ตอนที่ 79 ตะเกียงดวงแรก (ฟรี)
ตอนที่ 79 ตะเกียงดวงแรก
"ต้องใช้กิ่งก้านของเสี่ยวไต้ใช่มั้ย?"
สวี่จื้อยืดนิ้วออกไปหาเสี่ยวไต้ที่อยู่บนพื้น หรือเห็นเช่นนั้น อีกฝ่ายก็คลานเข้ามาหาเธออย่างมีความสุข
ต้องรู้ก่อนว่าในช่วงหลายวันมานี้สวี่จื้อมักจะแสดงท่าทีเฉยเมยต่อเสี่ยวไต้ ทำให้มันพอจะรับรู้อย่างคลุมเครือว่าเธอไม่ค่อยพอใจนัก แต่ด้วยสติปัญญาที่ต่ำ มันก็ไม่รู้ว่าจะเพราะเหตุใดกันแน่
แต่เมื่อสวี่จื้อสอนบทเรียนให้ทุกครั้งเมื่อ มันเอาแก่นพลังเลือดเอาปากโดยไม่ได้รับอนุญาต เสี่ยวไต้ก็ค่อยๆ เข้าใจ บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ก็เป็นได้
เมื่อรู้เช่นนี้ ในช่วงหลังๆ หากไม่ได้รับอนุญาตจากสวี่จื้อ แต่ให้มีแก่นพลังเลือดวางตรงหน้า มันก็จะไม่พุ่งเข้าไปหา และยัดเอาปากเหมือนอย่างเคย
แต่มันจะคลานเข้ามาหาสวี่จื้อ พยายามอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร เหมือนกับกำลังบอกว่า “แม่ หิว อาหาร อาหาร”
หากสวี่จื้อพยักหน้า มันจะเริ่มกินอย่างมีความสุข แต่ถ้าสวี่จื้อไม่เห็นด้วย มันก็จะส่งเสียงไปอีกพักแล้วเงียบไป
ในตอนแรกๆ มันก็พอจะรออย่างอดทนได้ แต่ถ้ากินเวลานานเกินไปแล้วมันยังไม่ได้กินอะไร ด้วยความหิว มันก็จะกระสับกระส่าย ทำให้เวลานั้นสวี่จื้อต้องให้อาหารมันเพื่อดับความหิว เธอได้ทำซ้ำแบบนี้อยู่หลายๆ รอบเป็นการฝึก
แม้ว่าจะฝึกแบบนี้จะต้องใช้ความพยายาม เวลา และยังมีอันตรายที่ซ่อนอยู่ แต่เธอก็ต้องทำ ไม่งั้นหากเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ตอนนั้นก็ไม่แน่ว่าเธอจะสามารถรับมือได้
ถึงแบบนี้จะเป็นแก้ปัญหาปลายเหตุก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่มีหนทางจะถอนสกิลกระสับกระส่ายออกไป จึงต้องทำเท่าที่จะทำได้ไปก่อน
[ ใช่ แต่ต้องใช้กิ่งก้านที่ยาวประมาณหนึ่งเมตร ]
เมื่อผู้บรรยายตอบกลับ สวี่จื้อก็พูดกับเสี่ยวไต้ว่า “ยืดกิ่งก้านตรงนั้นให้ยาวขึ้นกว่านี้หน่อย”
เสี่ยวไต้เอียงหัวด้วยความสงสัย แต่ก็ยังทำตามคำสั่งของสวี่จื้ออย่างเชื่อฟัง
สวี่จื้อเอื้อมมือออกไป และพยายามหักกิ่งก้านอันนั้นออก จากนั้นเสียงแตกก็ดังขึ้น กิ่งก้านที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก หักคามือของเธออย่างง่ายดาย
เมื่อกิ่งก้านอันหนึ่งถูกหัก อารมณ์ของเสี่ยวไต้ก็เต็มไปด้วยความคับข้องใจ และความเจ็บปวด
จากนั้น มันก็เริ่มบิดตัวไปมาเพื่อแสดงความไม่พอใจ หากมันมีใบหน้าให้เห็น ใบหน้าของมันคงจะอาบไปด้วยน้ำตาแล้ว
“นึกว่าจะต้องใช้แรงมากกว่านี้เสียอีก” สวี่จื้อก็แปลกใจไม่น้อยเช่นกัน ตัวเธอเองก็คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะบอบบางขนาดนี้
เมื่อเห็นความสงสัยของเธอ ผู้บรรยายก็ปรากฏตัวเพื่อตอบข้อสงสัยนั้น
[ มีเพราะคุณคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำอันตรายต่อมันได้อย่างง่ายดาย ]
[ สำหรับคนอื่นๆ ต่อให้ใช้เลื่อยไฟฟ้าก็ไม่แน่ว่าจะทำอะไรมันได้ ไม่ต้องพูดถึงการหักกิ่งก้านของมันเช่นนี้ ]
สวี่จื้อเลิกคิ้วเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็มีความพึงพอใจแฝงอยู่
หลังจากรวบรวมวัสดุได้จนครบแล้ว สวี่จื้อก็คลิกที่ไอคอนหลอมไอเทม หลังจากใส่วัสดุลงไปแล้วเธอก็คลิกตกลง ทันใดนั้น ข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้น
[ การหลอมไอเทมครั้งนี้ต้องใช้แก่นพลังหลอม 50 ก้อน ]
[ ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่? ]
“...” สวี่จื้อ
“นี่มันขู่กรรโชกกันชัดๆ”
[ ไม่จริงเลย หากคุณหาคนมาช่วย มันจะแพงยิ่งกว่านี้เสียอีก และอัตราความสำเร็จก็จะต่ำเป็นอย่างมาก แค่ 50 ก้อนเป็นค่าเหนื่อยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น คุณควรจะคิดดูให้ดีอีกที ]
เมื่ออ่านจบ สวี่จื้อก็สะอึก และเต็มไปด้วยความโกรธ นี่คือความชั่วร้ายของตลาดแบบผูกขาด แต่ตัวเธอในตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น จึงพูดอะไรไม่ได้มาก
“ช่างเถอะ 50 ก็ 50 ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีปัญญาจ่ายซะหน่อย!”
แม้ว่าเธอจะพูดแบบนี้ แต่สวี่จื้อก็ยังรู้สึกเจ็บปวด ด้วยการหลอมไอเทมแต่ละครั้งใช้แก่นพลังหลอม 50 ก้อน ด้วยจำนวนเงินทุนที่เธอมีอยู่ในมือ เธอสามารถหลอมได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น
หากทั้งสองครั้งนี้ล้มเหลว เธอจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย มันเป็นการเดิมพันที่มีราคาสูงลิ่ว
“มา!”
สวี่จื้อคลิกตกลง เพื่อให้การหลอมไอเทอมเริ่มต้นขึ้น
[ กำลังทำการหลอมสร้างไอเทม ]
ค้อนพิกเซลขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าจอ กระทบกันบนทั่งตีเหล็กประมาณ 10 นาที และในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ออกมา
[ ยินดีด้วย การหลอมไอเทมประสบความสำเร็จ ]
[ คุณได้รับ : ตะเกียงแสง ]
[ ไอเทมถูกเก็บไว้ในคลังเก็บของแล้ว ]
หลังจากข้อความแจ้งหลายครั้ง ผู้บรรยายก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
[ โอ้ คุณนี่โชคดีมากจริงๆ แค่ครั้งเดียวก็ประสบความสำเร็จแล้ว ]
“แน่นอน คิดว่าฉันเป็นใครกัน ลูกรักของสวรรค์เชียวนะ” น้ำเสียงของสวี่จื้อดูภาคภูมิใจเล็กน้อย
[ ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งรีบดีใจไป ]
คำตอบของผู้บรรยายทำให้สวี่จื้อกังวลเล็กน้อย “หมายความว่าไง?”
[ ลองตรวจสอบความสามารถของตะเกียงในคลังเก็บของดูก่อน ]
สวี่จื้อเปิดคลังเก็บของด้วยความสงสัย จากนั้นเธอได้ก็เห็นตะเกียงที่ดูเรียบง่าย แต่ด้ามจับไม่ใช่ตะขอ แต่เป็นด้ามจับที่ทำจากไม้สีดำ
ตัวตะเกียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และชั้นนอกไม่ใช่กระจก แต่เป็นชั้นของผ้าโปร่งแสงสีเทาอ่อน ตรงที่ควรเป็นไส้ตะเกียง มีอะไรบางอย่างที่ลอยอยู่ภายใน ตัวตะเกียงตกแต่งด้วยขนนกสีขาว ช่วยเพิ่มความสง่างามให้มันไม่น้อย จากรูปลักษณ์ดั้งเดิมที่ดูเรียบง่าย
สวี่จื้อคลิกดูรายละเอียดของไอเท็ม และวิธีการใช้งานก็ปรากฏขึ้น เป็นแถบข้อความยาวเหยียด
[ ตะเกียงคือแสงนำทางของคุณในความมืด มันใช้แก่นพลังเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟ ตราบใดที่แสงยังคงส่องสว่าง มันจะช่วยปกป้องตัวคุณให้พ้นจากอันตราย ]
[ เปลวไฟในตะเกียงจะมีคุณสมบัติพิเศษต่างกันออกไปตามแก่นพลังที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง ]
[ พยากรณ์ : ตราบที่แสงของตะเกียงยังสาดส่อง ความคิดของคุณจะลื่นไหวมากขึ้น และทำความเข้าใจต่อสิ่งต่างๆ ได้ดีมากขึ้น ]
[ เหมันต์ : ตราบที่แสงของตะเกียงยังสาดส่อง การปรากฏตัวของสิ่งลี้ลับจะลดลง และมีโอกาสที่สิ่งลี้ลับบางตนจะมองข้ามคุณไป ]
[ คมมีด : ตราบที่แสงของตะเกียงยังสาดส่อง พลังโจมตีของคุณจะเพิ่มสูงขึ้น และมีขอบเขตการรับรู้เพิ่มขึ้นด้วย ]
[ หลอม : ตราบที่แสงของตะเกียงยังสาดส่อง ทักษะฝีมือของคุณจะได้รับการปรับปรุง และเพิ่มอัตราความสำเร็จ ]
[ หัวใจ : ตราบที่แสงของตะเกียงยังสาดส่อง พลังชีวิต ความเร็วในการฟื้นฟูตัวเอง และความเข้มแข็งทางจิตของคุณจะได้รับการปรับปรุง ]
[ มอธ : ตราบที่แสงของตะเกียงยังสาดส่อง ห้วงความคิดของคุณจะได้รับผลกระทบจากความโกลาหล ลดความเสี่ยงในการถูกล้วงความลับ และช่วงชิงความทรงจำ ]
[ เลือด : ตราบที่แสงของตะเกียงยังสาดส่อง ตัวคุณจะล่อลองสิ่งลี้ลับบางตน เพิ่มระดับความปั่นป่วนในจิตใจของพวกเขา ทำให้พวกเขาบ้าคลั่ง และช่วยลดทอนความกลัวของคุณต่อศัตรู ]
[ แสง : ตราบที่แสงของตะเกียงยังสาดส่อง ความมีเหตุผลของคุณจะได้รับการปรับปรุง โอกาสในการได้รับความรู้เพิ่มสูงขึ้น และลดโอกาสที่จะได้รับมลพิษทางจิต ]
“สุดยอดมาเลย” สวี่จื้อรู้สึกประหลาดใจ เมื่อใส่แก่นพลังที่แตกต่างกัน เธอจะสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้
“แล้วแก่นพลังแต่ละก้อนจุดตะเกียงได้นานแค่ไหน?”
[ แก่นพลังรอง 10 วินาที ]
[ แก่นพลังหลัก 1 นาที ]
หา นี่มันปล้นกันชัดๆ
นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ!
แม้แต่สวี่จื้อก็ยังต้องตกใจกับราคาที่สูงลิ่ว
“หากฉันต้องการเดินท่องอยู่ข้างนอกหลังเที่ยงคืน ควรจะต้องใช้แก่นพลังสายอะไรในการจุดตะเกียง และต้องใช้กี่ก้อน?”
[ คุณต้องจุดตะเกียงด้วยแก่นพลังแสงเป็นหลัก แต่คุณก็ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ และใช้แก่นพลังสายอื่นๆ เข้ามาเป็นตัวช่วยด้วย แค่ขอเตือนไว้ก่อนว่า แม้จะจุดตะเกียงด้วยแก่นพลังแสงระดับสูงสุดที่คุณมี มันก็ช่วยลดทอนอันตรายที่คุณจะต้องพบเจอเท่านั้น ยังมีหลายสิ่งที่คุณไม่อาจแตะต้องหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ ]
[ และห้ามอยู่นานเกิน 10 นาที ]
"ค่อนข้างอันตรายเลยทีเดียว"
มันเหมือนกับการใช้เงินเพื่อซื้อเวลา!
แต่มันก็เป็นโอกาสสำคัญ เมื่อเธอได้เห็นความลับของยามเที่ยงคืน เงินที่เธอลงทุนก็จะเปลี่ยนเป็นผลกำไรนับสิบหรือนับร้อยเท่า เมื่อออกไปแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้คนในโลกภายนอก
สวี่จื้อจึงมองไปนอกหน้าต่าง มองดูท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยหมอก เธอจำเป็นต้องเสี่ยง และลองเดิมพัน เพื่อรักษาความได้เปรียบของตัวเองเอาไว้ เธอต้องก้าวนำคนอื่นๆ อยู่เสมอ