(อ่านฟรีชั่วคราว) บทที่ 1280 แผนการพิชิตของอ๋องหลงหยางและสหายทั้งสาม
“ท่านผู้อาวุโส ข้าเข้าใจในสิ่งที่ท่านกล่าวไว้ทั้งหมด แต่เมื่อคิดว่าต้องพลาดโอกาสสำคัญเช่นนี้ ข้ายังอดรู้สึกเสียดายไม่ได้ สองร้อยปีแห่งการฝึกฝนอย่างยากลำบากของข้า ล้วนเพื่อวันนี้” อู๋จิ้นเทียนเสวียนกล่าวพร้อมสีหน้าเสียดาย
“โอกาสยังมีในอนาคต เพียงแค่ไม่ใช่ตอนนี้”
“เกรงว่าคงต้องรออีกหลายสิบหรือร้อยปี ตอนนั้นพลังของสวรรค์ไร้ใจคงเพิ่มขึ้นอีก การจะสังหารเขาก็ยิ่งยากขึ้น”
“การสังหารเขาเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว เลิกพูดเรื่องนี้เสีย สรุปคือ จากนี้ต้องระมัดระวังให้มาก เพราะความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจนำไปสู่หายนะนิรันดร์ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือค้นหาว่าใครอยู่เบื้องหลังสำนักอมตะ”
น่าหลานมู่หงกล่าวด้วยสีหน้าขุ่นเคืองเล็กน้อยจนทำให้อู๋จิ้นเทียนเสวียนต้องรีบสงบสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย
“ท่านผู้อาวุโส ข้าขอสาบานด้วยชีวิตว่าจะไม่กระทำการบุ่มบ่าม” อู๋จิ้นเทียนเสวียนให้คำมั่น
น่าหลานมู่หงกล่าวเสียงเข้ม “เจ้าควรทำตามที่พูด เพราะเมื่อเทียนเหยาเปี้ยนและพวกสิ้นชีพลง แผนเดิมของเราก็ใช้ไม่ได้อีกแล้ว สำนักอมตะที่ปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลันนี้คือภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่าราชวงศ์อาณาจักรโยว่าเสียอีก”
“ท่านผู้อาวุโส หรือว่าสำนักอมตะ…” อู๋จิ้นเทียนเสวียนพูดพลางรู้สึกเย็นสันหลัง
“อาจเป็นเช่นนั้น ดังนั้นต้องระวังให้มาก การตายของเทียนเหยาเปี้ยนเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสำนักอมตะมีวิธีการควบคุมข้อจำกัดของสมบัติเวท”
น่าหลานมู่หงกล่าวต่อ “ทำในสิ่งที่ต้องทำ แต่อย่าเพิ่งกดดันสวรรค์ไร้ใจมากเกินไป ดินแดนครึ่งหนึ่งของอาณาจักรโยว่ เราจะเข้าควบคุมในอีกสิบหรือแปดปีข้างหน้า การเฝ้าดูเสือสองตัวสู้กันจะเป็นประโยชน์มากกว่า”
เมื่อกล่าวจบ น่าหลานมู่หงก็เดินจากไป อู๋จิ้นเทียนเสวียนก้มศีรษะส่งนางด้วยความเคารพ จากนั้นยืนนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน
จั๋วเฟิงเฉินถามด้วยความสงสัย “ท่านเจ้าหอ จากนี้เราควรทำอย่างไร จะทำตามที่ท่านผู้อาวุโสกล่าว หรือว่า…”
“ก็ทำตามที่ท่านผู้อาวุโสกล่าว เราจะเฝ้าดูสถานการณ์ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสำนักอมตะก่อน อีกทั้งดินแดนครึ่งหนึ่งของอาณาจักรโยว่ เราสามารถเข้าควบคุมในอีกสิบหรือแปดปีข้างหน้า แต่ต้องให้ทุกขุมกำลังของอาณาจักรโยว่อพยพออกไป”
“ทำไมกันตอนนี้อาณาจักรโยว่ไม่ได้สนใจพวกเขา เราสามารถใช้พวกเขาให้เป็นประโยชน์ได้” จั๋วเฟิงเฉินถามด้วยความสงสัย
“ทำตามที่ข้าสั่ง ขุมกำลังเหล่านั้น หากเราชนะ พวกเขาจะเข้ามาสวามิภักดิ์ในภายหลังเอง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน”
“เข้าใจแล้ว!”
