ตอนที่ 153: ฉันจะถักเสื้อไหมพรมให้พี่หานไปตลอดชีวิต
เมื่อมาถึงห้องครัว หานซานเห็นคุณตาของเขายืนเหม่อมองอ่างล้างจาน เขาถามด้วยเสียงแผ่วเบา “ตาครับ ตาจะไปกับพวกเราหรือเปล่า?” หลังจากที่คุณยายของเขาเสียชีวิต คุณตาก็ไปเยี่ยมหลุมศพของคุณยายแค่ครั้งเดียวและไม่เคยไปอีกเลย
หานอาอวี่ยกมือโบกเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่ไปหรอก พวกแกไปกันเองกับยัยหนูซ่งก็แล้วกัน” การไปเห็นสุสานที่เย็นเฉียบทำให้หานอาอวี่รู้สึกไม่สบายใจ เขาแก่แล้วและไม่สามารถทนกับความสะเทือนใจแบบนั้นได้อีก
“ได้ครับ ผมจะไปกับซ่งซีเอง”
หานซานเดินไปตบบ่าคุณตาเบา ๆ และบีบมันแน่น ก่อนจะเดินจากไป
เนินเขาที่ครอบครัวหานซานอาศัยอยู่นั้นเป็นพื้นที่ทั้งหมดของหานอาอวี่ เมื่อคุณยายเสียชีวิต ท่านไม่ได้ถูกเผาแต่ถูกฝังไว้ที่ยอดเนินเขา บริเวณกลางเนินมีที่จอดรถ และรถยนต์จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ
ทุกคนลงจากรถและปีนบันไดหินขึ้นไปกว่าร้อยขั้น ในที่สุดก็ถึงหลุมศพของคุณยายหลินต้วนฟาง
นี่เป็นสุสานที่ดูสงบและเรียบร้อย ด้านขวาเป็นป้ายหลุมศพของคุณยาย และด้านซ้ายเป็นพื้นที่ว่างที่ถูกสงวนไว้สำหรับหลุมศพของหานอาอวี่ ป้ายหลุมศพถูกดูแลอย่างดี พื้นผิวหินแกรนิตสีดำสนิทสลักด้วยตัวอักษรสีทอง
มุมขวาบนของป้ายหลุมศพมีรูปภาพของคุณยายในช่วงบั้นปลายชีวิต ในภาพ คุณยายสวมเสื้อไหมพรมสีเทาอ่อนกับกระโปรงลายดอกสีน้ำเงิน ท่านสวมแว่นสายตาและมองกล้องด้วยสายตาสงบนิ่งและสง่างาม
จงปู๋ฮุ่ยวางโต๊ะสี่เหลี่ยมไว้หน้าหลุมศพ หานซานจัดวางอาหารที่หานอาอวี่ทำด้วยตนเองลงบนโต๊ะ โต๊ะถูกวางเต็มไปด้วยอาหารที่คุณยายชอบทานตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
“คุณยายครับ ผมซานซานเอง” หานซานสูดหายใจลึกก่อนจะวางทุเรียนลูกหนึ่งลงบนโต๊ะ “คุณตาฝากให้ผมนำทุเรียนมาให้คุณยายครับ ปีนี้ทุเรียนแพงมาก คุณตายังแซวคุณยายว่าคุณยายชอบใช้เงินเก่ง ขนาดจากไปแล้วยังทำให้กระเป๋าสตางค์ของเขาเบาหวิวได้อีก”
ได้ยินดังนั้น ซ่งซี จงปู๋ฮุ่ย และคนอื่น ๆ ก็ยิ้มออกมา
หานซานจุดธูปสามดอก เดินไปที่ป้ายหลุมศพ คุกเข่าลง กราบสามครั้ง แล้วปักธูปลงในกระถาง เขามองรูปถ่ายคุณยายบนป้ายหลุมศพแล้วพูดว่า “คุณยายครับ ตอนนี้ผมแต่งงานแล้ว วันนี้พาภรรยามาให้คุณยายดูครับ”
หานซานหันกลับไปมองซ่งซีที่ยืนอยู่ด้านหลังอย่างว่าง่ายพร้อมก้มหน้านิด ๆ ทำให้หัวใจของเขาอ่อนยวบลง “เธอชื่อซ่งซีครับ เธอสวยมาก แถมยังเก่งอีกด้วย เธอถักไหมพรม ทำอาหาร และขับเครื่องบินได้ เธอเหมือนคุณยายครับ— ทั้งสองคนชอบทุเรียนเหมือนกัน”
“เหมือนกับคุณตา ผมเองก็หาภรรยาที่ชอบใช้เงินเก่งเหมือนกันครับ” หานซานหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “คุณยายครับ ถ้าคุณยายยังอยู่บนสวรรค์ ขอให้คุณยายอวยพรให้ซานซานและซ่งซีได้อยู่ด้วยกันตลอดไปนะครับ”
ซ่งซีที่ยืนอยู่ด้านข้างหน้าแดงระเรื่อกับคำพูดของหานซาน
หานซานส่งธูปสามดอกให้ซ่งซี “เบบี้ซี ไหว้คุณยายหน่อยสิครับ”
ซ่งซีคุกเข่าลงข้างหานซาน จุดธูปแล้วถือไว้อยายงนอบน้อม เธอมองภาพถ่ายคุณยายที่ดูสง่างามในช่วงวัยชรา ก่อนจะเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาแน่วแน่ของหานซานที่นั่งอยู่ข้างเธอ ภาพความทรงจำบางอย่างค่อย ๆ ผุดขึ้นมาในหัวของซ่งซี...
แปดปีก่อน ในตอนที่เกิดแผ่นดินไหว ซ่งซีถูกซ่งเฟยผลักเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่บ้านจะถล่มลงมา แต่เพราะห้องน้ำมีโครงสร้างรับน้ำหนักได้ดี จึงพังลงมาเพียงบางส่วนเท่านั้น ซ่งซีซ่อนตัวอยู่ในมุมที่ลึกที่สุด แม้หลังส่วนล่างจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่สาหัสมาก
ซ่งซีถูกขังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง มองไม่เห็นแสงสว่าง และไม่มีอะไรให้กินหรือดื่ม หลังจากผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ในที่สุดก็มีแสงสว่างส่องเข้ามา เธอลืมตาที่หนักอึ้งอย่างช้า ๆ และหันกลับไปมองอย่างยากลำบาก เห็นเป็นเงาราง ๆ ของชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดลายพราง
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น แม้แต่คิ้วยังเปื้อนไปหมด
เมื่อเห็นซ่งซีลืมตาและยังมีชีวิตอยู่ ในที่สุดรอยยิ้มแห่งความโล่งใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันเคร่งเครียดที่เต็มไปด้วยฝุ่นสีเทาของเขา หลังจากพบเจอแต่ศพมามากมาย การได้เห็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เหมือนแสงแห่งความหวัง
“แม่หนู ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะช่วยหนูเดี๋ยวนี้ หนูจะปลอดภัยแล้ว!” เขาขยับแผ่นคอนกรีตที่ทับอยู่บนเอวของเธอออก เขาเพิ่งจะประคองไหล่เธอไว้ได้ไม่นาน พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้ง
ทันใดนั้น อาคารทั้งหลังก็พังถล่มลงมาพร้อมเสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่ว ขณะที่สิ่งปลูกสร้างถล่มลงมา ชายคนนั้นยืนอยู่ข้างหลังเธอและใช้ตัวบังเธอเอาไว้!
ชีวิตของฉัน... ได้มาจากหานซาน...
ซ่งซีรู้สึกพร่ามัวไปหมดอีกครั้ง
เธอยกธูปสามดอกขึ้นเหนือหัว ก้มกราบคุณยายอย่างลึกซึ้ง เสียงหน้าผากกระทบพื้นดัง ตุบ แผ่วเบา หานซานเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเตือนเธอว่า “เบบี้ซี ไม่ต้องก้มแรงขนาดนั้นก็ได้”
ซ่งซีค่อย ๆ เงยหลังขึ้นตรง ก่อนจะก้มกราบแรงอีกครั้ง
หานซานขมวดคิ้ว คิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้ห้ามเธอ จากนั้นซ่งซีก็พูดกับคุณยายว่า “คุณยายคะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ซ่งซีคนนี้จะดูแลหานซานให้ดีที่สุดตลอดไป ต่อไปนี้ฉันจะถักเสื้อไหมพรมให้พี่หานไปตลอดชีวิตเลยค่ะ”
คำพูดของซ่งซีทำให้หัวใจของหานซานอบอุ่นขึ้นมาทันที
ระหว่างทางกลับลงจากเนิน ซ่งซีดึงมือหานซานที่กำลังจะขึ้นรถแล้วพูดว่า “พี่หาน เดินลงไปกับฉันหน่อยได้ไหมคะ ไหน ๆ ก็ไม่ไกลเท่าไหร่ เดินเล่นบ้างก็ดีนะ”
หานซานก้มลงมองเท้าของเธอด้วยความเป็นห่วง “นิ้วเท้าไม่เจ็บแล้วเหรอ?”
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ”
หานซานจึงหันไปบอกฟางเสิ่นว่า “ลุงฟาง ขับรถของผมลงไปรอก่อนนะครับ เดี๋ยวผมกับซ่งซีจะเดินลงไปเอง”
“ได้ครับ”
หลังจากรถทุกคันขับลงไปหมดแล้ว ซ่งซีกับหานซานก็จับมือกันเดินลงจากเนินไปตามถนนลาดยาง หานซานเติบโตบนเนินเขาแห่งนี้ เขาจึงคุ้นเคยกับต้นไม้ใบหญ้าทุกชนิดที่นี่เป็นอย่างดี
เดินมาถึงทางโค้ง หานซานดึงซ่งซีไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง “ต้นหอมหมื่นลี้ต้นนี้ใหญ่มากเลยนะ ตอนอยู่บนเขาฉันก็ได้กลิ่นหอมหมื่นลี้ลอยมา” ซ่งซีกางแขนออกพยายามจะโอบรอบลำต้น แต่โอบไม่ถึง
หานซานเดินเข้าไปหาเธอ กางแขนยาวของเขาออกและแตะปลายนิ้วของซ่งซีเอาไว้ ทั้งคู่ช่วยกันโอบลำต้นหนาของต้นหอมหมื่นลี้ ซ่งซีเงยหน้ามองต้นไม้ที่สูงตระหง่านนี้ แล้วพูดว่า “มันคงแก่กว่าพวกเราสองคนรวมกันอีกนะ”
หานซานลดมือลงก่อนจะเดินมายืนข้างซ่งซี เขาพูดว่า “ต้นหอมหมื่นลี้ต้นนี้อายุ 200 ปีแล้ว ตอนเด็ก ๆ ฉันมักจะปีนขึ้นไปหานกไข่”
หานซานเอามือบังแสงแดดที่ส่องลงมาแรง เขาแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ยอดต้นไม้ พยายามเพ่งหาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “มีรังนกอยู่บนนั้น ฉันจะขึ้นไปดูว่ามีไข่นกหรือเปล่า”
หานซานถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกแล้วยื่นให้ซ่งซี จากนั้นเขาพับขากางเกงขึ้นก่อนจะปีนขึ้นต้นไม้อยายงคล่องแคล่ว ซ่งซีเห็นแล้วกลัวว่าเขาจะตก จึงรีบตะโกนเตือน “พี่หาน ระวังเหยียบให้มั่นนะ อย่าเหยียบกิ่งที่ไม่แข็งแรงล่ะ”
“ไม่ต้องห่วง”
หานซานเป็นนักปีนต้นไม้มือฉมังและเคลื่อนไหวได้มั่นคงมาก
ซ่งซีมองการกระทำของเขาแล้วอดบ่นไม่ได้ว่า “พี่หาน ทำไมปีนต้นไม้แล้วดูเหมือนลิงไม่มีผิดเลย”
หานซานเกือบเหยียบพลาดทันที
เขาตะโกนลงมาว่า “หุบปากเลย!”
ซ่งซีรีบปิดปากทันที
หานซานนั่งยอง ๆ อยู่บนกิ่งไม้และก้มลงไปดูในรังนก เขาเห็นไข่สีขาวสามฟองและหันไปบอกซ่งซีว่า “มีไข่อยู่สามฟอง!”
ซ่งซีดีใจมาก “เอาลงมาเลย!”
“ได้เลย”
หานซานใช้แขนซ้ายโอบกิ่งไม้ที่อยู่เหนือศีรษะไว้ แล้วยื่นมือขวาไปหยิบไข่จากรังนกอยายงง่ายดาย เขาใส่ไข่ลงในกระเป๋ากางเกงและพยายามมองหารังนกอื่น แต่ก็ไม่เจออีก
“ไม่มีแล้วล่ะ”
ซ่งซีโบกมือเรียกเขา “งั้นลงมาได้แล้ว”
หานซานจึงค่อย ๆ ปีนลงจากต้นไม้ เมื่อเท้าถึงพื้น เขาหยิบไข่นกออกมายื่นให้ซ่งซีอยายงภาคภูมิใจราวกับยื่นสมบัติล้ำค่าให้เธอ “ไข่ทั้งหมดนี้เป็นของเธอนะ”