าหากฟังคำแนะนำของพวกเราแล้วก็จะได้เป็นอย่างพวกเรา”
เย่เฉิน
“แน่ล่ะ บอสเฉินหยวนฟังคำแนะนำก็เลยรอด พวกเราจะทำแบบเดียวกัน”
หวังหู่
“ก็อย่างที่ใครเคยพูดไว้ ว่าถ้าไม่ฟังคำคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนก็ต้องเจอเองภายหลัง มีคนลองดีไปแล้วนี่”
หลังจากผ่านเรื่องราวทั้งหมดมา พวกเขายังคงไม่รู้ว่าต้องฟังคำแนะนำอย่างไร
ถ้าหากเขาไม่ฟังคำแนะนำ พวกเขาคงจะตายไปนานแล้ว
“ติ๊ง ยินดีด้วย คุณทำตามคะแนะนำสำเร็จและได้รับโอสถเจินหยวนระดับสอง”
นี่คือคำแนะนำของสมาชิกเก่าก่อนหน้านี้ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด เฉินหยวนได้วิ่งหนีจนไม่มีเวลาได้เห็นแจ้งเตือนนี้
ตอนนี้รางวัลถูกส่งมาแล้ว
ถึงจะเป็นโอสถระดับสอง แต่เฉินหยวนก็ไม่รู้สึกอะไร
เมื่อเฉินหยวนกำลังจะอ่านแชทกลุ่ม เขาก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เฉินหยวนตกใจและย่อตัวลงตามสัญชาตญาณ
ทันทีที่เขาย่อตัวลง แสงอันเย็นชาก็แล่นผ่านศีรษะเขาไป
“ตอบสนองเร็วทีเดียว”
ชายร่างบางเหมือนสตรีในชุดขาวถอนหายใจแรง กระบี่ในมือเขาซัดลงมาอีกครั้ง
แต่ในตอนนี้ เฉินหยวนได้ตอบสนองและลั่นไกดีเสิทอีเกิลในมือทันที
เสียงดังปัง กระสุนทะลุไหล่ของชายคนนั้น
ในขณะเดียวกัน มืออีกข้างของเฉินหยวนถือกระบี่ยาวฟันต่อไปด้วย
แม้ว่าเขาจะฝึกสิบแปดกระบี่มรณะมาไม่ถึงหนึ่งวัน แต่เขาก็พอจะได้ท่าทางมาแล้ว
ฉั่วะ
มืออีกข้างของชายคนนั้นขาดทันที
เมื่อมือของเขาหายไปแล้วนั้นเอง
“หมัดทลายฟ้า”
เฉินหยวนเก็บดีเสิทอีเกิลและใช้พลังของโลหิตระเบิดออกมาใส่ที่ลำตัวของศัตรูดั่งปืนใหญ่ พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา ร่างกายของศัตรูสอบสนองเหมือนกับโดยกระแทกด้วยของหนัก เขากระเด็นออกกระแทกต้นไม้ก่อนจะค่อย ๆ ล้มลง
“ใครกัน?”
เฉินหยวนถือกระบี่จี้คอชายร่างกายดั่งสตรีโดยไม่รอให้เขาตอบสนอง
“เจ้าฆ่าคนตระกูลหลินของข้า ยังกล้ามาถามว่าข้าเป็นใครอีกเรอะ?”
“เจ้าหนีไม่รอดแน่ ข้าบอกหัวหน้าแล้ว อีกไม่นานเขาจะมาถึงที่นี่”
เขาหน้าซีดแต่แสยะยิ้ม แม้ว่ากระบี่จะชี้จุดตายอยู่แต่เขาก็ไม่แตกตื่นเลย
ฉั่วะ
เมื่อรู้ตัวตนของอีกฝ่าย เฉินหยวนไม่เสียเวลาและมอบกระบี่ให้อีกฝ่ายฟันหัวขาดจากตัวโดยพลัน
“มาถึงนี่แล้วยังเจอพวกตระกูลหลินอีก”
“ทัณฑ์สวรรค์อะไรกันฟ่ะเนี่ย”
เฉินหวนขมวดคิ้วและใช้วิชามังกรแหวกวารี เขาหนีต่อไปด้วยความเร็วดุจมังกรแหวกวารี
เขานั้นยังไม่รู้ถึงพลังบ่มเพาะของหัวหน้าที่อีกฝ่ายพูดถึง
ถ้าหากเป็นหัวหน้าของสามตระกูลใหญ่ได้ พลังบ่มเพาะของเขาจะต้องอยู่ในขอบเขตแก่นแท้แล้ว
แม้ว่าดีเสิทอีเกิลจะทะลุร่างกายของคนในขอบเขตบ่มเพาะร่างกายได้ แต่มันก็ยากที่จะพูดถึงขอบเขตแก่นแท้
เมื่อบ่มเพาะจนถึงขอบเขตแก่นแท้ ทั้งพลังบ่มเพาะและประสาทสัมผัสจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ความอันตรายของดีเสิทอีเกิลคงจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว
แม้จะเป็นแค่การคาดเดา แต่เฉินหยวนก็ไม่อยากเดิมพันเสี่ยง ๆ
ถ้าหากมันไม่ได้ผล เขาจะต้องสู้กับคนในขอบเขตแก่นแท้ด้วยพลังบ่มเพาะในตอนนี้
ซึ่งมันคงไม่ต่างจากการทุบหินด้วยไข่ไก่ และอีกฝ่ายยังไม่ได้มีคนเดียวอีกด้วย
ไม่นานหลังจากที่เฉินหยวนหนี
หลินชางเหอมาถึงที่เกิดเหตุและเห็นร่างคนตระกูลหลินที่หัวกับตัวแยกกัน หลินชางเหอหน้าตาหม่นหมอง
“มันยังไปได้ไม่ไกล ตามมันไป”
…
เฉินหยวน
“แย่แล้ว ยังไม่ไปไหนไกลเลยพวกมันก็ตามทันแล้ว พวกมันอาจจะระดับสูงกว่าเรา ดีเสิทอีเกิลไม่น่าจะได้ผลแล้ว”
เฉินเฉียนเฉียน
“อย่าลองเลย พลังของโลกแฟนตาซีนั้นเยอะมาก ระดับต่างกันหมายถึงการเปลี่ยนแปลงอันสุดยอด มีสมาชิกเก่าที่อยู่ในโลกแฟนตาซีเหมือนกัน เขาอยู่ในระดับสองและรับกระสุนปืนได้ไม่ยากนะ”
ไป่เย่
“เฉินหยวน คิดว่ายังไงล่ะ? คิดจะหนีหรือตัดไฟแต่ต้นลม?”
เฉินหยวน
“คงจะดีถ้าแก้ปัญหาทุกอย่างได้ทีเดียวนะ”
ไป่เย่
“นายมีคะแนนไม่ใช่เหรอ? ซื้อของในร้านค้าคะแนนสิ ไอเทมหลายอย่างถูกอัพโหลดไว้ในร้านค้า มันน่าจะมีประโยชน์กับนาย”
“ติ๊ง คุณได้รับคำแนะนำ (จงระวัง) จะได้รับสมบัติระดับทองแดงเมื่อทำสำเร็จ”
“คุณ คุณได้รับคำแนะนำ (ซื้อไอเทมจากร้านค้าคะแนน) จะได้รับสมบัติระดับทองแดงเมื่อทำสำเร็จ”
เสียงระบบดังขึ้น เฉินหยวนรีบเปิดร้านค้าคะแนนทันที
ลองคิด ๆ ดูแล้ว เขายังไม่ได้เข้าไปดูในร้านค้าคะแนนเลย