ตอนที่ 165 สิ่งที่พวกเขาเปิดเผย เป็นความจริงทั้งหมดแล้วจริงเหรอ?!

ตอนที่ 165 สิ่งที่พวกเขาเปิดเผย เป็นความจริงทั้งหมดแล้วจริงเหรอ?!

สายตาของคนทั้งโลกจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มร่างใหญ่ที่ดูไม่น่าดึงดูดคนนี้ ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และยังไม่ประสีประสาของเขาแสดงถึงความหวาดกลัวและความเศร้า แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือความมุ่งมั่น และการตัดสินใจที่จะปกป้องบ้านเกิดของเขาจนถึงวาระสุดท้าย!

ที่ศูนย์บัญชาการชิลด์ ฟิวรี่ชะงักมือที่กำลังจะกดเพจเจอร์ ดวงตาเดียวของเขาจ้องเขม็งไปที่จิมมี่ ส่วนที่เพนตากอน รหัสในกระเป๋าของประธานาธิบดีได้ถูกป้อนเสร็จแล้ว เหลือเพียงบิดกุญแจเพื่อเริ่มระบบ แต่ทุกสายตากลับจับจ้องไปที่จอภาพ เช่นเดียวกับนายพลรอสส์ที่ละนิ้วออกจากปุ่มโทรศัพท์ เพื่อหันมาสนใจภาพของมนุษย์กลายพันธุ์ผิวเขียวที่ปรากฏบนหน้าจอ

เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นพร้อมกันในหลายแห่งทั่วโลก ทุกประเทศต่างเตรียมความพร้อมอาวุธลับของตัวเองไว้สำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด แต่ในช่วงเวลานี้กลับเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่ง พร้อมกับทุกสายตาที่จับจ้องไปยังมนุษย์กลายพันธุ์สีเขียวเพียงผู้เดียว

“เขาถืออะไรอยู่? สิ่งนั้นจะทำลายยานรบต่างดาวได้ไหม?” คำถามนี้วนเวียนอยู่ในใจของคนจำนวนนับไม่ถ้วน

“ดูสัญลักษณ์นั่นสิ นั่นมันโลโก้ของบริษัทดูม นี่คือเทคโนโลยีสุดล้ำจากดูมหรือเปล่า? เหมือนกับที่เขาใช้จัดการหุ่นยนต์พวกนั้น”

“แต่แค่อาวุธเล็ก ๆ จะสู้กับยานรบต่างดาวขนาดมหึมาได้ยังไง?”

“หรือมันจะเป็นเวทมนตร์? เมื่อครู่ดูมก็ใช้เวทมนตร์เหมือนกัน”

“แต่เวทมนตร์ก็ไม่ได้แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง นี่มันยานรบต่างดาวนะ!”

. . .

ท่ามกลางสายตานับล้าน จิมมี่สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ก่อนที่มือที่มีพังผืดสีเขียวของเขาลูบผ่านอาวุธลึกลับอย่างนุ่มนวล พร้อมกับหมอกสีเขียวบาง ๆ ที่ค่อย ๆ ปกคลุมอาวุธนั้นเปล่งประกายแสงสีเขียวที่อ่อนโยน แต่สะดุดตาอย่างยิ่ง

ทันใดนั้นอาวุธลึกลับก็ดูเหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เทคโนโลยีและเวทมนตร์ของดูม รวมเข้ากับพลังพิเศษของจิมมี่ ดูเหมือนจะทำให้อาวุธนี้พัฒนาไปอีกขั้น

จิมมี่ค่อย ๆ กดไกปืน ทันใดนั้นลำแสงสีเขียวที่ดูหม่นหมองก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาของคนหลายพันล้านคน พุ่งตรงไปยังเกราะพลังงานของยานรบครี

ทุกคนกลั้นหายใจจ้องมองจุดเล็ก ๆ สีเขียวที่กระทบเกราะพลังงาน

หนึ่งวินาที . . . ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มขึ้น

สองวินาที . . . ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความรู้สึกไม่ดีเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของผู้ชม

สามวินาที . . . ความผิดหวังเริ่มครอบงำทุกคน

สี่วินาที . . . แต่ทันใดนั้น เกราะพลังงานของยานรบครีก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

จุดสีเขียวเล็ก ๆ บนเกราะใสนั้นเริ่มกระจายตัวออกเหมือนหยดหมึกในน้ำที่กำลังแพร่ขยาย และใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีจุดสีเขียวก็แผ่ปกคลุมทั่วทั้งเกราะพลังงาน

ทันใดนั้นเสียงที่เหมือนฟองสบู่แตกก็ดังขึ้น

โพล๊ะ!

เกราะพลังงานที่สามารถทนต่อการโจมตีจากอาวุธอวกาศกว่าร้อยอันกลับพังทลายลงในพริบตา!

แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้ . . .

เกราะพลังงานที่แตกเริ่มกลายเป็นแสงสีเขียว คล้ายกับหยดกรดที่ร่วงลงบนยานรบครี ก่อนที่มันจะเริ่มกัดกร่อนตัวยานทันทีจนเกิดรูขนาดใหญ่ไปทั่ว

รูเหล่านั้นค่อย ๆ ขยายตัวและเชื่อมต่อกัน และใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ยานรบครีขนาดมหึมาก็เหลือเพียงผงฝุ่นสีเขียวที่ลอยในอากาศ

ทันใดนั้นสายฝนก็โปรยปรายลงมา พร้อมกับน้ำฝนที่ชะล้างผงฝุ่นสีเขียวให้ร่วงลงสู่พื้นดิน

. . .

“แย่แล้ว!” โลกทั้งใบเหมือนสั่นสะเทือน ทุกคนลืมตาค้างมองผงฝุ่นที่ถูกน้ำฝนชะลงมา เพราะสิ่งนี้สามารถทำลายยานรบครีได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ถ้ามันกระทบพื้นโลกมันจะเกิดอะไรขึ้น?!

แต่แล้วสิ่งที่ทุกคนกังวลก็ไม่เกิดขึ้น . . .

น้ำฝนที่ปะทะกับผงฝุ่นนั้น ค่อย ๆ ทำให้มันจางหายไป เหมือนมันกลายเป็นเพียงเศษดินที่หลอมรวมกลับสู่พื้นดิน โดยไม่ทิ้งร่องรอยความเสียหายใด ๆ ไว้เลย

ศูนย์บัญชาการชีลด์

“นาตาชา รีบไปที่ยูโทเปียเดี๋ยวนี้! ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับอาวุธนั่น และอย่าลืมตัวมนุษย์กลายพันธุ์นั่นด้วย!” ฟิวรี่เก็บเพจเจอร์เข้ากระเป๋าแล้วตะโกนสั่งเสียงดังจนคนที่กำลังตะลึงกับจอทีวีสะดุ้ง

เพนตากอน

“CIA! FBI! หน่วยสรรพากร! เอเรีย 51! รวมถึงหน่วยพิเศษอื่น ๆ ที่ฉันไม่รู้จักด้วย เร็วเข้า! ขยับตัวกันหน่อย! อาวุธชิ้นนั้นต้องเป็นของสหรัฐฯ เท่านั้น!” ประธานาธิบดีกระแทกสองมือบนโต๊ะพลางตะโกนเสียงดัง

แน่นอนว่าภาพเหตุการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในหลายประเทศ หลายองค์กรต่างพากันเคลื่นไหวอย่างบ้าคลั่ง แต่ผู้ชมทั่วไปหน้าจอกลับไม่รู้เรื่องนี้เลย สิ่งเดียวที่พวกเขารู้ก็คือ มนุษย์กลายพันธุ์ที่ชื่อ ‘จิมมี่’ ได้ช่วยโลกไว้ ช่วยทุกคนไว้ เขาคือผู้กอบกู้โลก! ฮีโร่ของมวลมนุษยชาติ!

ผู้คนยังคงจ้องมองไปที่จอทีวีอย่างเหม่อลอย มองฝุ่นสีเขียวที่ถูกชะล้างด้วยสายฝนจนหมดสิ้น ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นส่งเสียงโห่ร้องยินดี พวกเขาร้องเพื่อฉลองการรอดชีวิต เพื่อฉลองชัยชนะเหนือมนุษย์ต่างดาว และเพื่อจิมมี่!

ทันใดนั้นการถ่ายทอดสดก็ดูเหมือนจะจบลงอย่างสมบูรณ์ ภาพบนหน้าจอกลายเป็นสีดำสนิท ในขณะที่เสียงโห่ร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับโลโก้รูปดวงตาวาดเส้นหยาบ ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ สักพักมันเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘ไรซิ่งไทด์’ ตามมาด้วยข้อความว่า ‘เปิดเผยความจริงให้โลกเห็น!’

ภาพสุดท้ายปรากฏเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงคนส่วนน้อยที่ทันสังเกตเห็น แต่เหตุการณ์นี้ไม่ได้หยุดให้คนพูดถึงองค์กรลึกลับที่เรียกตัวเองว่า ‘ไรซิ่งไทด์’ ซึ่งตอนนี้ได้รับความสนใจไม่แพ้กับเรื่องราวที่จิมมี่ช่วยโลกไว้เลย

รัฐบาลของแต่ละประเทศเริ่มส่งคนไปสืบสวนเกี่ยวกับองค์กร ‘ไรซิ่งไทด์’ และในอนาคตอีกยาวนาน หน่วยงานสายลับทั่วโลกจะต้องวุ่นวายกับการตามรอยองค์กรนี้

ในช่วงเวลาถัดมา การรุกรานของมนุษย์ต่างดาวและเรื่องราวที่จิมมี่ช่วยโลกก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่คนทั้งโลกพูดถึง จนข่าวเรื่องการตั้งประเทศของมนุษย์กลายพันธุ์ถูกเบียดตกกระแสไป

ส่วนองค์กร ‘ไรซิ่งไทด์’ ก็ยังคงทำตามคำมั่นสัญญาของพวกเขา โดยปรากฏตัวในโลกออนไลน์เป็นครั้งคราว หลบหลีกการตามล่าของสายลับและแฮกเกอร์ทุกคนได้อย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมเปิดเผยความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์ก่อตั้งประเทศของมนุษย์กลายพันธุ์ให้โลกได้รับรู้

. . .

หลังจากที่จิมมี่ยิงทำลายยานรบครีได้ เขาได้รับการยกย่องให้เป็นราชาแห่งยูโทเปียในทันที พร้อมกับประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับลัตเวเรีย และลงนามความร่วมมือเป็นมิตรภาพระหว่างสองประเทศ

เรื่องของอาวุธลึกลับก็ถูกเปิดเผยโดยองค์กร ‘ไรซิ่งไทด์’ ว่ามันเป็นเพียงอาวุธยิงลำแสงกัดกร่อนธรรมดาที่พัฒนาโดยบริษัทดูมเท่านั้น มีพลังทำลายล้างเพียงระดับปานกลาง แต่สิ่งที่ทำให้มันทรงพลังคือความสามารถพิเศษของจิมมี่ ซึ่งควบคุมพลังงานกัดกร่อน และการผสมผสานระหว่างสองสิ่งนี้โดยบังเอิญกลับสร้างผลลัพธ์ที่ทำลายล้างอย่างเหลือเชื่อ!

ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้น เมื่อมีจุดแสงเล็ก ๆ ที่ดีดตัวออกมาจากยานมนุษย์ต่างดาวมันก็กลายเป็นที่จับตามองอีกครั้ง และเมื่อตรวจสอบพวกเขาก็พบว่ามันก็คือแคปซูลหลบหนีของเอเลี่ยน ซึ่งบังเอิญตกลงใกล้แม่น้ำดานูบ

ทำให้ยูโทเปียและลัตเวเรียจึงรีบร่วมมือกันตามแคปซูลหลบหนีเหล่านั้นไปอย่างรวดเร็ว

. . .

ในขณะเดียวกันในเวลาอันสั้น ‘ไรซิ่งไทด์’ ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความจริง พวกเขามีวิธีการที่ลึกลับเสมอในการเปิดเผยเรื่องราวต่าง ๆ ให้โลกรู้

แต่มันก็ยังมีคำถามที่ยังค้างคาใจอยู่ก็คือ . . . สิ่งที่พวกเขาเปิดเผย เป็นความจริงทั้งหมดแล้วจริงเหรอ?

โปรดติดตามตอนต่อไป …