บทที่ 265 เผชิญหน้ากึ่งเทพ (ฟรี)

บทที่ 265 เผชิญหน้ากึ่งเทพ (ฟรี)

ประเทศศิวะ ที่วัดที่มีธูปเทียนคับคั่งที่สุด

ในท้องพระโรงที่แม้แต่กษัตริย์ก็ไม่มีสิทธิ์เข้า เทพลิงฮามานคุกเข่าสักการะแท่นบูชาในโบสถ์อย่างเคร่งครัด

เบื้องบน รูปเคารพพระศิวะสามเศียรหกกรประดิษฐานอยู่

ขณะที่ฮามานกำลังคุกเข่าสักการะอย่างเคร่งครัด รูปเคารพพระศิวะพลันเปล่งรัศมีนุ่มนวล

"ดี! เทพของเราไม่ได้สิ้นไป!"

เมื่อรัศมีสว่างขึ้น แสดงว่าพระศิวะตอบรับการเรียกของเขา ฮามานตื่นเต้นทันที

พระศิวะดำรงอยู่ด้วยศรัทธาของผู้คน ตราบใดที่ศรัทธาไม่ดับ สถานะแห่งเทพก็ยังคงอยู่

"ต่อจากนี้ เพียงรวบรวมศรัทธาอย่างต่อเนื่อง เทพของเราก็จะกลับมา!"

"ประเทศศิวะของเรา จะไม่มีวันล่มสลาย!"

จนถึงตอนนี้ ก้อนหินในใจเขาจึงวางลงได้จริงๆ

"ท่านฮามาน!"

ในจังหวะนั้น กษัตริย์ผู้ติดตามคนหนึ่งเดินเข้ามาในวัดอย่างระมัดระวัง

หลังจากฮามาตพยักหน้า จึงค่อยๆ ส่งสิ่งในมือ

ในโทรศัพท์ เป็นห้องไลฟ์ที่เปิดอยู่

กล้องจับที่กล้องราชันย์ แสดงใบหน้าคุ้นเคยของซูไห่

"ซูไห่!"

ฮามานดวงตาเย็นชา กัดฟันเอ่ยชื่อนี้

"แม้ไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่จากไปเกิดอะไรขึ้นแน่ แต่วันนี้ เจ้าต้องตาย!"

ความเกลียดชังในใจเขาสะสมไม่หยุด

คนที่ฆ่าท่านพระศิวะ มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะไถ่บาปได้!

สุดท้าย เขาหมุนตัวก้าวเดิน มาคุกเข่าหน้าแท่นบูชา

"วิงวอนขอเทพของเราประทานการคุ้มครอง ให้ข้าได้สังหารผู้ที่กล้าทำร้ายร่างทิพย์ของพระองค์ด้วยมือตนเอง!"

ราวกับได้ยินคำขอของเขา รูปเคารพพระศิวะเปล่งรัศมีสว่างจ้าในทันใด

...

ในเวลาเดียวกัน บนผิวน้ำ ผู้มีพลังพิเศษมากมายก็จ้องมองหน้าจอ

อธิการบดีสถาบันไซเบอร์ตรอน สีหน้าเปลี่ยนแปลง ไม่รู้กำลังคิดอะไร

อีกด้านหนึ่ง หลายคนไม่ทันสังเกตการตอบกลับ

หน้าเรือรบของประเทศพีระมิด เทพสุริยะ·ราอี มองเทพแห่งความตายจากทะเลทรายที่ดูเหมือนบาดเจ็บ

จากนั้นดวงตาหมุนวน มองร่างหนุ่มในกล้องราชันย์อย่างสนใจ "เป็นฝีมือเจ้าหรือ? เจ้าหนูชาวประเทศเยียนที่น่าสนใจ"

สถานการณ์ในพื้นที่ลับ ในวินาทีที่กล้องจักรพรรดิเปิด ก็ชัดเจนแล้ว

พื้นที่แตกสลาย กึ่งเทพรวมตัว

ยกเว้นปีศาจเลือดและโจรสลัดอมตะที่ยังต่อสู้กัน อัลนูอาดูเหมือนจะบาดเจ็บ ถูกกึ่งเทพทั้งหมดล้อมไว้

มังกรเงินใต้เท้าซูไห่ พลังไม่แข็งแกร่งเหมือนก่อน เป็นไปได้มากที่สุดคือเขาต่อสู้กับเทพแห่งความตายจากทะเลทรายมา

