ตอนที่ 866 ความขัดแย้ง
เมื่อเห็นว่าน้องสาวยังคงทำหน้าตาไม่พอใจ และไม่ยินยอมขอโทษ เว่ย อิงเจี๋ย ถึงกับเดือดดาลสุดขีด
เพี้ยะ!
เพี้ยะ!!
เขาตบหน้าน้องสาวไปอีกสองสามครั้งอย่างแรง จนเกิดเสียงดังชัดเจน เพราะตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน!!!
“นี่คือ คุณชายเย่ ประธานสโมสรซูเปอร์คาร์ ‘YSWD’!”
เว่ย อิงเจี๋ย พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะที่แนะนำตัวตนของ เย่เฉิน
ในฐานะน้องสาวของ เว่ย อิงเจี๋ย หญิงสาวใส่ LV เองก็เคยได้ยินชื่อเสียงของสโมสรซูเปอร์คาร์แห่งนี้ และรู้ดีว่ามันน่ากลัวขนาดไหน!
เมื่อหลังจากรู้ว่า เย่เฉิน คือใคร เธอถึงกับหน้าซีด และรู้สึกเหมือนลมหนาวพัดผ่านแผ่นหลัง
“เขา...เขาคือประธานสโมสรซูเปอร์คาร์ ‘YSWD’ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนนั้น?!”
หญิงสาวใส่ LV ตกใจจนแทบพูดอะไรไม่ออก
เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะได้พบกับบุคคลสำคัญเช่นนี้ และนี่คือตัวตนที่เธอไม่อาจแม้แต่จะคิดต่อต้านได้!
“คุณชายเย่...ขะ...ขอโทษคะ...”
หญิงสาวใส่ LV มอง เย่เฉิน ด้วยความหวาดกลัว น้ำเสียงของเธอสั่นเครือขณะกล่าวคำขอโทษ
ในส่วนของเพื่อนร่วมกลุ่มของเธอก็ไม่ต่างกัน พวกเขาทั้งหมดกลัวจนตัวสั่น เพราะแม้แต่ เว่ย อิงเจี๋ย ที่พวกเขามองว่าเป็นใหญ่ก็ยังเป็นแบบนี้ แล้วพวกเขาจะเหลืออะไร?
แค่สมาชิกคนใดคนหนึ่งจากสโมสรซูเปอร์คาร์ ‘YSWD’ ก็สามารถบดขยี้พวกเขาได้แล้ว
พวกเขาดันไปล่วงเกินคนที่น่ากลัวขนาดนั้นได้อย่างไรกัน!
“ไม่ต้องมาขอโทษฉัน คนที่เธอควรขอโทษคือเธอคนนั้น..”
เย่เฉิน พูดอย่างเย็นชา ก่อนจะมองไปที่ เจียง เมิ่งเมิ่ง
หญิงสาวใส่ LV ไม่กล้าหืออะไรอีก รีบเดินไปหา เจียง เมิ่งเมิ่ง ก่อนจะ โค้งตัวลง และกล่าวคำขอโทษซ้ำๆ :
“ขอโทษคะ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน ฉันต้องขอโทษจริงๆ...”
จนถึงตอนนี้ เจียง เมิ่งเมิ่ง ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด
เมื่อครู่เธอยังกังวลว่าเมื่อพี่ชายของหญิงสาวใส่ LV มาถึงแล้ว ทั้ง จ้าว ซูซวน และเย่เฉิน น้องชายของเธออาจต้องเจ็บตัว แต่ใครจะคิดว่าสถานการณ์จะพลิกกลับถึงขนาดนี้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เรื่องทั้งหมดคืออะไรกันแน่?”
เว่ย อิงเจี๋ย ถามน้องสาวเพื่อให้เธอเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อที่เขาจะได้แก้ไขสถานการณ์ทั้งหมดให้ถูกต้อง
หญิงสาวใส่ LV ไม่กล้าแต่งเรื่องอีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดไปตามความจริง
หลังจากฟังจบ เว่ย อิงเจี๋ย ก็โกรธจัด เพราะต้นเหตุทั้งหมดมาจากผู้ชายคนหนึ่ง!
