ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 370 เลือกพื้นที่

ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 370 เลือกพื้นที่

เหล่าผู้บำเพ็ญมากกว่าร้อยคนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ แต่กลับไม่แออัดแม้แต่น้อย เพราะพื้นที่ภูเขานี้กว้างขวางอย่างยิ่ง

ผู้คนมากมายต่างก็เป็นครั้งแรกที่เดินทางมายังดินแดนทดสอบที่แข็งแกร่งที่สุด สายตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เบื้องหน้าเป็นพื้นที่พร่ามัวมากมาย มีแสงเทพหลากสีสันไหลเวียน ไม่อาจมองเห็นรูปร่างที่แท้จริง ราวกับกำลังมองดวงดาวมากมายในส่วนที่ลึกที่สุดของจักรวาล

ระหว่างพื้นที่แต่ละแห่ง มีกลิ่นอายปราณที่น่ากลัวปกคลุม หากก้าวเข้าไปโดยพลการ จะต้องพบเจอกับพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้ พลังอำนาจลดลงอย่างมาก

หากพบเจอกับผู้บำเพ็ญในระดับตบะเดียวกัน จะต้องระเบิดออกอย่างแน่นอน ไม่มีทางรอดชีวิตได้ ท้ายที่สุด ผู้บำเพ็ญที่นี่ ล้วนเป็นอัจฉริยะฟ้าประทาน ในระดับตบะเดียวกัน ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวอ้างตนว่าไร้เทียมทาน

"เอาล่ะ เบื้องหน้าก็คือดินแดนทดสอบที่แข็งแกร่งที่สุดบนเส้นทางต้นกำเนิด ที่นั่นพวกเจ้าจะได้พบเจอกับการสังหารที่ไร้ขอบเขต เลือดและไฟที่ไร้ที่สิ้นสุด และยังคงจะต้องพบเจอกับความสิ้นหวังอีกด้วย"

"ตอนนี้ หากคิดให้ดีแล้ว ก็ยังคงสามารถถอยได้"

หน่วยลาดตระเวนที่สวมชุดเกราะทองคำกล่าวอย่างเย็นชา มอบคำแนะนำสุดท้ายให้กับเหล่าผู้บำเพ็ญที่นี่

เมื่อก้าวเข้าไปในดินแดนทดสอบที่แข็งแกร่งที่สุด อาจจะได้พบเจอกับสัตว์ร้ายที่น่ากลัว สามารถฉีกกระชากผู้บำเพ็ญระดับจักรพรรดิได้อย่างง่ายดาย กระทั่งยังคงมีสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งกว่าระดับจักรพรรดิ ซ่อนตัวอยู่ในเขตแดนอันตราย

แน่นอน สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ก็คืออัจฉริยะฟ้าประทานมากมายที่อยู่ภายใน

นี่คือความอันตรายที่แท้จริงของดินแดนทดสอบที่แข็งแกร่งที่สุด

ราวกับการเลี้ยงกู่ เลี้ยงสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา!

"มีสิ่งใดต้องคิดเล่า พวกเราผู้บำเพ็ญ ไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใด"

"ข้าไปก่อน!" อัจฉริยะฟ้าประทานระดับกึ่งจักรพรรดิระยะปลายคนหนึ่งกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม ท่วงท่าสง่างาม มีแสงสลัว ๆ ไหลเวียนอยู่บนร่างกาย เลือกช่องทางเส้นทางหนึ่ง ก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล ไม่สนใจความเป็นความตาย

หน่วยลาดตระเวนพยักหน้าเล็กน้อย แสดงความชื่นชมออกมาเล็กน้อย

ในตอนนั้น เขาก็ยังคงต่อสู้ในดินแดนทดสอบที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่ได้ออกจากเส้นทางต้นกำเนิด เลือกที่จะอยู่ที่นี่ กลายเป็นหน่วยลาดตระเวน

ไม่นานนัก อัจฉริยะฟ้าประทานคนอื่น ๆ ก็เลือกพื้นที่ของตนเอง ผู้ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ต่างก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยง

การต่อสู้บนเส้นทางจักรพรรดิ บางครั้งหากแข็งกร้าวเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องดี จะต้องพบเจอกับความพ่ายแพ้

มีพื้นที่ทั้งหมดสามสิบหกแห่ง ไม่มีผู้ใดรู้ว่าพื้นที่ใดอันตรายกว่ากัน เพราะไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายได้

"กู้ฉางเซิง เจ้าเลือกพื้นที่ใด" ในเวลานั้น มีผู้บำเพ็ญคนหนึ่งเอ่ยถาม เป็นหญิงสาว สวมชุดสีม่วง ใบหน้าสะสวย มีระดับตบะกึ่งจักรพรรดิระยะปลาย ในดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

"หรือว่าเจ้าจะรอให้พวกเราเลือกก่อน แล้วเจ้าค่อยหลีกเลี่ยง?" มีผู้บำเพ็ญอีกคนหนึ่งกล่าวอย่างเยาะเย้ย จิตสังหารแผ่กระจาย เป็นชายชุดดำ ระดับตบะกึ่งจักรพรรดิระยะปลายเช่นกัน

รวมไปถึงจ้าวเทียนหลาง มีผู้บำเพ็ญทั้งหมดสิบสองคน ล้วนอยู่ข้างกายกู้ฉางเซิง รอคอยให้เขาเลือกพื้นที่ ต้องการที่จะลงมือสังหารกู้ฉางเซิงหลังจากเข้าไปในดินแดนทดสอบ เพื่อกำจัดภัยคุกคามในอนาคต

เมื่อเห็นเช่นนั้น อัจฉริยะฟ้าประทานมากมายที่ยังไม่ได้เลือกพื้นที่ ต่างก็แสดงความประหลาดใจและอยากรู้อยากเห็นออกมา

"กู้ฉางเซิง ครั้งนี้เจ้าไม่รอดแน่ พวกเขาไม่สามารถสังหารเจ้าได้ ก็ยังคงมีข้า" บุตรกิเลนทองดวงตาราวกับตะเกียงเทพสองดวง สว่างไสว ยืนมือไพล่หลังเอาไว้ แสงทองคำเจิดจรัส ราวกับเทพหนุ่ม เส้นผมราวกับกำลังลุกไหม้ ทำให้ความว่างเปล่าพร่ามัว

เขากับสหาย ก็ยังคงมองดูอยู่ไม่ไกล แสดงความสนใจออกมา

"กึ่งจักรพรรดิระยะปลายสี่คน กึ่งจักรพรรดิระยะสูงสุดเจ็ดคน และยังคงมีอัจฉริยะฟ้าประทานผู้ยิ่งใหญ่ที่มีพลังระดับจักรพรรดิอยู่ในลำดับที่ยี่สิบเอ็ดอีกหนึ่งคน"

สหายของบุตรกิเลนทองพยักหน้า ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

การรวมตัวเช่นนี้ แม้แต่เขาก็ยังคงต้องหาวิธีหลบหนี ไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้

แม้ว่ากู้ฉางเซิงจะแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของคนกลุ่มนี้

นี่ไม่ต่างจากการรังแก!

พลังอำนาจของคนกลุ่มนี้ สามารถสังหารผู้บำเพ็ญระดับจักรพรรดิได้อย่างง่ายดาย

จ้าวเทียนหลางผู้นั้น สามารถอยู่ในลำดับที่ยี่สิบเอ็ดของรายนามกึ่งจักรพรรดิ ย่อมต้องมีความแข็งแกร่งและความพิเศษของเขา

"กล่าวจบแล้วหรือไม่? หากกล่าวจบแล้ว ก็รีบเลือกพื้นที่เสีย ข้าจะได้ส่งพวกเจ้าลงนรก เป็นการประหยัดเวลาข้า" กู้ฉางเซิงสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง สงบนิ่งเช่นเคย

ผู้คนมากมายต่างก็ตกใจ ท้ายที่สุดเขาก็ยังคงเป็นทายาทตระกูลกู้ ในเวลานี้ก็ยังคงแข็งแกร่ง ไม่มีความเกรงใจใด ๆ

"ฮ่า ฮ่า พวกเรากลับกลัวว่าจะเป็นเจ้าที่ไม่กล้ามา" หญิงสาวชุดม่วงที่เพิ่งจะกล่าวเมื่อครู่กล่าวออกมา ไม่พอใจสายตาที่กู้ฉางเซิงมองพวกเขา ดูถูกเหยียดหยามและไม่ใส่ใจ

ราวกับมองก้อนหินข้างทาง สามารถเตะจนกระเด็นได้ตลอดเวลา

"หยูเยี่ยน เจ้าเข้าไปก่อน พวกเรารอเขาอยู่ที่นี่ คาดว่าเขาคงจะไม่กล้าไปยังพื้นที่อื่น" ชายชุดดำกล่าว ที่หว่างคิ้วมีลวดลายพรสวรรค์ส่องประกาย ปลดปล่อยแรงกดดันที่น่ากลัวออกมา

พวกเขามีคนมากมาย ในเวลานี้ยังคงสามารถกดข่มกู้ฉางเซิงได้

เพียงแต่กลัวว่าหากต้องพบเจอกันเพียงลำพัง จะไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

"เช่นนั้นก็ดี ข้าเข้าไปก่อน เพียงแต่กลัวว่าเจ้าจะไม่กล้ามาจริง ๆ" หญิงสาวที่ชื่อหยูเยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชา มั่นใจว่ากู้ฉางเซิงจะต้องไม่กล้า

จากนั้นชุดของนางก็พลิ้วไสว มุ่งหน้าไปยังพื้นที่แห่งหนึ่ง แสงสว่างไหลเวียน ร่างของนางหายไป ไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์ภายในได้

"เขตที่แปดหรือ?" กู้ฉางเซิงสีหน้ายังคงสงบนิ่ง กระทั่งยังคงสามารถเรียกว่าเย็นชา ไม่กลัวว่าคนอื่นจะไม่ติดตามมา ชุดขาวยาวพลิ้วไสว ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย ชั่วขณะถัดมาก็ก้าวเข้าไป

"ทายาทตระกูลกู้ผู้นี้ ค่อนข้างน่าสนใจ" หน่วยลาดตระเวนดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย พยักหน้า

"เขากลับเข้าไปจริง ๆ หรือว่าเขามั่นใจจริง ๆ?" อัจฉริยะฟ้าประทานมากมายเห็นเช่นนั้น ต่างก็ตกใจ

"เยี่ยมมาก!"

"เขารนหาที่ตาย! ช่างโง่เง่าจริง ๆ! กระทั่งยังคงไม่เข้าใจกลอุบาย!"

เมื่อเห็นเช่นนั้น จ้าวเทียนหลางและคนอื่น ๆ ต่างก็ยิ้มออกมา คนที่เหลืออีกสิบเอ็ดคน ไม่ได้รอช้า ความเร็วสูงยิ่งนัก ราวกับกลัวว่ากู้ฉางเซิงจะหลบหนี มุ่งหน้าเข้าไป ต้องการที่จะร่วมมือกันสังหารเขา

เหล่าผู้บำเพ็ญมากมายที่นี่ ต่างก็อยากรู้อยากเห็น รีบติดตามเข้าไป

"กู้ฉางเซิง เจ้ากลับกล้าเข้ามาจริง ๆ ไม่กลัวตายหรือ?" หยูเยี่ยนเพิ่งจะหายตัวไปจากช่องทางมิติ ยังไม่ทันได้เดินไปสองก้าว ก็รู้สึกถึงกลิ่นอายปราณที่ปั่นป่วนอยู่เบื้องหลัง เป็นกู้ฉางเซิงที่ติดตามเข้ามา

บนใบหน้าของนางทันใดนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มเย็นชาออกมา

ทว่ารอยยิ้มนี้กลับแข็งค้างในทันที ดวงตาเบิกกว้าง จากนั้นก็กลายเป็นความหวาดกลัวและสิ้นหวังอย่างที่สุด!

"ไม่......"

กู้ฉางเซิงก้าวเดิน ความเร็วดูเหมือนจะไม่มากนัก แต่กลับหายตัวไป ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าหยูเยี่ยน

จากนั้นก็ชกหมัดลงมา ตราประทับหมัดไร้เทียมทาน ปลดปล่อยปราณโลหิตปฐมโกลาหลที่น่ากลัวออกมา บดขยี้ลงมา

เสียงดังตู้ม! หินสั่นสะเทือน แปดทิศสั่นไหว โลหิตสาดกระเซ็น เศษกระดูกกระจาย หมอกโลหิตปกคลุมท้องฟ้า

หญิงสาวที่ชื่อหยูเยี่ยนถูกซัดจนกลายเป็นหมอกโลหิต แม้แต่วิญญาณก่อกำเนิดระดับกึ่งจักรพรรดิระยะปลาย ก็ยังคงถูกทำลาย ร่างกายและวิญญาณแตกดับในทันที

จนกระทั่งตาย นางก็ยังคงไม่ทันได้รู้สึกตัว กู้ฉางเซิงลงมืออย่างเด็ดขาด ไม่มอบโอกาสใด ๆ ให้กับนาง

ตอนนี้ มีเพียงความเสียใจเท่านั้น ที่ติดตามนางไปจนตาย ไม่สลายหายไป

"เจ้า......"

ชายชุดดำที่อยู่เบื้องหลังก้าวเข้ามา หวาดกลัวอย่างยิ่ง ร่างกายเย็นยะเยือก สิ่งที่เขาเห็นก็คือกู้ฉางเซิงลงมือ ตราประทับหมัดปกคลุมฟ้าดิน หมัดหนึ่งตกลงมา หมอกโลหิตปกคลุม หยูเยี่ยนตายในทันที

เขากลัวอย่างยิ่ง ไม่รู้ตัวว่าถอยหลัง ผลลัพธ์ความเร็วกู้ฉางเซิงกลับเร็วกว่า เสียงดังตู้ม สะบัดฝ่ามือไปด้านหลัง ปราณปฐมโกลาหลปกคลุม ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ราวกับจักรวาลหนึ่งกดทับลงมา

ชายชุดดำใช้ทุกวิถีทางในการต้านทาน แต่กลับ ถูกตบจนกลายเป็นหมอกโลหิต ร่างกายและวิญญาณแตกดับ เช่นเดียวกับหยูเยี่ยน ตายในทันที