ตอนนี้ ผู้มีพลังพิเศษบนเรือรบลำอื่นๆ มองมาทางนี้

เทพแห่งความตายจากทะเลทรายเป็นกึ่งเทพของประเทศพีระมิด สายตาเหล่านี้ กำลังคาดเดาท่าทีของเธอ

แต่บนใบหน้าราอีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มองไม่ออกถึงความคิด

และตอนนี้ การต่อสู้ในพื้นที่ลับ เข้าสู่ช่วงเดือดพล่านแล้ว

การต่อสู้ระหว่างปีศาจเลือดและโจรสลัดอมตะยิ่งใหญ่

ทุกการโจมตีทุกท่า ล้วนสร้างแรงสั่นสะเทือนมหาศาลในห้วงอวกาศ พลังวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวและไอเลือดที่ท่วมฟ้าเป็นสีหลักเพียงอย่างเดียวในกล้อง

ขณะนั้น บนแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิ่งของประเทศเทพ

เมื่อกล้องราชันย์สว่างขึ้นอีกครั้ง ห้องไลฟ์ก็คึกคักขึ้น

"แข็งแกร่งจริง!"

"นี่คือพลังที่แท้จริงของกึ่งเทพหรือ?"

"พลังอันน่าสะพรึงขนาดนี้ถ้าปล่อยออกมาในความเป็นจริง ผลลัพธ์คิดไม่กล้าจะคิด"

ขณะนี้ ผู้คนจึงเข้าใจอย่างแท้จริงว่าอะไรคือกึ่งเทพ

เทียบกับพลังอันยิ่งใหญ่นี้ ซูไห่ที่ยืนอยู่ระหว่างกึ่งเทพ ดูผิดที่ผิดทางเป็นพิเศษ

"ในสนามรบของกึ่งเทพ ทำไมถึงมีคนแบบนี้โผล่มา?"

"พลังรุนแรงขนาดนี้ เขาคงถูกคลื่นกระเพื่อมสั่นตายแน่"

"ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เขาเพิ่งฆ่าศิโมรนะไม่ใช่หรือ คนนั้นก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ"

"ศิโมรนะตายในที่ของปีศาจเลือด ใครจะรู้ว่าเป็นเขาฆ่าหรือเปล่า"

ผู้ชมจากประเทศต่างๆ ถกเถียงกัน

ตอนนี้ ผู้ที่กังวลที่สุดคือผู้ชมจากประเทศเยียน

"ทำไมเทพซูยังไม่ไป!"

"การต่อสู้ของกึ่งเทพ แค่สัมผัสก็ตาย อยู่ที่นั่นคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้!"

"แม้ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ตอนนี้ออกไปคงดีที่สุด!"

ทุกคนที่เป็นผู้ชมจากประเทศเยียน ใจแทบจะขึ้นมาอยู่ที่คอ

ซูไห่เป็นตัวแทนอนาคตของประเทศเยียน ถ้าตายในมือกึ่งเทพ ก็จะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ

"ยังคิดจะหนีอีกหรือ? หนีได้หรือ?"

"กึ่งเทพยกมือก็ทำลายสวรรค์ทำลายดิน คิดว่าเทพซูของพวกเจ้าไร้เทียมทานจริงๆ หรือ?"

"ข้ารอดูอยู่แล้วว่าเขาจะถูกควักไส้อย่างไร"

"แมลงระดับราชันย์ตัวหนึ่ง ถ้าเดินออกจากพื้นที่ลับได้อย่างมีชีวิต ข้าจะกินขี้สามกิโล!"

"ฮ่าๆ ข้าร่วมด้วย! เดิมพันว่าซูไห่จะตายหรือไม่!"

"ถ้าเขารอด ข้าจะดื่มฉี่!"

…

เห็นข้อความในแชทของผู้ชมประเทศเยียน ผู้ชมจากประเทศศิวะที่เดิมทีเศร้าโศกก็มีกำลังใจขึ้นทันที

การตายของศิโมรนะ ทำให้พวกเขาเกลียดชังซูไห่จนแทบกัดฟัน

ในใจยิ่งหวังให้ซูไห่ตาย

ตอนนี้ ในที่สุดก็ได้โอกาส

ในสายตาพวกเขา แม้ซูไห่จะแข็งแกร่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากึ่งเทพ ยังมีทุนรอนอะไรให้มีชีวิตรอด?

เขาฆ่าปีศาจภูเขาไฟได้จริง

แต่นั่นเพียงแค่ไร้เทียมทานในระดับต่ำกว่ากึ่งเทพ ต้องรู้ว่าระดับราชันย์กับกึ่งเทพ มีความต่างราวฟ้ากับดิน

ส่วนศิโมรนะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครฆ่า

ตายในที่ของปีศาจเลือด บางทีอาจถูกปีศาจเลือดฆ่าก็ได้

ซูไห่เพียงระดับราชันย์แม้จะมีสัตว์เลี้ยงระดับกึ่งเทพอยู่ข้างกาย ก็ไม่มีทางฆ่าท่านศิโมรนะได้จริง

และตอนนี้ ซูไห่เผชิญหน้ากึ่งเทพจริงๆ

เพียงพลาดพลั้งนิดเดียว ก็จะตายไม่เหลือซาก

ผู้ชมจากประเทศศิวะ รอไม่ไหวที่จะดูว่าซูไห่จะตายอย่างไร

ผู้ชมจากประเทศเยียนก็รู้สึกได้ถึงจุดนี้

คนธรรมดาไม่มีความผิด แต่ของมีค่าย่อมนำภัยมาสู่ตน

พลังงานแห่งความว่างเปล่ามหาศาลในตัวเทพซู คือสิ่งล่อใจที่ใหญ่ที่สุด

ในความเป็นจริงยังมีผู้มีพลังพิเศษคุ้มครอง จึงปลอดภัยไร้เรื่อง

แต่พื้นที่ลับคือสถานที่นอกกฎหมาย

ไม่มีใครรู้ว่าจะมีกึ่งเทพลงมือกะทันหันหรือไม่

"เทพซู ท่านต้องไม่เป็นอะไรนะ!"

ขณะนี้ คำภาวนาในใจผู้ชมนับไม่ถ้วนจากประเทศเยียน

...

ในพื้นที่ลับ ซูไห่กอดอก มองไปยังสนามรบที่ห่างออกไป

ไอเลือดท่วมฟ้า ปีศาจร้ายเกิดขึ้นทั่ว

ไม่ไกลจากสนามรบ คือเทพแห่งความตายจากทะเลทรายที่ถูกกึ่งเทพหลายคนล้อมไว้ตรงกลาง

อาศัยโอกาสหายใจสั้นๆ เขาหลับตาแน่น พลังเทพในร่างหมุนเวียน กำลังซ่อมแซมบาดแผล

แต่ที่จริง สายตามากมายหยุดอยู่ที่ตัวเขา

เทพแห่งความตายจากทะเลทรายต่างหากที่เป็นเป้าหมายสุดท้าย สองคนที่แข็งแกร่งที่สุดติดอยู่ในการต่อสู้ที่ยากลำบาก กึ่งเทพคนอื่นๆ ความคิดแตกต่างกันไป

ซูไห่ก็มองเทพแห่งความตายจากทะเลทรายเป็นระยะ

เขากำลังคิดว่าต่อไปจะทำอย่างไร

ก่อนหน้านี้ผลักเทพแห่งความตายจากทะเลทรายออกมา หลีกเลี่ยงการถูกล้อมโจมตี

ตอนนี้วิกฤตผ่านพ้น โจรสลัดอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดยังถูกปีสาจเลือดรั้งไว้จนแบ่งกำลังไม่ได้

เขามองกึ่งเทพคนอื่นๆ ที่รอคอยอย่างระแวดระวังรอบด้าน

"ล้วนแต่พวกไร้ค่า!"

หยุดชั่วครู่ สายตาของซูไห่พลันคมกริบ

ขณะที่จิตใจหมุนเวียน วิถียุทธ์สี่อสูรในร่างเขาก็หมุนเวียนอย่างรวดเร็ว

"อื้อ!"

ตั๊กแตนอสูรกลืนฟ้าสีดำทะมึน พุ่งออกมาจากรังแมลงอย่างรุนแรง

"แท่นพิธีทำลายสวรรค์แห่งสี่อสูร เปิด!"

ขณะที่ร่ายในใจ มังกรเงินก็รับรู้ได้ คำรามพลางเต้นระบำกลางอากาศ

เสียงคำรามที่ดังสนั่นหูแทบแตก ก้องกังวานทั่วห้วงอวกาศ

ในบรรยากาศที่ตึงเครียด เสียงคำรามนี้ดังก้องเป็นพิเศษ

ในพริบตา สายตาของกึ่งเทพทั้งหมดล็อกไปที่ซูไห่อย่างรวดเร็ว

"ไอ้ลูกหมาประเทศเยียนจะทำอะไร?" เคานท์สีเลือดฟิลส์มองซูไห่ รู้สึกงุนงง

เขาไม่อยากต่อสู้กับอีกฝ่ายตอนนี้ ปีศาจเลือดน่ากลัวเกินไป และผู้มีพลังพิเศษสามคนของประเทศเยียนก็แข็งแกร่งเกินไป!

กึ่งเทพคนอื่นๆ ก็ประหลาดใจเช่นกัน

มังกรเงินถูกเทพแห่งความตายจากทะเลทรายฟันบาดเจ็บแล้ว ตอนนี้ควรเป็นเวลาฟื้นฟู ทำไมจู่ๆ กลับคลุ้มคลั่งขึ้นมา?

ความสงสัยนี้ยังไม่ทันได้คำตอบ ถัดมา คิ้วของฟิลส์ก็ขมวด

เพราะจากในร่างซูไห่ แมลงเกือบโปร่งใสตัวหนึ่งบินออกมา ลงบนหลังมังกรเงิน

ต่อมา ปีกสีเทาดำขนาดมหึมาคู่หนึ่งก็งอกออกมาบนหลังมังกรเงิน

พร้อมกันนั้น ยังมีพลังจิตของมังกรเงินที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

แม้แต่กึ่งเทพอย่างเขา ก็รู้สึกได้ถึงความลึกลับในนั้น ราวกับพลังจิตของตนตกลงไปในทะเลโคลนผืนใหญ่

ไอ้หนูนี่จะลงมือ!

ฟิลส์พลันตระหนักได้

แต่การเคลื่อนไหวของซูไห่ยังไม่จบ

เร็วๆ นี้ ตั๊กแตนฝูงใหญ่สีดำทะมึน พุ่งชนมังกรเงินแบบฆ่าตัวตาย

เมื่อใกล้จะสัมผัสกับเกราะเงิน ก็กลายเป็นควันดำเส้นเล็กๆ หลอมรวมเข้ากับร่างหมื่นจั้งของมังกรเงิน

พร้อมกันนั้น หยดเลือดแก่นหนึ่งก็ลอยออกมาจากระหว่างคิ้วซูไห่ ลงบนกลางหน้าผากมังกรเงิน

"โฮก!"

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น มังกรเงินที่มีร่างใหญ่เกือบหนึ่งแสนเมตร พลันขยายใหญ่ขึ้นอีกในพริบตา

พร้อมกันนั้น ร่างกายก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ปีกทะยานฟ้า กรงเล็บสีดำสนิท

ปากที่ดูราวกับจะกลืนกินทุกสิ่ง

ร่างของมันเปลี่ยนจากสีเงินสว่างเดิม กลายเป็นพื้นสีเทาดำ ประดับประดาด้วยแสงเงิน

ลวดลายกฎเกณฑ์อันซับซ้อนโบราณปกคลุมทั่วร่าง

ตามการหมุนเวียนของควันดำ แสงสีแดงเส้นเล็กๆ สว่างขึ้น

ความป่าเถื่อน กระหายเลือด และคลุ้มคลั่ง ปกคลุมทั่วห้วงอวกาศในพริบตา

กึ่งเทพทั้งหมดต่างตกตะลึง เมื่อพวกเขามองไปที่ซูไห่อีกครั้ง พบว่าเด็กหนุ่มระดับราชันย์ที่เมื่อครู่ยังไม่น่าสนใจ ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ

บนร่างของเขาปรากฏลวดลายเช่นเดียวกับมังกรเงิน

ภายใต้การเสริมพลังของลวดลายนั้น ไอพลังทั่วร่างพุ่งสูงขึ้นหลายสิบเท่า เมื่อเทียบกับพวกเขา กลับไม่ด้อยกว่าเลย!

"เป็นไปได้อย่างไร!" ดาวแคระดำ·เจนเซนร้องอุทาน

คนระดับราชันย์กลับมีไอพลังไม่ต่ำกว่ากึ่งเทพในพริบตา เรื่องแบบนี้ช่างเหลือเชื่อเกินไป

ข้างกายเจนเซน สตาลีที่บาดเจ็บแล้ว ดวงตาเผยความหวาดระแวงอย่างลึกซึ้ง

ไอ้หนูนี่ แข็งแกร่งนัก

ขณะนี้ กึ่งเทพทั้งหมดในที่นั้นเตรียมพร้อมรับศัตรูใหญ่

ไอ้หนูนี่เป็นระดับราชันย์จริงหรือ?

ฟิลส์เกิดความสงสัยเช่นนี้ในใจ ขณะเดียวกันพลังเทพในร่างก็หมุนเวียนเร็วขึ้นอีกหลายส่วน

มังกรเงินก็ถึงระดับกึ่งเทพอยู่แล้ว ตอนนี้จู่ๆ ก็มีไอ้หนูจากประเทศเยียนเพิ่มมาอีกคน

และดูท่าทางไอ้หนูนี่ เหมือนจะเตรียมลงมือ

สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

เหล่ากึ่งเทพจ้องมองซูไห่กับมังกรเงินที่ไอพลังเปลี่ยนไปมากแล้วที่ฝั่งนั้น

ที่จริงตั้งแต่ซูไห่เริ่มเคลื่อนไหว โลกภายนอกก็สังเกตเห็นแล้ว

เสียงคำรามของมังกรเงิน ทำให้จิตใจทุกคนบนผิวน้ำสะท้าน

"เป็นท่านั้น!"

"มาอีกแล้ว เขาจะทำอะไร?"

"นี่มันสนามรบของกึ่งเทพนะ ไม่รักชีวิตจริงๆ หรือ?"

ไม่ว่าในที่เกิดเหตุ หรือในห้องไลฟ์ ทุกคนต่างทั้งตกใจทั้งสงสัย

ไม่กล้าเชื่อว่าซูไห่จะลงมือ และคิดไม่ออกว่าเขาจะทำอะไร

แต่ตอนนี้ ซูไห่ลอยกลางอากาศแล้ว ก้าวไปข้างหน้า

"หมาแก่ การต่อสู้ของเรายังไม่จบนะ"

ภายใต้การหมุนเวียนของวิถียุทธ์สี่อสูร ซูไห่ที่เสริมด้วยไอพลังป่าเถื่อนราวกับเทพอสูร เผยรอยยิ้มดุร้าย มองเทพแห่งความตายจากทะเลทรายอย่างสงบ

พลังอันเดือดพล่าน พลังเทพอันป่าเถื่อน ล้วนชี้ไปที่เทพแห่งความตายจากทะเลทรายตรงกลาง

เห็นดังนั้น กึ่งเทพที่ยืนดูรอบข้างก็ตกใจก่อน

"ไอ้หนูนี่ กล้าใหญ่จริง!" เทพหินยักษ์·สือเสียงเทียนมองภาพนี้อย่างไม่อยากเชื่อ

เคานท์สีเลือดฟิลส์ก็จ้องมองซูไห่ พูดอย่างยากจะเชื่อ "เขากล้าได้อย่างไร?"

ภายใต้สายตาจับจ้องของบาซาบอส แม้แต่พวกเขายังไม่กล้าเคลื่อนไหวส่งเดช

เป็นกึ่งเทพเหมือนกัน ความต่างด้านพลังพวกเขายังพอมองออก

หากฉวยโอกาสที่บาซาบอสถูกรั้งไว้ลงมือ แย่งมาได้ก็ดีไป ถ้าแย่งไม่ได้ สุดท้ายก็สร้างศัตรูเปล่าๆ

อาจจะออกจากพื้นที่ลับไปแล้วก็ไม่มีความสงบ

ผลคือเด็กระดับราชันย์คนนี้ กลับก้าวออกมา

และพุ่งเป้าไปที่เทพแห่งความตายจากทะเลทรายทันที

นี่จะแย่งชิงพลังงานแห่งความว่างเปล่าของเทพแห่งความตายจากทะเลทรายต่อหน้าต่อตาบาซาบอสและปีศาจเลือด?

ขณะนี้ พวกเขาล้วนรู้สึกไม่เป็นจริง

แม้แต่กึ่งเทพยังเป็นเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงผู้คนในมิติจริง

"ไอ้หนูนี่บ้าไปแล้วหรือ!"

"หมาแก่? โอ้โห เขากล้าเรียกแบบนี้ได้อย่างไร?"

"นั่นมันกึ่งเทพนะ กึ่งเทพ ไม่ใช่ระดับจักรพรรดิ!"

การกระทำของซูไห่ เผยความตั้งใจชัดเจน

มาถึงก็พุ่งเป้าเอาชีวิตเทพแห่งความตายจากทะเลทรายทันที

เรื่องแบบนี้แม้แต่ในประวัติศาสตร์ ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน

นักรบระดับจ้าวคนหนึ่ง จะลงมือกับกึ่งเทพโดยตรง

นี่มันต่างอะไรกับยื่นหัวไปให้ฆ่า?

"เทพซู อย่าหุนหันพลันแล่นนะ!"

"นั่นมันกึ่งเทพของจริง ไม่ใช่พวกอย่างศิโมรนะ นะ!"

"จบแล้ว!"

ผู้ชมจากประเทศเยียนกังวลอยู่แล้ว ผลคือซูไห่ก้าวออกมาเอง

นี่เท่ากับทำให้ความกังวลของพวกเขากลายเป็นจริง

ชั่วขณะนั้น ทุกคนหัวใจเต้นไม่หยุด

บนผิวน้ำ ผู้มีพลังพิเศษทั้งหลายแน่นอนว่าเห็นการกระทำของซูไห่

แต่เมื่อเทียบกับเสียงอุทานของคนอื่น เทพสมุทรกลับสงบนิ่งกว่ามาก

เขาเดาได้แล้วว่าเทพเลือดเป็นร่างแยก และตอนนี้ท่าทางของไอ้หนูนี่ ชัดเจนว่าเปิดแท่นพิธีสี่อสูรแล้ว

ภายใต้การเสริมพลังของแท่นพิธีทำลายสวรรค์แห่งสี่อสูร พลังของเขาไม่ด้อยกว่ากึ่งเทพ

เมื่อสามารถฆ่าพระศิวะกลับชาติได้ การฆ่าเทพแห่งความตายจากทะเลทราย ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้

แต่ว่า...

เทพสมุทรมองไปที่เรือรบอีกลำ

ตอนนี้เทพสุริยะราอีก็จ้องมองกล้องซูไห่อย่างสนใจ

เทพแห่งความตายจากทะเลทรายถึงอย่างไรก็เป็นกึ่งเทพของประเทศพีระมิด ฆ่าไปแบบนี้ ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสร้างศัตรูที่แข็งแกร่ง

แต่ความกังวลนี้มีเพียงชั่วครู่ เทพสมุทรก็เบนสายตากลับ

"ช่างเถอะ จะฆ่าก็ฆ่าไป!"

"มีข้าอยู่ที่นี่ จะปล่อยให้เจ้าถูกผู้มีพลังพิเศษฆ่าตายได้หรือ!"

...

"หมาแก่ การต่อสู้ระหว่างพวกเรา ยังไม่จบนะ"

เสียงสงบนิ่งของซูไห่ทะลุห้วงอวกาศ เข้าสู่หูเทพแห่งความตายจากทะเลทราย

เขาลืมตา ซูไห่มาอยู่ใกล้แล้ว

ในตอนนี้

"รนหาที่ตาย!"

เสียงคำรามเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายไร้ที่สิ้นสุดดังมาจากด้านหลัง

พลังวิญญาณนับพันนับหมื่นรวมตัว ดาบกระดูกพุ่งฝ่าอากาศมา

เห็นดังนั้น กึ่งเทพทั้งหลายต่างเผยสีหน้าโล่งใจ

สมดังคาด บาซาบอสจับตาดูฝั่งนี้อยู่ตลอด

ไอ้หนูนั่นลงมือส่งเดช ย่อมต้องได้รับผลกระทบ

แต่ความคิดของพวกเขายังไม่ทันตก ทะเลเลือดที่ท่วมฟ้าในที่ไกล จู่ๆ ก็ปั่นป่วนเดือดพล่าน

ดาบกระดูกที่แผ่ไอสังหารของวิญญาณยังไม่ทันพุ่งพ้นทะเลเลือด ก็ถูกพายุหมุนนับไม่ถ้วนขัดขวาง กลืนกิน

ปีศาจเลือดก็จับตาดูฝั่งนี้อยู่!

