บทที่ 17 สโมสรยักษ์ใหญ่แย่งชิงตัว!
หลินเทียนห่าวสังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านข้างตั้งแต่ต้นแล้ว แต่เขาไม่ได้พูดอะไร และยังคงโจมตีปีศาจเหลืองอย่างต่อเนื่อง
หลังจากจัดการสตรีมเมอร์แล้ว นักฆ่า อิ๋งซา ไม่ได้หลบซ่อนอีกต่อไป แต่ยืนอยู่ไม่ไกล ดูเหมือนจะช่วยเป็นแนวหลังให้กับหลินเทียนห่าว
แปดนาทีต่อมา…
“ติ๊ง! คุณได้สังหารบอสซ่อนเร้นแห่งหมู่บ้านมือใหม่—ปีศาจเหลืองคลั่ง สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ +”
“ติ๊ง! คุณทำสำเร็จเป็นคนแรกในการสังหารปีศาจเหลืองคลั่ง จะมีการประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์ ต้องการซ่อนชื่อหรือไม่?”
“ไม่”
“ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์: ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เสวี่ยตี้ ที่สังหารปีศาจเหลืองคลั่งเป็นคนแรก หวังว่าผู้เล่นทุกท่านจะพยายามต่อไป”
“ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์: ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เสวี่ยตี้ ที่สังหารปีศาจเหลืองคลั่งเป็นคนแรก หวังว่าผู้เล่นทุกท่านจะพยายามต่อไป”
…
“โว้ว! ได้ First Kill อีกแล้ว? บอสปีศาจเหลืองคลั่งนี่มันบอสจากเมืองหลักหรือเปล่า?”
“ไม่รู้สิ หมู่บ้านมือใหม่มีบอสแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“เสวี่ยตี้ยังไม่ติดอันดับเลเวลเลยนะ ฉันดูอันดับเลเวลแล้ว ไม่มีชื่อเขา เขายังอยู่ในหมู่บ้านมือใหม่แน่นอน”
ผู้เล่นมากมายต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้อย่างตื่นเต้น
ในขณะเดียวกัน หูเกอ เจียงเฉิงเฟินเกอ ที่เดินออกมาจากแท่นเกิดใหม่ก็ได้ยินระบบประกาศเช่นกัน เขาเปิดดูบันทึกการถ่ายทอดสดของตัวเอง และอึ้งไปทันที
“นี่มัน… เสวี่ยตี้?”
“สุดยอด! ฉันได้คลิปวิดีโอที่เสวี่ยตี้เดี่ยวบอสมาแบบชัดๆ!”
เมื่อคิดได้ดังนั้น หูเกอ เจียงเฉิงเฟินเกอถึงกับลืมเรื่องที่ตัวเองโดนนักฆ่าสังหารไปเสียสนิท เขารีบตัดต่อคลิปอย่างรวดเร็วและโพสต์ลงในฟอรัมของเกม ดินแดนพลบค่ำ
หัวข้อ: เสวี่ยตี้เดี่ยวบอสซ่อนเร้นในหมู่บ้านมือใหม่—สุดระทึก!
ทันทีที่คลิปถูกโพสต์ลงในฟอรัม มันก็พุ่งขึ้นติด เทรนด์ยอดนิยม ในเวลาไม่นาน
สำหรับผู้เล่นทั่วไป คลิปนี้ก็เป็นแค่เรื่องน่าตื่นเต้น เพราะพวกเขาไม่เข้าใจความซับซ้อนของเทคนิคนี้ เช่นเดียวกับที่คนธรรมดาดูการระเบิดของนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้เข้าใจเทคโนโลยีเบื้องหลัง
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น คลิปนี้ก็ถูกนำไปฉายบนหน้าจอใหญ่ในห้องวิเคราะห์ของสโมสรและกิลด์ยักษ์ใหญ่หลายแห่ง
สโมสรจูจ้ง (ไล่ตามฝัน):
ผู้เล่น จูจ้งเยี่ยนเสวี่ย ออกจากเกมและจัดการประชุมฉุกเฉินทันที
ในห้องประชุม มีนักวิเคราะห์สามคน ผู้จัดการใหญ่ หลี่ไห่เถา และผู้เล่นสายธนูฝีมือดีหลายคนร่วมอยู่ด้วย
“คุณหนูเยี่ยนเสวี่ย ผมคิดว่าเสวี่ยตี้น่าจะใช้สกิลอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้ศัตรูลอยขึ้นต่อเนื่องได้” หลี่ไห่เถากล่าวขึ้นก่อน เขาเองไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเกม จึงมองไม่เห็นความซับซ้อนในเทคนิคนี้
“คุณไม่รู้อะไรเลย!” จูจ้งเยี่ยนเสวี่ยตะโกนใส่อย่างไม่พอใจ “แล้วอีกอย่าง เรียกฉันว่า ‘เจ้านาย’ ในที่ทำงาน!”
นักวิเคราะห์สามคนถึงกับตัวสั่นเล็กน้อย เกมดินแดนพลบค่ำเพิ่งเปิดไม่นาน ทำให้พวกเขายังไม่มีข้อมูลเชิงลึกมากนัก
“เจ้านาย จากการสังเกต ท่าทางการดึงคันธนูของเขาไม่เหมือนปกติ ลูกธนูของเขาหมุนด้วยความเร็วสูงกลางอากาศ ซึ่งน่าจะเป็นเทคนิคการต่อสู้พิเศษบางอย่าง”
จูจ้งเยี่ยนเสวี่ยหันไปถามผู้เล่นธนูที่มีฝีมือสูงในทีม
หนึ่งในนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เจ้านาย นี่เป็นเทคนิคในเกมแน่นอน ผมเคยเห็นนักล่าในเกมใช้วิธีคล้ายกัน”
“เขาทำให้เป้าหมายลอยขึ้นไปกลางอากาศต่อเนื่องได้ เทคนิคนี้ต้องอาศัยการคาดการณ์ที่แม่นยำมาก”
“ตั้งแต่ลูกธนูดอกแรก เขาต้องคำนวณตำแหน่งของดอกที่สามหรือแม้แต่ดอกที่สี่ล่วงหน้า ถ้าพลาดดอกเดียว ทุกอย่างก็พัง”
เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนกล่าวต่อว่า “ตอนเกมเปิดใหม่ๆ ผมก็เคยคิดว่าจะใช้เทคนิคนี้ในเกม แต่ไม่คิดว่าจะมีคนทำได้ถึงขั้นนี้แล้ว”
เมื่อได้ยินคำอธิบายจากผู้เล่นธนู จูจ้งเยี่ยนเสวี่ยพยักหน้าเบาๆ
“เหมือนที่ฉันคาดไว้ เกมนี้เป็นแบบ VR เต็มรูปแบบ ดังนั้นเทคนิคการต่อสู้ในโลกจริงสามารถนำมาใช้ในเกมได้จริงๆ”
“ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการสนับสนุนจากค่าพลังในเกม ทำให้เทคนิคการต่อสู้บางอย่างที่ไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริง กลับเป็นไปได้ในเกม”
หลี่ไห่เถาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก “เจ้านาย ถึงเขาจะเก่งแค่ไหน ตอนนี้ก็แค่เลเวล 9 เท่านั้นเอง เทียบกับคุณแล้วยังห่างไกลมาก”
จูจ้งเยี่ยนเสวี่ยหันมามองหลี่ไห่เถาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะหันไปถามกลุ่มผู้เล่นธนู “ถ้าจะให้พวกคุณฝึกเทคนิคนี้ ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”
ทุกคนเงียบไปพักใหญ่ ก่อนที่ผู้เล่นธนูฝีมือดีคนหนึ่งที่เคยอธิบายไว้จะพูดขึ้น “ถ้าฝึกอย่างจริงจัง คงต้องใช้เวลาประมาณห้าปี”
“อะไรนะ?!” จูจ้งเยี่ยนเสวี่ยถึงกับตกตะลึง “ห้าปี?”
“เจ้านาย การฝึกธนูมันขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ ถ้าคนที่พรสวรรค์สูงมาก อาจฝึกได้ภายในสามเดือน แต่คนแบบนั้นหาได้ยากยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหมื่น”
“และถ้าจะให้ทำได้ลื่นไหลแบบเสวี่ยตี้ที่สามารถเดี่ยวบอสด้วยเทคนิคลอยกลางอากาศ พวกเราต่อให้ฝึกสิบปีก็อาจยังทำไม่ได้”
จูจ้งเยี่ยนเสวี่ยสีหน้าหนักใจ “เข้าใจแล้ว”
หลังจากพูดจบ เธอก็กลับเข้าเกมไป
ไม่ใช่แค่สโมสรจูจ้งเท่านั้นที่วุ่นวายกับเรื่องนี้ ในประเทศหลง สโมสรกิลด์ใหญ่อื่นๆ ต่างก็วิเคราะห์คลิปวิดีโอนี้กันอย่างเข้มข้น และในที่สุดพวกเขาก็ได้ข้อสรุปที่น่าหวาดหวั่น นั่นคือ “การเล่นแบบหลินเทียนห่าว มันไร้เหตุผลจนเกินไป เกินกว่าที่คนธรรมดาจะทำได้”
ในขณะที่เรื่องราวกำลังร้อนแรง เสียงประกาศในเกมก็ดังขึ้นทั่วเซิร์ฟเวอร์
“ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์: สโมสรจูจ้งขอเชิญผู้เล่นเสวี่ยตี้เข้าร่วมทีม เงินเดือนปีละ 100 ล้านหยวน เงื่อนไขอื่นสามารถพูดคุยได้!”
“ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์: สโมสรจูจ้งขอเชิญผู้เล่นเสวี่ยตี้เข้าร่วมทีม เงินเดือนปีละ 100 ล้านหยวน เงื่อนไขอื่นสามารถพูดคุยได้!”
เสียงประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์ที่ดังขึ้นนั้น ทำให้ทุกคนได้ยินกันทั่วถึง
เพราะหลินเทียนห่าวปิดฟังก์ชันเพิ่มเพื่อนและปิดข้อความส่วนตัวจากคนที่ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิท การจะติดต่อเขาได้ในตอนนี้ดูเหมือนจะมีแค่ผ่านประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น แต่ปัญหาคือ… การประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์หนึ่งครั้งใช้เงินถึง 10 เหรียญทอง!
แม้ว่าหลินเทียนห่าวจะมีเหรียญทองมากมายในเกม แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถหาเงินในเกมได้แบบเขา?
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ประกาศของสโมสรจูจ้งจบลง ก็มีเสียงประกาศอื่นตามมาติดๆ
“ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์: กิลด์อสูรโลกันตร์ขอเชิญผู้เล่นเสวี่ยตี้เข้าร่วมทีม เงินเดือนปีละ 110 ล้านหยวน พร้อมตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์ เงื่อนไขอื่นสามารถพูดคุยได้!”
“ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์: กิลด์อสูรโลกันตร์ขอเชิญผู้เล่นเสวี่ยตี้เข้าร่วมทีม เงินเดือนปีละ 110 ล้านหยวน พร้อมตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์ เงื่อนไขอื่นสามารถพูดคุยได้!”
“ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์: กิลด์นักรบคลั่งขอเชิญผู้เล่นเสวี่ยตี้เข้าร่วมทีม เงินเดือนปีละ 110 ล้านหยวน พร้อมตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์ และแถมวิลล่าสุดหรู เงื่อนไขอื่นสามารถพูดคุยได้!”
ประกาศที่ดังขึ้นติดๆ กัน ทำให้โลกออนไลน์ระเบิดความฮือฮาขึ้นทันที
“โว้ว! ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? เริ่มต้นที่เงินเดือน 100 ล้านเลย? นี่มันเงินจริงหรือเปล่า? หรือว่าเงินจากโลกวิญญาณกันแน่!”
“กราบแล้ว คนเลเวล 9 เท่านั้นเอง ทำไมถึงมีค่าตัวขนาดนี้? พวกเขาไม่กลัวว่ามันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ หรือว่าปาเนื้อให้หมาแล้ว?”
“ไม่รู้ก็อย่าพูดมั่ว! เทคนิคลอยกลางอากาศของเสวี่ยตี้ ต่อให้บางคนฝึกสิบปีก็ทำไม่ได้!”
“สโมสรพวกนี้ไม่ใช่คนโง่ ถ้าพวกเขากล้าจ่ายราคานี้ แสดงว่าเสวี่ยตี้มีค่ามากพอที่จะรับมัน!”
ผู้เล่นมากมายตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้ แต่หลินเทียนห่าวกลับยังคงสนใจแต่รางวัลจากศพของบอสโดยไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
