ตอนที่แล้วบทที่ 113: การแก้แค้นในที่สาธารณะเพื่อเรื่องส่วนตัว, เซียว​ซิง​หยู​โมโหเเล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 115: การดวลที่ดุเดือด, ผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้

บทที่ 114: จักรพรรดินีจะให้ความสนใจอีกครั้ง!


บทที่ 114: จักรพรรดินีจะให้ความสนใจอีกครั้ง!

"เสียงนกหวีดของกรรมการดังขึ้นเเล้วครับ…การแข่งขันยกที่สองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นเเล้ว!"

"ท่านผู้ชมครับ นี่จะต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดราวกับดาวอังคารชนโลกอย่างเเน่นอน!"

"เซี่ยเว่ยอันจะสามารถป้องกันเวที และเอาชนะได้สองยกติดต่อกันหรือไม่?...หรือว่ามู่หรงซินซินจะสามารถแก้แค้นให้พี่ชาย และยึดเวทีได้สำเร็จ?"

"ทุกคนห้ามกระพริบตา อย่าพลาดทุกช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นเด็ดขาด​นะครับ!"

ผู้บรรยายพูดอย่างกระตือรือร้น จนทำให้บรรยากาศในสนามเดือดขึ้นไปอีกขั้น

ด้านล่างเวที ในโซนเตรียมตัว

มู่หรงหยางซั่วพลังหมด จนทำได้แค่นั่งพักผ่อน​บนเก้าอี้

"อาจารย์เฉิน ผมขอโทษที่ทำให้อาจารย์​ผิดหวัง"

ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่มู่หรงหยางซั่วก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้นี้

การเริ่มต้นที่ไม่ดี ถือเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับการเเข่งขัน..หลังจากแพ้ในยกแรก วิทยาลัยชิงหลงจึงตกเป็นรองอย่างมาก

เเละเมื่อเห็นน้องสาวต้องไปเผชิญหน้ากับเซี่ยเว่ยอันที่เพิ่งเอาชนะตัวเองมา มู่หรงหยางซั่วก็รู้สึกละอายใจยิ่งขึ้น​ไปอีก

เฉินฉีเหนียนตบบ่ามู่หรงหยางซั่ว เเล้วปลอบใจเขาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

"เธอต้องรู้ว่า แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของการเเข่งขัน​"

"และถ้าอยากจะเป็นผู้แข็งแกร่ง เธอก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความพ่ายแพ้"

มู่หรงหยางซั่วรู้ว่าเฉินฉีเหนียนต้องการ​ปลอบใจเขา มุมปากของเขาจึงได้เเต่ยกขึ้นอย่างขมขื่น

เซียวซิงหยูยกมือขึ้นกำหมัด แล้วทุบลงบนอกของมู่หรงหยางซั่วเบาๆ

"พี่หยางซั่ว ถ้าความพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียว ทำให้นายหมดกำลังใจ ผมจะดูถูกพี่นะ"

มู่หรงหยางซั่วยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ พูดติดตลกว่า

"หึๆ…การเสียหน้าต่อหน้านายนี่มันทั้งเจ็บใจเเละทั้งน่าโมโหจริงๆ"

"เเต่ที่พี่แพ้มันก็ไม่แปลกหรอก เซี่ยเว่ยอัน…ก็มีดีเหมือนกัน"

"อืม ฉันรู้ หมอนั่นมันแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อเลย!"

มู่หรงหยางซั่วไม่ได้โกรธที่แพ้ เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาต่อหน้าเซียวซิงหยูและเฉินฉีเหนียนว่าเซี่ยเว่ยอันแข็งแกร่งมาก

การ​ยอมรับ​ความเเข็ง​เเก​ร่​งของอีกฝ่ายแบบนี้ เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้ยิ่งใหญ่​

"เซียวซิงหยู ที่ฉันทำหน้าหงุดหงิดหลังจากแพ้ ไม่ใช่เพราะฉันยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ แต่เป็นเพราะ..."

“เฮ้ออออ…ฉันไม่ขอเล่าละกัน”

"ไม่ต้องเล่าหรอกพี่หยางซั่ว ตอนที่พี่อยู่บนเวที ซินซินเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟังแล้ว"

"นายรู้เรื่องระหว่างน้องสาวฉันกับเซี่ยเหลียนแล้วเหรอ?"

"ใช่ครับ"

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, มู่หรงหยางซั่วก็มองเซียวซิงหยูด้วยสายตาแปลกๆ

"นายนี่ไม่ธรรมดาเลยนะ น้องสาวฉันไม่เคยบอกความลับพวกนี้ให้ใครฟังเลย…แต่เธอกลับบอกนาย!"

"มันจะเป็​นปัญหา​หรือเปล่า​ครับ?"

"ไม่เป็นปัญหา​หรอก"

มู่หรงหยางซั่วพูดจบก็ก้มหน้าลง เเล้วอดคิดฟุ้งซ่านไม่ได้

"น้องสาวฉันทำตัวแปลกๆ กับเซียวซิงหยูมากขึ้นทุกที"

"ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะกลายเป็นน้องเขยฉันจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย?"

เซียวซิงหยูไม่ทันสังเกตเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของมู่หรงหยางซั่ว ตอนนี้ความสนใจของเขากลับไปอยู่ที่การแข่งขันบนเวทีแล้ว

ณ เวลานี้​การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นเเล้ว!

มู่หรงซินซินอัญเชิญค้างคาวปีกกระดูกออกมา

เเละทันที​ที่มันปรากฏ​ตัว, กลิ่นอายแห่งความตายก็แผ่กระจายไปทั่วเวที จนปกคลุมไปทั่วสนามกีฬา

ค้างคาวโครงกระดูกขนาดใหญ่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ในเบ้าตาที่ว่างเปล่าของมันมีเปลวไฟสีเขียวลุกโชน, นี่คือเปลวไฟแห่งความตาย ที่สามารถเผาผลาญวิญญาณของศัตรูได้

ผู้บรรยายตื่นเต้นกับอสูรตัวนี้ จึงตะโกนเสียงดังผ่านไมโครโฟนทันที​

"ท่านผู้ชมครับ อสูรประเภทอันเดดนี้ก็เป็นประเภทที่หายากมากเช่นกัน"

"อย่างที่ทุกคนรู้ ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของอสูรประเภท​อันเดดก็คือ พวกมันไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดต่อการโจมตี​ทาง​กายภาพ​"

"การต่อสู้ครั้งนี้อาจจะตัดสินแพ้ชนะได้ยากขึ้นแล้วล่ะครับ!"

การปรากฏตัวของค้างคาวปีกกระดูก ทำให้ผู้ชมส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม​

เเน่​นอน​ว่า เสียงเชียร์จากอัฒจันทร์ย่อมดังเข้ามาในหูของเซี่ยเหลียน

"อสูรประเภท​อันเดด เท่ห์มาก!"

"ใช่ ตอนที่เปลวไฟแห่งความตายลุกโชน ฉันรู้สึกเหมือนวิญญาณกำลังจะตกนรกเลย"

"คุณหนูมู่หรงมีพรสวรรค์​มาก, ในคนรุ่นใหม่​ เธอเก่งที่สุด​ในการควบคุมอสูรประเภทอันเดด!"

ยิ่งผู้คนชื่นชมมู่หรงซินซินมากเท่าไหร่ เซี่ยเหลียนก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น

ตอนนี้เธอหน้าบึ้งตึง ราวกับเเม่มดตัวร้าย ​จนตงฟางฉิงที่อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา

"เซี่ยเหลียน ฉันได้ยินมาว่าเมื่อหลายปีก่อน เธอกับมู่หรงซินซินเคยแย่งค้างคาวปีกกระดูกกัน"

"เเต่สุดท้ายค้างคาวปีกกระดูกเลือกมู่หรงซินซินเป็นเจ้านายใช่ใหม..."

ตงฟางฉิงยังพูดไม่จบ ก็ถูกเซี่ยเหลียนขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"ถ้าไม่อยากโดนพี่ชายฉันสั่งสอน นายก็หุบปากได้เเล้ว"

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, ตงฟางฉิงก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เเล้วยกมือขึ้นปิดปาก พยายามเก็บความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ ไม่กล้าถามถึงเรื่องในอดีตอีก

เขาไม่ได้กลัวเซี่ยเหลียน แต่กลัวเซี่ยเว่ยอันพี่ชายของเธอ…นอกจาก​นี้​ยังมีเซี่ยจง ที่ปรึกษา​ทางทหาร​ของประเทศ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กรรมการ

เซี่ยเหลียนมองไปที่เวทีอีกครั้ง จ้องมองใบหน้าของมู่หรงซินซินที่งดงามกว่าเธอ

จากนั้น​เธอก็มองไปที่ค้างคาวปีกกระดูกที่เลื่อนขั้นเป็นระดับเติบโต (ขั้นที่ 3) แล้ว

"ตอนนั้นแกแย่งอสูรของฉันไปต่อหน้าคนมากมาย วันนี้ฉันจะเอาคืนให้สาสม!"

ก่อนเริ่มการแข่งขัน เซี่ยเหลียนได้ขอร้องเซี่ยเว่ยอันให้ช่วยแก้แค้นให้เธอ

ถึงแม้เซี่ยเว่ยอันจะเป็นคนอารมณ์แปรปรวน และเจ้าเล่ห์ แต่ในเรื่องของการตามใจน้องสาว เขาไม่แพ้มู่หรงหยางซั่วเลย

"พี่ชาย จัดการค้างคาวปีกกระดูกให้มันพิการไปเลย สั่งสอนผู้หญิงคนนี้ให้หลาบจำ ทำให้เธอต้องเสียหน้าต่อหน้าผู้ชมนับหมื่น!"

เซี่ยเหลียนยืนอยู่ข้างล่างเวทีด้วยท่าทางปกติ…แต่ความคิดในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท

ถึงแม้เซี่ยเหลียนจะปกปิดสิ่งนี้ได้ดี แต่เซียวซิงหยูก็มองทะลุจิตใจ​ของเธอได้อย่างง่ายดาย

"ดูจากสายตาของเซี่ยเหลียนแล้ว เธอน่าจะเกลียดซินซินเข้ากระดูกดำเลย"

"เเละถ้าเซี่ยเว่ยอันเป็นพวกตามใจ​น้องสาวเหมือนพี่หยางซั่วล่ะก็ ซินซินคงลำบาก​เเน่ๆ..."

เซียวซิงหยูแอบกำมือแน่นด้วยความเป็นห่วงมู่หรงซินซิน

เเละทันใดนั้น เสียงของอาจารย์เฉินฉีเหนียนก็ดังมาจากด้านหลัง

"นายคิดว่า มู่หรงซินซินมีโอกาสชนะกี่เปอร์เซ็นต์?"

"ถ้าซินซินทำตามที่ผมบอก ก็น่าจะมีโอกาสชนะ 60-70%"

"60-70%?"

เฉินฉีเหนียนรู้สึกประหลาดใจกับคำตอบของเซียวซิง​หยู​เล็กน้อย​

เพราะมู่หรงหยางซั่วเพิ่งพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยเว่ยอันอย่างย่อยยับ, ดังนั้น​ถึงแม้มู่หรงซินซินจะเป็นอัจฉริยะ แต่การที่เซียวซิงหยูบอกว่าเธอมีโอกาสชนะตั้ง 60-70% ก็ทำให้เฉินฉีเหนียนรู้สึกงงงวย

"เซียวซิงหยู นายบอกอะไรน้องสาวฉันหรอ?"

ก่อนที่มู่หรงซินซินจะขึ้นเวทีหนึ่งนาที เซียวซิงหยูก็ได้เข้าไปกระซิบข้างหูเธอ…เเละมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ว่าเซียวซิง​หยู​พูดอะไร

"พี่ดูการแข่งขันก็รู้เองแหละ" เซียวซิงหยูไม่ได้อธิบาย แต่บอกให้ทุกคนดูการแข่งขัน

……

"ท่านผู้ชมครับ, การต่อสู้​ยกแรกเริ่มขึ้นแล้ว!"

"ค้างคาวปีกกระดูกไม่ได้บุกโจมตีจากด้านหน้า แต่เลือกที่จะอ้อมไปด้านหลัง!"

"ส่วนปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงินไม่ได้ตั้งรับเช่นเดิม แต่มันเลือกที่จะหลบเเล้วครับ!"

การปะทะกันในยกแรก ทำให้ทุกคนรู้สึกงุนงง…จากนั้น​ผู้ชมต่างก็เริ่มพูดคุยกัน

"แปลกมาก ปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงินมีความสามารถ​ลดความเสียหาย 70% ไม่ใช่เหรอ เเล้วทำไมมันต้องหลบด้วย?"

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน…เรามารอดูกันต่อเถอะ..."

บนเก้าอี้กรรมการ ซ่างกวนหลานมองลงมาด้วยแววตาที่เป็นประกาย

"เด็กสาวตระกูลมู่หรง ดูเหมือนจะเจอจุดอ่อนของปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงินแล้ว"

ยีนปีศาจสวรรค์ของปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงิน ทำให้มันสามารถ​ลดความเสียหายได้ 70% จริง…ดังนั้น​ ตามหลักแล้วมันสามารถรับการโจมตีจากอสูรระดับเดียวกันได้สบายๆ

ส่วนสาเหตุที่มันเลือกที่จะหลบ ก็เพราะส่วนหางของมันคือจุดอ่อน…มีเพียงส่วนหางเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลจากการลดความเสียหาย 70%

กล่าวคือ การโจมตี​ที่หางคือกุญแจสำคัญในการเอาชนะปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงิน

เซี่ยจงที่กำลังสังเกตอย่างละเอียด ได้ลูบเคราแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

"องค์จักรพรรดินี ดูเหมือนจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำเด็กสาวตระกูลมู่หรงอยู่นะพะยะค่ะ~"

"ผู้เชี่ยวชาญ?....ใครหรือ?"

"เด็กหนุ่มคนนั้น"

เมื่อมองตามนิ้วของเซี่ยจง ซ่างกวนหลานก็หันไปเห็นเซียวซิงหยูอีกครั้ง

"ก่อนเริ่มการแข่งขัน เขาไปกระซิบข้างหูเด็กสาวตระกูลมู่หรง จากมุมนี้ข้าพอจะมองเห็นการขยับปากของเขาได้"

ซ่างกวนหลานรู้ว่าเซี่ยจงสามารถอ่านปากได้

ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียง แต่ถ้าเห็นการขยับปาก เขาก็สามารถแปลเป็นตัวอักษรได้ทันที​

…………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด