ยอดระบบรีเฟรชพลังพิเศษสุดแกร่ง ตอนที่ 0065 การฝึกพิเศษก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบ

ยอดระบบรีเฟรชพลังพิเศษสุดแกร่ง ตอนที่ 0065 การฝึกพิเศษก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบ

เวินจือเฉียวสอบถามเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ถึงแม้เธอจะรู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงสนับสนุนการตัดสินใจของหนิงอัน

ความเสียใจจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบในครั้งก่อน บวกกับการเป็นอาจารย์ในตอนนี้

ทำให้เธอมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าเกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบ

หากเป็นไปได้ เธอก็อยากให้เด็ก ๆ จากฐานทัพชิงซานได้ออกไปเผชิญโลกภายนอกมากขึ้น

ไม่นาน หนิงอันก็เริ่มดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกพิเศษก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีสำหรับฐานทัพชิงซาน”

“เพราะความแข็งแกร่งของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน”

“บางทีปีนี้ ฐานทัพชิงซานอาจจะสร้างความประหลาดใจในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบก็ได้”

หลิวต้าเฉิงและคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นด้วย

เดิมทีหนิงอันยังคงคิดว่าอาจจะมีเสียงคัดค้านอยู่บ้าง

แต่กลับพบว่าตัวเองคิดมากไป!

ตอนนี้ คนเหล่านี้ในฐานทัพชิงซานต่างก็สนับสนุนเขาอย่างเต็มที่

แม้กระทั่งมีความรู้สึกคล้ายกับการบูชาอย่างงมงาย

แต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะครั้งนี้ เขาได้นำชื่อเสียงมาสู่ฐานทัพชิงซานในภูมิภาคซีหนาน

สำหรับคนในฐานทัพชิงซาน นี่เป็นครั้งแรก

อย่างน้อยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ฐานทัพชิงซานก็เสื่อมถอยลงทุกปี

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการได้รับรางวัลจากท่านผู้ว่าราชการ!

นั่นคือผู้ที่มีตบะวิทยายุทธ์ระดับเก้า

แม้แต่นักรบระดับกลางหลายคนในฐานทัพชิงซานก็ยังยากที่จะได้พบ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักรบระดับสูง!

ส่วนมหาปรมาจารย์ที่มีตบะระดับเก้า ก็เหมือนกับตำนาน

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่คนในฐานทัพชิงซานจะตื่นเต้นเช่นนี้

สำหรับหนิงอัน เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่

อย่างน้อยนักรบระดับสูงก็ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเขา

แม้แต่ผู้ที่มีตบะระดับเก้า ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว

แต่สำหรับคนทั่วไป มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

หนิงอันไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่กลับสั่งให้ทุกคนเริ่มลงมือ

“ฐานทัพจะจัดการฝึกพิเศษให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6”

“เบื้องต้นจะฝึกในแต่ละโรงเรียนก่อน จากนั้นจะคัดเลือกนักเรียนบางส่วนเข้าสู่การฝึกพิเศษขั้นสูง”

ทันทีที่ข่าวนี้ประกาศออกไป ก็ทำให้เกิดการพูดคุยกันอย่างมากมายในฐานทัพชิงซาน

เรื่องการศึกษา เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนทั่วไป หากตัวเองไม่สามารถเป็นนักรบได้ ก็จะฝากความหวังไว้ที่รุ่นต่อไป

“ถ้าเจ้าเมืองหนิงมาดำรงตำแหน่งเร็วกว่านี้สักปี บางทีลูกชายของฉันก็อาจจะมีโอกาส”

“ได้ยินมาว่าปีที่แล้ว เจ้าเมืองหนิงเคยฝึกพิเศษให้นักเรียนบางคน”

“หลังจากการฝึกพิเศษ นักเรียนเหล่านั้นก็มีคะแนนถึงเกณฑ์การสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบ”

“ตั้งแต่เจ้าเมืองหนิงมาดำรงตำแหน่ง ก็ได้ทำเรื่องดี ๆ ให้กับฐานทัพชิงซานมากมาย”

คนในฐานทัพชิงซานต่างก็สนับสนุนหนิงอันอย่างไม่มีเงื่อนไข

แม้กระทั่งไม่ได้ดูรายละเอียดการฝึกพิเศษ!

แต่ก็มีบางคนที่แสดงสีหน้าเสียใจ

คนเหล่านั้นคือนักเรียนในชั้นเรียนของเวินจือเฉียวเมื่อปีที่แล้ว

สำหรับนักเรียนเหล่านั้น พวกเขาได้พลาดโอกาสครั้งใหญ่

แม้กระทั่งเมื่อเทียบกับนักเรียนที่เข้าร่วมการฝึกพิเศษและอดทนจนจบ

พวกเขาก็เหมือนกับคนละโลก

แน่นอนว่าคนที่ตื่นเต้นที่สุดคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

“โชคดีจริง ๆ!”

“รุ่นของเราไม่เพียงแต่มีการแข่งขันระดับมัธยมปลาย แต่ยังมีการฝึกพิเศษก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบอีกด้วย”

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ต่างก็มีสีหน้ายินดี

โดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบ

พวกเขาจะไม่พลาดโอกาสนี้!

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหัวกะทิ

ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รับทรัพยากรมากมายจากการแข่งขันระดับมัธยมปลาย ตอนนี้ยังมีการฝึกพิเศษที่ฐานทัพสนับสนุนทรัพยากรอีกด้วย

เดิมที พวกเขาแค่อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบชั้นนำ

แต่ตอนนี้ พวกเขารู้สึกว่าสามารถเลือกมหาวิทยาลัยนักรบที่ดีกว่าได้

ต้องรู้ว่ามหาวิทยาลัยนักรบแต่ละแห่งมีความแตกต่างกันมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคง

ถึงแม้ว่าในช่วงแรกจะไม่เห็นความแตกต่างมากนัก แต่เมื่อระดับตบะสูงขึ้น

ทรัพยากรระดับกลางและสูงของมหาวิทยาลัยนักรบแต่ละแห่งก็จะมีความแตกต่างกันอย่างมาก

ยกตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียง ทรัพยากรระดับกลางและสูงมีจำกัด

สามารถจัดหาให้ได้เพียงไม่กี่สิบคน ในทางกลับกัน มหาวิทยาลัยนักรบชั้นนำสามารถจัดหาให้ได้มากกว่าร้อยเท่า

ความแตกต่างนั้นไม่ต้องพูดถึง!

แต่มหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงในปัจจุบันยังไม่มีนักรบระดับกลางและสูงมากนัก

ทรัพยากรที่มีอยู่จึงเพียงพอ

ยิ่งไปกว่านั้น ทรัพยากรบางอย่าง เมื่อใช้แล้วก็ไม่สามารถใช้อีกได้

เช่น ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงได้มอบผลบ่มเพาะแก่นแท้ให้กับหนิงอัน

ผลไม้นี้สามารถช่วยเพิ่มระดับตบะ แต่ละคนสามารถกินได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

หากกินครั้งที่สอง ก็จะมีความต้านทาน ทำให้แทบจะไร้ประโยชน์

และช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการใช้คือระดับสี่หรือห้า

หลายคนมักจะใช้ในช่วงที่กำลังจะก้าวจากระดับสี่ไปสู่ระดับห้า

เพื่อช่วยในการทะลวงผ่านระดับตบะ!

แต่หนิงอันได้ก้าวสู่ระดับห้าแล้ว การใช้ผลไม้นี้จึงไม่มีข้อจำกัด

เดิมที หนิงอันไม่ได้ใช้สิ่งของภายนอกมากนัก

ดังนั้น การดูดซับจึงค่อนข้างดี

ตอนนี้ตบะของเขาใกล้จะถึงจุดสูงสุดระดับห้าระยะกลางแล้ว

เรื่องการฝึกพิเศษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกัน หนิงอันก็เริ่มเตรียมตัวสุ่มพรสวรรค์ใหม่

ถึงแม้ว่าเขาจะตั้งใจจะกลับไปที่มหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงหลังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบ

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะหยุดฝึกฝน

หากสามารถสุ่มได้ความสามารถใหม่ แม้แต่ระดับที่สูงขึ้นก็ยังคงเป็นไปได้

“ครั้งนี้จะใส่หินวิญญาณสองล้านก้อน”

เพราะทรัพยากรที่ได้รับจากมหาวิทยาลัย ทำให้หนิงอันมีความมั่นใจมากขึ้นในการสุ่มความสามารถใหม่

วงล้อหมุนอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็หยุดลงที่ช่องที่มีแสงสีม่วงอ่อนส่องออกมา

[มรรคาสวรรค์จะตอบแทนผู้ขยันขันแข็งฉบับด้อย (ประเภทความสามารถพิเศษ): ทุกสองวันของการฝึกฝน จะต้องมีผลลัพธ์ เวลา: หนึ่งเดือน]

เมื่อเห็นความสามารถนี้ แม้แต่หนิงอันก็ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย

ทุกสองวันของการฝึกฝน จะต้องมีผลลัพธ์!?

การฝึกฝนนี้ ไม่เพียงแต่หมายถึงการฝึกฝนปราณโลหิต แต่ยังรวมถึงพลังจิตและวิชายุทธ์ด้วย

ตอนนี้หนิงอันเริ่มลังเลว่าควรจะพัฒนาสิ่งใดก่อน

“พลังจิตวิญญาณมาก่อน!”

“ส่วนปราณโลหิตและวิชายุทธ์ ค่อยว่ากันทีหลัง”

หนิงอันตัดสินใจได้ทันที!

นั่นคือการเพิ่มระดับตบะก่อน หากต้องการเพิ่มระดับตบะ ก็ต้องเริ่มจากปราณโลหิตและพลังจิตวิญญาณ

พลังจิตวิญญาณอาจจะสำคัญกว่าปราณโลหิตเล็กน้อย

เพราะปราณโลหิตสามารถฝึกฝนได้ และยังสามารถใช้สิ่งของภายนอกช่วยได้

เช่น ทรัพยากรต่าง ๆ ที่ได้รับจากมหาวิทยาลัย

แต่ทรัพยากรเหล่านั้น ไม่สามารถเพิ่มพลังจิตได้โดยตรง

หนิงอันจึงตั้งใจจะลองฝึกฝนพลังจิตวิญญาณดูก่อน เพื่อดูผลของมรรคาสวรรค์จะตอบแทนผู้ขยันขันแข็ง

สองวันต่อมา หนิงอันที่ฝึกฝนพลังจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่องก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง

นั่นคือพลังจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่ามันได้ผล ต้องรู้ว่าพลังจิตวิญญาณนั้นฝึกฝนได้ยากมาก

นักรบหลายคนต่างก็รู้ดีว่าการฝึกฝนพลังจิตวิญญาณนั้นยากลำบาก

แม้แต่อัจฉริยะฟ้าประทานก็ไม่เว้น!

นี่เป็นเหตุผลที่นักรบหลายคน หลังจากก้าวสู่การเป็นนักรบระดับกลางแล้ว ความเร็วในการฝึกฝนจะช้าลง

ความสำคัญของพลังจิตนั้นไม่ต้องพูดถึง

หนิงอันจึงตัดสินใจที่จะปิดด่านฝึกฝนในช่วงเวลานี้

ทุ่มเทให้กับการเพิ่มพลังจิตวิญญาณ!

การสุ่มได้พรสวรรค์ที่ช่วยเพิ่มพลังจิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

ถึงแม้ว่ามรรคาสวรรค์จะตอบแทนผู้ขยันขันแข็งนี้จะไม่ได้เน้นไปที่พลังจิตโดยตรง

แต่มันก็สามารถช่วยเพิ่มพลังจิตวิญญาณได้

ถึงแม้ว่าเขาจะตั้งใจจะปิดด่านฝึกฝน แต่ตอนนี้การปิดด่านของเขาไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป

ยังต้องจัดการเรื่องต่าง ๆ ของฐานทัพชิงซานอีกด้วย

เขาจึงมอบหมายงานส่วนใหญ่ให้กับหลิวต้าเฉิง รองเจ้าเมือง

หลังจากที่ได้ติดต่อกันมาเกือบครึ่งปี เขาก็รู้ว่ารองเจ้าเมืองคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างดี

เป็นคนสุขุมรอบคอบ!

น่าเสียดายที่พรสวรรค์ของเขามีจำกัด หากไม่มีวาสนา ก็คงยากที่จะก้าวสู่ระดับสี่

ดังนั้น เขาจึงค่อนข้างวางใจที่จะมอบหมายงานให้

แต่ถึงแม้หนิงอันจะวางใจ หลิวต้าเฉิงกลับรู้สึกกังวล

เพราะเขารู้สึกได้ถึงความอ่อนแอของตัวเอง

หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา เขาคงไม่สามารถรับมือได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงนี้ภูมิภาคซีหนานมีเรื่องวุ่นวายมากมาย

“ท่านหลิว ท่านต้องมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง”

“ก่อนหน้านี้ ตอนที่ผมยังไม่ได้มาดำรงตำแหน่ง ท่านก็เคยรักษาการณ์มาแล้ว”

“ยิ่งไปกว่านั้น หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ท่านสามารถแจ้งผมได้ทันที”

หลังจากที่หนิงอันพูดจบ รองเจ้าเมืองก็จำใจยอมรับ

เพราะเขาไม่สามารถขัดขวางการฝึกฝนของเจ้าเมืองได้!

เจ้าเมืองคนนี้ยังมีศักยภาพอีกมาก

อนาคตไม่รู้ว่าจะเติบโตไปได้ไกลแค่ไหน

อย่างน้อยหลิวต้าเฉิงก็รู้สึกได้ว่า เจ้าเมืองคนนี้น่าจะไม่อยู่ที่ฐานทัพชิงซานนานนัก

ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคซีหนาน หรือมหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงเบื้องหลังของเจ้าเมือง

คงจะไม่ยอมปล่อยให้นักรบระดับห้าที่อายุยังน้อย มาเสียเวลาอยู่ที่ฐานทัพชิงซานเป็นแน่