บทที่ 260: การแข่งขันดันเจี้ยน!
เมื่อเปิดพัสดุออกมา พบว่าข้างในมีหินทรงกลมสีขาวโปร่งแสงสองชิ้น
【หินสื่อวิญญาณ S1 (ไอเทม)】
【คุณภาพ: ระดับ S】
【คำอธิบาย: วัตถุดิบหลักในการสร้างแหวนสื่อวิญญาณ ได้จากบอสตัวสุดท้ายในระดับนรกของดันเจี้ยน [หอคอยที่มองเห็นอนาคต] สามารถใช้ทำพันธสัญญากับสิ่งมีชีวิต เพื่อให้เรียนรู้ทักษะจากหนังสือทักษะได้】
【ข้อจำกัด: สำหรับสิ่งมีชีวิตแต่ละตัว หินสื่อวิญญาณ S1 สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว】
“ไอเทมชุด? S1?”
หลี่เหยา อุทานด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายด้วยความยินดี
การทำให้สัตว์อัญเชิญเรียนรู้ทักษะจากหนังสือทักษะของผู้ครองอาชีพ นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาครั้งใหญ่!
เขาเคยวางแผนไว้ว่าสัตว์อัญเชิญของเขาแต่ละตัว จะสามารถเรียนรู้ได้เพียงหนึ่งทักษะเท่านั้น
แต่การมี S1 หมายความว่าน่าจะมี S2!
ถ้าเขาสามารถหาจุดที่ S2 ตกได้
สัตว์อัญเชิญของเขาก็สามารถพัฒนาได้ต่อเนื่อง!
สำหรับ S1...
ในตอนนี้เขายังพอมีวิธีเก็บสะสมเพิ่มได้อยู่
หลี่เหยา ล้มตัวลงนอนบนเตียง หลับตาครุ่นคิด
มังกรดำ จะใช้ทักษะ [เคลือบผิวมีชีวิต] เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตีอย่างต่อเนื่อง
หนอนนักล่า ต้องการทักษะ ยั่วยุ
ตั๊กแตน ซึ่งมีทักษะ [ฝึกซ้อมในสนามจริง] อยู่แล้ว น่าจะเหมาะกับทักษะโจมตีหมู่ในพื้นที่กว้าง
นกสีคราม กับ หนูสายฟ้า ที่มีบทบาทสายสนับสนุน ควรใช้ทักษะช่วยชีวิตจะดีที่สุด
ส่วน เสือเกราะ เจ้านั่น...
อาจจะเหมาะกับทักษะประเภทสร้างสถานะที่ใช้ศัตรูมาเพิ่มพลังให้ตัวเอง หรือไม่ก็ทักษะเคลื่อนที่
เขาครุ่นคิดเรื่อยไปจนเผลอหลับ
เช้าวันถัดมา
[ถ้ำเจี้ยนเหยียน] ยังคงมีกำหนดการเปิดตอนสิบโมงเช้า
หลี่เหยา ใช้โอกาสนี้นอนตื่นสายบ้าง
เก้าโมงครึ่ง เขามาถึงห้องดันเจี้ยน
ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน
เซวี่ยจิ่วหลัน ได้นำข้อเสนอของหลี่เหยามาปรับใช้
ไม่มีนักเรียนธรรมดาเข้าร่วมการแข่งขันดันเจี้ยนครั้งนี้
ภายในห้องมีผู้คนไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นคนที่หลี่เหยารู้จักดี
อัศวิน เว่ยไห่ และเหล่าอัศวินจากครั้งก่อนต่างอยู่กันครบ
นอกจากนี้ ยังมีผู้ครองอาชีพสายสนับสนุนห้าคน
สิ่งที่แปลกคือ ในบรรดาผู้ครองอาชีพสายสนับสนุนที่หลี่เหยาเคยพบอย่างน้อย 90% เป็นผู้หญิง
และครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน หญิงสาวทั้งห้าคนล้วนเป็นสายสนับสนุน
เมื่อพวกเธอเห็นหลี่เหยาเดินเข้ามา
ผู้นำของกลุ่มเพียงแค่พยักหน้าให้เขาเบาๆ
ส่วนคนอื่นๆ ยังคงก้มหน้าก้มตาเล่นอุปกรณ์สื่อสาร
แต่สายตากลับลอบมองหลี่เหยาเป็นระยะๆ พร้อมกับแก้มแดงเรื่อ ก่อนจะรีบหลบตาอย่างรวดเร็ว
เว่ยไห่ เดินนำกลุ่มอัศวินอีกเก้าคนตรงมาหาหลี่เหยา
“หลี่เหยา! เจ้าก็มาถึงแล้ว!”
เว่ยไห่ยิ้มกว้างจนปิดไม่มิด
“เจ้าคงไม่รู้หรอก!”
“ผู้อำนวยการเซวี่ยนี่ใจกว้างจริงๆ!”
“ครั้งนี้เราได้รับคะแนนผลงานเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวเลยนะ!”
เว่ยไห่ หัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆ มันช่างสุดยอดจริงๆ!”
แต่ หลี่เหยา ขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย “ครั้งนี้สถานการณ์ข้างในอาจจะแตกต่างออกไป อาจารย์ของพวกเจ้าไม่ได้อธิบายให้ฟังชัดๆ หรือ?”
“รู้สิ! ก็แค่ไปตัดหัวหมาของไอแซคตัวนั้นใช่ไหมล่ะ?”
หลี่เหยารู้สึกว่าต้องอธิบายให้ชัดเจน
“เราอาจจะต้องเจอกับนักรบจากประเทศศอินทรี พวกนั้นคงไม่ใช่พวกอ่อนแอแน่ๆ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก” เว่ยไห่ตอบอย่างมั่นใจ “ตอนรับภารกิจ ผู้อำนวยการเซวี่ยก็พูดอธิบายชัดแล้ว”
“แต่ก็อย่างว่า” เว่ยไห่พูดต่อด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้าน “ไม่ใช่ว่ามีเจ้าร่วมทีมด้วยเหรอ? หรือว่าพวกนั้นจะน่ากลัวกว่าบอสที่เราหนีเอาชีวิตรอดมาเสียอีก?”
หลี่เหยา: "......"
เว่ยไห่หันมองเวลาบนหน้าปัด ก่อนจะพูดขึ้น “ยังมีอีกคนที่ยังมาไม่ถึง เธอบอกว่ารู้จักเจ้าด้วย เจ้าจะลองส่งข้อความถามดูไหมว่าเธออยู่ไหน?”
“ใคร?”
“เธอไม่ได้บอกชื่อ แต่น่าจะเป็นคนที่คุยยาก ข้าก็เลยไม่ได้ถาม”
“จากสำเนียงน่าจะเป็นคนจากประเทศซากุระ แถมสวยเหมือนนางฟ้าเลยล่ะ!”
คำพูดยังไม่ทันจบ เหล่าอัศวินคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังก็เริ่มพูดแซว
“นี่เจ้าคิดว่าเธอคุยยากจริงๆ เหรอ?”
“ข้าคิดว่าเจ้าแค่กลัว เพราะเธอสวยจนไม่กล้าถามชื่อ!”
“พูดจริงๆ ข้าก็ไม่โทษหัวหน้าหรอกนะ! ข้าเองก็ไม่เคยเห็นสาวงามขนาดนี้มาก่อน ยังนึกว่าเป็นดารา ถ้าเป็นข้า ข้าก็คงไม่กล้า...”
ยังไม่ทันพูดจบ อัศวินคนหนึ่งก็หยุดนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง
“โธ่...วันนี้เธอยังแต่งหน้าอีกด้วย!”
“เหมือนนางฟ้าจริงๆ...”
ทันทีที่ได้ยินคำว่า คนจากประเทศซากุระ
หลี่เหยาก็รู้ทันทีว่าคงเป็น คุโจ มิซากิ
ผิวของเธอขาวราวหิมะ ดวงตาส่องประกายระยิบระยับ ริมฝีปากบางมีเสน่ห์ตามธรรมชาติ
ผมที่เรียบลื่นของเธอถูกรวบขึ้นอย่างอ่อนโยน ประดับด้วยปิ่นไม้ไผ่
เธอสวมชุดกิโมโนสีอ่อนที่ถึงแม้จะหลวมแต่ก็ไม่อาจปิดบังทรวดทรงที่เย้ายวน
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตามากที่สุดคือ
ชายกิโมโนที่เผยให้เห็นเรียวขาที่ถูกหุ้มด้วยถุงน่องสีขาว
เรียวขานั้นได้รูปกลมกลึง มีลวดลายที่ดูเร้นลับแต่ชวนมอง
บริเวณเหนือต้นขา
ถุงน่องรัดแน่นจนเกิดรอยเว้าตื้นๆ เพิ่มความรู้สึกบริสุทธิ์แต่แฝงความลึกลับเย้ายวน
สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งทางสายตาอย่างชัดเจนกับอารมณ์เย็นชาของ คุโจ มิซากิ
แม้แต่หลี่เหยาเองก็อดไม่ได้ที่จะมองซ้ำ
คุโจ มิซากิ เดินเข้ามาใกล้ พลางพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
“เจ้าชอบขาใช่ไหม?”
หลี่เหยา: “?”
“ถ้าชอบ ก็ดูให้เต็มตาเถอะ”
คุโจ มิซากิ ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้หลี่เหยามองได้ชัดเจนขึ้น
“ขาของข้าน่ะ งดงามตามธรรมชาติ”
หลี่เหยา: “???”
เหล่าอัศวินที่ยืนดูเหตุการณ์ต่างหัวเราะคิกคักและเริ่มซุบซิบ
“ข้านับถือเลย...ไปได้ไกลถึงต่างแดน”
“พูดก็พูดเถอะ ชีวิตแบบนี้ล่ะความฝันของข้า!”
ระหว่างที่พูดคุยกัน
วงแหวนส่งตัวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวที่พร้อมใช้งาน
หลี่เหยาสร้างทีมและเชิญทุกคนเข้าร่วม
ก่อนจะก้าวผ่านวงแหวนไป
เขารู้ดีว่าการล่าช้าแม้แต่วินาทีเดียว
อาจเพิ่มความเสี่ยงขึ้นอีกมาก
[คำเตือน! เกิดข้อผิดพลาดในถ้ำเจี้ยนเหยียน!]
[การแข่งขันในดันเจี้ยนเปลี่ยนเป็นดันเจี้ยนที่ต้องแย่งชิง!]
[ระบบป้องกันระหว่างผู้ครองอาชีพถูกยกเลิก สามารถโจมตีกันได้!]
[คาดว่าจะกลับสู่ปกติในอีก 18 ชั่วโมง!]
[ท่านต้องการเข้าไปหรือไม่?]
“โอ้?”
หลี่เหยากระตุกยิ้มเล็กน้อย
“มีเรื่องสนุกแบบนี้ด้วยเหรอ?”