บทที่ 16 จับตัวมันให้ได้ แล้วเจ้าจะได้เป็นนายพรานเงิน!

"ที่จริงแล้วกำลังของมันอยู่เพียงแค่ขั้นก่อนสวรรค์ขั้นต้นเท่านั้น แต่วิชาตัวเบาของมันนั้นยอดเยี่ยมนัก ทำให้นายพรานกรมอาญาไม่อาจเทียบได้ จึงไม่มีทางจับกุมมันได้"

ยอดฝีมือส่วนใหญ่ของราชสำนักล้วนอยู่ในกรมหกประตูและองค์กรพิเศษอื่นๆ การขาดแคลนกำลังคนของกรมอาญาจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

หน้าที่หลักของพวกเขาคือคุ้มครองราษฎรผู้ไร้ทางสู้

เมื่อใดที่คดีเกี่ยวข้องกับยอดฝีมือในยุทธภพ คดีก็จะถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานพิเศษเหล่านี้ ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร

อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่กรมอาญาเผชิญหน้ากับยอดฝีมือ พวกเขามักพยายามใช้กำลังของตนเองในการแก้คดี หวังจะสร้างผลงาน แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเดือดร้อนมากขึ้น

กว่าจะส่งคดีต่อไป ก็สายเกินไปเสียแล้ว

นี่คือโรคเรื้อรังของราชวงศ์โบราณ ทุกหน่วยงานล้วนอยากสร้างผลงาน หวังได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ แต่ผู้ที่ต้องทนทุกข์กลับเป็นราษฎรผู้ต่ำต้อย

"เรื่องนี้ได้ทำให้ชั้นบนตื่นตระหนก องค์ฮ่องเต้ทรงกริ้วยิ่งนัก" ซุนจิ้งกล่าวต่อ

"นครหลวงเซี่ยหยาง ใต้พระบาทของฮ่องเต้ กลับปล่อยให้โจรลักพาสตรีผู้เดียวสร้างความหวาดผวา ทำให้ราชสำนักเสียหน้า เสนาบดีกรมอาญาถูกฮ่องเต้ตำหนิอย่างรุนแรง"

"กรมหกประตูได้รับพระบัญชาให้จับกุมคนผู้นี้ภายในสามวัน"

"แม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงทราบแล้วหรือ?" ฉู่เทียนเก๋อรู้สึกประหลาดใจ

เมื่อเรื่องลุกลามถึงฮ่องเต้ ผลที่ตามมาย่อมไม่อาจคาดเดาได้

อย่าว่าแต่โจรลักพาสตรีธรรมดาเลย แม้แต่สำนักยุทธ์ที่มีราชายุทธ์คุ้มครอง หากก่อคดีร้ายแรงเช่นนี้ ก็ต้องเผชิญกับภัยพิบัติถึงตาย

ซุนจิ้งกล่าว "เจ้าได้ก้าวข้ามสู่ขั้นก่อนสวรรค์แล้ว อีกทั้งวิชาตัวเบาก็ดี นี่คือโอกาสของเจ้า"

"เพียงแค่จับโจรลักพาสตรีผู้นี้ได้ ก็นับเป็นความดีความชอบครั้งใหญ่"

ฉู่เทียนเก๋อยิ้มน้อยๆ เขาเข้าใจดีว่าซุนจิ้งกำลังปูทางให้เขา

สำหรับกรมอาญา การจับกุมโจรลักพาสตรีที่อยู่ในขั้นก่อนสวรรค์อาจเป็นเรื่องยากลำบาก แต่สำหรับกรมหกประตูที่รวมรวมยอดฝีมือไว้มากมาย นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

ที่นี่ มียอดฝีมือระดับนายพรานเงินที่สามารถทำภารกิจนี้ได้ แม้จะไม่ถึงร้อย แต่ก็มีถึงแปดสิบคน

ที่ซุนจิ้งมอบภารกิจสำคัญนี้ให้ฉู่เทียนเก๋อผู้เป็นเพียงนายพรานทองแดง ก็เพื่อบ่มเพาะเขา ให้โอกาสเขาสร้างผลงาน

หากภารกิจครั้งนี้สำเร็จ ฉู่เทียนเก๋อก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นนายพรานเงินอย่างสมศักดิ์ศรี

"ขอบพระคุณท่านนายพรานซุนที่เมตตา!" ฉู่เทียนเก๋อประสานมือคำนับ ท่าทีไม่ประจบเลียแข้งเลียขาและไม่หยิ่งผยอง

ซุนจิ้งตบบ่าฉู่เทียนเก๋อเบาๆ กล่าวอย่างมั่นใจ "ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า"

ที่ซุนจิ้งเต็มใจบ่มเพาะฉู่เทียนเก๋อ ส่วนหนึ่งเพราะเห็นศักยภาพของเขา อีกส่วนหนึ่งเพราะมิตรภาพระหว่างเขากับฉู่อู่เหิน

ฉู่อู่เหินเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าของซุนจิ้ง สำหรับบุตรของผู้ใต้บังคับบัญชาเก่า เขาย่อมเต็มใจทุ่มเทบ่มเพาะ

เพียงแค่ฉู่เทียนเก๋อเติบโตขึ้นมาได้ เขาจะกลายเป็นแขนขาที่ขาดไม่ได้ของซุนจิ้ง

"ท่านวางใจได้ เมื่อคนชั่วผู้นั้นปรากฏตัว ข้าจะจัดการสองเรื่องพร้อมกัน รับรองว่าจะจับตัวมันได้!"

สำหรับโจรลักพาสตรีที่อยู่เพียงขั้นก่อนสวรรค์ หากจับตัวไม่ได้ นั่นต่างหากที่เป็นปัญหา

"ออกเดินทางเถิด!"

"รับบัญชา ข้าน้อยขอตัว!"

ฉู่เทียนเก๋อคำนับอย่างนอบน้อมแล้วก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว

เพียงก้าวพ้นประตูใหญ่ เสียงอิเล็กทรอนิกส์เย็นชาของระบบก็ดังขึ้นทันที

"ติ๊ง ระบบเริ่มภารกิจใหม่: จับกุมโจรลักพาสตรี"

"ขอให้เจ้าภาพจับกุมโจรลักพาสตรีมาลงโทษตามกฎหมาย ไม่ว่าเป็นหรือตาย"

"รางวัลภารกิจ: ดาบพิศวงเดือนวิญญาณ"

เมื่อเห็นรางวัลภารกิจ หัวใจของฉู่เทียนเก๋อก็พลันเต้นแรงด้วยความปรารถนา

นี่เป็นอาวุธวิเศษที่ระบบมอบให้เป็นรางวัล จะธรรมดาได้อย่างไร?

ดาบเดือนวิญญาณนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่นักดาบทั้งหลายใฝ่ฝัน เมื่อเทียบกับกระบี่เมฆาคำรามของเขาแล้ว คุณค่าช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

กลับมาที่ที่ทำการนายพรานเงิน ฉู่เทียนเก๋อรีบเรียกตัวเกาเหยียนและชิวเฟยหราน นำกำลังสองชุดมุ่งหน้าไปสืบสวนที่คฤหาสน์ของหวังหลาน เศรษฐีแห่งเซี่ยหยาง

โจรลักพาสตรีผู้นี้ได้ก่อคดีใหญ่ถึงหกคดีในบริเวณรอบเซี่ยหยาง และบุตรสาวของเศรษฐีหวังหลานก็คือเป้าหมายที่เจ็ดของมัน

เมื่อวานนี้เอง หวังหลานได้รับดอกบัวที่โจรลักพาสตรีส่งมาให้

ดอกบัวนั้นทำให้หวังหลานตกใจกลัว เขารีบแจ้งความต่อกรมอาญาทันที

หลังจากคดีถูกส่งต่อมายังกรมหกประตู ภารกิจคุ้มครองบุตรสาวของหวังหลานก็ตกเป็นหน้าที่ของกรมหกประตูอย่างเป็นธรรมชาติ

...

ณ ย่านหย่งคังในนครเซี่ยหยาง คฤหาสน์หรูหกชั้นตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านการค้าคึกคัก นี่คือที่พำนักของเศรษฐีหวังหลาน

หวังหลานสร้างฐานะจากธุรกิจสุรา เป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมและร้านอาหารกว่าห้าสิบแห่ง ระยะหลังยังขยายกิจการไปยังการค้าอัญมณี ทำให้มีทรัพย์สินมหาศาล

เงินทองมักยั่วยวนใจคน หวังหลานจึงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองครอบครัวอย่างเข้มงวด

เขาจ้างอาจารย์ยุทธ์มากมายมาเป็นยาม รวมถึงนักยุทธ์ขั้นแปรกำลังด้วย

อย่างไรก็ตาม ยามเหล่านี้ไม่อาจเทียบกับยอดฝีมือขั้นก่อนสวรรค์ได้

ยอดฝีมือขั้นก่อนสวรรค์มักมีความทะนงในศักดิ์ศรี ไม่ใช่ผู้ที่เงินทองจะซื้อได้ง่ายๆ

พวกเขามักไม่ขัดสนเรื่องเงิน หากต้องการ เพียงหาหนทางก็สามารถร่ำรวยได้ ไม่จำเป็นต้องมาเป็นยามให้พ่อค้า

ภายในห้องโถงใหญ่ของตระกูลหวัง บุรุษวัยกลางคนร่างท้วมสวมเสื้อคลุมผ้าต่วนอย่างดีกำลังเดินวนเวียนอยู่ในห้อง

เขามองออกไปนอกห้องเป็นระยะ ถอนหายใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

เขาคือหวังหลาน เศรษฐีผู้นั้น

ข้างห้องโถง นั่งอยู่สตรีร่างอวบท้วม

นางมีอายุราวสี่สิบปี แต่ดูแลตัวเองอย่างดี รูปร่างอวบอิ่ม ใบหน้างดงาม ยังเห็นเค้าโครงความงามในวัยสาวหลงเหลืออยู่

นางคือภรรยาของหวังหลาน นามสกุลหลี่

ขณะนี้ นางกำลังสะอื้นเบาๆ ใช้ผ้าเช็ดน้ำตาเป็นระยะ เสียงสะอื้นแผ่วเบาดังมาเป็นครั้งคราว

"อย่าร้องไห้เลย ข้ากำลังคิดหาทางอยู่นี่ไง" หวังหลานรู้สึกหงุดหงิดกับเสียงร้องไห้ของภรรยา ทำให้จิตใจยิ่งกระวนกระวาย

นางหลี่ได้ยินเช่นนั้น ยิ่งเศร้าโศก ร่ำไห้พลางกล่าว "ท่านก็แค่คิด! คิดทั้งวันก็ไม่มีทางออก!"

"หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ชื่อเสียงของลูกสาวคงยากจะรักษาไว้ได้"

"ถ้าลูกสาวเป็นอะไรไป ข้าก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!"

นางหลี่ร้องไห้อย่างปวดร้าว หวังหลานอยากจะตำหนิแต่ก็สงสาร ได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

เขาเป็นคนรักภรรยา แต่งงานกับนางหลี่เพียงคนเดียว ไม่เคยมีอนุภรรยา

หลังแต่งงานมีธิดาเพียงคนเดียว เลี้ยงดูประดุจไข่มุกอันล้ำค่า กลัวว่าจะมีอันตรายใดๆ

สำหรับหวังหลาน ธิดาสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง

หากโจรต้องการทรัพย์สิน หวังหลานคงไม่หวาดกลัวถึงเพียงนี้

แต่ผู้ที่หมายตาลูกในดวงใจของเขากลับไม่ใช่โจรธรรมดา แต่เป็นโจรลักพาสตรี นี่ทำให้หวังหลานรู้สึกสิ้นหวัง

ในจังหวะนั้น ผู้ดูแลคฤหาสน์รีบวิ่งเข้ามารายงาน "นายท่าน ท่านนายพรานจากกรมหกประตูมาถึงแล้วขอรับ"

หวังหลานได้ยินเช่นนั้น ตื่นเต้นจนรีบเร่ง "เร็ว เร็ว... ข้าจะไปต้อนรับ"

พูดจบ หวังหลานก็รีบวิ่งออกไป เพราะรีบร้อนเกินไป จึงเกือบสะดุดล้ม

โชคดีที่ผู้ดูแลช่วยประคองไว้ทัน จึงรอดพ้นจากความอับอายที่จะล้มลง

โดยปกติ เมื่อผู้คนได้ยินว่ากรมหกประตูมาเยือน มักจะตกใจกลัวจนวิญญาณแทบหลุดลอย คิดว่าภัยพิบัติกำลังจะมาเยือน

แต่หวังหลานกลับตื่นเต้นผิดปกติในขณะนี้

เขาเข้าใจดีว่า พวกเขามาเพื่อช่วยชีวิต

ฉู่เทียนเก๋อนำกำลังสองชุดของกรมหกประตูมาถึงหน้าคฤหาสน์ตระกูลหวัง ก็เห็นชายวัยกลางคนร่างท้วมรีบร้อนวิ่งออกมาต้อนรับ

(จบบท)