ตอนที่แล้วบทที่ 31 เต่าหนามพิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33 ไข่ของเว่ยหวู่ฟู่

บทที่ 32 พบเจอกลายพันธุ์อีกครั้ง


บทที่ 32 พบเจอกลายพันธุ์อีกครั้ง

พื้นดินเต็มไปด้วยซากศพของเต่าหนาม สัตว์อสูรหุ้มเกราะและนกนางแอ่นอุกกาบาตก็กลายเป็นรูปปั้นโลหะไร้ชีวิตไปเรียบร้อย

ร่างของสัตว์อสูรหุ้มเกราะใหญ่เกินไป คงไม่สามารถนำกลับไปได้ ส่วนนกนางแอ่นอุกกาบาต ถึงจะนำกลับไปได้ แต่ก็กลัวว่ามันจะมีพิษติดอยู่ หลินเซินจึงไม่กล้าแตะต้องมัน

“รู้อย่างนี้ น่าจะให้เครื่องบดสังหารจัดการเต่าหนามพิษตัวนั้นแต่แรก” ก่อนหน้านี้หลินเซินกลัวว่าเครื่องบดสังหารจะโดนพิษตาย จึงไม่กล้าใช้มัน

ตอนนี้เห็นมันกลืนซากเต่าหนามพิษเข้าไป ไม่เพียงแต่ไม่เป็นอะไร ยังวิวัฒนาการอีก เขาก็รู้ว่าตัวเองกังวลมากเกินไป

“เต่าหนามพิษเป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ แต่ไม่มีประกาย เป็นเพราะสถานที่หรือเปล่า? หรือว่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ไม่ได้มีประกายทุกตัว?” หลินเซินไม่มีเวลาคิดมาก หลังจากเก็บของเหลวกลายพันธุ์จากเต่าหนามมาให้ได้มากที่สุด เขาก็เดินไปตามชายฝั่ง

นอกชายหาดสีขาว เป็นป่าเหล็ก ไม่เหมือนกับบริเวณใกล้ฐานเสวียนเหนี่ยว ที่นี่ไม่มีพืชสีเขียวให้เห็นเลย พืชทุกต้นเป็นโลหะ

หลินเซินไม่กล้าเข้าไปในป่าเหล็ก ด้วยร่างกายที่อ่อนแอของเขา ถ้ามีสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ เขาคงวิ่งหนีไม่ทัน

มองไปตามชายฝั่ง เห็นโขดหินและหน้าผาขนาดใหญ่ริมทะเล ที่นั่นมีทัศนวิสัยที่ดีกว่า

หลินเซินอยากลองดูว่าจะหาที่ซ่อนตัวแถวนั้นได้ไหม แค่เขารอดไปได้ 72 ชั่วโมง เขาก็สามารถใช้เครื่องเทเลพอร์ตบ้าๆ นี่กลับไปได้

หลังจากเดินไปไม่กี่เมตร หลินเซินก็รู้สึกว่าเขาเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่งั้นคงไม่มีวันไปถึงเขตโขดหิน เขาคงจะเหนื่อยตายก่อน

เขาเรียกมือปืนความเร็วสูงมา ให้มันนั่งลง แล้วปีนขึ้นไปบนหลัง จากนั้นให้มือปืนความเร็วสูงแบกเขาไป

ไม่ใช่ว่าหลินเซินไม่อยากลองเดินเอง แต่แค่เดินไปไม่กี่เมตร เขาก็เหงื่อท่วมตัว ปวดเมื่อยไปหมดแล้ว

“ที่นี่มันที่ไหนกัน? เป็นข้างในภูเขาหู่ลู่หรือเปล่า? ถ้าข้างในภูเขาหู่ลู่เป็นโลกอีกใบ แล้วตัวภูเขาหู่ลู่มันคืออะไรกันแน่? พี่สามกับพี่สี่มาที่นี่หรือเปล่า? พี่รองที่หายตัวไป จะมีโอกาสอยู่ที่นี่ไหม…” หลินเซินคิดอะไรมากมายขณะที่อยู่บนหลังมือปืนความเร็วสูง

