บทที่ 242 โจวต้าฝูแจกบุหรี่
สวี่เซี่ยงเป่ยถือแบบแปลนเดินทางไปยังพื้นที่ก่อสร้าง
เมื่อมาถึง เขาใช้แบบแปลนเทียบกับพื้นที่จริง และหยุดดูสภาพโครงสร้างทางธรณีวิทยาของจุดที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำอย่างละเอียดเป็นระยะ เพราะหากพื้นที่มีสภาพทางธรณีวิทยาไม่ดี การสร้างอ่างเก็บน้ำอาจเป็นอันตรายได้
แม้ว่าอ่างเก็บน้ำที่สร้างนี้จะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก และความจุน้ำไม่ได้มากนัก แต่เรื่องความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะหากไม่ปลอดภัย โจวอี้หมินคงไม่มาขอให้เขามาช่วยงานนี้
“ช่วยขุดตรงนี้หน่อย” สวี่เซี่ยงเป่ยพูดขึ้น
ทันทีที่เขาพูดจบ หัวหน้าหมู่บ้านก็กวักมือเรียกชาวบ้านที่กำลังทำงานอยู่ใกล้ๆ “พวกนาย มานี่หน่อย แล้วทำตามที่วิศวกรสวี่บอก”
เมื่อได้ยินคำสั่ง ชาวบ้านก็เริ่มใช้จอบและเครื่องมือขุดตรงบริเวณที่สวี่เซี่ยงเป่ยระบุไว้
ไม่นาน พวกเขาก็ขุดจนถึงชั้นหิน จากนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้เสียมเพื่อสกัดหินออกมาเป็นชิ้น
สวี่เซี่ยงเป่ยหยิบชิ้นหินที่ขุดขึ้นมา แล้วตรวจสอบดูอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาสรุปได้ว่า
“การสร้างอ่างเก็บน้ำที่นี่ไม่มีปัญหา พื้นที่จะสามารถรองรับน้ำหนักของตัวอ่างเก็บน้ำและแรงดันน้ำได้”
จากนั้นเขาถามต่อว่า “มีวัตถุระเบิดไหม? ถ้ามีจะดีมาก โดยเฉพาะชนิดที่มีไส้ระเบิด”
พื้นที่บริเวณนี้มีชั้นหินที่ไม่ลึกมาก ขุดลงไปไม่กี่เมตรก็เจอชั้นหินแล้ว หากต้องการสร้างอ่างเก็บน้ำ การระเบิดหินจะช่วยลดเวลาและแรงงานได้มากกว่าการใช้แรงคน ซึ่งมีประสิทธิภาพต่ำและเหนื่อยล้า
หัวหน้าหมู่บ้านได้ยินดังนั้นถึงกับตกใจเล็กน้อย แม้ว่าหมู่บ้านต่างๆในยุคนั้นจะมีอาวุธอย่างปืนไว้ใช้ แต่วัตถุระเบิดยังไม่ได้มีการแจกจ่ายหรือใช้อย่างแพร่หลายมากนัก
“ที่หมู่บ้านเราไม่มีวัตถุระเบิด ต้องไปขอที่สหกรณ์” หัวหน้าหมู่บ้านตอบ
สำหรับโครงการแบบนี้ สามารถยื่นเรื่องขอการสนับสนุนจากสหกรณ์ได้ ทั้งในด้านงบประมาณหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆแม้จะไม่ได้มากมาย แต่ก็ยังพอช่วยได้บ้าง
วัตถุระเบิด เช่น ไส้ระเบิดนั้น สหกรณ์ของเขตน่าจะมีแน่นอน
ไส้ระเบิดถูกประดิษฐ์ขึ้นตั้งแต่ยุคแรกๆ ผู้ประดิษฐ์ที่ทุกคนรู้จักคือ โนเบล ผู้โด่งดัง
ในเวลานั้น เป็นที่รู้กันว่า ไนโตรกลีเซอรีน เป็นสารระเบิดที่ทรงพลังมาก แต่ด้วยความที่ไวต่อการกระแทก การสั่นสะเทือน หรือประกายไฟ ทำให้มันระเบิดได้ง่ายและอันตรายมาก จึงขาดคุณค่าการใช้งานในทางปฏิบัติ
โนเบลค้นพบว่า เมื่อใช้ดินเบา (diatomaceous earth) ดูดซับไนโตรกลีเซอรีน จะทำให้สารนี้มีเสถียรภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม วิธีการจุดชนวนระเบิดกลับกลายเป็นปัญหาใหม่ที่ต้องแก้ไข
หลังจากการทดลองซ้ำๆ จนต้องจ่ายราคาด้วยความล้มเหลวและเลือด โนเบลค้นพบว่าสามารถใช้ ปรอทฟูลมิเนต (Mercury fulminate) ในการจุดชนวนไนโตรกลีเซอรีนที่ถูกดูดซับในดินเบาได้
เมื่อใส่ปรอทฟูลมิเนตในหลอดเล็กๆก็กลายเป็น ไส้ระเบิด
“ลองไปยื่นขอจากสหกรณ์ดูนะ งานที่เหลือจะได้ง่ายขึ้นเยอะ” สวี่เซี่ยงเป่ยเสนอ
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า หินที่ระเบิดออกมาสามารถนำไปใช้สร้างอ่างเก็บน้ำได้ด้วย ซึ่งถือว่าได้ประโยชน์ถึงสองต่อ
หลังจากนั้น สวี่เซี่ยงเป่ยได้ให้คำแนะนำในการทำงาน และเมื่อแดดเริ่มแรง เขาก็ให้หัวหน้าหมู่บ้านพาชาวบ้านไปพักในที่ร่ม เพราะคนที่มีความสามารถเช่นนี้พวกเขาไม่กล้าปฏิบัติเหมือนเป็นแรงงานธรรมดา!
โจวต้าฝูทำงานอย่างลำบากและเหนื่อยยากมาก
เขาอยากไปทำงานในเมืองมาเป็นเวลานาน ทุกคนในหมู่บ้านต่างรู้ดีว่าเขาพยายามมากแค่ไหน แต่ทุกครั้งโชคกลับเล่นตลกกับเขาเสมอ
ต้องบอกเลยว่า มีคนหนุ่มสาวจากหมู่บ้านไปทำงานในเมืองกันไปหลายรุ่นแล้ว แต่เขากลับพลาดทุกครั้ง
หรืออย่างที่ครอบครัวเขามักพูดว่า "แม้แต่จะกินของเหลือ ยังไม่ทันได้กินของที่อุ่นเลย!"
แต่หลังจากความพยายามของเขา โจวต้าฝูก็เก็บเงินได้ไม่น้อย แม้จะไม่ใช่คนรวยที่สุดในหมู่บ้านโจว แต่ก็จัดว่าติดหนึ่งในสิบอันดับแรกแน่นอน เงินก้อนนั้นเขาเก็บไว้เพื่อซื้อโอกาสงานในเมือง
จริงๆแล้ว ครอบครัวของเขาอยากให้เขาเอาเงินไปสู่ขอเจ้าสาวหรือทำอะไรทำนองนั้น แต่โจวต้าฝูกลับยืนกรานไม่ยอม บอกว่าในอนาคตถ้าจะแต่งงาน เขาก็จะต้องแต่งกับสาวในเมืองเท่านั้น
หลังจากมีคนไปทำงานในเมืองกันมากขึ้น ได้เปิดหูเปิดตากับโลกภายนอก ก็เริ่มรู้สึกว่าสาวในชนบทไม่ถูกใจพวกเขาอีกต่อไป
“เฮ้! ยังมีบุหรี่ไหม? ขอซักมวนสิ” คนข้างๆเข้ามาใกล้พลางเอ่ยถาม
ทุกคนต่างรู้ว่า โจวต้าฝูเข้าไปล่าสัตว์ในภูเขาแล้วได้เงินมาเยอะพอควร แถมบุหรี่ที่เขาสูบก็ดูมีระดับกว่า จึงมีหลายคนมาขอบุหรี่จากเขาสูบ
ปกติแล้ว โจวต้าฝูมักจะไม่ปฏิเสธ
สัตว์ป่าในภูเขาเหล่านั้น จริงๆแล้วถือเป็นทรัพย์สินของชุมชน แต่ทุกคนต่างไม่ได้ว่าอะไร เขาจึงต้องมีน้ำใจแสดงออกบ้างใช่ไหม?
“เหลือแค่นี้แหละ” โจวต้าฝูล้วงซองบุหรี่ออกมา เหลือเพียงห้ามวน
ไม่นานนัก บุหรี่ทั้งหมดก็โดนแย่งไปจนเกลี้ยง แม้แต่ซองบุหรี่ก็ยังไม่มีใครคืนให้เขา
“ต้าฝู เมื่อไหร่จะเข้าไปในภูเขาอีก?” มีคนถามขึ้น
เจ้ากวางโง่สามตัวเมื่อครู่ ทำให้พวกเขาเกิดไอเดียขึ้นมาบ้าง ถ้าหากเจออีกสักตัวสองตัว ก็ไม่ต่างอะไรกับการเก็บเงินเลยไม่ใช่เหรอ? คนหนุ่มสาวย่อมมีความคิดแบบนี้ พวกเขายังไม่พร้อมจะยอมแพ้และปล่อยตามโชคชะตาง่าย ๆ หรอก!
“พ่อของนายยอมให้ไปเหรอ?” โจวต้าฝูย้อนถามกลับ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนที่ทุกคนในหมู่บ้านยังอดอยาก บางครั้งคนในบ้านอาจให้ผู้ชายออกไปเสี่ยงโชคในภูเขาได้ แต่ตั้งแต่โจวอี้หมินกลับมาและช่วยให้ชาวบ้านได้อิ่มท้อง เรื่องการเสี่ยงอันตรายแบบนั้นก็เริ่มลดลงไปมาก
แม้แต่พ่อแม่ของโจวต้าฝูเองก็พยายามห้ามเขาอยู่หลายครั้ง แต่ห้ามไม่สำเร็จ แม้กระทั่งตีเขาก็ยังไม่ยอมฟัง สุดท้ายก็ต้องปล่อยไป พร้อมยอมรับว่าชีวิตเป็นเรื่องของโชคชะตา
“แอบไปเองสิ”
“งั้นอย่าเลยดีกว่า ถ้าพ่อของนายมาเอาเรื่องฉัน ฉันจะลำบาก” โจวต้าฝูรีบโบกมือปฏิเสธ
ทันใดนั้น โจวอี้หมินเดินเข้ามา พร้อมกับนำถังใส่น้ำถั่วเขียวใส่น้ำตาลมาด้วย มีไม่กี่คนในหมู่บ้านที่จะทำอะไรแบบนี้ นอกจากโจวอี้หมิน
“มานี่ พักกันหน่อย ทุกคนมาดื่มน้ำถั่วเขียวกันเถอะ!” โจวอี้หมินเรียกเสียงดัง
ทันทีที่ได้ยิน ทุกคนก็วางเครื่องมือลงและเดินไปยังที่ร่ม หลายคนเหงื่อไหลเต็มหน้าเต็มตัว ถ้าไม่ได้กินข้าวเช้ากันมาอย่างดี บางคนคงเป็นลมล้มไปแล้ว
คุณป้าคนหนึ่งในหมู่บ้านนำกลุ่มหญิงสาวช่วยกันตักน้ำถั่วเขียวแจกจ่าย
“มาทีละคน เรียงแถวกัน! ไอ้หนุ่มนั่น ทำอะไร? ไปต่อแถวข้างหลัง!” คุณป้าตะโกน พร้อมกับผลักคนที่พยายามแซงคิวออกไป
พวกเธอไม่ได้พกชามมาเยอะนัก คนข้างหน้าดื่มเสร็จแล้วก็ส่งชามให้คนถัดไปทันที
ล้างชาม? ไม่จำเป็นเลย!
ไม่มีใครใส่ใจกับเรื่องแบบนั้นหรอก ต่อให้มีน้ำลายติดอยู่หรือมีใครถุยน้ำลายลงไปในถ้วย ก็คงยังมีคนแย่งกันกินอยู่ดี ตอนนี้ พวกเขารู้ดีกว่าใครว่าอาหารเพียงคำเดียวมีค่าขนาดไหน
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มาจากหมู่บ้านซวงเถียน
เมื่อได้ดื่มน้ำถั่วเขียวที่ใส่น้ำตาลเข้าไป ร่างกายรู้สึกสดชื่นอย่างมาก เหมือนกับได้กินแตงโมแช่เย็นในเดือนมิถุนายน
“ต้องหมู่บ้านโจวจริงๆ ถึงจะใส่น้ำตาล”
“ใช่เลย! คิดว่าคงใส่ไม่น้อยเลย หวานจริงๆ” อีกคนหนึ่งเลียริมฝีปากของตัวเอง พลางอยากกินเพิ่ม แต่ทำได้เพียงหยิบแก้วน้ำที่พกติดตัวมาเติมน้ำดื่มแทน
แค่มีน้ำถั่วเขียวให้ดื่มก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว
ใครกันจะยังใส่น้ำตาลอีก?
ต้องยอมรับว่าการใส่น้ำตาลในน้ำถั่วเขียวแบบนี้ของหมู่บ้านโจวเป็นความหรูหรา พวกเขารู้สึกโชคดีมากที่ได้มาทำงานในหมู่บ้านนี้ ถ้าเป็นไปได้ พวกเขายินดีที่จะทำงานที่นี่ต่อไปเรื่อยๆ
ทางด้านโจวอี้หมิน หัวหน้าหมู่บ้านและคนอื่นๆกำลังพูดถึงเรื่องการใช้ดินระเบิด
เขาลองค้นหาดูในห้างสรรพสินค้าในสมองแล้ว แต่ไม่มีสินค้าแบบนั้น จึงได้แต่บอกให้หัวหน้าหมู่บ้านลองไปสอบถามที่สหกรณ์หงซิง หากหาไม่ได้จริงๆเขาคงต้องหาทางใช้เส้นสายที่รู้จักช่วยอีกทาง
ด้วยความที่รู้จักคนมากมาย ยังไงก็ต้องมีช่องทางบ้างแหละใช่ไหม?
“พี่สวี่ ดื่มเพิ่มอีกหน่อยเถอะ ยังมีเหลืออีกเยอะ!” โจวอี้หมินกล่าว
สวี่เซี่ยงเป่ยโบกมือปฏิเสธเบาๆพร้อมพูดว่า “พอแล้ว พอจริง ๆ”
(จบบท)