ตอนที่แล้วบทที่ 37 ทุกคนคือเหยียนอ๋อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 39 กระบี่อันรวดเร็วเหมือนสายลมสายฟ้า

บทที่ 38 ภารกิจร้อยปี


บทที่ 38 ภารกิจร้อยปี

เหยียนอ๋อง!

ระดับทองแดง!

ชุดขาว!

หน้ากาก!

ในเวลานี้ฝูเจิ้นกั๋วก็สัมผัสปราณยุทธ์ของซูจี้เหนียน แต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลย!

ทันใดนั้น ฝูเจิ้นกั๋วก็รู้สึกเหมือนร่างกายชาหนึบ คนตรงหน้าคือครึ่งก้าวปรมาจารย์ผู้นั้นจริงๆ หรือ?

“ใต้เท้าเหยียนอ๋อง!”

ฝูเจิ้นกั๋วถอยหลังไปหนึ่งก้าว ราวกับเห็นผี ในแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“เหยียนอ๋อง?”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ในเวลานี้เหล่าผู้พิทักษ์หลงซานทั้งหมดก็สูดหายใจเข้าอย่างแรง พวกเขามองไปที่ซูจี้เหนียน สีหน้าเปลี่ยนไป ตอนนี้ใครบ้างไม่รู้จักชื่อของเหยียนอ๋อง?

การแต่งกายเช่นนี้ เดิมทีคิดว่าเป็นการเลียนแบบเหยียนอ๋อง ใครจะรู้ว่าเขาคือเหยียนอ๋องตัวจริง!

ในพริบตา ทุกคนก็ถอยหลังไปหลายก้าว คนที่หัวเราะเยาะซูจี้เหนียนเมื่อครู่ก็คุกเข่าลงทันที ขอความเมตตา “ข้าน้อยมีตาแต่ไม่เห็นเขาไท่ซาน ขอท่านผู้อาวุโสเหยียนอ๋องอภัยให้ข้าน้อยด้วย”

พวกเขาตัวสั่นด้วยความกลัว แม้แต่มีสองคนที่ฉี่ราดกางเกง

ซูจี้เหนียนรู้สึกประหลาดใจ ตัวเขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?

แต่ซูจี้เหนียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา เพราะซูจี้เหนียนมาที่นี่เพื่อหาเงิน ไม่ได้มาอวดโอ้

“ข้าสามารถดูภารกิจร้อยปีได้หรือยัง?”

ซูจี้เหนียนถามอย่างใจเย็น

“ได้ๆ” ฝูเจิ้นกั๋วรีบคืนบัตรประจำตัวให้ซูจี้เหนียน จากนั้นก็หยิบสมุดเล่มหนึ่งออกมา ข้างในบันทึกภารกิจร้อยปี

และในเวลานี้ ในโถงหลงซาน อันเต๋อหลู่กำลังแช่น้ำอยู่ในห้องของตนเอง จ้าวโถงหลงซานผู้นี้ใช้ชีวิตอย่างสบาย เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ แล้ว เขาชอบใช้ชีวิตที่สุขสบายมากกว่า และชินกับชีวิตที่เรียบง่ายเช่นนี้

“ใต้เท้าจ้าวโถง!”

ในเวลานี้ด้านนอกก็มีเสียงร้อนรนดังขึ้น

“มีเรื่องอะไรไว้ค่อยพูด ข้ากำลังยุ่ง”

อันเต๋อหลู่ตอบอย่างช้าๆ เขากำลังแช่น้ำ ช่วงเวลาที่สบายเช่นนี้ จะถูกเรื่องอื่นมารบกวนได้อย่างไร?

“ท่านผู้อาวุโสเหยียนอ๋องมาแล้วขอรับ”

คนข้างนอกได้ยินเช่นนี้ ก็รีบบอกเรื่องนี้ผ่านประตู

“มาก็มาสิ มีอะไร…” อันเต๋อหลู่พูดได้แค่นี้ เขาก็รีบลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำทันที ยังสามารถเห็นไส้กรอกเส้นหนึ่งห้อยอยู่กลางอากาศ สีหน้าของอันเต๋อหลู่เปลี่ยนไปอย่างมาก รีบกล่าวว่า “ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้!”

เรื่องอื่นไม่สนใจก็ได้ แต่เหยียนอ๋องมา เขาจะไม่สนใจได้อย่างไร? นั่นคือผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์เชียวนะ!

หากสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี มันย่อมมีประโยชน์อย่างมากต่อชีวิตของเขาในอนาคต!

ในเวลานี้ซูจี้เหนียนกำลังดูภารกิจร้อยปีในสมุดเล่มเล็กๆ ฝูเจิ้นกั๋วยกเก้าอี้มาให้ซูจี้เหนียนนั่ง ผู้พิทักษ์หลงซานจำนวนมากที่อยู่ไกลๆ ต่างมองดู เมื่อครั้งก่อนมีหลายคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาไม่เคยเห็นผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์มาก่อน ตอนนี้ได้มองดูจากระยะไกล บางทีอาจจะมีประโยชน์ต่อเส้นทางการฝึกฝนของพวกเขาก็เป็นได้

“อายุยังน้อย แม้ว่าจะสวมหน้ากาก แต่ต้องหล่อเหลามากแน่ๆ” ผู้พิทักษ์หลงซานหญิงผู้หนึ่งมองดูซูจี้เหนียนจากระยะไกล กล่าวด้วยความคาดหวังว่า “หากสามารถเกลายเป็นสตรีของเขา ข้าคงจะมีความสุขมาก แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แค่ได้อยู่กับเขาหนึ่งคืน ชีวิตนี้ข้าก็ไม่เสียใจอีกแล้ว”

“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่ข้าที่เป็นผู้ชาย ข้าก็ยินยอม”

เผ่าพันธุ์มนุษย์วัวที่อยู่ข้างๆ กล่าวด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

ผลก็คือ ถูกคนรอบข้างดูถูก

ซูจี้เหนียนไม่รู้เลยว่าตนเองถูกบุรุษและสตรีมากมายหมายตา ซูจี้เหนียนกำลังดูภารกิจร้อยปี ภารกิจร้อยปีนั้นมีไม่มากนัก มีเพียงสิบกว่าภารกิจ แต่ละภารกิจมีคำอธิบายอย่างละเอียด มีภารกิจที่ต้องฆ่าคน มีภารกิจที่ต้องล่าสัตว์อสูร มีแม้แต่ภารกิจที่ต้องหาสิ่งของอย่างเช่นกระดูกอสูร ซูจี้เหนียนไม่รู้ว่าจะไปหาของพวกนี้ได้จากที่ไหน?

สุดท้ายซูจี้เหนียนก็เลือกภารกิจสองภารกิจ

ภารกิจหนึ่งคือไปเอาสมบัติในประตูแห่งหลัว

ประตูแห่งหลัวคือสมบัติที่เผ่าพันธุ์โบราณที่เรียกว่าเผ่าพันธุ์หลัวทิ้งไว้ พวกเขาไม่รู้ว่าเผ่าพันธุ์หลัวล่มสลายไปในยุคใด? เล่าลือกันว่าในยุคบรรพกาล มีเทพและมารอยู่จริง การต่อสู้ระหว่างทั้งสองทำให้ผู้คนต่างพากันล้มตาย เผ่าพันธุ์หลัวเคยเข้าร่วมสงครามระหว่างเทพกับมาร สุดท้ายผู้เชี่ยวชาญของเผ่าพันธุ์หลัวก็ได้ผนึกเทพกับมารจำนวนมากเอาไว้ แถมพวกเขายังได้รับสมบัติมากมาย จากนั้นซ่อนไว้ในประตูแห่งหลัว และประตูแห่งหลัวนี้ตั้งอยู่ในภูเขาเสวี่ยชางของอาณาจักรหลิงเจี้ยน

เพียงแต่ เคยมีผู้เชี่ยวชาญนับไม่ถ้วนไปที่ภูเขาเสวี่ยชางเพื่อตามหาสมบัติในประตูแห่งหลัว สุดท้ายก็ไม่มีใครกลับมา

มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ใกล้เคียงกับขอบเขตครึ่งก้าวปรมาจารย์ ในตอนนั้นเขามีชื่อเสียงมาก หลังจากผ่านเรื่องนั้นมา เขาก็กลายเป็นคนบ้า สุดท้ายก็ตายอย่างน่าอนาถ

ภารกิจร้อยปีนี้ ต้องการให้นำสมบัติมงกุฎที่อยู่ในประตูแห่งหลัวกลับมา

มันถูกเรียกว่ามงกุฎเผ่าพันธุ์หลัว

อีกภารกิจหนึ่งคือไปที่ป่าต้องห้ามเพื่อหาน้ำพุแห่งชีวิต เล่าลือกันว่าในสถานที่ที่เรียกว่าป่าต้องห้าม มีน้ำพุแห่งชีวิตอยู่ มันสามารถชุบชีวิตคนตายได้ หากสามารถหาน้ำพุแห่งชีวิตได้ แม้แต่คนธรรมดากินน้ำพุนี้ก็สามารถมีอายุยืนยาว

แต่ภารกิจนี้ถูกเรียกว่าภารกิจร้อยปี หนึ่งคือเพราะสถานที่ที่เรียกว่าป่าต้องห้าม เล่าลือกันว่าป่าต้องห้ามนั้นเข้าไปแล้วไม่มีทางกลับออกมา คนที่เข้าไปจะหลงทาง แม้ว่าจะบินได้ ก็ไม่สามารถออกมาได้ อีกอย่างคือ น้ำพุแห่งชีวิตเช่นนี้เป็นสมบัติที่มีวิญญาณ ไม่ใช่สิ่งของที่ไร้ชีวิต มันไม่ได้อยู่ในที่ใดที่หนึ่ง หากมันต้องการให้เจ้าเห็น เจ้าก็จะเห็น หากมันไม่ต้องการให้เจ้าเห็น ต่อให้เจ้าหาอย่างไรก็หาไม่พบ

มีเพียงภารกิจสองภารกิจนี้เท่านั้นที่ซูจี้เหนียนสนใจ

โดยเฉพาะมงกุฎเผ่าพันธุ์หลัว รางวัลของภารกิจนี้สูงมาก ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ราชวงศ์ของอาณาจักรหลิงเจี้ยนเป็นผู้ประกาศ หากทำภารกิจนี้สำเร็จ จะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขุนนางศักดินาโหว(พระยาหรือมาควิส) และยังมีรางวัลเป็นสมบัติล้ำค่า แถมยังมีอีกหนึ่งพันดาว

แม้ว่าจะไม่ได้บอกว่าให้เงินเท่าไหร่? แต่สมบัติล้ำค่าที่ว่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ซูจี้เหนียนจินตนาการแล้ว

ส่วนภารกิจน้ำพุแห่งชีวิต ซูจี้เหนียนรู้สึกว่ามันค่อนข้างลำบาก เพราะหากน้ำพุแห่งชีวิตนั้นมีวิญญาณจริงๆ การที่จะหามันก็คงยากมาก ไม่รู้ว่าต้องใช้พลังงานมากแค่ไหน?

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ สมบัติในประตูแห่งหลัว!

นั่นคือสมบัติมากมายเชียวนะ!

เขาแค่เอามงกุฎกลับมาก็พอแล้ว สมบัติอื่นๆ ในประตูแห่งหลัวก็จะเป็นของเขา ใช่ไหม?

ใครจะไปรู้ว่า สมบัติในประตูแห่งหลัวมีของดีซ่อนอยู่มากมายขนาดไหน?

และในเวลานี้เอง ก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในจัตุรัส เดินตรงไปยังซูจี้เหนียนอย่างรวดเร็ว

“ใต้เท้าอัน!”

เมื่อเห็นว่าเป็นอันเต๋อหลู่ หลายคนก็ร้องตะโกนออกมา

“อันเต๋อหลู่คารวะท่านผู้อาวุโสเหยียนอ๋อง!” อันเต๋อหลู่มาถึงหน้าซูจี้เหนียน คำนับอย่างเคารพ

“เจ้าคือ?”

ซูจี้เหนียนมองดูคนมาใหม่ ถามด้วยความสงสัย

“เอ่อ…”

อันเต๋อหลู่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่คิดไปคิดมา ผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้จะจำคนเล็กๆ อย่างเขาได้อย่างไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด