ตอนที่แล้วบทที่ 23 เส้นทางบุปผา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 เสวียนเหนี่ยวตัวที่สี่

บทที่ 24 เสวียนเหนี่ยว


บทที่ 24 เสวียนเหนี่ยว

ทันใดนั้น เสียงร้องตกใจก็ดังขึ้นหลายเสียง แมงป่องหางเหล็กจำนวนมหาศาลไหลบ่าเข้ามาเบียดเสียดอยู่รอบขาของสัตว์ขี่ เหล็กในที่แหลมคมเป็นประกายแสงเย็นยะเยือกทิ่มแทงเข้าใส่ขาและกีบเท้าของสัตว์ขี่เหล่านั้นไม่ยั้ง

สัตว์ขี่โลหะผสมยังคงต้านทานเหล็กในของแมงป่องได้ แต่ขาและกีบเท้าของสัตว์เลี้ยงเหล็กกล้ากลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้น พวกมันถูกเหล็กในนับไม่ถ้วนทิ่มแทงเข้ามา จนเกิดความหวาดผวา สะบัดเท้าและกระโดดอย่างบ้าคลั่ง ผู้วิวัฒนาการหลายคนเกือบจะร่วงลงจากหลังสัตว์ขี่

“ช่วยพวกเขา! แล้วบุกฝ่าเข้าไป!” หวังเทียนเอ๋อร์ตะโกนสั่งการทันที เขาควบม้าพุ่งเข้าไปหาผู้วิวัฒนาการของตระกูลหวังคนหนึ่งที่กำลังจะตกลงมาจากหลังม้า แล้วคว้าแขนดึงมานั่งข้างหลัง

คนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็ทำตาม พวกเขาดึงผู้วิวัฒนาการที่ไม่มีสัตว์ขี่โลหะผสมขึ้นมาขี่ซ้อนกันบนหลังสัตว์ขี่ของตัวเอง แล้วมุ่งหน้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

พวกเขาเข้ามาลึกในเส้นทางบุปผาเจ็ดแปดกิโลเมตรแล้ว หากถอยกลับไปก็ยิ่งเสียเวลาเปล่าๆ สู้บุกฝ่าต่อไปข้างหน้ายังดีกว่า

โชคดีที่เหล็กในของแมงป่องหางเหล็กพวกนั้นแทบจะไม่ระคายผิวสัตว์เลี้ยงโลหะผสม พวกเขาพุ่งทะยานฝ่าฝูงแมงป่องไป เหยียบแมงป่องหางเหล็กตายไปนับไม่ถ้วน

หลังจากบุกฝ่าไปสี่ห้ากิโลเมตร ตลอดทางก็ยังคงเต็มไปด้วยแมงป่องหางเหล็กที่ไหลบ่าเข้ามาเหมือนน้ำท่วม ไม่รู้ว่ามีจำนวนมากมายมหาศาลแค่ไหน

ในที่สุดก็มองเห็นหุบเขาอยู่ไกลๆ หุบเขานั้นเชื่อมต่อกับเส้นทางบุปผา และสองแห่งนี้ราวกับมีเส้นบางๆ คั่นอยู่ ภายในหุบเขาไม่มีดอกโลหะแม้แต่ดอกเดียว แมงป่องหางเหล็กจำนวนมากก็เหมือนถูกพลังลึกลับบางอย่างกั้นเอาไว้ ไม่ว่าพวกมันจะเบียดเสียดกันมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปในหุบเขาได้

ทุกคนรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา พวกเขาเร่งความเร็วพุ่งตรงไปยังหุบเขา

ในขณะที่คนกลุ่มแรกกำลังจะถึงปากหุบเขา พริบตานั้นจู่ๆก็มีแสงสีสันสดใสพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ผู้วิวัฒนาการที่อยู่หน้าสุดถูกทะลุทั้งคนทั้งสัตว์ขี่!

ชายคนนั้นก้มลงมองรูที่หน้าอกของตัวเอง และหางแมงป่องขนาดใหญ่สีสันสดใสที่แทงทะลุออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจสุดขีด เขาอ้าปากพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่มีแม้แต่เสียงเล็ดลอดออกมา มีเพียงเลือดที่ไหลทะลักออกมาไม่หยุด

ต่อหน้าต่อตาของทุกคน ร่างของชายคนนั้นและสัตว์ขี่ถูกยกขึ้นกลางอากาศ หางแมงป่องขนาดยักษ์สีสันสดใสที่อยู่ด้านหลังแกว่งไปมา ทำให้ร่างของชายคนนั้นและสัตว์ขี่แกว่งไกวไปมาอยู่บนฟ้าอย่างน่าสยดสยอง

ทุกคนจ้องมองด้วยความตกใจอย่างที่สุด ชายคนนั้นและสัตว์ขี่ของเขาล้วนเป็นระดับโลหะผสม แต่กลับถูกแทงทะลุได้ง่ายดายเช่นนี้ แสดงว่าหางแมงป่องนั้นต้องมีความแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ

มีสัตว์ขี่หลายตัวที่หยุดไม่ทัน พวกมันพยายามจะหักหลบไปทางด้านข้าง แต่แล้วก็มีหางแมงป่องสีสันสดใสอีกสองเส้นพุ่งขึ้นมาจากพื้น แทงทะลุสัตว์ขี่ของพวกเขาทันที

โชคดีที่ผู้วิวัฒนาการโลหะผสมสองคนนั้นตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว พวกเขากระโดดลงจากหลังสัตว์ขี่ ตกลงไปในฝูงแมงป่องที่หนาแน่นเบียดเสียดกันอยู่

เหล็กในของแมงป่องหางเหล็กทิ่มแทงเข้าใส่ร่างกายของพวกเขา เสียงดังกังวานไม่หยุด แต่โชคดีที่เหล็กในของแมงป่องหางเหล็กยังไม่สามารถเจาะทะลุเกราะโลหะผสมของพวกเขาได้

ทั้งสองคนปัดแมงป่องหางเหล็กที่เกาะอยู่บนตัวออกไป แล้วรีบกระโดดขึ้นไปบนหลังสัตว์ขี่ของผู้วิวัฒนาการคนอื่นที่เข้ามารับ

พื้นดินแตกออก ดอกโลหะกระจายไปทั่ว แมงป่องขนาดยักษ์สีสันสดใสตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่เท่ากับช้างโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน หางทั้งสามของมันแกว่งศพที่ห้อยอยู่ไปมาอย่างน่าสยดสยอง

“นั่นมันราชาแมงป่องเกราะอสูรระดับโลหะผสม… ไม่สิ… ราชาแมงป่องเกราะอสูรควรจะมีหางแค่เส้นเดียว… ทำไมมันถึงมีตั้งสามหาง…” เหล่าเย่ขวางหน้าหลินเซินเอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

ราชาแมงป่องเกราะอสูรสะบัดหางทั้งสามอย่างแรง ศพที่ห้อยอยู่ก็ถูกเหวี่ยงออกไปเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ กระแทกกับพื้นอย่างแรงจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ในพริบตาก็ถูกแมงป่องหางเหล็กที่ไหลบ่าเข้ามาฝังกลบ คงไม่รอดชีวิตอย่างแน่นอน

ราชาแมงป่องสะบัดหาง หมายจะโจมตีผู้วิวัฒนาการคนอื่นๆ ผู้วิวัฒนาการโลหะผสมคนหนึ่งหลบไม่ทัน จึงใช้แขนที่หุ้มด้วยโลหะผสมป้องกันหางของราชาแมงป่อง

ใครจะรู้ว่าหางของราชาแมงป่องนั้นทรงพลังอย่างมาก ผู้วิวัฒนาการโลหะผสมคนนั้นถูกกระแทกจนล้มลงทั้งคนทั้งสัตว์ขี่ เกราะโลหะผสมที่แขนของเขาปรากฏรอยร้าวขึ้นมา

ผู้วิวัฒนาการคนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็ต่างพากันหลบหลีก ราชาแมงป่องสามหางที่เกรี้ยวกราดยืนขวางอยู่หน้าหุบเขา ในตอนนี้ไม่มีใครกล้าบุกฝ่าเข้าไป

“เชี่ยเอ๊ย!” หวังเทียนเอ๋อร์เห็นผู้วิวัฒนาการโลหะผสมของตัวเองถูกฆ่าไปสองคน เขาโกรธจัดจนขว้างแคปซูลสัตว์เลี้ยงสีดำออกไป

แคปซูลสัตว์เลี้ยงนั้นกลายร่างเป็นนกขนาดใหญ่สีดำสนิทกลางอากาศ ปีกทั้งสองข้างกางออกกว้างถึงสี่ห้าเมตร พุ่งเข้าใส่ราชาแมงป่องสามหางราวกับสายฟ้าสีดำ

ราชาแมงป่องสะบัดหางอันน่าสะพรึงกลัวเข้าใส่นกขนดำที่พุ่งเข้ามา แต่นกขนดำกลับยื่นกรงเล็บทั้งสองข้างออกไป จับหางของราชาแมงป่องเอาไว้ได้ทีละเส้น

