บทที่ 560: ไล่ล่า! จอมมารบูร่างชั่วร้าย
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 560: ไล่ล่า! จอมมารบูร่างชั่วร้าย
“ใครน่ะ?” ชรูมขมวดคิ้วมุ่น คล้ายกับมีปมปัญหาพันรัดแน่นอยู่ในใจ
การจู่โจมฉับพลันแม้ดูเรียบง่ายไร้พิษภัย ทว่ากลับแฝงเร้นไว้ด้วยพลังแห่งกฎเกณฑ์บางอย่าง กดดันให้ชรูมต้องเพิ่มความระแวดระวังขึ้นเป็นเท่าตัว
สายตาคมกริบไล่มองตามเส้นทางที่พลังโจมตีพุ่งมา ร่างสูงใหญ่สง่างามปรากฏขึ้นเบื้องหน้า พร้อมด้วยชายฉกรรจ์สามคนและหญิงสาวรูปโฉมงดงามอีกหนึ่งเธอ
เบื้องหลังร่างนั้น คือหลินเฉินและพรรคพวก ที่เพิ่งเดินทางมาถึงดินแดนยมโลก
“พี่หลินเฉิน!” โกคูร้องเรียกด้วยความยินดี
“ฝ่าบาท!”
ทุกสายตาจับจ้องไปที่หลินเฉิน เสาหลักแห่งความหวัง การมาถึงของเขาเปรียบเสมือนแสงสว่างที่สาดส่องลงมาในความมืดมิด ทำให้ทุกคนผ่อนคลายความตึงเครียด ราวนักโทษที่ได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการ
“หลินเฉิน? งั้นเหรอ? เป็นแกเองรึ?” ชรูมเลียริมฝีปากอย่างเชื่องช้า แววตาเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น คล้ายกับรอคอยการประลองยุทธ์กับหลินเฉินมานานแสนนาน
“หลินเฉิน ได้ยินกิตติศัพท์ของเจ้าเลื่องลือมานานแล้ว ได้ยินว่าเจ้าเอาชนะพวกโทวะได้หลายครั้ง แถมยังสังหารมิร่า? ถึงแม้มันจะเป็นเพียงมนุษย์จักรกล แต่การที่เจ้าสามารถเอาชนะคนจากดินแดนปีศาจของพวกเรามาได้ ก็นับว่าน่าทึ่งไม่น้อย!”
“เอาล่ะ... มาพิสูจน์กันหน่อยว่าใครกันแน่ที่เหนือกว่า!”
ชรูมยกเคียวในมือขึ้น เตรียมพร้อมประจัญบานกับหลินเฉิน
ทว่าในวินาทีนั้น ดราก้อนบอลแห่งความมืดที่อยู่ระหว่างคนทั้งสองก็กระเด้งขึ้นจากพื้นแล้วลอยละลิ่วออกไปด้านข้างอย่างฉับพลัน
“ดราก้อนบอลแห่งความมืด!”
หลินเฉินและชรูมร้องอุทานพร้อมกัน สายตาคมกริบไล่ตามดราก้อนบอลที่ลอยหายไป พลันพบว่าที่แท้จริงแล้วบนสนามรบแห่งนี้ ยังมีบุคคลที่สามซ่อนเร้นอยู่นอกจากพวกเขา!
เมื่อหลินเฉินเห็นว่าเป็นใคร ก็อดแปลกใจไม่ได้
เพราะแขกไม่ได้รับเชิญที่ฉกดราก้อนบอลไปนั้น คือจอมมารบูในชุดดินแดนปีศาจ
และบนอกของจอมมารบู มีดราก้อนบอลสามดาวฝังอยู่!
“คาคารอท นายไม่ได้บอกฉันเหรอว่าดราก้อนบอลของบูแห่งความมืดถูกใครบางคนจากดินแดนปีศาจเอาไป?” หลินเฉินตะโกน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเขากลับไปยังเถาแห่งกาลเวลา เขาได้ยินว่าสายตรวจกาลเวลาของโกคูพบเจอบูแห่งความมืดที่ถูกดราก้อนบอลแห่งความมืดครอบงำระหว่างปฏิบัติภารกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสำคัญ ดราก้อนบอลถูกเทพปีศาจที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันฉกไป ทำให้ภารกิจล้มเหลว
เหตุใดบูแห่งความมืดจึงปรากฏกายเบื้องหน้าพวกเขาอีกครั้ง? และเหตุใดพลังอำนาจของมันจึงดูเหมือนจะทวีคูณขึ้น ราวกับได้รับพลังแห่งเทพปีศาจมาเสริม?
ณ วินาทีนั้น ชรูมจึงเฉลยปริศนาให้ทุกคนได้รับรู้
“อย่างนี้นี่เอง! เป็นฝีมือของมัน! ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเริ่มต้นสะสมดราก้อนบอลแห่งความมืดเสียแล้ว”
ทันทีที่ถ้อยคำของชรูมหลุดออกจากปาก เบจิต้าก็เอ่ยถามขึ้นทันควัน “นี่แก! ไอ้สารเลวนั่น มันพวกเดียวกับแกไม่ใช่เหรอ?”
“เหอะ!” ชรูมแสยะยิ้มมุมปาก “ก็ไอ้โง่ที่ขนดราก้อนบอลดาวดำสามดวงไปนั่น นึกว่าจอมมารบูสิ้นชีพไปแล้วไงล่ะ สุดท้ายก็โดนจอมมารบูกลืนกินกลางทางระหว่างเดินทางกลับดินแดนปีศาจเสียได้ ท่านเมจิคาบูร่ากริ้วมากกับเรื่องนี้ไปนานโข ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอมันที่นี่”
หลินเฉินเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
ในขณะเดียวกัน เขาก็ตระหนักถึงสาเหตุที่บูแห่งความมืดออกตามหารวบรวมดราก้อนบอลดาวดำ
จอมมารบูมีสัญชาตญาณอันแรงกล้าในการดูดซับพลัง
ดังเช่นในเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น เมื่อใดก็ตามที่พลังอันแข็งแกร่งปรากฏขึ้น จอมมารบูย่อมหาหนทางกลืนกินพลังนั้นมาเป็นของตน
หลังจากได้สัมผัสพลังของดราก้อนบอลมืดแล้ว บูแห่งความมืดก็เกิดความปรารถนาที่จะรวบรวมมันให้มากขึ้น เพิ่มพูนพลังอำนาจให้แก่ตน
“ไม่นึกเลยว่าจะได้ดราก้อนบอลสามดาวคืนมา... โบรลี่นายไปจัดการบู ฉันจะรับมือหมอนี่เอง!”
หลินเฉินคำราม พลางพุ่งเข้าใส่ชรูม หวังจะถ่วงเวลาเอาไว้
ขณะเดียวกัน โบรลี่ก็เริ่มลงมือ
แต่ทว่าในชั่วขณะนั้นเอง สิ่งหนึ่งลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ดึงดูดสายตาของทุกคนให้จับจ้อง
พวกเขาเบนสายตาไปมองด้วยความตื่นตะลึง ภาพที่เห็นคือร่างไร้วิญญาณของจาเนมบ้า ผู้ถูกโกจิต้าสังหารไปเมื่อครู่นี้เอง!
ร่างนั้นถูกเนื้อของบูห่อหุ้ม ก่อนจะพุ่งเข้าสู่ร่างของบูแห่งความมืดในระยะไกลอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น พลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่พุ่งออกมาจากบู
มันทรงพลังเหลือคณานับเสียจนกระทั่งหลินเฉินยังได้แต่จ้องมองมัน
ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าหลังจากดูดกลืนเทพปีศาจและจาเนมบ้า พร้อมกับดราก้อนบอลแห่งความมืดสองลูก พลังของบูแห่งความมืดจะทะยานขึ้นถึงขั้นนี้
แม้จะปราศจากระบบ หลินเฉินก็ไม่อาจประเมินระดับพลังของบูได้อย่างแน่ชัด แต่จากตัวบู เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าจะทะลุระดับขอบเขตพลังพระเจ้าขั้นที่สาม!
แม้แต่ชรูมก็ยังเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง
“เจ้าหมอนี่พลังเพิ่มพูนถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? แย่ล่ะสิ แบบนี้ไม่ได้การ! เฮ้! เจ้าหนุ่มหลินเฉิน สงบศึกชั่วคราวเป็นอย่างไร! เรามาร่วมมือกันกำจัดหมอนี่ก่อน แล้วค่อยมาชี้ชะตากัน!”
