บทที่ 31 การกลับมาของหลี่พ่อ
“พี่ตง” หลิวกวางเทียนมาไม่เพียงลำพัง แต่ยังพาน้องชายหลิวกวางฟู่มาด้วย
เมื่อพวกเขามาถึง หลิวกวางเทียนทักหลี่เว่ยตงก่อน แล้วจึงหันไปมองหลี่เว่ยหมินที่นอนอยู่บนแผ่นไม้
หลี่เว่ยหมินที่เคยเป็น “พี่หมิน” ที่ยิ่งใหญ่ บัดนี้กลับดูน่าสังเวช
หลิวกวางเทียนที่เคยโดนหลี่เว่ยตงจัดการในอดีต เริ่มเข้าใจทันทีว่าหลี่เว่ยตงไม่ใช่คนที่ควรยุ่งด้วย
ในตอนนั้นเขาก็รู้สึกว่าหลี่เว่ยหมินต้องเจอปัญหาแน่ และไม่นาน ขาของหลี่เว่ยหมินก็หักจริง ๆ
“กวางเทียน รีบพาฉันไปโรงพยาบาล” หลี่เว่ยหมินเริ่มกลับมามีความมั่นใจในฐานะ “หัวหน้า” เมื่อเห็นหลิวกวางเทียนยอมมาช่วย แต่แทนที่จะตอบสนองต่อคำสั่งของหลี่เว่ยหมิน หลิวกวางเทียนกลับมองไปที่หลี่เว่ยตง
“กวางเทียน พี่ช่วยพานายหลี่เว่ยหมินไปโรงพยาบาลที” หลี่เว่ยตงพูดอย่างเรียบง่าย
“ช่วยพี่ตง ไม่มีคำว่าลำบาก! พี่ไม่ต้องห่วง ผมกับกวางฟู่จัดการให้เรียบร้อย”
คำพูดของหลิวกวางเทียนเต็มไปด้วยความนับถือ
คำตอบนี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจ โดยเฉพาะหลี่เว่ยหมินที่ถึงกับช็อก
“ลูกน้องทรยศงั้นหรือ?”
หลี่เว่ยตงยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปบอกหยางฟางฟาง
“พี่สะใภ้ เดี๋ยวเอาตั๋วอาหารหนึ่งกิโลกรัมและเงินเล็กน้อยให้พวกกวางเทียน พวกเขาจะได้กินอาหารดี ๆ ตอนเที่ยง”
หยางฟางฟางที่อยู่ในสภาพหมดทางเลือกได้แต่พยักหน้า
หลี่เว่ยหมินแทบลมจับ เขาแทบจะลุกขึ้นมาโวยวาย แต่ขาของเขาหักเกินกว่าจะทำอะไรได้
หลังจากหลิวกวางเทียนพาหลี่เว่ยหมินออกไป ความเงียบก็ปกคลุมลานบ้าน
ย่ามองหลี่เว่ยตงด้วยสายตาลึกซึ้ง ขณะที่จางซิ่วเจินเต็มไปด้วยความสงสัย
“หลี่เว่ยตง นายไม่รู้จักพวกนักเลงพวกนั้น แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเป็นพวกนักเลงที่ทำร้ายหลี่เว่ยหมิน?”
ย่าถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
หลี่เว่ยตงรู้ทันทีว่าเขาต้องอธิบายเพื่อปกป้องตัวเอง
“ความจริงคือแบบนี้…”
หลี่เว่ยตงพยายามจะอธิบาย แต่ถูกย่าตัดบท
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดมาก รอพ่อแกกลับมาแก้ตัวเอง จะโดนด่าหรือโดนตีย่ากับป้าไม่ยุ่ง”
หลี่เว่ยตงได้แต่ทำหน้าตาออดอ้อนใส่ย่า ก่อนจะหันไปมองจางซิ่วเจิน
จางซิ่วเจินกลับยิ้มบาง ๆ ให้เขา แล้วเดินไปทำธุระของตัวเอง
เธอไม่คิดจะยุ่งกับเรื่องนี้ เพราะเข้าใจดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขด้วยการพูดหรือดุด่า
นี่เป็นปัญหาที่หลี่พ่อต้องตัดสินใจ
ช่วงบ่าย หยางฟางฟางกลับมาที่บ้านพร้อมข่าวจากโรงพยาบาล
“กระดูกหน้าแข้งของพี่หมินหัก โชคดีที่เป็นการหักแบบชัดเจน ไม่ใช่ถูกบีบอัด หมอแค่ใส่เฝือกและรักษาการอักเสบ อีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้”
อย่างไรก็ตาม หมอต้องการให้เขาพักรักษาตัวที่บ้านต่อ เพราะการฟื้นตัวของกระดูกต้องใช้เวลานาน
หยางฟางฟางรู้สึกหวาดกลัวจริงจังกับเหตุการณ์ครั้งนี้
ที่ผ่านมา แม้หลี่เว่ยหมินจะชอบทะเลาะวิวาท แต่ก็แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ทว่าในครั้งนี้มันร้ายแรงเกินไป
“พี่หมินโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่” หลิวกวางเทียนพูดถึงเหตุการณ์นี้อย่างตรงไปตรงมา
แปลกที่หยางฟางฟางกลับรู้สึกโล่งใจ
เพราะถ้าหลี่เว่ยหมินต้องพักฟื้นอยู่บ้าน เขาก็คงไม่ออกไปก่อปัญหาบ่อย ๆ และอาจจะได้ทบทวนตัวเอง
เธอหวังว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนใหม่
ส่วนคำกล่าวหาว่าหลี่เว่ยตงเป็นคนจ้างคนมาทำร้าย เธอเลือกที่จะเพิกเฉย
แม้ว่าในใจจะมีคำถาม แต่เธอรู้ว่าต่อให้เป็นเรื่องจริง เธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งก็ไม่มีอะไรจะทำได้
ตอนค่ำ หลี่พ่อกลับมาถึงบ้านในสภาพที่ดูมีความสุข
เขามาพร้อมกับรอยยิ้มและท่าทางภูมิใจ
เช้าวันนั้นเขาได้เตรียมไข่และอาหารกระป๋อง แล้วนำไปมอบให้เพื่อนร่วมงานเก่าที่เป็นคนสำคัญ
หลังจากดื่มสังสรรค์กัน เพื่อนก็รับปากว่าจะหางานให้หลี่เว่ยหมิน และยืนยันว่าจะช่วย "อบรม" หลี่เว่ยหมินให้กลายเป็นคนดี
“พวกคนในคุกยังปรับตัวได้เลย ลูกชายฉันแค่ไปทำงาน จะมีอะไรยาก?”
หลี่พ่อยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกดีใจที่ในที่สุดหลี่เว่ยหมินก็จะได้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงตัวเอง
(จบบท)###