“อาณาจักรโยว่ยิ่งวุ่นวายเท่าไร เรายิ่งมองเห็นภาพรวมได้ชัดขึ้น และโอกาสของเราก็จะมากขึ้นเท่านั้น”
...
...
...
ณ สำนักอมตะ
ขณะที่เหวินผิงกำลังกลั่นพลังหยวนหยาง เฉินเซี่ย อ๋องหลงหยาง และซือคงจุยซิงปรากฏตัวที่เบื้องล่างศาลาทิงอี่
“ท่านเจ้าสำนัก!”
“ท่านเจ้าสำนัก!”
“ท่านเจ้าสำนัก!”
เมื่อทั้งสามขึ้นมาถึงศาลาทิงอี่ เหวินผิงที่อยู่ในตัวอาคารก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“ทุกอย่างจบแล้ว พวกเจ้าไม่ไปบำเพ็ญเพียรหรือทำธุระของตัวเอง มาเยือนข้าด้วยเหตุใด?”
ซือคงจุยซิงรีบกล่าวอธิบายด้วยความเกรงใจ “ท่านเจ้าสำนัก ข้าอยากพาผู้อาวุโสซือไห่เสียนกลับไปยังเขตแดนกลางอันศักดิ์สิทธิ์”
เหวินผิงตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ก็ไปถามเขาเอง จะถามข้าทำไม?”
“ท่านเจ้าสำนัก ครั้งนี้ที่ข้าขอให้ผู้อาวุโสซือไห่เสียนร่วมเดินทางไปเขตแดนกลางอันศักดิ์สิทธิ์ เพราะข้าต้องการให้เขาใช้ตำแหน่งเสนาบดีความมั่นคงรวบรวมกองทัพเสิ่นโหยวในเขตแดนกลางอันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นจึงรวมพลังกับหอตรวจการและขุมกำลังใหญ่อื่น ๆ เพื่อผลักดันอ๋องหลงหยางขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่”
ระหว่างที่พูด ซือคงจุยซิงหันไปมองอ๋องหลงหยาง ซึ่งก้มศีรษะและกล่าวด้วยความเคารพ
“ท่านเจ้าสำนัก หากข้าได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโยว่ อาณาจักรทั้งหมดจะตกเป็นของสำนักอมตะ”
ทั้งสองรอคำตอบจากเหวินผิงด้วยความกังวลใจเล็กน้อย
สิบลมหายใจผ่านไป เหวินผิงจึงตอบ “ไปทำเถิด หากต้องการความช่วยเหลือจากสำนัก สามารถใช้หินส่งเสียงติดต่อข้า”
แผนการของทั้งสามดูดี เพราะในตอนนี้แทบไม่มีใครสามารถขัดขวางพวกเขาได้อีกแล้ว
ปัจจัยเดียวที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ คือยอดฝีมือครึ่งก้าวสู่หยวนหยางที่เหลืออยู่ของราชวงศ์อาณาจักรโยว่ หากพวกเขาลงสนามด้วยตนเองและขึ้นเป็นจักรพรรดิ ควบคุมอาณาจักรโยว่โดยตรง ย่อมจะต้องเป็นงานที่ไม่ง่ายเลย
“หากต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม สามารถติดต่อเฉินเซี่ย หอจิ้นจือจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่” เหวินผิงกล่าวย้ำ ทำให้ซือคงจุยซิงและอ๋องหลงหยางเผยสีหน้าปลื้มปีติ
หลังจากนั้น เหวินผิงไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีก เขาส่งทั้งสองลงจากภูเขา ทว่าเฉินเซี่ยที่ยังอยู่หน้าศาลาทิงอี่รีบกล่าวว่า “ท่านเจ้าสำนัก เมื่อแผนของพวกเขาเริ่มขึ้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับทั้งอาณาจักรโยว่าและหอปกฟ้าพร้อมกัน เพราะสวรรค์ไร้ใจได้ยกดินแดนครึ่งหนึ่งของอาณาจักรโยว่าให้กับพวกนั้นไปแล้ว”
“ไม่เป็นไร ทำงานที่ข้ามอบหมายให้สำเร็จก็พอ ส่วนเรื่องอื่นจะมีสำนักจัดการเอง เอาล่ะ สถานการณ์ของอาณาจักรมืดเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ราบรื่นดี ผู้ที่ไม่ยอมมาล้วนถูกกำจัดแล้ว จักรพรรดิอสูรหวายคงได้เอาชนะจักรพรรดิอสูรเผ่าอสูรแยกฟ้า และกำลังจะเดินทางออกจากโลกใต้ดินสู่เกาะลอยฟ้า”
“อืม ถ้าไม่มีเรื่องอื่น เจ้าก็ลงไปก่อน” เหวินผิงกล่าว เขากำลังยุ่งกับการกลั่นพลังหยวนหยาง จึงไม่อยากเสียเวลาเจรจามากนัก
เฉินเซี่ยหัวเราะเบา ๆ เตรียมตัวลาจาก “ท่านเจ้าสำนัก ข้ารอคอยเรื่องน่าประหลาดใจจากท่านอยู่”
“ไปให้พ้น ถ้าเอ่ยอีกคำ เจ้าจะได้ฝันถึงเรื่องน่าประหลาดใจในฝันเท่านั้น” เหวินผิงกล่าวด้วยความไม่ใส่ใจ และส่งเฉินเซี่ยลงจากศาลาทิงอี่
หลังจากถูกส่งตัวลงมา เฉินเซี่ยถึงกับตื่นตระหนก และตีหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อสั่งสอนตัวเองที่พูดไม่ระวัง
...
...
...
เหนือซากปรักหักพังของเมืองหลวงอาณาจักรโยว่
ใบหน้าของสวรรค์ไร้ใจที่เคร่งขรึมมานาน ในที่สุดก็ระเบิดอารมณ์ออกมา เขาตะโกนใส่เย่เยว่ด้วยความโกรธ
“ใครสั่งให้พวกเจ้ามาช่วยเหลือ?”
หากมีใครยังอยู่ คงจะต้องตกใจอย่างมาก
ในเมื่ออาณาจักรโยว่ประสบภัย ยอดฝีมือขุนพลพิทักษ์แผ่นดินย่อมต้องมาปกป้องมิใช่หรือ?
อะไรจะสำคัญกว่าการพิทักษ์แผ่นดิน?
เย่เยว่รีบกล่าวด้วยน้ำเสียงลนลาน “ข้ามีบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้น!”
“หากเจ้าต้องการตาย ผู้เฒ่าผู้นี้จะสังหารเจ้าเสียเดี๋ยวนี้!”
ความโกรธของสวรรค์ไร้ใจในตอนนี้ ไม่ต่างจากตอนเผชิญหน้ากับอู๋จิ้นเทียนเสวียนและพรรคพวกก่อนหน้า และดูเหมือนจะรุนแรงยิ่งกว่า
เพื่อปกป้องลูกชายครึ่งมนุษย์ครึ่งอสูร เย่เยว่ถึงกับนำอสูรใหญ่ออกมาสองตนโดยพลการ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยรู้ว่าเย่เยว่จะโง่เขลาถึงเพียงนี้
การปล่อยให้มหาค่ายกลบนภูเขาบรรพชนขาดการดูแลเกินหนึ่งชั่วยาม หากมีใครพบเห็นช่องเขาเฉาเทียนขึ้นมาเล่า จะทำอย่างไร?
แม้โอกาสเกิดจะมีน้อย แต่ไม่อาจประมาทได้
หากเกิดขึ้นจริง
เช่นนั้นทุกคนจะต้องตาย!
“รีบพาเพียงฟ้าครามและแมงมุมแดงพันตากลับไปยังภูเขาบรรพชนเดี๋ยวนี้!” สวรรค์ไร้ใจกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
เย่เยว่รู้ตัวว่าทำผิด จึงร้องเรียกอสูรใหญ่อีกสองตนที่ยังซ่อนตัวในมิติบิดเบือนเพื่อให้กลับไปยังภูเขาบรรพชน
แต่ไม่ว่าจะเรียกกี่ครั้งก็ไร้การตอบรับ
สวรรค์ไร้ใจหายใจแรงด้วยความโกรธ
“อย่าชักช้าอีก รีบกลับไปที่ภูเขาบรรพชนทันที ไม่ต้องรอพวกมัน!”
เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในอาณาจักรโยว่ตอนนี้ การรักษาความปลอดภัยบนภูเขาบรรพชนสำคัญกว่า
เพราะตราบใดที่เขายังอยู่ อาณาจักรโยว่ก็ยังอยู่
แต่หากภูเขาบรรพชนไม่มีใครดูแล ผลลัพธ์จะเกินกว่าจินตนาการ
.
(จบตอน)