ตอนที่ 170 ความรักข้ามดวงดาว!
ตอนที่ 170 ความรักข้ามดวงดาว!
“ฝ่าบาท ผมหวังว่าท่านจะตอบคำถามของผมอย่างตรงไปตรงมา ถ้าหาก . . . ผมหมายถึงถ้าหาก . . . จักรวรรดิชี’อาร์ส่งกองทัพมาโจมตีโลก เราจะสามารถต้านทานได้นานแค่ไหน?”
เมื่อถึงช่วงตอบคำถามในท้ายที่สุด โลกได้รับสิทธิ์ตั้งคำถามเพียง 30 ข้อ ทุกคนจึงใช้สิทธินี้อย่างระมัดระวัง และไม่มีใครอยากเป็นคนเริ่มถามก่อน ทำให้ในที่สุด นิค ฟิวรี่จึงยกมือเปิดประเด็นด้วยคำถามที่มนุษย์โลกทุกคนกังวลมากที่สุด
ในขณะเดียวกันเจ้าหญิงชี’อาร์ที่ได้ยินคำถามนี้ก็ทำหน้าตาขบขันอย่างชัดเจน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าลำบากใจและนิ่งเงียบ
ซึ่งทุกคนในที่นั้นเข้าใจความหมายของเธอในทันที พร้อมกับความเงียบที่แผ่ขยายไปทั่ว . . .
โลกช่างอ่อนแอเสียจริง! ดูเหมือนว่าแม้แต่จะรับมือกับการโจมตีครั้งเดียวก็ยังทำไม่ได้เลย!
อย่างไรก็ตามฟิวรี่ดูเหมือนจะมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่น เขารู้ว่าบนโลกมีผู้ที่มีพลังพิเศษมากมาย เช่น เอริค และแครอลซึ่งทั้งสองสามารถต่อกรกับยานรบของครีได้โดยตรง ฟิวรี่จึงไม่เชื่อว่าชี’อาร์ซึ่งอยู่ในระดับจักรวรรดิเดียวกันกับครีจะเหนือกว่ามากนัก
“ท่านคิดว่าโลกไม่สามารถต้านทานได้เลยหรือ? เรามีมนุษย์กลายพันธุ์ พลังของพวกเขา ท่านก็เห็นแล้วว่า เพียงแค่การโจมตีเดียว พวกเขาสามารถทำลายยานรบของครีได้!” เอริคกล่าวขึ้น เมื่อเห็นว่ามนุษย์โลกเริ่มหมดกำลังใจ
ถ้าถามว่าเหตุใดเอริคจึงจัดฉากนี้ขึ้น? ไม่ใช่เพื่อทำลายความมั่นใจของมนุษย์โลก แต่เพื่อปลุกความตระหนักถึงอันตรายในจักรวาล และกระตุ้นให้โลกเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคาม อย่าให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ชิทอรีที่โลกแทบหมดหนทางสู้ และต้องพึ่งพาเพียงกลุ่มอเวนเจอร์ส
นอกจากนี้เอริคยังมีเป้าหมายแฝง เขาต้องการย้ำเตือนให้โลกเห็นถึงความสำคัญของมนุษย์กลายพันธุ์ ถ้าหากยังคงกดขี่พวกเขาเช่นนี้ต่อไป ในวันที่เอเลี่ยนบุกจริง มนุษย์ธรรมดาก็คงต้องออกมาสู้กันเอง!
เจ้าหญิงชี’อาร์พยักหน้าเห็นด้วยเล็กน้อย ก่อนหันไปมองคนข้างหลัง ซึ่งก็คือจิมมี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
“จิมมี่แข็งแกร่งมากจริง ๆ” เธอกล่าวพร้อมด้วยแววตาที่ดูเหมือนสาวน้อยที่ปลาบปลื้มฮีโร่
ทันใดนั้นทุกคนในที่นี้ก็ต่างอุทานในใจกันอย่างพร้อมเพียงทันที ‘เป็นไปได้ไหมว่าจิมมี่สามารถเอาชนะใจเจ้าหญิงได้ในเวลาแค่ไม่กี่วัน? หรือว่ายูโทเปียกำลังจะเชื่อมสัมพันธไมตรีกับราชวงศ์ชี’อาร์?’
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
“อะแฮ่ม!” จิมมี่ที่ซึ่งสัมผัสได้ถึงสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องมาที่เขา เขาจึงแกล้งไอเบา ๆ พร้อมเบือนหน้าหนีด้วยท่าทีประหม่า
เจ้าหญิงชี’อาร์ไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ก่อนที่เธอจะพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“จิมมี่แข็งแกร่งมาก แต่พลังของเขานั้นจำกัดอยู่บนพื้นโลก หากเป็นในอวกาศ พลังของบุคคลเพียงคนเดียวแทบไม่มีความสำคัญเลย ในสงครามจักรวาล พลังส่วนบุคคลไม่อาจชี้ขาดผลแพ้ชนะได้”
เมื่อฟิวรี่ได้ยินคำพูดนี้เขาก็แค่นยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเขารู้ดีว่าความเห็นนี้ไม่ครอบคลุมถึงบุคคลที่ทรงพลังอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าเจ้าหญิงชี’อาร์ไม่ได้ยินเสียงบ่นในใจของฟิวรี่ และพูดขึ้นมาต่อว่า “นอกจากนี้ ไม่ใช่เพียงโลกที่มีผู้ที่มีพลังพิเศษ ชี’อาร์ก็มีเช่นกัน เรามีหน่วยราชองครักษ์ที่ประกอบด้วยยอดฝีมือ และผู้บัญชาการของพวกเขา—‘ดีเคน เนรามานี’ ถือเป็นหนึ่งในนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล”
เมื่อกล่าวถึงดีเคน ทั้งห้าคนจากชี’อาร์ก็แสดงสีหน้าชื่นชมอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าหญิงที่มีแววตาเปี่ยมด้วยความเลื่อมใส
น่าเสียดายที่มนุษย์โลกไม่มีใครรู้จักวีรบุรุษผู้นี้ หลังจากพักครู่หนึ่งจนพวกเขาสงบสติอารมณ์ลงได้ พวกเขาจึงเริ่มต้นตั้งคำถามอีกครั้ง
โดยคำถาม 30 ข้อ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอำนาจในจักรวาลและความปลอดภัยของโลก แต่ก็มีบางข้อที่แปลกประหลาด เช่นคำถามจากโทนี่ สตาร์ค
โทนี่เขียนสมการที่ซับซ้อนมากลงบนกระดาษ และขอให้ชาวชี’อาร์ช่วยแก้ไขมัน
ชาวชี’อาร์ทั้งห้าคนมองหน้ากันอย่างงุนงง แม้แต่ผู้แปลภาษาก็แปลสมการออกเป็นภาษาชี’อาร์ได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจ
ถ้าถามว่าเพราะอะไร?
เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นชาวชี’อาร์ตัวจริง แต่เจ้าหญิงที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างสุขสบาย สาวใช้ที่ไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และองครักษ์ที่มีแต่ประสบการณ์การต่อสู้ จะไปไขปริศนาที่แม้แต่โทนี สตาร์คยังแก้ไม่ได้ได้อย่างไร?
โทนี่มองทั้งห้าคนที่ดูอึดอัดอย่างชัดเจน ก่อนจะพูดประโยคหนึ่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดูแคลนว่า “จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล ก็ได้แค่นี้เอง!”
จากนั้นเขาก็หันหลังเดินจากไปทันที
ซึ่งเอริคที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ได้คาดคิดว่าโทนี่จะเล่นอะไรแบบนี้ แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจที่ชาวชี’อาร์ทั้งห้าคนเป็นเพียงนักแสดงของเขา หากพวกเขาเป็นตัวแทนของราชวงศ์ชี’อาร์จริง คำพูดของโทนี่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งระดับจักรวาลได้เลยทีเดียว
สำหรับสมการที่โทนีถามนั้น เอริคจำได้ทันทีว่านั่นก็คือสมการที่เกี่ยวกับธาตุใหม่ซึ่งฮาเวิร์ด สตาร์คเคยทิ้งไว้ให้เขา
ธาตุนี้มีต้นกำเนิดจากเทสเซอร์แร็ค ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ระดับสูงสุดในจักรวาล แม้ว่าชี’อาร์จะเคยครอบครองและค้นคว้าธาตุนี้ได้สำเร็จมาก่อน แต่พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะทำให้ความรู้เหล่านี้แพร่หลายไปทั่วทั้งจักรวรรดิได้ ดังนั้นเจ้าหญิงราชวงศ์สายรองจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นโทนี่จงใจทำให้ชาวชี’อาร์ทั้งห้าคนดูด้อยลงเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับมนุษย์โลก
. . .
เวลาหนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชาวชี’อาร์ทั้งห้าคนต่างถอนหายใจอย่างโล่งอกเหมือนเพิ่งผ่านพ้นภารกิจสำคัญ พวกเขาหันมามองหน้ากันและแสดงท่าทางบางอย่างที่คล้ายกับการตบมือฉลองความสำเร็จตามวัฒนธรรมของโลก
ซึ่งตามปกติแล้ว การถ่ายทอดสดควรจบลงตรงนี้ แต่ดูเหมือนกลุ่ม ‘ไรซ์ซิ่งไทด์’ จะไม่ได้ตัดสัญญาณทันที ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นถูกเผยแพร่ไปทั่วทั้งโลก
สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอนั้นก็คือภาพของราชาจิมมี่ที่เดินขึ้นมาพร้อมกับเสื้อคลุมอันงดงามในมือ
เขาเดินไปหาเจ้าหญิงชี’อาร์ ก่อนจะค่อย ๆ คลุมเสื้อบนไหล่ของเธออย่างอ่อนโยน ในระหว่างนั้นสายตาของทั้งสองสบกันอย่างลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เรื่องนี้ชัดเจนแล้ว!
ผู้ชมทั่วโลกเข้าใจได้ในทันทีว่าราชาจิมมี่สามารถพิชิตใจเจ้าหญิงจากต่างดาวได้สำเร็จแล้ว!
ข่าวนี้ได้สร้างความฮือฮามากกว่าการโจมตียานรบครีด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวซะอีก ก่อนที่ชาวโลกจะมองว่า ยูโทเปีย อาจจะเชื่อมสัมพันธไมตรีกับราชวงศ์ชี’อาร์ผ่านการแต่งงาน
ทำให้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วโลก และภายในสองชั่วโมง ก็เริ่มมีแฟนอาร์ตและเรื่องแต่งเกี่ยวกับราชาจิมมี่และเจ้าหญิงชี’อาร์ปรากฏขึ้นทั่วอินเทอร์เน็ต
ทำให้เอริคที่เฝ้าดูทุกอย่างจากมุมหนึ่งถึงกับงุนงง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของบทที่เขาวางแผนไว้เลย!
ดังนั้นเขาจึงรีบหันไปมอง ‘ทาลอส’ (ปลอมตัวเป็นชาวชี’อาร์อยู่) เพื่อถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทันใดนั้นเขากลับพบกับภาพที่คาดไม่ถึง . . .
สตรีชาวสครัลล์คนหนึ่งกำลังกอดและจูบกับราชาจิมมี่อย่างดูดดื่ม!
“อะไรเนี่ย? ช่างเป็นเหตุการณ์สุดดราม่าในสถานการณ์ผิดที่ผิดเวลาแท้ ๆ!”
ทั้งสองเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีผิวสีเขียวจากเผ่าพันธุ์ต่างกัน แต่กลับมาพบรักกันในช่วงเวลาที่ไม่คาดคิด รักต่างเผ่าพันธุ์ ต่างสปีชีส์ และต่างดวงดาว!
เอริคเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะเขาก็ไม่อยากเป็นคนที่มาทำลายความรักที่ดูเหมือนชะตากรรมกำหนดไว้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผู้นำของเผ่าสครัลล์ที่ยังยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทีสนุกสนานก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจใด ๆ เลย
“เอาเถอะ ถ้าพวกเขามีความสุข และมันไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการของฉัน ก็ปล่อยให้พวกเขาไปเถอะ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้มีผลกระทบทางชีวภาพที่จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่”
ตราบใดที่ละครยังดำเนินไปได้ตามแผน เอริคก็ไม่มีเหตุผลที่จะเข้าไปยุ่งกับความรักที่เหนือขอบเขตของทั้งเผ่าพันธุ์และจักรวาลนี้!
โปรดติดตามตอนต่อไป …