หางที่สามพุ่งเข้าใส่หน้าอกของนกขนดำ แต่นกขนดำก้มลงจิก จิกหางโลหะผสมสีสันสดใสที่แข็งแกร่งนั้นขาดออกจากกัน

กรงเล็บที่คมกริบราวกับใบมีดออกแรงบีบ หางอีกสองเส้นก็ขาดสะบั้นลงทันที

นกขนดำร้องเสียงแหลม สะบัดหางที่ขาดออกไป เหวี่ยงร่างกายขนาดมหึมาของราชาแมงป่องขึ้นไปในอากาศ

มันกระพือปีก นกขนดำทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ราวกับคมมีดที่ฟาดฟันลงมาจากฟากฟ้า ตัดร่างกายที่แข็งแกร่งของราชาแมงป่องออกเป็นสองท่อน ร่างทั้งสองท่อนตกลงกระแทกพื้น เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่สองหลุม

นกขนดำร้องเสียงแหลมอีกครั้ง แล้วบินกลับไปหาหวังเทียนเอ๋อร์ วนเวียนอยู่เหนือศีรษะของเขา

“นั่นคือเสวียนเหนี่ยวเหรอ?” หลินเซินจ้องมองนกขนดำตัวนั้น มันดูคล้ายหงส์แต่ไม่มีขน คล้ายกาแต่กลับมีเสียงร้องเหมือนหงส์

ที่ฐานเสวียนเหนี่ยวได้ชื่อนี้ ก็เพราะว่าเคยพบไข่เสวียนเหนี่ยว(หงสาทมิฬ)ระดับคริสตัลบริเวณใกล้เคียง ตระกูลหลิน ฉี และหวัง ต่างก็สร้างฐานขึ้นมาได้ด้วยเสวียนเหนี่ยว

มีเรื่องเล่าว่า บรรพบุรุษของตระกูลหลิน ฉี และหวัง ได้พบรังเสวียนเหนี่ยวและได้ไข่เสวียนเหนี่ยวมาคนละฟอง พวกเขาอาศัยความแข็งแกร่งของเสวียนเหนี่ยวสร้างฐานเสวียนเหนี่ยวขึ้นมา

ต่อมาตระกูลหลินสูญเสียเสวียนเหนี่ยวไป ทำให้รากฐานตกต่ำ เกือบจะถูกขับออกจากกลุ่มสามตระกูลใหญ่ โชคดีที่ตระกูลหลินมีพี่รอง หลินอิ่น ที่ช่วยกอบกู้สถานการณ์เอาไว้ได้

จนถึงทุกวันนี้ เสวียนเหนี่ยว(หงสาทมิฬ)ยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งที่สุดในฐานเสวียนเหนี่ยว แม้ว่าต่อมาทั้งสามตระกูลจะได้รับสัตว์เลี้ยงระดับคริสตัลมาจากช่องทางอื่นๆ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับเสวียนเหนี่ยว มีตำนานเล่าขานว่าเสวียนเหนี่ยวคือสิ่งมีชีวิตคริสตัลระดับสูงสุดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกด้าน

เนื่องจากตระกูลหลินไม่มีเสวียนเหนี่ยวแล้ว หลินเซินจึงไม่เคยเห็นเสวียนเหนี่ยวมาก่อน เรื่องราวเหล่านี้เขาได้ยินมาจากคนในครอบครัวทั้งนั้น

เสวียนเหนี่ยวของตระกูลฉีและตระกูลหวังยังคงสืบทอดต่อกันมา แต่ไม่ค่อยได้ปรากฏตัวให้เห็น ปัจจุบัน ฉีชูเหิงและหวังเทียนเอ๋อร์มีสถานะผู้นำของทั้งสองตระกูล การที่พวกเขามีเสวียนเหนี่ยวอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหวาดกลัวพลังอำนาจของเสวียนเหนี่ยว หรือเป็นเพราะราชาแมงป่องตายไปแล้ว แต่แมงป่องหางเหล็กจำนวนมหาศาลที่เคยไหลบ่าเข้ามาเหมือนน้ำท่วมก็หยุดโจมตี พวกมันมุดลงดินหายไปในเวลาอันรวดเร็ว

“ศิษย์พี่หลินไม่ได้หลอกฉัน เสวียนเหนี่ยวเป็นสิ่งมีชีวิตคริสตัลระดับสูงสุดจริงๆ ด้วย” ไป๋เสินเฟยกล่าวขณะจ้องมองเสวียนเหนี่ยว

“แค่เสวียนเหนี่ยวตัวเดียว ในที่เล็กๆ แบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวหรอก แต่ถ้าไปที่ฐานไฮ่เจียว มันก็ไม่ได้พิเศษอะไร” หวังเทียนเอ๋อร์พูดพลางสั่งให้คนไปเก็บของเหลวกลายพันธุ์จากร่างของราชาแมงป่อง

ทุกคนรู้ดีว่าเขาคิดอะไร เขาใช้เสวียนเหนี่ยวฆ่าราชาแมงป่อง นอกจากจะแก้แค้นให้คนของตัวเองแล้ว คงหวังที่จะยึดราชาแมงป่องไว้เป็นของตัวเองด้วย

ราชาแมงป่องตัวนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตโลหะผสมธรรมดาๆ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ประกอบเป็นร่างกายหรือของเหลวกลายพันธุ์ ล้วนเป็นของหายาก

ราชาแมงป่องถูกหวังเทียนเอ๋อร์ฆ่า จึงไม่มีใครแย่งชิงกับเขา ปล่อยให้เขาเก็บของเหลวกลายพันธุ์ไป

แน่นอนว่าไม่สามารถทิ้งศพราชาแมงป่องไว้ที่นี่ได้ หวังเทียนเอ๋อร์จึงสั่งให้ผู้วิวัฒนาการสองคนลากศพกลับไปที่ฐานพร้อมกับสัตว์เลี้ยง

หลังจากที่ทุกคนเข้าไปในหุบเขาแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง หลังจากปรึกษากัน ทุกคนจึงตัดสินใจพักค้างคืนที่นี่ แล้วค่อยเดินทางต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น

หลินเซินและเหล่าเย่นอนในเต็นท์เดียวกัน ส่วนเว่ยหวู่ฟู่นั่งเฝ้ายามอยู่ด้านนอก

หลินเซินให้เหล่าเย่ใช้เต็นท์ แต่เว่ยหวู่ฟู่ไม่ยอมใช้ เพียงแต่นั่งพิงกระเป๋าอยู่หน้าเต็นท์ของหลินเซิน หลับตาพักผ่อน

“คุณชายน้อย สถานการณ์ที่เส้นทางบุปผาวันนี้ดูแปลกๆ นะครับ” ในเต็นท์ เหล่าเย่พูดกับหลินเซินด้วยน้ำเสียงเบาๆ

“แปลกยังไง?” หลินเซินถาม

“ตอนแรกที่สำรวจสองรอบไม่พบแมงป่องหางเหล็ก พอเราเข้าไปจนถอยไม่ได้แล้ว พวกมันถึงได้โจมตี เห็นได้ชัดว่ามันวางแผนเอาไว้ สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ทั่วไปไม่มีความฉลาดขนาดนี้ แถมราชาแมงป่องเกราะอสูรยังมีสามหางอีก แข็งแกร่งกว่าราชาแมงป่องเกราะอสูรที่ผมเคยเห็นมา สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ” เหล่าเย่กล่าว

“สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่นี่แปลกจริงๆ นั่นแหละ” หลินเซินพยักหน้าเห็นด้วย

“นั่นยังไม่ใช่ประเด็นหลัก ที่แปลกจริงๆ คือเสวียนเหนี่ยวตัวนั้น” เหล่าเย่กล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย

“นายหมายความว่าเสวียนเหนี่ยวตัวนั้นแข็งแกร่งเกินไป?” หลินเซินถามอย่างสงสัย

เหล่าเย่ส่ายหัวแล้วพูดว่า “เสวียนเหนี่ยวมันแข็งแกร่งอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัย ไม่งั้นทั้งสามตระกูลคงตั้งราราก สุดท้ายสร้างฐานไม่ได้หรอก”

เขาเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง “คุณชายน้อยไม่สังเกตเห็นเหรอ? แมงป่องหางเหล็กพวกนั้นกลัวเสวียนเหนี่ยว ไม่ใช่แค่แมงป่องหางเหล็ก แม้แต่ราชาแมงป่องเกราะอสูรสามหางก็ยังกลัวเสวียนเหนี่ยว ตอนที่เจอเสวียนเหนี่ยว ท่าทางมันดูแข็งทื่อไปเลย ไม่งั้นคงไม่โดนฆ่าง่ายๆ แบบนั้นหรอก”

“บางทีอาจเป็นเพราะเสวียนเหนี่ยวแข็งแกร่งเกินไป ระดับมันต่างกัน” หลินเซินครุ่นคิด

แต่เหล่าเย่ไม่เห็นด้วย เขาพูดอย่างลึกลับว่า “คุณชายน้อย ผมเหมือนเคยได้ยินคุณชายสี่พูดว่า สถานที่ที่บรรพบุรุษของทั้งสามตระกูลพบไข่เสวียนเหนี่ยว อยู่แถวๆ หุบเขานี้แหละ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด