บทที่ 6 บั๊กช่วยชีวิตคือโลกแห่งความฝัน?
ในความฝันอันเลือนราง คาร์ลพลันรู้สึกว่าความคิดของตนแจ่มชัดขึ้นมาอย่างฉับพลัน
เขารู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้วงความฝัน แต่ที่พิเศษคือเขาสามารถควบคุมมันได้ดั่งใจนึก
เพียงความคิดแวบหนึ่ง ทุ่งข้าวสาลีสีทอง สวนเมเปิลสีแดงสด กลิ่นหอมกรุ่นจากเตาย่าง และฮอปในชุดเกาะอกกับกางเกงขาสั้นเอวต่ำก็ปรากฏขึ้นรอบตัว
“เฮ้ย?”
คาร์ลสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นภาพฮอปตรงหน้า แต่เมื่อสังเกตดูให้ดี ร่างของเธอยังคงอยู่ในท่าคุกเข่าครึ่งเดียวเหมือนตอนที่พบกันครั้งแรก ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือแสดงความรู้สึกใด ๆ ชัดเจนว่านี่เป็นเพียงภาพจากจินตนาการของเขาเท่านั้น
“ดูเหมือนเหตุการณ์นั้นจะสะเทือนใจข้าไม่น้อย แต่ทำไมเจ้าหนอนสิงสมองนั่นไม่ทิ้งความทรงจำที่เลวร้ายกว่านี้เอาไว้นะ? หรือเป็นเพราะวัยรุ่นมันคิดอะไรแบบนี้เองอยู่แล้ว…”
คาร์ลส่ายหัว ถอนความคิดฟุ้งซ่านออกไป ร่างของฮอปก็พลันหายไปจากความฝัน
เมื่อเขาเริ่มตั้งสติและรวบรวมสมาธิได้ ข้อมูลบางอย่างก็ลอยขึ้นมาจากส่วนลึกของความคิด
‘เจ้าหนอนดูดสมองมันตายแล้ว? สมองมันหยุดทำงานเพราะประมวลผลข้อมูลในหัวข้าไม่ไหว? ตอนนี้พลังวิญญาณของมันกำลังถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายข้า และร่างของมันก็กลายเป็น “อวัยวะเสริม” ที่ช่วยเพิ่มการทำงานให้สมองของข้า? และความฝันนี้ก็เป็นผลพลอยได้จากมัน?’
ด้วยพลังวิญญาณที่ไหลเวียนอยู่ คาร์ลเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของตนได้อย่างรวดเร็ว
เขามั่นใจว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตาที่อิลลิธิดสร้างขึ้น เพราะพลังวิญญาณที่เขาสัมผัสได้กำลังถูกเขาควบคุมและหลอมรวมอย่างช้า ๆ แม้จะมีอยู่น้อยนิดก็ตาม
เมื่อผสานพลังวิญญาณเข้ากับจิตวิญญาณของตน คาร์ลก็สัมผัสได้ถึงการเชื่อมต่อบางอย่าง และในห้วงความฝันนี้เอง แผงข้อมูลโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา
【ชื่อ】: คาร์ล แอริสส์
【อายุ】: 14 ปี
【เผ่าพันธุ์】: มนุษย์ (?)
【อาชีพ】: วิศวกรจักรกล ระดับ 2
【ค่าสถานะ】
• พละกำลัง: 11
• ความว่องไว: 11
• ความแข็งแกร่ง: 12
• สติปัญญา: 14
• การรับรู้: 12
• เสน่ห์: 13
【ความเชี่ยวชาญ】
• วิศวกรจักรกลฝึกหัด
• ผู้ประกอบพิธีกรรม
• พลังจิตเคลื่อนย้าย
• การรับรู้ทางจิต
【คาถา】
วงแหวนที่ 0: มือเวทมนตร์, กลวิธีเวทมนตร์, ลากสายฟ้า
วงแหวนที่ 1: วิเคราะห์เวท (พิธีกรรม), เหินพริบตา, วิ่งก้าวพริบตา
คาร์ลไล่สายตาอ่านข้อมูลทั้งหมดก่อนจะหยุดที่ พลังจิตเคลื่อนย้าย และ การรับรู้ทางจิต
จากที่เขาเรียนรู้ในโรงเรียนเวทมนตร์ ความเชี่ยวชาญเหล่านี้ถือเป็นการหลอมรวมระหว่างจิตวิญญาณและเทคนิคขั้นสูงที่ได้จากการพัฒนาพลังเฉพาะตัว ก่อนหน้านี้เขามีแค่ วิศวกรจักรกลฝึกหัด และ ผู้ประกอบพิธีกรรม เท่านั้น
“แสดงว่าข้าได้สองความเชี่ยวชาญใหม่นี้จากหนอนดูดสมองสินะ?”
แต่ก่อนที่เขาจะมีเวลาศึกษามันอย่างละเอียด คาร์ลก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองกับฮอปยังต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งวิเคราะห์บั๊กแห่งชีวิตนี้
เพียงแค่คิด ความฝันทั้งมวลก็หายไป คาร์ลลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ
ก่อนที่เขาจะทันมองเห็นอะไร ความสามารถ รับรู้ทางจิต ก็ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยของฮอป
‘ดูเหมือนพลังการรับรู้ทางจิตของข้าตอนนี้จะจับได้แค่ความรู้สึกเท่านั้น ยังไม่สามารถอ่านใจหรือสื่อสารความคิดโดยตรงได้’ เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็ลืมตาขึ้น
“ฟู่ว~ ขอบคุณสวรรค์ เจ้าฟื้นแล้ว!”
ฮอปถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นคาร์ลฟื้นขึ้นมา เธอยังนั่งอยู่ตรงนั้นพลางประคองเขาไว้
“ข้าหมดสติไปนานแค่ไหน?”
คาร์ลถามพลางยันตัวลุกขึ้นจากตักของฮอปอย่างไม่ค่อยถนัดนัก
“ก็ประมาณห้าหรือหกนาทีได้มั้ง? หรืออาจจะสิบนาทีก็ได้ ข้าไม่ถนัดจับเวลาน่ะ”
ฮอปยิ้มบาง ๆ พลางเสยผมที่ตกลงมาข้างหู คำตอบของเธอไม่ค่อยแน่นอนนัก แต่คาร์ลเองก็ไม่ได้หวังคำตอบที่ชัดเจน เพราะคำถามนั้นเป็นแค่ข้ออ้างเพื่อกลบเกลื่อนความกระอักกระอ่วนจากการใกล้ชิดกันเท่านั้น
“เอาเถอะ เราต้องรีบไปแล้วล่ะ เสาหินพวกนี้มีอักษรของพวกอิลลิธิด เมื่อครู่ข้าแตะมันเลยถูกพลังวิญญาณเล่นงานจนสลบไป”
“เสาหินพวกนี้จะใช้พลังจิตสร้างภาพลวงในใจของสิ่งมีชีวิตที่มองเห็น ทำให้พวกเขาไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติ”
คาร์ลอธิบายสั้น ๆ ถึงสาเหตุที่ทำให้เขาหมดสติ ก่อนจะหยิบขวานมือของฮอปขึ้นมา แล้วฟาดไปที่เสาหินต้นเดิมที่เขาเคยสัมผัส
เสียง "เคร้ง!" ดังขึ้น เสาหินที่สลักอักษรวิญญาณถูกทำลายไปกว่าครึ่ง และทันใดนั้น พื้นที่ตรงกลางห้องที่ดูว่างเปล่าก็ปรากฏเป็นประตูบานหนึ่งที่ทำจากตะแกรงลวดเหล็ก
กระแสลมทั้งหมดพุ่งตรงไปยังช่องใต้ประตูนั้น
“เร็วเข้า! ข้าคิดว่าด้านล่างนี้น่าจะเป็นทางออกของพวกเรา...”
คาร์ลพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น ขณะวิ่งไปยังประตูกับดักตรงกลาง เขาเพิ่งยกมันขึ้นได้เพียงนิดเดียว ทันใดนั้น แรงดูดมหาศาลก็ระเบิดออกมาจากช่องทางด้านล่าง
“อ๊ากกก!”
คาร์ลถูกดูดลงไปโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างทั้งร่างลอยหวือไปในความมืด
“เดี๋ยวสิ!”
ฮอปรีบกระโจนตามมาด้วยสัญชาตญาณ พยายามคว้ามือคาร์ลเอาไว้ แต่แรงดูดกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ลมบ้าคลั่งพัดรุนแรงจนร่างของเธอจากท่ายืนกลายเป็นนอนราบติดพื้น และแม้เธอจะต้านทานอย่างสุดกำลัง แต่ร่างทั้งสองก็ค่อย ๆ ถูกดูดเข้าไปในช่องลึกนั้น
“ทิ้งข้าไว้เถอะ! หนีไปก่อน!”
คาร์ลตะโกนลั่น พยายามบอกให้ฮอปปล่อยเขาไป แต่ก่อนที่คำพูดนั้นจะจบลง ความคิดหนึ่งที่ชัดเจนกลับแทรกเข้ามาในใจเขา ‘ข้าไม่ใช่คนทรยศใครหรอกนะ!’
ความคิดอันแน่วแน่นั้นแทรกผ่าน การรับรู้ทางจิต ของคาร์ลโดยตรง ทำให้เขาสัมผัสถึงจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ของฮอป เธอปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่มี พยายามดึงเขากลับขึ้นมา
แต่ทว่า ทันใดนั้นเอง แรงสั่นสะเทือนรุนแรงก็เกิดขึ้นจากส่วนลึกของพื้นดิน
ครืน! ตูม! เศษหินขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงมาจากเพดาน หนึ่งในนั้นกระแทกเข้าที่ศีรษะของฮอปอย่างจัง
“อึก...!”
เธอหมดสติไปในทันที ร่างกายแน่นิ่งในชั่วพริบตา
“ฮอป!” คาร์ลพยายามคว้ามือเธอเอาไว้ แต่ก็ทำอะไรไม่ทันเสียแล้ว ทั้งสองร่วงลงสู่ความมืดมิดพร้อมกัน
ขณะที่พวกเขาร่วงลงไปในอากาศ คาร์ลควานหาของในกระเป๋า พยายามหยิบขนปุยที่ใช้ร่าย เหินพริบตา แต่ก่อนที่เขาจะร่ายเวทใด ๆ ได้สำเร็จ จู่ ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็แล่นผ่านร่างของเขา
พวกเขากำลังผ่าน “บางสิ่ง” ในชั่วพริบตา ความมืดรอบตัวก็ถูกแสงสีน้ำเงินอมม่วงส่องสว่างขึ้นมา
คาร์ลพยายามหันกลับไปมองเบื้องล่าง และสิ่งที่เขาเห็นคือ เกลียวพลังงานขนาดมหึมา ที่กำลังหมุนวนอย่างช้า ๆ พร้อมกับดูดเอาอากาศรอบข้างเข้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน
คาร์ลรู้จักมันดี
ในหนังสือ คู่มือการผจญภัย ของโรงเรียนเวทมนตร์ที่เขาเรียนมา มีการกล่าวถึงสิ่งนี้เอาไว้อย่างชัดเจน แม้แต่เด็กน้อยก็ยังจำมันได้ นี่คือ ประตูมิติสู่กึ่งมิติใต้พิภพ ซึ่งปลายทางคือดินแดนของ มังกรเหลืองแห่งนรก เคบอร์ล
‘ทำไมกัน... ที่นี่ถึงมีประตูมิติเข้าสู่ดันเจี้ยนใต้พิภพด้วยล่ะ?!’
ก่อนที่เขาจะทันหาคำตอบ ร่างของเขาและฮอปก็ร่วงลงไปในเกลียวพลังงานนั้น
และในเวลาเดียวกัน ถ้ำเบื้องบนก็เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ ก่อนจะถล่มลงมาปิดช่องทางนั้นไปตลอดกาล
(จบบท)###