เขารู้ว่าพี่สามและพี่สี่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่โอกาสรอดของพี่รองนั้นริบหรี่มาก

ความเร็วของมือปืนความเร็วสูงก็ลดลง แต่มันก็ยังวิ่งได้เร็ว ไม่มีปัญหาอะไรมาก

หลังจากเดินไปตามชายฝั่งประมาณสองสามกิโลเมตร หลินเซินก็เห็นเหมือนมีคนนอนอยู่บนชายหาดข้างหน้า

คนๆ นั้นนอนคว่ำหน้าอยู่บนชายหาด คลื่นซัดเข้าหาตัวเขาเป็นระลอก แต่เขาก็ยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ

“หรือว่าจะเป็นศพ?” เนื่องจากระยะทางไกลเกินไป หลินเซินมองไม่เห็นหน้าตาของคนๆ นั้น เขาจึงให้มือปืนความเร็วสูงวิ่งเร็วขึ้น

เขากำลังคิดว่าคนๆ นั้นเป็นคนของตระกูลฉีหรือตระกูลหวัง แต่พอเข้าไปใกล้ หลินเซินก็จำเสื้อผ้าของคนๆ นั้นได้ทันที

“เว่ยหวู่ฟู่? เขาตายแล้วเหรอ?” หลินเซินตกใจเล็กน้อย

ถึงแม้จะรู้ว่าเว่ยหวู่ฟู่ติดตามเขามาเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง แต่ตอนที่หลินเซินตกอยู่ในอันตราย เว่ยหวู่ฟู่ก็ยื่นมือเข้ามาช่วย พอเห็นเขาตายอยู่ตรงนี้ ก็อดเศร้าใจไม่ได้

เมื่อไปถึงข้างๆ เว่ยหวู่ฟู่ มือปืนความเร็วสูงก็วางหลินเซินลง

หลินเซินให้มือปืนความเร็วสูงลากร่างของเว่ยหวู่ฟู่ออกมา ให้พ้นจากระยะที่คลื่นซัดถึง

เสื้อผ้าของเว่ยหวู่ฟู่ขาดวิ่นหลายแห่ง แต่ดูเหมือนจะไม่มีบาดแผล ผมของเขาพันกันยุ่งเหยิง เปียกชุ่มไปด้วยน้ำทะเล ติดอยู่บนหนังศีรษะ

หลินเซินเอามืออังจมูกของเว่ยหวู่ฟู่ แล้วคลำชีพจร ก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แค่สลบไปเท่านั้น

การค้นพบนี้ทำให้หลินเซินลังเล ถ้าเป็นก่อนที่เว่ยหวู่ฟู่จะช่วยเขา ตอนนี้หลินเซินคงสั่งให้มือปืนความเร็วสูงยิงเขาตายไปแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นภัยในอนาคต

แต่หลินเซินได้รับอิทธิพลจากพี่ๆ เขาเป็นคนชัดเจนเรื่องบุญคุณความแค้น ให้เขาฆ่าคนที่เคยช่วยชีวิตตัวเอง เขาทำไม่ได้จริงๆ

ในขณะที่หลินเซินกำลังคิดว่าจะจัดการกับเว่ยหวู่ฟู่อย่างไร อีกฝ่ายก็ฟื้นขึ้นมา

เขาลืมตามองหลินเซิน ก็อึ้งไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร ใช้มือยันพื้น พยายามจะลุกขึ้น

แต่พอลุกขึ้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ขาของเขาดูเหมือนจะมีปัญหา ลุกไม่ขึ้น ได้แค่นั่งตัวตรง

“เป็นอะไรรึเปล่า?” หลินเซินมองขาของเว่ยหวู่ฟู่แล้วถาม

“ขาขยับไม่ได้” เว่ยหวู่ฟู่ตอบ

หลินเซินได้ยินก็เงียบไป ขาพิการ ชีวิตก็จบสิ้น สำหรับผู้วิวัฒนาการ ถ้าไม่มีขา ก็ไม่สามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ได้อีก

“แค่ขยับไม่ได้ ไม่ได้พิการ” เว่ยหวู่ฟู่เหมือนจะรู้ว่าหลินเซินคิดอะไร จึงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย

หลินเซินคิดว่านี่เป็นแค่คำพูดประชดประชันของเว่ยหวู่ฟู่ เพราะขาของอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกเลย ถ้าไม่พิการแล้วจะเป็นอะไรได้อีก

แต่ตอนนี้หลินเซินไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาสังเกตเห็นว่าบนข้อมือของเว่ยหวู่ฟู่มีนาฬิกาแบบเดียวกับเขา จึงถามว่า “หลังจากที่นายคุ้มกันฉันหนีไป เกิดอะไรขึ้น? ทำไมตอนที่ฉันกลับไปที่หุบเขา พวกนายถึงหายไปหมด แล้วนายมาที่นี่ได้ยังไง?”

“เจอตัวประหลาด .. สู้ไม่ได้เลยหนีเข้าป่า .. เสวียนเหนี่ยวนำทาง .. มาเจอภูเขาหู่ลู่ บนเขามีถ้ำ .. เข้าถ้ำ .. ได้นาฬิกา .. แล้วตกทะเล ในทะเลมีสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ สู้ตาย สู้ไม่ได้ หาจังหวะ สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ถอย แล้วสลบไป พอตื่น ก็เจอนาย”

หลินเซินอึ้งไปกับวิธีการพูดที่สั้นกระชับของเว่ยหวู่ฟู่ คนทั่วไปเวลาพูดจะเรียบเรียงเรื่องราว แล้วเพิ่มคำบรรยาย ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่ไม่สำคัญ

แต่เว่ยหวู่ฟู่นี่ พูดแต่ประเด็นสำคัญ ไม่มีน้ำเลย เหมือนกำลังอ่านเฉพาะหัวข้อข่าว

“ตัวประหลาดอะไร?” หลินเซินสนใจการเรียบเรียงคำพูดของเว่ยหวู่ฟู่ เพราะอีกฝ่ายใช้คำว่าตัวประหลาด ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์

“ไม่รู้ มันเหมือนคน แต่ไม่ใช่คน เหมือนสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ แต่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์” เว่ยหวู่ฟู่ตอบ

“เอ่อ… บรรยายลักษณะของตัวประหลาดนั่นหน่อยได้ไหม…” หลินเซินรู้สึกเหมือนได้ยิน แต่ก็เหมือนไม่ได้ยิน

เว่ยหวู่ฟู่กำลังจะตอบ ก็ได้ยินเสียงน้ำทะเลไหลเชี่ยว ทั้งสองหันไปมอง แล้วก็หน้าซีด

มีตัวประหลาดตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากทะเล ร่างกายเป็นโลหะสีฟ้า ดวงตาเหมือนทับทิม รูปร่างเหมือนคน แต่มีเกล็ดปลา มีครีบปลาที่หลังและบนหัว มีเหงือกที่แก้ม ในมือถือสามง่ามโลหะสีแดง จ้องมองหลินเซินและเว่ยหวู่ฟู่อย่างดุร้าย เดินขึ้นมาบนชายหาดทีละก้าว

“รีบหนีไป นายสู้ไม่ได้ มันคือสิ่งมีชีวิตโลหะผสมกลายพันธุ์” เว่ยหวู่ฟู่พูด

“ไร้สาระ ขนาดนายยังหนีไม่ได้ แล้วฉันจะหนีได้เหรอ?” ด้วยร่างกายแบบนี้ หลินเซินวิ่งหนีก็ไม่รอด ได้แต่รีบเรียกมือปืนความเร็วสูงให้มารับเขา

เมื่อมือปืนความเร็วสูงขยับตัว ก็ดึงดูดความสนใจของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ทันที มันไม่สนใจว่ามือปืนความเร็วสูงจะพุ่งเข้าหามันหรือเปล่า ใช้ขาที่เต็มไปด้วยเกล็ดพุ่งเข้าหามือปืนความเร็วสูงด้วยความเร็วและพละกำลังมหาศาล แทงสามง่ามเข้าใส่

“บ้าเอ๊ย!” หลินเซินแทบจะร้องไห้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด