ตอนที่แล้วบทที่ 32 ใจลำเอียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 ให้ผมไปทำงานในคุก?

บทที่ 33 จบเรื่อง


ตั้งแต่หลี่เว่ยตงทิ้งชื่อหลี่เว่ยหมินไว้กับกลุ่มนักเลงในตลาดมืด เขารู้ดีว่าสักวันเรื่องนี้จะถูกเปิดเผย แต่เขาต้องการให้เป็นเช่นนั้น

“เขาต้องรู้ว่าคนที่แก้แค้นเขาคือใคร”

การที่เขาปฏิเสธในตอนแรกและเล่นละครต่อหน้าย่ากับจางซิ่วเจิน เป็นเพียงแผนเพื่อทำให้ทุกคนคลายความสงสัยในตัวเขา

ไม่มีใครอยากอยู่ร่วมกับคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นและจ้องเอาคืนทุกเรื่อง

นี่คือเหตุผลที่หลี่เว่ยตงเลือกใช้วิธี “เปิดเผย” โดยไม่ได้จ้างใครมาทำร้ายหลี่เว่ยหมินโดยตรง

“ผมไม่ได้จ้างใครตีพี่หมิน ผมแค่สร้างสถานการณ์ที่ทำให้เขาได้รับบทเรียน”

คำพูดของหลี่เว่ยตงสร้างความสะเทือนใจให้จางซิ่วเจิน เธอระลึกถึงตอนที่พบไข่แตกในตะกร้าครั้งแรก เธอรู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น แต่หลี่เว่ยตงไม่เคยปริปากบ่น

“เด็กคนนี้ช่างเป็นเด็กดีจริง ๆ”  เธอเริ่มสงสารเขามากขึ้น

หลังจากเล่าเรื่องให้ย่าและจางซิ่วเจินฟัง หลี่เว่ยตงหยุดพูดชั่วครู่เพื่อให้ทุกคนได้ย่อยข้อมูล ก่อนจะพูดต่อ

“หลังจากที่ผมตีพวกนักเลงสองคนในตลาดมืด ผมคิดว่าพี่หมินที่ชอบออกไปอวดเก่งน่าจะได้รับบทเรียนบ้าง ผมเลยทิ้งชื่อเขาไว้”

หลี่ซูฉวินถึงกับพูดไม่ออก  “แกนี่นะเรียกตัวเองว่าน้องชาย?”

“พ่อครับ คุณอาจคิดว่าผมแค่หาเรื่องพี่หมิน แต่ที่จริง ผมทำเพื่อเขา”

“เพื่อเขา? ให้ขาหักเนี่ยนะ?”

“ข้อแรก ผมไม่ได้สั่งให้ใครตีพี่หมิน ขาหักเป็นเรื่องที่กลุ่มนักเลงตัดสินใจเอง มันไม่ได้เกี่ยวกับผมเลย”

“ข้อสอง ถนนหนทางข้างนอกยิ่งอันตรายขึ้นทุกวัน ด้วยนิสัยพี่หมิน ถ้าไม่มีอะไรเตือนสติ เขาอาจจะถูกเล่นงานหนักกว่านี้

หรืออาจถูกฆ่า คุณอยากเห็นลูกชายคุณจบชีวิตแบบนั้นเหรอ?”

“แล้วแกไม่คิดเหรอว่าขาหักครั้งนี้จะทำให้ชีวิตพี่แกพัง?” หลี่ซูฉวินถามอย่างโกรธจัด

“ผมคิดครับ แต่ขาหักไม่ได้ทำให้เขาเดินไม่ได้ตลอดชีวิต มันแค่ทำให้เขาอยู่บ้านมากขึ้น ไม่ต้องออกไปก่อปัญหาข้างนอก”

คำพูดนี้ทำให้หลี่ซูฉวินพูดไม่ออกอีกครั้ง

หลี่เว่ยตงไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น

“พ่อ คุณยังไม่รู้ใช่ไหมว่าพี่หมินเคยจ้างหลิวกวางเทียนจากหลังบ้านให้มาตีผม?”

“เป็นไปไม่ได้!”

