บทที่ 18 การกลับชาติมาเกิด!
ณ ห้องใต้ดินของคฤหาสน์ร้าง
เหล่าสมาชิกที่เหลือรอดของลัทธิเซียนในเมืองหลวงต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในวังใต้ดินที่พวกเขาสร้างขึ้น
ที่นี่คือฐานที่มั่นลับสุดยอดของพวกเขา!
"เทพแห่งเหนือห้วงลึก องครักษ์จินอี้เว่ยหลินฉงทารุณกับพี่น้องของพวกเรา ลากไปประจานรอบเมือง แล้วยังนำตัวไปเฆี่ยนที่ตลาดผัก ช่างน่าชังนัก"
"พวกเราขอร้องให้ช่วยเหลือพี่น้องร่วมลัทธิ ให้พ้นจากการถูกทรมาน"
"ขอเทพแห่งเหนือห้วงลึกโปรดออกคำสั่งด้วย!"
เหล่าสมาชิกที่เหลือรอดของลัทธิเซียนนับสิบคนพร้อมใจกันร้องขอ
และผู้ที่พวกเขาเรียกว่าเทพแห่งเหนือห้วงลึก ก็คือหัวหน้าใหญ่ประจำเมืองหลวง
ตำแหน่งเทพของเขานั้นได้รับการแต่งตั้งจากประมุขลัทธิโดยตรง!
ตามตำนานเล่าว่า ประมุขลัทธิเซียนมีบัญชีแต่งตั้งเทพ ที่จะมอบตำแหน่งทุกสามปี
ในยามนี้ หากหลิงเฟิงอยู่ที่นี่ เขาคงจะจำได้ว่า ผู้ที่เรียกตัวเองว่าเทพแห่งเหนือห้วงลึกผู้นี้ ก็คือแม่เล้าปลอมแห่งหอวั่งเยว่ที่เกี่ยวข้องกับคดีหนังสือต้องห้ามก่อนหน้านี้!
หลังจากที่หอวั่งเยว่ถูกองครักษ์จินอี้เว่ยบุกทลาย
แม่เล้าปลอมผู้นี้ก็หนีหายไป
"พวกเรายังมีแผนการใหญ่ในเมืองหลวง จะให้พี่น้องไม่กี่คนมาทำลายแผนการของประมุขได้อย่างไร?"
เทพแห่งเหนือห้วงลึกกล่าวเสียงเย็นชา
"แต่ว่า..."
เหล่าสมาชิกเบื้องล่างยังคงไม่ยอมรับ
"ไม่มีแต่ว่า อดทนเล็กน้อยไม่ได้ แผนการใหญ่ก็พังพินาศ!"
"อีกอย่าง พี่น้องที่ถูกจับไปเหล่านั้น หลังความตายพวกเขาจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งเซียนโดยตรง บรรลุธรรมด้วยร่างกาย นี่ก็นับเป็นโชคของพวกเขา พวกเราควรจะแสดงความยินดีด้วยซ้ำ"
เทพแห่งเหนือห้วงลึกกล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง
คำพูดเช่นนี้ ก็เพื่อหลอกล่อให้สมาชิกในลัทธิยอมพลีชีพนั่นเอง
"เทพเจ้า ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่หากพวกเราไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย มิเท่ากับเป็นการเพิ่มอำนาจให้องครักษ์จินอี้เว่ย และทำลายศักดิ์ศรีของพวกเราเองหรอกหรือ?"
"ข้าขอเสนอให้ลงโทษหัวหน้าองครักษ์จินอี้เว่ยที่รับผิดชอบการประจานรอบเมือง เอาหัวของเขามา!"
ผู้หนึ่งเบื้องล่างกล่าวอย่างดุร้าย
คนผู้นี้มีใบหน้าแหลมคมดุจลิง ราวกับวานรตัวหนึ่ง
"จางซาน เจ้าคือการกลับชาติมาเกิดของเส้นขนเซียนใหญ่"
"ด้วยเหตุนี้เจ้าจึงมีนิสัยหุนหันพลันแล่น จองเวรจองกรรม แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อน ไม่อาจเคลื่อนไหวได้ รอสักสองสามเดือนค่อยแก้แค้นเถิด"
เทพแห่งเหนือห้วงลึกเตือน
จางซานผู้มีใบหน้าดุจลิงผู้นี้ เป็นยอดฝีมือขั้นก่อนสวรรค์ และเป็นหนึ่งในผู้ที่ลัทธิให้ความสำคัญในการบ่มเพาะ
ภายหลังจึงแต่งเรื่องชาติก่อนให้เขา จนเขาตื่นเต้นดีใจไม่หาย
และเรื่องการกลับชาติมาเกิดเช่นนี้ เป็นที่นิยมอย่างมากในลัทธิ
"เทพเจ้า ข้าว่าจางซานพูดมีเหตุผล ตอนนี้ชาวบ้านมากมายพากันดูถูกพวกเรา มีเพียงการแก้แค้นเท่านั้น จึงจะกู้ชื่อเสียงของพวกเรากลับคืนมาได้"
มีอีกคนหนึ่งก้าวออกมา
ชายผู้นี้รูปร่างอ้วนใหญ่ ราวกับภูเขาลูกน้อย
"หลี่ซื่อ เจ้าคือการกลับชาติมาเกิดของหางหมูแม่ทัพเทียนเผิง"
"ชาติก่อนเจ้ากับจางซานสนิทสนมกันมาก จึงออกมาพูดแทนเขา เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ?"
เทพแห่งเหนือห้วงลึกแค่นเสียงเย็น
อีกหนึ่งการกลับชาติมาเกิด!
"ข้า..."
หลี่ซื่อไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร นับแต่รู้ว่าตนเองกับจางซานมีความผูกพันในชาติก่อน เขาก็รู้สึกดีกับจางซานเป็นพิเศษ
"พอเถอะ พวกเจ้าอย่าได้ทำลายแผนการของประมุข"
"จำไว้ อดทน!"
เทพแห่งเหนือห้วงลึกกล่าวเสียงเย็น
เขาต้องการให้พวกนี้สงบเสงี่ยม ไม่ก่อความวุ่นวาย
"รับบัญชา!"
ทุกคนค้อมคำนับ แล้วแยกย้ายกันไป
จางซานกับหลี่ซื่อมารวมตัวกัน พวกเขาไม่พอใจเทพแห่งเหนือห้วงลึกอยู่บ้าง
"พี่สาม เรื่องที่องครักษ์จินอี้เว่ยทำให้พี่น้องของเราอับอาย จะปล่อยผ่านไปเฉยๆ อย่างนี้หรือ?"
หลี่ซื่อถามเชิงหยั่งเชิง
"ฮึ แน่นอนว่าต้องแก้แค้น เทพไม่อนุญาต แต่ถ้าพวกเราละเมอแล้วบังเอิญลงมือล่ะ?"
จางซานยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มประหลาด
"ฆ่าคนในความฝัน?"
"ฮ่าๆๆๆ เยี่ยมจริงๆ!"
หลี่ซื่อก็เป็นคนไม่ค่อยมีสมอง ตอนนี้รู้สึกว่าพี่สามเป็นคนฉลาดที่สุดในใต้หล้า
"น้องสี่ คืนนี้พวกเราไปหาบ้านหัวหน้าหน่วยหลิน ส่งทั้งครอบครัวเขาขึ้นสวรรค์!"
จางซานเลียริมฝีปาก ทุกครั้งที่ฆ่าคนเขาจะรู้สึกตื่นเต้น
"ได้เลย!"
ทั้งสองจึงแอบย่องออกจากวังใต้ดินของลัทธิเซียนไป
......
ยามจื่อ
หลิงเฟิงกับอาสองหลิงหมั่นซานแอบอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง พวกเขามาที่นี่เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของหัวหน้าหน่วยหลินโดยเฉพาะ
รอบๆ ยังมีองครักษ์จินอี้เว่ยแปลงกายอีกเจ็ดแปดคน
"อาเฟิง เพิ่งผ่านไปแค่วันเดียว พวกลัทธิเซียนจะมาแก้แค้นกับหัวหน้าหน่วยหลินจริงๆ หรือ?"
หลิงหมั่นซานรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเกินไป
"ไม่แน่ แต่ถ้าพวกเขาทนไม่ได้แม้แต่คืนเดียว หัวหน้าหน่วยหลินก็จะตกอยู่ในอันตราย พวกเราต้องคุ้มครองเขาให้ดี"
หลิงเฟิงยิ้มบางๆ
เดาไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะลงมือหรือไม่ แต่ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน
"เข้าใจแล้ว ข้าจะจัดการให้เพื่อนร่วมงานผลัดเวรกัน ไม่อย่างนั้นอดหลับอดนอนหลายคืน ใครก็ทนไม่ไหว"
หลิงหมั่นซานหาว นานแล้วที่ไม่ได้ออกมาทำงานกลางดึก
ทั้งสองแอบอยู่บนชายคา อดทนรอคอย
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม
เงาดำสองสายพุ่งผ่านตรอกเล็กไป
"อาสอง มีคนมาแล้ว!"
หลิงเฟิงกระซิบ
"อะไรนะ?"
หลิงหมั่นซานที่กำลังง่วงตื่นขึ้นทันที ทั้งร่างราวกับราชสีห์ที่ตื่นจากการหลับใหล
สายตามองเห็น
เงาดำทั้งสองร่างวรยุทธ์รวดเร็วยิ่ง ชั่วพริบตาก็พุ่งเข้าไปในลานบ้านของหัวหน้าหน่วยหลิน
"พวกเขาเข้าไปแล้ว พวกเราไป!"
หลิงเฟิงกระซิบเบา
"ดี!"
หลิงหมั่นซานตามติดไปทันที
ขณะนี้
นอกห้องของหัวหน้าหน่วยหลิน มีเงาคนเคลื่อนไหว
นั่นคือจางซานและหลี่ซื่อจากลัทธิเซียน!
"ข้าจะถีบประตูหน้าเพื่อดึงความสนใจของหัวหน้าหน่วย เจ้ากระโดดเข้าทางหน้าต่างโจมตีด้านข้างปาดคอเขา"
จางซานวางแผนอย่างระมัดระวัง
"แผนเยี่ยม พี่สาม ท่านช่างฉลาดเหลือเกิน!"
หลี่ซื่อประจบ
"ฮึ ข้าคือการกลับชาติมาเกิดของเส้นขนเซียนใหญ่ ย่อมสืบทอดปัญญาของท่านเซียนใหญ่มา"
จางซานยกมุมปากขึ้น สายตาลอยหน
ทั้งสองคนตอนนี้รู้สึกว่าแผนการสำเร็จแน่นอน อดใจไม่ไหว
"ลงมือ!"
จางซานตื่นเต้น
โครม!
เขาถีบประตูบ้านของหัวหน้าหน่วยหลินเปิดออก
และในชั่วขณะนั้นเอง!
กระบี่ของหลิงเฟิงก็จ่อที่แผ่นหลังของเขาแล้ว
ส่วนอาสองหลิงหมั่นซานก็ควบคุมอีกคนไว้ได้
เร็วดั่งสายฟ้า!
จับได้คาหนังคาเขา!
"ยกมือขึ้น!"
"พวกเจ้าถูกล้อมแล้ว!"
หลิงเฟิงเอ่ยเสียงเย็น
รอยยิ้มบนมุมปากของจางซานและหลี่ซื่อยังไม่ทันจางหาย ทั้งร่างก็แข็งค้างราวกับกลายเป็นหิน
"พี่สาม พวกเราติดกับดักเสียแล้ว"
หลี่ซื่อทำหน้าเศร้าสร้อย
ออกรบยังไม่ทันได้ชัยชนะ
"องครักษ์จินอี้เว่ยชั่วช้า ข้าสู้ตายกับพวกเจ้า!"
จางซานวรยุทธ์ดีมาก เขาเบี่ยงตัวหลบกระบี่ของหลิงเฟิง พร้อมกับพุ่งประกายเย็นจากเอว นั่นคือไม้คู่ของเขา
ฉัว!
เขาใช้วิชาเด็ด ไม้คู่เหินฟ้า
เงาไม้พลิ้วไหวขึ้นลง ภาพมายาไม่ขาดสาย
"ยังจะหนีอีกหรือ?"
"ข้าอยากรู้นักว่าเจ้ามีฝีมือแค่ไหน!"
หลิงเฟิงเริ่มตรวจสอบระดับพลังของอีกฝ่ายทันที
ระบบประเมินพลังเพิ่งอัพเกรดมา สามารถตรวจสอบพลังยุทธ์ของคู่ต่อสู้ได้ จำกัดวันละสองครั้ง
"ระบบ แสดงการประเมินพลังของคนทั้งสองนี้!"
เขานึกในใจ
ฉัว!
แสงสองสายปรากฏเหนือศีรษะของจางซานและหลี่ซื่อ
【การประเมินพลัง】: ยอดฝีมือขั้นก่อนสวรรค์ (69257)
【การประเมินพลัง】: ยอดฝีมือขั้นก่อนสวรรค์ (83591)
หลิงเฟิงยิ้มบางๆ
รู้สึกไร้ความกดดันในทันที!
เขาอยู่ในอันดับ 9999 ของยอดฝีมือขั้นก่อนสวรรค์
"อาสอง ปล่อยให้ข้าจัดการเอง!"
ดวงตาของหลิงเฟิงเปล่งประกาย
เมื่อสู้ทีละคนไม่มีความกดดัน ก็สู้พร้อมกันเลย!
"พี่สาม ไอ้นี่ดูถูกพวกเรา"
หลี่ซื่อกัดฟันกรอด
"งั้นก็ให้มันรู้ฤทธิ์!"
"ส่งมันไปพบยมบาล!"
จางซานตะโกนด้วยความโกรธ แล้วหมุนไม้คู่พุ่งเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ราวกับงูเขียวสองตัวที่พุ่งแทงไม่หยุด
"ดี!"
หลี่ซื่อก็ชักอาวุธของตนออกมา เป็นแส้สิบสามท่อน
(จบบท)