ดูเหมือนชรูมจะร้อนรนไม่น้อย ถึงขั้นเอ่ยปากขอสงบศึก
หลินเฉินไม่ลังเล ตอบรับทันควัน “ตกลง จัดการมันก่อน!”
พลังของบูแห่งความมืดในเวลานี้ยากจะหยั่งถึง หากพลาดท่าให้มันดูดกลืนทุกคนในที่นี้ได้ สถานการณ์จะเลวร้ายเกินกว่าจะควบคุม
เพื่อความปลอดภัย หลินเฉินจึงตัดสินใจกำจัดภัยคุกคามจากจอมมารบูเสียก่อน
ทว่า ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังร่วมมือกันเป็นการชั่วคราว บูแห่งความมืดซึ่งดูดกลืนพลังเสร็จสิ้นแล้วก็เสกดาบเวทขึ้นในมือ
จากนั้น มันก็เหวี่ยงดาบออกไปด้านข้างอย่างรุนแรง เสียงแหวกอากาศดังสนั่น
มิติที่ถูกฟาดฟันนั้นถึงกับฉีกขาด เผยให้เห็นรอยแยกของห้วงมิติอันดำมืด
เบื้องหลังรอยแยก พลังงานความมืดที่คุ้นเคยปรากฏขึ้น เป็นพลังที่ทุกคนจดจำได้ดี
ทุกสายตาจับจ้องไปยังรอยแยกนั้น ไม่นานก็เห็นร่างมหึมาที่มีดราก้อนบอลสีดำฝังอยู่ในกายปรากฏขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว!
เวลานั้น บูแห่งความมืดก้าวเข้าไปในรอยแยกมิติแล้วหายวับไปจากสายตา!
และหลังจากบูหายไป รอยแยกก็เลือนหายไปพร้อมกับเขาด้วย
“แย่แล้ว! มันต้องไปหาดราก้อนบอลลูกอื่นแน่!” ชรูมร้องอุทาน ก่อนจะละทิ้งหลินเฉินและคนอื่น ๆ แล้วพุ่งตัวเข้าไปในกลุ่มหมอกดำ ไล่ตามบูไป
เมื่อเห็นดังนั้น หลินเฉินจึงออกคำสั่งทันที “ลาซูลิ พาคาคารอทและคนอื่น ๆ กลับไปยังเถาแห่งกาลเวลาก่อน ส่วนพวกที่เหลือ ตามฉันมา!”
“เดี๋ยว! ท่านหลินเฉิน!” เสียงอ่อนล้าดังมาแต่ไกล หลินเฉินหันไปมองก็พบว่าเป็นฟรีเซอร์ ที่แม้จะบาดเจ็บไปทั่วร่าง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ท่านหลินเฉิน พาฉันไปด้วย! ฉันอยากฆ่ามัน! ไอ้คนที่เพิ่งบุกพวกเรา ฉันต้องฆ่ามันให้ได้!” ฟรีเซอร์คำราม ขบกรามแน่น ความหยิ่งผยองในอกปั่นป่วน เขาเพิ่งถูกสมุนกระจอกกลุ่มหนึ่งถ่วงเวลาไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟรีเซอร์ไม่อาจยอมรับได้ ความภูมิใจของเขาถูกเหยียบย่ำจนแหลกละเอียด
หลินเฉินไม่ได้อยู่ ณ ที่นั้นก่อนหน้า จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟรีเซอร์
เมื่อเห็นว่าฟรีเซอร์ปลอดภัยดี หลินเฉินจึงพยักหน้าตกลง
ทันใดนั้นโกคูก็เสริมขึ้น “พี่หลินเฉิน ระวังตัวด้วยนะครับ ชรูมมันมีพิรุธ โกจิต้าหมดแรงไปเลยหลังจากโดนมันโจมตีนิดเดียว! มันอาจจะเป็นพลังแห่งกฎอะไรสักอย่าง!”
“เข้าใจแล้ว” หลินเฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง ก่อนจะนำกลุ่มออกติดตามบูไป
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_