“งั้นถามหลิวกวางเทียนดูสิ พี่หมินจ้างเขาให้ตีผมและขู่ว่าจะไล่ผมกลับไปชนบท”

จางซิ่วเจินเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวที่เคยสงสัย

“ที่หลิวกวางเทียนมีแผลที่หน้า นั่นเพราะเขาพยายามขวางผม ผมเลยสั่งสอนเขา”

คำพูดนี้ทำให้หลี่ซูฉวินถึงกับยอมรับในใจว่าลูกชายคนโตของเขาคือต้นเหตุของปัญหา

“แต่แกก็ไม่ควร…” หลี่ซูฉวินยังพูดไม่จบก็ถูกจางซิ่วเจินขัดขึ้น

“ไม่ได้เรื่องแบบนี้ใช่ไหม? เว่ยตงเพิ่งมาถึงเมืองนี้ไม่กี่วัน พี่หมินก็ทำร้ายเขาจนหัวแตก แล้วยังจ้างคนนอกมาทำร้ายน้องอีก

ใครกันแน่ที่ไม่เหมาะจะเป็นพี่?”   น้ำเสียงของจางซิ่วเจินสะท้อนถึงความโกรธที่สะสมไว้

เธอปกติเป็นคนอ่อนโยน ไม่ชอบพูดถึงข้อเสียของหลี่เว่ยหมิน แต่ครั้งนี้เธอเลือกที่จะไม่ยอมอีกต่อไป

โดยเฉพาะหลังจากหลี่เว่ยตงบอกว่าเขาเห็นเธอเป็นแม่แท้ ๆ เธอจึงต้องยืนหยัดเพื่อ “ลูกชาย” คนนี้

หลี่ซูฉวินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามหลี่เว่ยตงอีกครั้ง

“ตกลง นี่ไม่ใช่ฝีมือแก?”

“จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ ผมไม่เคยถูกสอนให้หนีความผิด ถ้าผมทำ ผมยอมรับ”

หลี่ซูฉวินถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“งั้นเรื่องนี้จบแค่นี้ ถ้าครั้งหน้าทำเรื่องแบบนี้อีก ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”

เขาไม่มีทางเลือก เพราะชัดเจนว่าในสถานการณ์นี้หลี่เว่ยหมินเป็นฝ่ายผิด

นอกจากนี้เขายังสังเกตเห็นชัดเจนว่าภรรยาของเขาตัดสินใจยืนข้างหลี่เว่ยตงอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งย่าก็เงียบไป นั่นหมายความว่าสายสัมพันธ์ในครอบครัวกำลังเปลี่ยนไป

“แม่ครับ คุณสุขภาพไม่ค่อยดี รีบไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องรอใครหรอกครับ”

หลี่เว่ยตงหันไปพูดกับจางซิ่วเจิน

คำว่า “แม่” ทำให้จางซิ่วเจินชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่น้ำตาจะคลอเบ้า

เธอรู้สึกว่าความเสียสละที่เธอทุ่มเทให้กับหลี่เว่ยตงไม่สูญเปล่า

“จ้ะ รีบพักผ่อนเหมือนกันนะลูก” เธอตอบด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

หลี่ซูฉวินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองภาพนี้ด้วยใบหน้าถมึงทึง แต่ไม่พูดอะไร

เมื่อหลี่เว่ยตงกลับมาที่ห้อง เขาพบหลี่เสวี่ยหรูและหลี่เว่ยปินนั่งรอเขาอยู่บนเตียง

“พี่รอง จริงเหรอที่พี่จ้างคนหักขาพี่ใหญ่?”

หลี่เสวี่ยหรูถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและดูเหมือนสนุกกับเรื่องนี้

“ใช่แล้ว ถ้ามีใครรังแกเธอที่โรงเรียน ก็มาบอกพี่ พี่จะจัดการให้”

คำพูดนี้ฟังดูเหมือนมุ่งไปที่หลี่เสวี่ยหรู แต่สายตาของเขากลับจับจ้องที่หลี่เว่ยปิน

สำหรับหลี่เว่ยตง เขาเชื่อว่าหลี่เสวี่ยหรูมีความเฉลียวฉลาดและเอาตัวรอดได้ แต่หลี่เว่ยปินนั้นขี้อายเกินไป

คำพูดนี้จึงเป็นการส่งสารไปถึงหลี่เว่ยปินโดยตรง

หลี่เว่ยปินดูเหมือนจะเข้าใจ เขาพยักหน้ารับอย่างจริงจัง

รุ่งเช้า หลี่เว่ยตงตื่นแต่เช้าเพื่ออาบแดดและเก็บสะสมพลังงาน

แต่เมื่อเขาออกมา กลับเห็นหลี่ซูฉวินนั่งอยู่บนเก้าอี้ในลานบ้าน ราวกับกำลังรอเขา

“เรื่องพี่หมินจบแล้วไม่ใช่หรือ?”

“มานี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก” หลี่ซูฉวินพูดพร้อมชี้มือเรียก

หลี่เว่ยตงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าสงสัย

(จบบท)###

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด