บทที่ 114: จักรพรรดินีจะให้ความสนใจอีกครั้ง!
บทที่ 114: จักรพรรดินีจะให้ความสนใจอีกครั้ง!
"เสียงนกหวีดของกรรมการดังขึ้นเเล้วครับ…การแข่งขันยกที่สองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นเเล้ว!"
"ท่านผู้ชมครับ นี่จะต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดราวกับดาวอังคารชนโลกอย่างเเน่นอน!"
"เซี่ยเว่ยอันจะสามารถป้องกันเวที และเอาชนะได้สองยกติดต่อกันหรือไม่?...หรือว่ามู่หรงซินซินจะสามารถแก้แค้นให้พี่ชาย และยึดเวทีได้สำเร็จ?"
"ทุกคนห้ามกระพริบตา อย่าพลาดทุกช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นเด็ดขาดนะครับ!"
ผู้บรรยายพูดอย่างกระตือรือร้น จนทำให้บรรยากาศในสนามเดือดขึ้นไปอีกขั้น
ด้านล่างเวที ในโซนเตรียมตัว
มู่หรงหยางซั่วพลังหมด จนทำได้แค่นั่งพักผ่อนบนเก้าอี้
"อาจารย์เฉิน ผมขอโทษที่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง"
ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่มู่หรงหยางซั่วก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้นี้
การเริ่มต้นที่ไม่ดี ถือเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับการเเข่งขัน..หลังจากแพ้ในยกแรก วิทยาลัยชิงหลงจึงตกเป็นรองอย่างมาก
เเละเมื่อเห็นน้องสาวต้องไปเผชิญหน้ากับเซี่ยเว่ยอันที่เพิ่งเอาชนะตัวเองมา มู่หรงหยางซั่วก็รู้สึกละอายใจยิ่งขึ้นไปอีก
เฉินฉีเหนียนตบบ่ามู่หรงหยางซั่ว เเล้วปลอบใจเขาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
"เธอต้องรู้ว่า แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของการเเข่งขัน"
"และถ้าอยากจะเป็นผู้แข็งแกร่ง เธอก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความพ่ายแพ้"
มู่หรงหยางซั่วรู้ว่าเฉินฉีเหนียนต้องการปลอบใจเขา มุมปากของเขาจึงได้เเต่ยกขึ้นอย่างขมขื่น
เซียวซิงหยูยกมือขึ้นกำหมัด แล้วทุบลงบนอกของมู่หรงหยางซั่วเบาๆ
"พี่หยางซั่ว ถ้าความพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียว ทำให้นายหมดกำลังใจ ผมจะดูถูกพี่นะ"
มู่หรงหยางซั่วยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ พูดติดตลกว่า
"หึๆ…การเสียหน้าต่อหน้านายนี่มันทั้งเจ็บใจเเละทั้งน่าโมโหจริงๆ"
"เเต่ที่พี่แพ้มันก็ไม่แปลกหรอก เซี่ยเว่ยอัน…ก็มีดีเหมือนกัน"
"อืม ฉันรู้ หมอนั่นมันแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อเลย!"
มู่หรงหยางซั่วไม่ได้โกรธที่แพ้ เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาต่อหน้าเซียวซิงหยูและเฉินฉีเหนียนว่าเซี่ยเว่ยอันแข็งแกร่งมาก
การยอมรับความเเข็งเเกร่งของอีกฝ่ายแบบนี้ เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้ยิ่งใหญ่
"เซียวซิงหยู ที่ฉันทำหน้าหงุดหงิดหลังจากแพ้ ไม่ใช่เพราะฉันยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ แต่เป็นเพราะ..."
“เฮ้ออออ…ฉันไม่ขอเล่าละกัน”
"ไม่ต้องเล่าหรอกพี่หยางซั่ว ตอนที่พี่อยู่บนเวที ซินซินเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟังแล้ว"
"นายรู้เรื่องระหว่างน้องสาวฉันกับเซี่ยเหลียนแล้วเหรอ?"
"ใช่ครับ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, มู่หรงหยางซั่วก็มองเซียวซิงหยูด้วยสายตาแปลกๆ
"นายนี่ไม่ธรรมดาเลยนะ น้องสาวฉันไม่เคยบอกความลับพวกนี้ให้ใครฟังเลย…แต่เธอกลับบอกนาย!"
"มันจะเป็นปัญหาหรือเปล่าครับ?"
"ไม่เป็นปัญหาหรอก"
มู่หรงหยางซั่วพูดจบก็ก้มหน้าลง เเล้วอดคิดฟุ้งซ่านไม่ได้
"น้องสาวฉันทำตัวแปลกๆ กับเซียวซิงหยูมากขึ้นทุกที"
"ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะกลายเป็นน้องเขยฉันจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย?"
เซียวซิงหยูไม่ทันสังเกตเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของมู่หรงหยางซั่ว ตอนนี้ความสนใจของเขากลับไปอยู่ที่การแข่งขันบนเวทีแล้ว
ณ เวลานี้การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นเเล้ว!
มู่หรงซินซินอัญเชิญค้างคาวปีกกระดูกออกมา
เเละทันทีที่มันปรากฏตัว, กลิ่นอายแห่งความตายก็แผ่กระจายไปทั่วเวที จนปกคลุมไปทั่วสนามกีฬา
ค้างคาวโครงกระดูกขนาดใหญ่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ในเบ้าตาที่ว่างเปล่าของมันมีเปลวไฟสีเขียวลุกโชน, นี่คือเปลวไฟแห่งความตาย ที่สามารถเผาผลาญวิญญาณของศัตรูได้
ผู้บรรยายตื่นเต้นกับอสูรตัวนี้ จึงตะโกนเสียงดังผ่านไมโครโฟนทันที
"ท่านผู้ชมครับ อสูรประเภทอันเดดนี้ก็เป็นประเภทที่หายากมากเช่นกัน"
"อย่างที่ทุกคนรู้ ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของอสูรประเภทอันเดดก็คือ พวกมันไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดต่อการโจมตีทางกายภาพ"
"การต่อสู้ครั้งนี้อาจจะตัดสินแพ้ชนะได้ยากขึ้นแล้วล่ะครับ!"
การปรากฏตัวของค้างคาวปีกกระดูก ทำให้ผู้ชมส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม
เเน่นอนว่า เสียงเชียร์จากอัฒจันทร์ย่อมดังเข้ามาในหูของเซี่ยเหลียน
"อสูรประเภทอันเดด เท่ห์มาก!"
"ใช่ ตอนที่เปลวไฟแห่งความตายลุกโชน ฉันรู้สึกเหมือนวิญญาณกำลังจะตกนรกเลย"
"คุณหนูมู่หรงมีพรสวรรค์มาก, ในคนรุ่นใหม่ เธอเก่งที่สุดในการควบคุมอสูรประเภทอันเดด!"
ยิ่งผู้คนชื่นชมมู่หรงซินซินมากเท่าไหร่ เซี่ยเหลียนก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้เธอหน้าบึ้งตึง ราวกับเเม่มดตัวร้าย จนตงฟางฉิงที่อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
"เซี่ยเหลียน ฉันได้ยินมาว่าเมื่อหลายปีก่อน เธอกับมู่หรงซินซินเคยแย่งค้างคาวปีกกระดูกกัน"
"เเต่สุดท้ายค้างคาวปีกกระดูกเลือกมู่หรงซินซินเป็นเจ้านายใช่ใหม..."
ตงฟางฉิงยังพูดไม่จบ ก็ถูกเซี่ยเหลียนขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"ถ้าไม่อยากโดนพี่ชายฉันสั่งสอน นายก็หุบปากได้เเล้ว"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ตงฟางฉิงก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เเล้วยกมือขึ้นปิดปาก พยายามเก็บความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ ไม่กล้าถามถึงเรื่องในอดีตอีก
เขาไม่ได้กลัวเซี่ยเหลียน แต่กลัวเซี่ยเว่ยอันพี่ชายของเธอ…นอกจากนี้ยังมีเซี่ยจง ที่ปรึกษาทางทหารของประเทศ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กรรมการ
เซี่ยเหลียนมองไปที่เวทีอีกครั้ง จ้องมองใบหน้าของมู่หรงซินซินที่งดงามกว่าเธอ
จากนั้นเธอก็มองไปที่ค้างคาวปีกกระดูกที่เลื่อนขั้นเป็นระดับเติบโต (ขั้นที่ 3) แล้ว
"ตอนนั้นแกแย่งอสูรของฉันไปต่อหน้าคนมากมาย วันนี้ฉันจะเอาคืนให้สาสม!"
ก่อนเริ่มการแข่งขัน เซี่ยเหลียนได้ขอร้องเซี่ยเว่ยอันให้ช่วยแก้แค้นให้เธอ
ถึงแม้เซี่ยเว่ยอันจะเป็นคนอารมณ์แปรปรวน และเจ้าเล่ห์ แต่ในเรื่องของการตามใจน้องสาว เขาไม่แพ้มู่หรงหยางซั่วเลย
"พี่ชาย จัดการค้างคาวปีกกระดูกให้มันพิการไปเลย สั่งสอนผู้หญิงคนนี้ให้หลาบจำ ทำให้เธอต้องเสียหน้าต่อหน้าผู้ชมนับหมื่น!"
เซี่ยเหลียนยืนอยู่ข้างล่างเวทีด้วยท่าทางปกติ…แต่ความคิดในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท
ถึงแม้เซี่ยเหลียนจะปกปิดสิ่งนี้ได้ดี แต่เซียวซิงหยูก็มองทะลุจิตใจของเธอได้อย่างง่ายดาย
"ดูจากสายตาของเซี่ยเหลียนแล้ว เธอน่าจะเกลียดซินซินเข้ากระดูกดำเลย"
"เเละถ้าเซี่ยเว่ยอันเป็นพวกตามใจน้องสาวเหมือนพี่หยางซั่วล่ะก็ ซินซินคงลำบากเเน่ๆ..."
เซียวซิงหยูแอบกำมือแน่นด้วยความเป็นห่วงมู่หรงซินซิน
เเละทันใดนั้น เสียงของอาจารย์เฉินฉีเหนียนก็ดังมาจากด้านหลัง
"นายคิดว่า มู่หรงซินซินมีโอกาสชนะกี่เปอร์เซ็นต์?"
"ถ้าซินซินทำตามที่ผมบอก ก็น่าจะมีโอกาสชนะ 60-70%"
"60-70%?"
เฉินฉีเหนียนรู้สึกประหลาดใจกับคำตอบของเซียวซิงหยูเล็กน้อย
เพราะมู่หรงหยางซั่วเพิ่งพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยเว่ยอันอย่างย่อยยับ, ดังนั้นถึงแม้มู่หรงซินซินจะเป็นอัจฉริยะ แต่การที่เซียวซิงหยูบอกว่าเธอมีโอกาสชนะตั้ง 60-70% ก็ทำให้เฉินฉีเหนียนรู้สึกงงงวย
"เซียวซิงหยู นายบอกอะไรน้องสาวฉันหรอ?"
ก่อนที่มู่หรงซินซินจะขึ้นเวทีหนึ่งนาที เซียวซิงหยูก็ได้เข้าไปกระซิบข้างหูเธอ…เเละมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ว่าเซียวซิงหยูพูดอะไร
"พี่ดูการแข่งขันก็รู้เองแหละ" เซียวซิงหยูไม่ได้อธิบาย แต่บอกให้ทุกคนดูการแข่งขัน
……
"ท่านผู้ชมครับ, การต่อสู้ยกแรกเริ่มขึ้นแล้ว!"
"ค้างคาวปีกกระดูกไม่ได้บุกโจมตีจากด้านหน้า แต่เลือกที่จะอ้อมไปด้านหลัง!"
"ส่วนปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงินไม่ได้ตั้งรับเช่นเดิม แต่มันเลือกที่จะหลบเเล้วครับ!"
การปะทะกันในยกแรก ทำให้ทุกคนรู้สึกงุนงง…จากนั้นผู้ชมต่างก็เริ่มพูดคุยกัน
"แปลกมาก ปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงินมีความสามารถลดความเสียหาย 70% ไม่ใช่เหรอ เเล้วทำไมมันต้องหลบด้วย?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน…เรามารอดูกันต่อเถอะ..."
บนเก้าอี้กรรมการ ซ่างกวนหลานมองลงมาด้วยแววตาที่เป็นประกาย
"เด็กสาวตระกูลมู่หรง ดูเหมือนจะเจอจุดอ่อนของปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงินแล้ว"
ยีนปีศาจสวรรค์ของปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงิน ทำให้มันสามารถลดความเสียหายได้ 70% จริง…ดังนั้น ตามหลักแล้วมันสามารถรับการโจมตีจากอสูรระดับเดียวกันได้สบายๆ
ส่วนสาเหตุที่มันเลือกที่จะหลบ ก็เพราะส่วนหางของมันคือจุดอ่อน…มีเพียงส่วนหางเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลจากการลดความเสียหาย 70%
กล่าวคือ การโจมตีที่หางคือกุญแจสำคัญในการเอาชนะปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงิน
เซี่ยจงที่กำลังสังเกตอย่างละเอียด ได้ลูบเคราแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
"องค์จักรพรรดินี ดูเหมือนจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำเด็กสาวตระกูลมู่หรงอยู่นะพะยะค่ะ~"
"ผู้เชี่ยวชาญ?....ใครหรือ?"
"เด็กหนุ่มคนนั้น"
เมื่อมองตามนิ้วของเซี่ยจง ซ่างกวนหลานก็หันไปเห็นเซียวซิงหยูอีกครั้ง
"ก่อนเริ่มการแข่งขัน เขาไปกระซิบข้างหูเด็กสาวตระกูลมู่หรง จากมุมนี้ข้าพอจะมองเห็นการขยับปากของเขาได้"
ซ่างกวนหลานรู้ว่าเซี่ยจงสามารถอ่านปากได้
ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียง แต่ถ้าเห็นการขยับปาก เขาก็สามารถแปลเป็นตัวอักษรได้ทันที
…………………….