บทที่ 46 การต่อสู้บนภูเขาหิมะ, รายนามปราบอสูร
บทที่ 46 การต่อสู้บนภูเขาหิมะ, รายนามปราบอสูร
ราชาของพวกเขา
หายไปแล้ว?
ทุกคนมองดูซูจี้เหนียนอย่างเหม่อลอย มนุษย์ผู้นี้ช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง!
เขาคงไม่ใช่แค่มหาปรมาจารย์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์สินะ? มิเช่นนั้นเขาจะสามารถเผชิญหน้ากับวงเวทย์สังหารเทพมารและราชาของพวกเขาได้อย่างไร?
ซูจี้เหนียนก้มหน้าลงมองดูเทพและมารเหล่านี้ ไม่สนใจพวกเขา ตอนนี้ซูจี้เหนียนอารมณ์ไม่ดี สมบัติในประตูแห่งหลัว กลับเป็นเพียงแค่เศษเหล็ก
เรื่องนี้ทำให้ซูจี้เหนียนรู้สึกหงุดหงิดมาก
แม้ว่าเขาจะได้รับพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งและวิชาฝึกฝนวิญญาณของราชาเทพตั้วหมัวซือมา แต่ซูจี้เหนียนกลับไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ เขาต้องการเพียงแค่เงิน!
ต้องการเงินมากมาย!
ต้องการเงินมากกว่านี้!
เขาบินออกจากประตูแห่งหลัวโดยตรง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญเผ่าพันธุ์หลัวผู้นั้นก็ยังไม่ทันสังเกตเห็นว่าซูจี้เหนียนบินออกมา ลังจากมองดูภูเขาหิมะที่กว้างใหญ่ ซูจี้เหนียนก็ถอนหายใจ ยังดีที่เขาทำภารกิจร้อยปีสำเร็จ เชื่อว่าราชวงศ์ต้องให้รางวัลที่ดีกับเขา
กลับไปส่งภารกิจก่อนเถอะ
ซูจี้เหนียนกำลังจะกลับไป แต่ในเวลานี้เอง ภูเขาทั้งลูกก็สั่นสะเทือน ซูจี้เหนียนขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้น? แผ่นดินไหวหรือ?
“ตูม!”
ในเวลานี้เอง กระบี่แสงก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า กระบี่แสงนั้นฟันเมฆบนท้องฟ้าจนแตกสลาย เสียงกระบี่ดังก้องไปทั่วสวรรค์ ซูจี้เหนียนเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นร่างหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ ในมือถือกระบี่สายฟ้า กระบี่นี้ฟันลงมา ก็มีพลังทำลายล้างที่น่าตกใจ!
กระบี่ทะลายสวรรค์!
เสื้อผ้าของคนผู้นี้ปลิวไสว ตรงข้ามกับเขามีปูเจียวซีขนาดใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง ร่างกายขนาดใหญ่โตนั้นราวกับภูเขา ในเวลานี้มันช่างดูน่ากลัว บนก้ามปูขนาดใหญ่นั้นมีสายฟ้าแล่นอยู่ เวลามันฟาดก้ามของมันลงมา แม้แต่มิติก็ยังแตกสลาย!
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ในเวลานี้พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน!
“หลี่เจี้ยนซิน?”
คนผู้นี้ไม่ใช่หลี่เจี้ยนซินแล้วจะเป็นใคร? ครึ่งก้าวปรมาจารย์ผู้นี้ได้ก้าวเข้าสู่ระดับสูงสุดแล้ว การลงมือของเขานั้นน่าตกใจยิ่งนัก ราวกับราชาแห่งอัสนี กระบี่แต่ละเล่มล้วนมีพลังทำลายล้างเหมือนสายฟ้า!
และด้านหลังหลี่เจี้ยนซินยังมีกลีบบัวเก้ากลีบเบ่งบาน นั่นคือการแสดงออกของพลังที่อยู่ในระดับสูงสุด!
มันคือเครื่องพิสูจน์ว่าเขาเป็นครึ่งก้าวปรมาจารย์!
แต่สิ่งที่ซูจี้เหนียนไม่คิดก็คือ ปูเจียวซีที่อยู่ตรงข้ามกลับแข็งแกร่งมากเช่นกัน กระดองที่น่ากลัวนั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง มันสามารถต้านทานกระบี่แสงของหลี่เจี้ยนซินได้ และก้ามปูก็มีพลังทำลายล้างที่น่าตกใจ
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ซูจี้เหนียนยืนอยู่ไม่ไกล มองดูการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย นี่เป็นครั้งแรกที่ซูจี้เหนียนเห็นผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์ต่อสู้กัน มนุษย์กับสัตว์อสูรคู่นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอหลังจากมาถึงโลกนี้
เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว เฟิงอี๋ไห่ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย คนผู้นั้นสามารถถูกฆ่าตายได้ภายในพริบตา
“ตูม!”
เสียงดังสนั่น ราวกับว่ามิติจะถูกฉีกกระชาก ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ก้ามปูขนาดใหญ่ถูกกระบี่แสงที่แข็งแกร่งของหลี่เจี้ยนซินต้านทานไว้ หลี่เจี้ยนซินกระเด็นถอยหลังไปหลายร้อยจั้ง ปราณยุทธ์ของเขายังคงแข็งแกร่ง สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่เคร่งขรึมมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าปูเจียวซีตัวนี้จะแข็งแกร่งขนาดนี้
ส่วนในใจของปูเจียวซีก็ตกใจมากเช่นกัน!
“มนุษย์ เจ้าแข็งแกร่งมาก ในบรรดามนุษย์ทั้งหมด เจ้านับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุด แต่เพียงแค่ตัวเจ้าคนเดียวต้องการสังหารข้า ย่อมเป็นไปไม่ได้ ข้าแนะนำให้เจ้ารีบจากไปเสียเถอะ ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า” ปูเจียวซีพูดกับหลี่เจี้ยนซินอย่างใจเย็น
“วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อเขาอัสนีของเจ้า ไม่ได้ต้องการชีวิตของเจ้า หากเจ้ามอบเขาอัสนีให้ข้า ข้าย่อมยินดีจากไป”
หลี่เจี้ยนซินไม่หวั่นไหว ในมือถือกระบี่สายฟ้า ในแววตามีแต่ความแน่วแน่
“เพียงแค่ตัวเจ้าเนี้ยนะ? ต้องการเขาอัสนีของข้า นั่นมันคือความฝันลมๆ แล้งๆ!” ปูเจียวซียิ้มเยาะ “ในบรรดาราชันย์อสูรของภูเขาเสวี่ยชาง ข้าสามารถติดอันดับหนึ่งในสามได้ ตัวเจ้าต้องการสังหารข้า มันเป็นไปไม่ได้ บางทีหากมหาปรมาจารย์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์มาถึงที่นี่ ไม่แน่ว่าอาจจะทำได้”
“ทำได้หรือไม่ได้ ลองดูก็รู้แล้ว!”
ในเวลานี้หลี่เจี้ยนซินก็ชักกระบี่สายฟ้าออกมา เตรียมจะลงมืออีกครั้ง
แน่นอนว่าซูจี้เหนียนมองออก หลี่เจี้ยนซินคงไม่สามารถทำอะไรปูเจียวซีได้ บางทีปูเจียวซีอาจจะไม่ใช่คู่มือของหลี่เจี้ยนซิน แต่พลังป้องกันของปูเจียวซีนั้นแข็งแกร่งมาก การที่กระบี่ของหลี่เจี้ยนซินจะฟันกระดองของปูเจียวซีนั้น มันช่างยากอย่างยิ่ง
“รอข้าสังหารเจ้าแล้ว ชื่อของเจ้าในรายนามปราบอสูรของอาณาจักรหลิงเจี้ยนก็จะหายไป และข้ายังสามารถนำเจ้าไปแลกเงินซื้อสุราดื่มได้อีกด้วย!”
หลี่เจี้ยนซินหัวเราะออกมา
“แลกเงิน?”
ซูจี้เหนียนกำลังจะหันหลังกลับ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เจี้ยนซิน เขาก็หยุดเดิน ครั้งนี้ที่มาที่ภูเขาเสวี่ยชาง สมบัติในประตูแห่งหลัวนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวง หากกลับไปเช่นนี้ มันช่างน่าเสียดายยิ่งนัก
รายนามปราบอสูรที่ว่านี้ แม้ว่าซูจี้เหนียนจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร? แต่ฟังจากความหมายของหลี่เจี้ยนซินแล้ว มันสามารถแลกเงินได้!
ในเมื่อแลกเงินได้ ซูจี้เหนียนก็อยากจะลองดู!
ตอนนี้ซูจี้เหนียนได้ยินคำว่าเงินไม่ได้ เมื่อได้ยินแล้วก็จะหายใจไม่ออก อกสั่นขวัญแขวน ร่างกายร้อนผ่าว ตาแดงก่ำ!
ในเวลานี้หลี่เจี้ยนซินก็ต่อสู้กับปูเจียวซีอีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ปูเจียวซีกลับต่อสู้ไปพลาง ถอยหลังไปพลาง ทีละเล็กทีละน้อย มนุษย์กับปูก็ต่อสู้กันไปไกลหลายร้อยลี้ ด้านหน้ามีบึงขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง บนบึงปกคลุมไปด้วยหิมะ
ในใจของหลี่เจี้ยนซินก็เริ่มร้อนรน พลังป้องกันของปูเจียวซีตัวนี้นั้นแข็งแกร่งเกินความคาดหมายของเขา
มันแข็งแกร่งมาก!
มันสามารถใช้ก้ามปูต้านทานกระบี่แสงของเขาได้
จริงๆ แล้วในใจของปูเจียวซีก็รู้สึกอึดอัด กระบี่แสงของหลี่เจี้ยนซินนั้นคมกริบอย่างยิ่ง แม้ว่ากระดองของมันจะแข็งแกร่งมาก แต่ทุกครั้งที่มันต้านทาน แม้ว่าภายนอกจะไม่เป็นอะไร แต่ภายในกลับได้รับบาดเจ็บ เหงือกของมันสั่นเทา ไข่ปูก็สั่นไหว
“กระบี่สายฟ้าแปดทิศ!”
ในเวลานี้หลี่เจี้ยนซินก็ฟันกระบี่ออกไป บนท้องฟ้า สายฟ้าแปดสายกลายเป็นกระบี่แสง ราวกับกรงขัง ฟันลงไปที่ปูเจียวซี!
นี่คือกระบวนท่าไม้ตายของหลี่เจี้ยนซิน ในเวลานี้ปูเจียวซีก็ถูกกระบี่นี้ฟันจนกระเด็นออกไปหลายสิบลี้ ดูท่าทางน่าอนาถอย่างยิ่ง
“ยังไม่แตกอีก?”
หลี่เจี้ยนซินหอบหายใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่ากระบี่สายฟ้าแปดทิศของตนเองจะไม่สามารถทำลายกระดองของปูเจียวซีได้
แต่ปูเจียวซีกลับเจ็บปวดมาก ในเวลานี้มันก็ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้าคางคกเฒ่า พวกมันมาถึงหน้าประตูบ้านแล้ว เจ้ายังไม่ออกมาอีกหรือ?”
สิ้นเสียงพูด จากในบึงก็มีกลิ่นอายเย็นยะเยือกพวยพุ่งออกมาทันที กลิ่นอายนี้กลายเป็นหอกน้ำแข็ง พุ่งเข้าหาหลี่เจี้ยนซินโดยตรง!
“เฮอะ!”
กระบี่สายฟ้าฟันลงมา ปะทะกับหอกน้ำแข็งโดยตรง หอกน้ำแข็งแตกสลายทันที แต่พลังที่น่ากลัวนั้นทำให้หลี่เจี้ยนซินรู้สึกว่าแขนชา!
“ตะโกนอะไรของเจ้า? รบกวนการนอนหลับของข้า เจ้าปูเหม็น เจ้าพาครึ่งก้าวปรมาจารย์มาที่นี่ทำไม?”
มีเสียงเฉื่อยชาดังขึ้น จากนั้นก็มีคางคกสีขาวตัวใหญ่คลานออกมาจากในบึง กลิ่นอายปราณยุทธ์ที่แข็งแกร่งก็พัดผ่านมา