ขณะนี้ เปลือกตาของกึ่งเทพทั้งหลายกระตุก มองซูไห่ด้วยสายตาหวาดระแวงมากขึ้น

ปีศาจเลือดไม่จำเป็นต้องขัดขวางการโจมตีเลย แม้แต่อาศัยโอกาสนี้โจมตียังได้

แต่เขากลับทำเช่นนี้ นั่นแสดงว่า เขากำลังปกป้องเด็กระดับราชันย์คนนี้

พวกเขาสองคน เป็นพวกเดียวกัน!

ข้อมูลนี้ ทำให้ใจทุกคนถูกปกคลุมด้วยเงามืด

พวกเขาหวาดกลัวบาซาบอส แต่ปีศาจเลือดไม่กลัวเลย

และเขาร่วมมือกับซูไห่ ตอนนี้ซูไห่จัดการเทพแห่งความตายจากทะเลทราย เทพเลือดรั้งบาซาบอสไว้...

ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็มีกลิ่นอายของแผนการ

"อ้า!!!" ด้านหลัง บาซาบอสที่ถูกขัดขวางการโจมตีเข้าสู่ความโกรธเกรี้ยว ฟันสับอย่างบ้าคลั่ง

เบื้องหน้า ซูไห่สงบนิ่ง ค่อยๆ เดินไปหาเทพแห่งความตายจากทะเลทราย "มอบพลังงานแห่งความว่างเปล่ามา ข้าจะละเว้นชีวิตเจ้า"

"เจ้าว่าอะไรนะ?" สีหน้าเทพแห่งความตายจากทะเลทรายเย็นชาทันที

หนอนระดับราชันย์ตัวหนึ่ง กล้าเหยียบหัวตนด้วย

คิดว่าตนเป็นปลาบนเขียงที่ใครจะฆ่าก็ได้หรือ

"ข้าจะบอกว่า ตายไปซะ!" เทพแห่งความตายจากทะเลทรายยังไม่ทันตอบสนอง ร่างของซูไห่ก็หายไปจากที่เดิมแล้ว

"โฮก!"

มังกรเงินแห่งห้วงอวกาศพร้อมไอพลังป่าเถื่อนกระหายเลือด คำรามพุ่งไปข้างหน้า

"รนหาที่ตาย!" เทพแห่งความตายจากทะเลทรายเห็นการเคลื่อนไหวของซูไห่ ดวงตาเผยความมุ่งร้ายทันที

ในมือเขา ดาบยักษ์แห่งความว่างเปล่าพลันยกขึ้น พลังแห่งความเหี่ยวเฉาและความตายนับพันนับหมื่นพุ่งออกมาอีกครั้ง

เล็งไปที่ซูไห่ที่บินมาเบื้องหน้า ดาบยักษ์ในมือเขา ฟันลงอย่างรุนแรง

ซูไห่ที่เปิดแท่นพิธีทำลายสวรรค์แห่งสี่อสูร ความเร็วเทียบกับก่อนหน้านี้เร็วขึ้นนับไม่ถ้วนเท่า

พริบตาเดียวก็ข้ามระยะทางหลายร้อยเมตร พุ่งมาถึงเบื้องหน้าเทพแห่งความตายจากทะเลทราย

พร้อมกันนั้น ดาบยักษ์ก็ฟันลงมา

ดาบยักษ์ที่รวมพลังแห่งความเหี่ยวเฉาและความตายนับพันนับหมื่น ราวกับข้อห้ามแห่งชีวิต ภายใต้พลังอันเดือดพล่าน ไม่มีใครอาจมีชีวิตรอด

แต่ครั้งนี้ ซูไห่ไม่เพียงป้องกันอย่างเดียวอีกต่อไป

บนแขนเขา แสงแดงเพลิงปรากฏ อุณหภูมิรอบกายพลันร้อนระอุยิ่งนัก

แขนที่ถูกเปลวไฟห่อหุ้ม แรกเริ่มสีแดงเพลิง ต่อมาสว่างเป็นทอง สุดท้าย เปลี่ยนเป็นสีขาวบริสุทธิ์

"วิถียุทธ์อีกาทอง ทำลาย!"

จ้องดาบยักษ์เหนือศีรษะ ซูไห่ซัดหมัดออกไป