เว่ย อิงเจี๋ย เดินเข้าไปหาชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ชื่อ ข่ง ปัวฮุย ด้วยสีหน้าดุดัน ก่อนจะถามด้วยเสียงดัง :
“บอกมาว่าแกเป็นฝ่ายตามตื๊อเธอ หรือเธอเป็นฝ่ายยั่วยวนแกอย่างที่แกพูด?”
“คะ...คือ...คือเธอเป็นฝ่ายยั่วยวนผมก่อนครับ”
จนถึงตอนนี้ ข่ง ปัวฮุย ยังคงโกหก และไม่ยอมพูดความจริงออกมา
“แกแน่ใจนะ?”
“แน่ใจครับ!”
ข่ง ปัวฮุย พยักหน้ายืนยันอย่างหนักแน่น
“ดี งั้นให้พวกเรามาช่วยรื้อฟื้นความจำให้เขาหน่อยดีไหม จะได้แน่ใจจริงๆ?”
เว่ย อิงเจี๋ย หันไปพูดกับกลุ่มเพื่อนที่เขาพามาด้วยความหมายอันลึกซึ้ง
“ได้เลย นี่มันงานถนัดเลย…”
“เรื่องเล็กน้อย ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเราเอง เดี๋ยวจะทำให้เขาจดจำมันได้อย่างขึ้นใจแน่นอน..”
กลุ่มเพื่อนของ เว่ย อิงเจี๋ย รีบเข้าไปลาก ข่ง ปัวฮุย ไปอีกมุม และเริ่ม ‘สั่งสอน’ ด้วยวิธีที่ดูเหมือน ‘มิตรภาพ’ แต่ความจริงกลับไม่ใช่ เพื่อช่วยเขารื้อฟื้นความจำ
“อย่าตีหน้านะ!”
“พอแล้วๆ อย่าตีอีกเลย...”
เสียงร้องของ ข่ง ปัวฮุย ดังขึ้นมาอย่างน่าสงสาร
สองนาทีต่อมา ข่ง ปัวฮุย ถูกลากกลับมา
ตอนนี้ ใบหน้าหล่อเหลาขาวเนียนของเขากลับบวมเป่งกลายเป็นหัวหมูจนดูแทบไม่จืด
“ผม...ผมพูดความจริง...พูดความจริง...คะ...คือผมเองที่เป็นฝ่ายตามจีบเธอ ไม่ใช่...ไม่ใช่เธอที่ยั่วยวนผม...”
ข่ง ปัวฮุย พูดด้วยเสียงลมรั่ว เพราะฟันของเขาหายไปหลายซี่
“ไอ้เวรเอ๊ย!”
เว่ย อิงเจี๋ย เตะ ข่ง ปัวฮุย ไปอีกทีอย่างแรง!
ถ้าไม่ใช่เพราะ ข่ง ปัวฮุย ทำตัวเหลวแหลกไปทั่ว ก็คงไม่เกิดเรื่องวุ่นวายในวันนี้
หญิงสาวใส่ LV โกรธจัดจนแทบระเบิด เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นไปไม่ได้กลับกลายเป็นเรื่องจริง นั่นคือแฟนหนุ่มของเธอเป็นฝ่ายตามจีบผู้หญิงคนอื่นก่อน!
“นายมันน่าขยะแขยง เราเลิกกัน!”
หญิงสาวใส่ LV ตะโกนใส่ ข่ง ปัวฮุย ด้วยความเดือดดาล
“ไหนๆ แกก็ชอบสร้างปัญหานัก งั้นฉันจะช่วยให้แกหลุดพ้นจากเรื่องพวกนี้ไปตลอดกาล...”
เว่ย อิงเจี๋ย พูดพลางเผยรอยยิ้มอำมหิตขึ้นบนใบหน้า
ตอนนี้ เว่ย อิงเจี๋ย กลับมาเป็นคุณชายใหญ่ผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอีกครั้ง แตกต่างจากตอนที่อยู่ต่อหน้า เย่เฉิน โดยสิ้นเชิง
“คุณ...คุณคิดจะทำอะไร?”
ข่ง ปัวฮุย เริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดี
“ทำอะไรเหรอ?”
เว่ย อิงเจี๋ย ยิ้ม ก่อนจะเตะไปที่จุดสำคัญของร่างกาย ข่ง ปัวฮุย อย่างเต็มแรง
ภาพเหตุการณ์นี้ทำเอาผู้ชายในบริเวณนั้นหลายคนถึงกับหลับตาปี๋ พวกเขาไม่กล้าดูเพราะมันโหดร้ายเกินไป
“อ๊าก!!!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของ ข่ง ปัวฮุย ดังลั่น เขาทรุดตัวลง และขดตัวแน่นกับพื้น
ตั้งแต่นี้ไป ข่ง ปัวฮุย จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องทางโลกอีกต่อไปแล้ว
หลังจากนั้น เว่ย อิงเจี๋ย เดินมาหา เย่เฉิน พร้อมกล่าวคำขอโทษ :
“คุณชายเย่ ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ วันนี้ถึงแม้เรื่องส่วนใหญ่จะเป็นเพราะ ข่ง ปัวฮุย แต่ตัวน้องสาวของผมเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบอย่างเลี่ยงไม่ได้”
“เมื่อกลับไป ผมจะสั่งสอนเธออย่างหนัก และจะระงับบัตรเครดิตของเธอทั้งหมด ห้ามเธอออกจากบ้านเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อให้เธอได้สำนึกผิด”
เว่ย อิงเจี๋ย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“อะไรนะ? หนึ่งปีห้ามออกจากบ้าน?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหญิงสาวใส่ LV ยิ่งซีดลงไปอีก
“ต้องขอโทษด้วยครับ...”
หลังจากนั้น เว่ย อิงเจี๋ย เดินไปขอโทษ เจียง เมิ่งเมิ่ง ด้วยตัวเองอีกครั้ง
“อย่าให้เธอก้าวเข้ามาในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อีก”
เย่เฉิน กล่าวขึ้น
“แน่นอน แน่นอนครับ”
เว่ย อิงเจี๋ย รีบรับคำพร้อมให้สัญญา
เย่เฉิน โบกมือ เขาไม่อยากเสียเวลากับ เว่ย อิงเจี๋ย มากไปกว่านี้
“ขอบคุณครับ คุณชายเย่ ขอบคุณจริงๆ”
เว่ย อิงเจี๋ย กล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม ก่อนจะรีบพาน้องสาว และพรรคพวกของเธอกลับไป เพื่อเตรียมสั่งสอนพวกเธอที่บ้าน
หลังจากทุกคนออกไป เจียง เมิ่งเมิ่ง เดินมาขอบคุณ เย่เฉิน :
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไร”
เย่เฉิน ตอบกลับอย่างเรียบง่าย
ไม่นานนัก หญิงสาวรูปร่างท้วมก็พา เจียง เมิ่งเมิ่ง กลับไปที่หอพัก ส่วน เย่เฉิน ก็ออกไปกับ ซู หนิงซวง และพี่สาวของเขา จ้าว ซูซวน
หลังจากเดินช้อปปิ้งกับ ซู หนิงซวง นานสองชั่วโมง เธอก็ซื้อเสื้อผ้าให้ เย่เฉิน มาหลายชุด
ตอนเย็น ขณะที่กำลังกินข้าวอยู่ กลุ่มในองค์กรไท่จื่อ ก็มีคนแท็ก เย่เฉิน เพื่อขอความเห็น
เขาเปิดดูพบว่าเป็น หวง อี้ม่อ และกลุ่มสมาชิกหลักอีกสองสามคนที่มีเรื่องสำคัญแต่เกิดความเห็นไม่ตรงกัน พวกเขาจึงต้องการให้ เย่เฉิน ในฐานะประธานมาช่วยตัดสิน
“พรุ่งนี้เที่ยงละกัน”
เย่เฉิน ตอบข้อความกลับไป
วันรุ่งขึ้น หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ เย่เฉิน ขับรถไปที่คฤหาสน์ซึ่งเป็นที่ตั้งขององค์กรไท่จื่อ
แต่ทันทีที่เขาเข้าไปถึง เขาก็พบกับคนรู้จักที่เขาไม่คาดคิดว่าจะมาอยู่ที่นี่!!!