บทที่ 46 เพื่ออาหารคำเดียวก็ยอม
บทที่ 46 เพื่ออาหารคำเดียวก็ยอม
ฉินลั่วได้ยินฉินหวยบอกให้หวงซีแจ้งซัพพลายเออร์ให้ส่งวัตถุดิบที่ใช้ทำชามะนาวสดเพิ่มในวันพรุ่งนี้ ยังหัวเราะคิกคักคิดว่าได้ดื่มชามะนาวสดทุกวัน ไม่รู้เลยว่าอะไรกำลังรออยู่
เช้าวันรุ่งขึ้นตอนที่ฉินหวยมาถึงโรงอาหาร ก็พบว่าหวงซีมาถึงแล้ว
“พี่ซี คุณมาทำไมเช้าขนาดนี้?” ฉินหวยตกใจมาก
นี่ไม่ใช่เวลา 6 โมงเช้า แต่เป็นตี 4 ฟ้ายังไม่สว่าง บ้านของหวงซีอยู่ห่างจากโรงอาหารหยุนจงไม่น้อย ถ้ามาถึงเช้าขนาดนี้ คาดว่าต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 ถ้าไม่รู้ก็คิดว่าหวงซีเป็นพนักงานทำขนมรายใหม่ที่ร้านเสียอีก
“ซัพพลายเออร์มีปัญหานิดหน่อย ดอกไข่ไก่กับเบญจมาศหางโจวขาดตลาด เมื่อคืนฉันต้องรีบติดต่อซัพพลายเออร์ที่ร้านอาหารที่ฉันเคยทำงานอยู่ก่อน ขอมาได้สองอย่างนี้ คุณภาพน่าจะดีนะ แต่ต้องให้ฉันไปรับมาเอง คลังสินค้าของพวกเขาออกของตอนตี 3 ครึ่ง ฉันไปรับแล้วก็ตรงมาที่นี่เลย” หวงซีกล่าวด้วยน้ำเสียงอิดโรย
จ้าวหรงโผล่หัวมาพูดเสียงดังว่า “เสี่ยวซี ฉันว่าเธอกลับไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ไม่ต้องมาทำงาน เราให้วันหยุดเธอ”
“ใช่เลย” ฉินฉงเหวินสนับสนุน “เธอนอนกี่ชั่วโมงกันล่ะ ร่างกายเหล็กยังรับไม่ไหวเลยนะ”
ฉินหวยไม่คิดเลยว่าเขาแค่เลือกวัตถุดิบเย็นชาไปสองอย่าง จะทำให้หวงซีต้องลำบากทั้งคืน รีบพยักหน้า “ใช่ครับ พี่ซี คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ เรื่องส่งอาหารเช้าให้ฉินลั่วกับอันโยวโยวดูแทน ส่วนซัพพลายเออร์พ่อกับแม่ผมช่วยรับมือแทนได้”
หวงซีทำงานมาหลายปีในวงการบริการอาหาร จากพนักงานธรรมดาไต่เต้าจนถึงผู้จัดการร้านแล้วกลับมาเป็นพนักงานอีกครั้ง เจอเจ้านายที่ห้ามทำงานหนักมีน้อยมาก
หวงซีขยับตาแดงเล็กน้อยจากการพักผ่อนไม่พอ หาวหนึ่งครั้ง น้ำตาไหลออกมาเล็กน้อย เธอไม่ได้ปฏิเสธและพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “งั้นขอบคุณเจ้านายแล้วกัน”
“อ้อ เชฟฉิน เมื่อคืนคุณยายติงแวะมาหา เอาน้ำผึ้งดอกไม้หวาย สองกระปุกมาให้ บอกว่าได้มาจากญาติของเธอที่คุณภาพดีที่สุด บำรุงร่างกาย ให้เก็บไว้ชงน้ำผึ้งดื่ม”
“น้ำผึ้งดอกหวายวางอยู่ชั้นสองของชั้นเก็บของทางซ้ายมือ เชฟฉิน พี่ฉิน และพี่หรง ฉันกลับก่อนนะ ทุกคนสู้ๆ” หวงซียิ้มแล้วก้าวเดินเบาๆ ออกจากร้าน
คำพูดของหวงซีเตือนฉินหวยขึ้นมาได้ว่าเขาเหมือนจะเลี่ยงคุณยายติงไป
เสียงท้องร้องดัง “กู๊ กู๊ กู๊ กู๊”
วันนั้นตอนที่ฉินหวยรับน้ำผึ้งจากคุณยายติงมา เขาคิดว่าจะทำหมั่นโถวดอกไม้หวายในวันรุ่งขึ้น
จริงอยู่ หมั่นโถวดอกไม้หวาย เกรด S เขาไม่มีทางทำได้แน่นอน
เกรด A ก็ยังทำไม่ได้
ส่วนเกรด B ฉินหวยก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เพราะวิดีโอสอนทำของเจียงเฉิงเต๋อไม่ค่อยดีนัก เร็วเกินไป เก่งเกินไป เหมือนเด็กเรียนหัวกะทิที่แก้โจทย์ในหัวแล้วเขียนลงกระดาษแค่ไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ ที่ได้คะแนน
แต่ปัญหาคือฉินหวยไม่ใช่เด็กเรียนหัวกะทิแบบเจียงเฉิงเต๋อ ขั้นตอนของเจียงเฉิงเต๋อเขาแทบไม่เข้าใจเลย
แถมยังส่งข้อความไปถามเจียงเฉิงเต๋อไม่ได้ด้วย ว่าขั้นตอนละเอียดคืออะไร
ถ้าการทำหมั่นโถวเหล้าหมักหัวใจหลักคืออุณหภูมิ การทำหมั่นโถวดอกไม้หวายก็มีหัวใจหลักหลายจุด
การผสมแป้ง การนวดแป้ง การหมักด้วยน้ำผึ้ง การระบายอากาศ การนวดแป้ง การหมักครั้งที่สอง การนึ่ง ทุกอย่างสำคัญหมด
พูดง่ายๆ คือทุกจุดที่มีแป้งโดปรากฏในวิดีโอ ล้วนสำคัญทั้งหมด
ที่ยากที่สุดไม่ต้องสงสัยเลยคือการหมักด้วยน้ำผึ้ง
ตอนแรกฉินหวยตั้งใจไว้ดี จะทำหมั่นโถวเหล้าหมักให้สำเร็จในครั้งเดียว จากนั้นฝึกการทำหมั่นโถวดอกไม้หวายทีละขั้น เริ่มจากการหมักด้วยน้ำผึ้งที่ยากที่สุด แล้วค่อยแก้ปัญหาขั้นตอนอื่นๆ ที่ไม่ง่ายไปทีละอย่าง
จากนั้นค่อยรวมกันดูว่าเขาจะทำหมั่นโถวดอกไม้หวายเกรด B ได้หรือไม่
ผลลัพธ์ที่ฉินหวยคาดไม่ถึงก็คือ แผนการที่คิดไว้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกกลับพังไม่เป็นท่า
หมั่นโถวเหล้าหมักไม่เพียงแค่ไม่สำเร็จในครั้งเดียว แต่ยังทำให้เขาล้มเหลวติดกันถึงสองวัน เกือบจะทำให้เขาท้อแท้จนหมดกำลังใจ
ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ฉินหวยเริ่มจากความล้มเหลว ต่อด้วยความสงสัยในตัวเอง แล้วฮึดสู้ สุดท้ายเข้าใจแจ่มแจ้งและทำเกินมาตรฐานที่คาดไว้ พร้อมกับให้รางวัลตัวเอง การใช้ชีวิตในช่วงนี้เรียกได้ว่าสุดแสนจะดราม่า ถึงขนาดที่ลืมน้ำผึ้งดอกไม้หวาย และหมั่นโถวดอกไม้หวายไปอย่างสิ้นเชิง
ไม่รู้ว่าคุณยายติงในช่วงนี้จะอยู่ยังไงบ้าง
เพราะที่บ้านของคุณยาย นอกจากหลานชายที่ชอบกินหมั่นโถวดอกไม้หวาย ยังมีหลานสาวคนรองที่ชอบหมั่นโถวนมข้าวบัควีท และหลานสาวคนเล็กที่ชอบหมั่นโถวนมแพะผสมน้ำผึ้ง
สองสามวันที่ผ่านมา อย่าว่าแต่หมั่นโถวดอกไม้หวายเลย แม้แต่หมั่นโถวข้าวบัควีทฉินหวยก็ไม่ได้ทำ
ถ้าสามเด็กน้อยร้องไห้พร้อมกัน...หวังว่าคุณยายติงจะอายุเยอะจนไม่ได้ยินนะ
ฉินหวยไปที่คลังเก็บของ พบว่าน้ำผึ้งดอกไม้หวายที่หวงซีพูดถึงนั้นคุณภาพดีมาก ดีเสียยิ่งกว่าน้ำผึ้งที่คุณยายติงนำมาให้เมื่อสองวันก่อนเสียอีก
ดูเหมือนว่าเด็กสามคนพร้อมใจกันปั่นป่วนจนแม้แต่หัวหน้าอนุบาลเก่าก็ทนไม่ไหว
ฉินหวยเริ่มนวดแป้ง
หมั่นโถวดอกไม้หวายต้องทำ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ช่วงเช้าเป็นเวลาของซานติ้งเปาและอู่ติ้งเปา ตอนนี้หมั่นโถวเหล้าหมักทำสำเร็จแล้ว ฉินหวยคิดว่าหมั่นโถวเหล้าหมักสามารถเพิ่มเข้าไปในเมนูประจำเช้าได้ เพราะคุณสมบัติพิเศษของมันค่อนข้างดี
เช้าตรู่ได้ลิ้มรสความสุขจากความใส่ใจของผู้อื่น ในการเผชิญหน้ากับงานน่าจะทำให้จิตใจสดชื่นขึ้น
ความน่าเสียดายอย่างเดียวคือจำนวนบัฟหมั่นโถวมีน้อยเกินไป วันละสามชั้น ชั้นละ 24 ลูก วันหนึ่งมีลูกค้าผู้โชคดีเพียง 72 คนเท่านั้นที่ได้ลิ้มรสบัฟนี้ หากเจอคนกินจุเข้าหน่อย กินสามสี่ลูก...
ฉินหวยทำได้เพียงพูดว่าโชคก็เป็นหนึ่งในปัจจัยของความสุข
“แม่ครับ ช่วยล้างวัตถุดิบของชาดอกไม้ห้าชนิดกับชาล้างความชื้นเจ็ดรสให้สะอาดทีครับ พ่อครับช่วยหั่นหัวบัวดินให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนหั่นช่วยเลือกอันที่ไม่สดออกด้วยนะครับ”
“ถ้าลั่วลั่วมาถึงบอกผมด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก หวยหวย เดี๋ยวให้พ่อเธอช่วยดู” จ้าวหรงตอบ วางแผ่นแป้งลงแล้วไปล้างมือเพื่อคัดแยกวัตถุดิบ
จ้าวหรงอาจจะไม่ใช่มืออาชีพด้านการทำซาลาเปา หมั่นโถว เกี๊ยว หรือขนมจีบ แต่เรื่องต้มชามีความเชี่ยวชาญมาก แม้จะไม่พูดถึงรสชาติของชาที่เธอทำ แต่ในเรื่องของการคุมปริมาณวัตถุดิบ จ้าวหรงถือว่าทำได้ดีทีเดียว
จ้าวหรงคัดแยกวัตถุดิบอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับถามไปด้วยว่า “หวยหวย ต้มเท่าไหร่ดี?”
“หม้อใหญ่สุดครับ” ฉินหวยตอบโดยไม่เงยหน้า
คำพูดนี้ทำให้จ้าวหรงชะงักไป
หม้อใหญ่สุดของร้านนี่ใหญ่มาก
ร้านอาหารใช้ปริมาณเป็นหลัก หม้อต้มซุปขนาดใหญ่พอที่จะใส่เด็กตัวเล็กๆ ได้เลย
“หวยหวย” จ้าวหรงมองไปที่ฉินหวยที่กำลังคลุกไส้อยู่ “น้ำชาขนาดนี้จะขายหมดไหม?”
ไม่ใช่ว่าจ้าวหรงไม่เชื่อในฝีมือของฉินหวย แต่เธอไม่มั่นใจในตัวน้ำชา
เอาเถอะ เธอยอมรับว่าเธอก็ไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือการต้มชาของฉินหวยเช่นกัน
ชานี่มันยังไงดีล่ะ...
จากที่จ้าวหรงมักจะใช้คำพูดว่า "ยาขมดีต่อโรค" เพื่อโน้มน้าวให้ฉินหวยและฉินลั่วดื่มชาเยอะๆ ในฤดูร้อน จะเห็นได้ว่าสิ่งนี้ไม่ค่อยอร่อยนัก
“ไม่ได้ขาย แจกครับ” ฉินหวยตอบ “ลูกค้าซื้อครบ 25 หยวน แจกให้เลย บอกไปว่าตอนนี้อากาศร้อน แจกน้ำชาเพื่อช่วยดับร้อนและขับเสมหะ”
“ไม่ว่าจะทานที่ร้านหรือซื้อกลับบ้านก็แจกฟรี บอกให้โยวโยวพวกนั้นเตรียมบรรจุให้เรียบร้อยล่วงหน้า จะได้ไม่ยุ่งตอนหลัง”
“แม่ช่วยแค่ล้างวัตถุดิบให้เรียบร้อยก็พอครับ เดี๋ยวผมต้มเอง”
แม้ว่าจ้าวหรงจะคิดว่าการแจกน้ำชานั้นดูขาดทุนไปหน่อย แต่ก็คิดว่าฉินหวยพูดมีเหตุผล
หน้าร้อนก็ต้องดื่มน้ำชาเยอะๆ สิ
เดี๋ยวลั่วลั่วมาให้เธอดื่มสักสองถ้วยก่อน ช่วงนี้ยุ่งจนลืมต้มชาให้ดื่มเลย
เนื่องจากเมื่อวานเช้าฉินหวยสัญญากับลุงหวังไว้ว่าตอนเช้า 6 โมงจะมีแป้งกรอบออกจากหม้อ ทำให้เช้าวันนี้งานของฉินหวยค่อนข้างยุ่ง ซานติ้งเปา อู่ติ้งเปา และแป้งกรอบเปลือกปู
หวงซี, หมั่นโถวเหล้าหมัก, น้ำชา การทำงานหลายสายพร้อมกัน ทั้งเคาน์เตอร์ทำอาหาร, หม้อ และเตาอบ ต้องใช้งานทั้งหมด
งานยุ่งขนาดนี้ทำให้ฉินหวยอยากส่งข้อความหาเฉินฮุ่ยหง เพื่อบอกว่าประวัติย่อที่ดูเมื่อวานก็ดูดีนะ ให้พวกเชฟมาช่วยงานที่นี่ดีกว่า
การจ้างเชฟขนมอบไม่ได้ราบรื่นเหมือนครั้งก่อน อาจเป็นเพราะเชฟมืออาชีพหายาก หรืออาจเป็นเพราะเชฟมืออาชีพมองไม่เห็นความน่าสนใจของโรงอาหารชุมชนก็ได้ ประวัติย่อที่เฉินฮุ่ยหงส่งมาหลังจากผ่านการคัดกรองจากฝ่ายบุคคล ฉินหวยดูก็ยังรู้สึกว่าไม่โอเค
บางคนไม่มีประสบการณ์ทำงานเลย ดูแล้วเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหางาน บางคนก็ตั้งค่าตอบแทนไว้สูงจนไม่น่าเชื่อ นั่นคงเป็นเหตุผลที่เฉินฮุ่ยหงไม่ได้ติดต่อกลับมาเอง จนกระทั่งฉินหวยถามจึงส่งมาให้ดู
พอคิดว่าวันนี้ยังมีทั้งติ่งเซิ่งเกา, ขนมดอกบัว, ขนมโมจิ และเค้กข้าวเหนียว อีกทั้งยังต้องลองทำหมั่นโถวดอกไม้หวายในตอนเย็น ไหนจะหมั่นโถวเหล้าหมัก, อู่ติ้งเปา และซานติ้งเปาที่อาจต้องทำเพิ่มอีก และแป้งกรอบเปลือกปูต้องทำเพิ่มในช่วงเช้า ทำให้ฉินหวยถอนหายใจยาวๆ
นี่คือผลของการเลี่ยงงานใช่ไหม?
ฉินหวยมองไปที่โถงชั้น 1
เต็มไปหมด
ลุงป้า, คนทำงาน, เจ้าของร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามที่ใส่หน้ากาก ทุกคนมารวมตัวกันในเวลา 5:55 น.
แล้ว...
ทำไมช่วงเวลานี้ถึงมีคนทำงานมาซื้ออาหารเช้าด้วย? แถวนี้มีออฟฟิศที่เริ่มงานตอน 6 โมงเช้าด้วยเหรอ? โลกนี้เปลี่ยนไปจนฉันจินตนาการไม่ถึงแล้วหรือ?
5:59 น. ลุงหวังและเฉินเจวียนเดินเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกัน
“โอ้โห วันนี้คนเยอะขนาดนี้เลย?” ลุงหวังตกใจ รีบมุ่งตรงไปที่โต๊ะ 9 ทันที ซึ่งแน่นอนว่า ลุงเฉาและซวีถูเฉียงได้จองที่ไว้ให้แล้ว
“วันนี้มีอะไรกันเนี่ย?” ลุงหวังถามทันทีที่นั่งลง
“ก็เพราะคุณนั่นแหละ” ลุงเฉาตอบ
“ใช่ เพราะคุณมีบารมีน่ะสิ เมื่อวานเชฟฉินไม่ได้รับปากว่าตอน 6 โมงเช้าวันนี้จะมีแป้งกรอบร้อนๆ ออกมาเหรอ ทุกคนก็เลยมาตามบารมีคุณ กินขนมไส้กุ้งสดกันไง” ซวีถูเฉียงพูดขึ้นพร้อมน้ำเสียงที่แฝงความรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไม! ทำไมเชฟฉินถึงดูแลลุงหวังเป็นพิเศษ?
ลุงหวังมีดีอะไร? คนที่ไม่เคยพูดจาไพเราะอย่างลุงหวังยังบอกว่าหมั่นโถวของช่างฉินไม่อร่อยเท่ากับของกู้ซูโจวอยู่เลย
ซวีถูเฉียงกัดฟันกรอด
เขาเป็นลูกค้าประจำของโรงอาหารหยุนจง ทานที่นี่สามมื้อทุกวัน ไม่เคยพลาด แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีเมนูโปรด
แป้งกรอบไส้กุ้งที่ลุงหวังชอบปรากฏเพียงสองครั้งในรอบ 21 วัน ส่วนเค้กข้าวเหนียวที่เขาชอบมันหายไปตั้งแต่เปิดร้าน!
ครั้งเดียว!
เสียงของฉินหวยดึงซวีถูเฉียงออกจากความเศร้า
“แป้งกรอบเปลือกปู พร้อมแล้ว!” ฉินหวยตะโกนจากหน้าต่างครัว “ตอนนี้ร้านยังไม่เปิดให้บริการ พนักงานยังไม่มาทำงาน แป้งกรอบสดใหม่ออกจากเตาแล้ว กรุณาเข้าคิวซื้อและสแกนจ่ายเงินเองนะครับ”
ลูกค้าพากันเข้าคิวอย่างเป็นระเบียบ
คนแรกในคิวเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีบัตรพนักงานห้อยอยู่
ฉินลั่วยืนดูแลน้ำชาอยู่ข้างหม้อ ฉินหวยเหลือบไปเห็นบัตรพนักงานที่เขียนว่า หลัวจื่อจวิ้น
แซ่หลัว น่าเสียดายไม่ใช่หลัวจวิ้น
เมื่อเห็นว่าลูกค้าคนนี้แซ่หลัว ฉินหวยจึงตัดสินใจพูดเพิ่มเติมอีกสองสามประโยค “บริษัทของคุณเริ่มงานเช้าขนาดนี้เลยเหรอครับ?”
หลัวจื่อจวิ้นยิ้มอ่อนแรง “เริ่มงานตอน 9 โมงครับ เมื่อวานตอนซื้อซาลาเปาโดนเบียดไปอยู่ข้างๆ พอดีได้ยินเชฟฉินพูดกับลุงคนหนึ่งว่าจะให้มา 6 โมงเช้าเพื่อกินแป้งกรอบเปลือกปูที่เพิ่งออกจากเตา”
“พอดีฝ่ายเรากำลังทำโปรเจ็กต์ ผมเลยอาสาอยู่ทำโอทีจนวันนี้ได้หยุด กลับบ้านตอนตี 4 นอนพักไปชั่วโมงกว่าๆ แล้วมาซื้ออาหารเช้าก่อนกลับบ้าน”
ฉินหวย: …
ไม่ใช่เล่นนะพี่ชาย เพื่อแป้งกรอบสดใหม่ถึงขนาดนี้เลยเหรอ
ฉินหวยแอบใส่เพิ่มให้อีกหนึ่งชิ้น แล้วพูดว่า “พอดีตอนนี้โรงอาหารเรามีกิจกรรม ซื้อครบ 25 หยวน แถมน้ำชาเย็นหนึ่งแก้ว แซ่หลัวก็แจกนะ แค่แสดงบัตรประชาชนหรือเอกสารยืนยันตัวตน”
หลัวจื่อจวิ้นดีใจสุดๆ รีบยกบัตรพนักงานขึ้นมา “ผมแซ่หลัวครับ! ผมแซ่หลัว!”
“น้ำชายังต้องใช้เวลาอีกไม่กี่นาทีถึงจะต้มเสร็จ หลังต้มเสร็จต้องรอให้เย็นอีกสักพัก คุณจะรอได้ไหมครับ ผมเห็นว่าคุณก็คงต้องใช้เวลากินอาหารเช้าสักหน่อย” ฉินหวยเหลือบมองไปที่หม้อต้มน้ำชา เห็นฉินลั่วกำลังใส่น้ำตาลก้อนลงไปอย่างไม่ยั้ง
ฉินหวยทำได้แค่กระแอมไอหนักๆ เพื่อเตือนเธอว่าอย่ามากเกินไป น้ำชาไม่ใส่น้ำตาลมันก็ขมเกินไป แต่ถ้าใส่มากเกินไปก็จะไม่อร่อยเหมือนกัน
หลังพูดจบ ฉินหวยก็รู้สึกว่ากิจกรรมแจกน้ำชาให้คนแซ่หลัวเป็นไอเดียที่ดี เพราะยังไงเขาก็เป็นเจ้าของร้าน จะจัดกิจกรรมอะไรก็ขึ้นอยู่กับเขา
รอให้ร้านปริ้นท์ข้างๆ เปิดก่อน แล้วค่อยให้ฉินลั่วไปทำโปสเตอร์กิจกรรมมาติดหน้าร้าน
เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะหาโรจวินไม่เจอ
ถ้ายังหาไม่เจออีกก็คงต้องแปะใบประกาศตามหาแล้วล่ะ
ระหว่างที่คิด ฉินหวยก็จัดจานไปด้วย
ถึงคิวซวีถูเฉียงแล้ว
“เชฟฉิน ขอแป้งกรอบเปลือกปู4 ชิ้นนะครับ ซาลาเปาเสร็จแล้วช่วยบอกด้วย แล้วก็ขอถามหน่อยว่าวันนี้มีขนมอะไรขายบ้างครับ?” ซวีถูเฉียงถาม
“ติ่งเซิ่งเกา, ขนมดอกบัว, โมจิ และเค้กข้าวเหนียวครับ ถ้าช่วงบ่ายไม่มีอะไรผิดพลาดอาจจะลองทำหมั่นโถวใหม่ หรืออาจจะทำหมั่นโถวนมข้าวบัควีทครับ” ฉินหวยรู้ว่าซวีถูเฉียงเป็นผู้อาศัยในหมู่บ้าน จึงพูดเพิ่มเติมให้
ซวีถูเฉียงที่มุ่งมั่นตลอดชีวิตเกือบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ดี ๆ” ซวีถูเฉียงตัดสินใจว่าวันนี้จะนั่งอยู่ในโรงอาหารทั้งวัน ไม่ไปไหนแน่นอน คอยเฝ้าดูว่าจะได้อะไรอีก
อย่างไรเขาก็ไม่ได้ไปทำงาน มีเวลาเหลือเฟือ!
ถึงคิวลุงหวังแล้ว ฉินหวยยิ้มทักทายอย่างกระตือรือร้น “ลุงหวัง สวัสดีตอนเช้าครับ หมั่นโถวเหล้าหมักอาจต้องรอถึงประมาณ 8 โมงกว่าจะออกจากเตา การทำหมั่นโถวค่อนข้างใช้เวลานิดหน่อย หลังจากนี้น่าจะออกมาตอนเช้าประมาณนี้เสมอ เกรงว่าหลังจากลุงวิ่งตอนเช้าอาจจะไม่ได้กินหมั่นโถวทันนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไร แค่มาวิ่งเพิ่มอีกเที่ยวก็ได้” ลุงหวังโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “มีแป้งกรอบเปลือกปูก็พอแล้ว”
“เชฟฉิน ผมมีเรื่องจะบอกคุณหน่อย”
“เชิญพูดเลยครับ”
“ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าตอนฉันหนุ่มๆ เคยกินหมั่นโถวที่กู้ซูโจวมันอร่อยกว่านี้ใช่ไหม? ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ ฉันยังมีเพื่อนร่วมงานเก่าอยู่ที่กู้ซูโจว เมื่อคืนฉันโทรหาเขาแล้ว ให้เขาช่วยหาข้อมูลติดต่อของอาจารย์จิ่งมาให้”
“ฉันจะบอกคุณ อาจารย์จิ่งเป็นคนดีมาก เขาชอบช่วยเหลือรุ่นหลัง ถ้าฉันได้ข้อมูลติดต่อมา จะส่งให้คุณ ถ้าคุณทำหมั่นโถวแล้วเจอปัญหาอะไร โทรหาอาจารย์จิ่งได้เลย เขาต้องยินดีที่จะให้...ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์แก่คุณแน่ๆ”
พูดจบ ลุงหวังก็มีท่าทางรู้สึกผิดเล็กน้อย “จริงๆ เมื่อวานฉันพูดไม่จบ พูดไม่ค่อยเข้าหูจริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะ ที่จริงฉันชอบฝีมือคุณมาก เชฟฉิน ถ้าคุณมีเรื่องอะไร ไม่เข้าใจเรื่องบัญชีหรืออะไรแบบนี้ มาหาฉันได้เลย ฉันเป็นนักบัญชีมา 40 กว่าปี ไม่เคยทำผิดพลาดเลย ตอนนี้ก็ยังทำได้อยู่”
ฉินหวยไม่คิดว่าลุงหวังจะยังเก็บเรื่องนี้มาคิด เขาจึงหยิบแป้งกรอบเพิ่มให้อีกหนึ่งชิ้น พร้อมปลอบใจว่า “ผมไม่เก็บมาใส่ใจจริงๆ ครับ ลุงหวัง คุณมาสนับสนุนร้านเราได้ก็ดีใจแล้ว”
“เดี๋ยวผมให้ลั่วลั่วเอาน้ำชาไปส่งให้คุณสองแก้ว คุณอยากดื่มแบบไหนครับ? ชาดอกไม้ห้าอย่าง, ชาล้างความชื้นเจ็ดรส, ชาเปลือกส้มแห้ง หรือชามะนาวสด?”
ลุงหวัง: ?
ชามะนาวสด?