ตอนที่แล้ว66 - วันหิมะตก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป68 - ข้อคิดจากต้นไผ่

67 - การสอบเด็กชาย


"ช่างเป็นเด็กสาวที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย!"

จูผิงอันส่ายหัวเบา ๆ แล้วละสายตาไปจากคุณหนูหลี่ซู ผู้เป็นหญิงสาวเจ้าอารมณ์ เขาไม่ใส่ใจหญิงสาวที่ถูกครอบครัวตามใจจนเสียคน แล้วเขาก็หันไปเห็นสาวใช้ ฮวาเอ๋อร์ ที่ยังคงมองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยและชื่นชม เขาจึงยิ้มออกมา

“ข้าดูดวงชะตาฟ้าดิน แล้วคำนวณด้วยนิ้วมือว่าวันนี้จะมีหิมะตก”

จูผิงอันปัดหิมะออกจากตัว พร้อมพูดตอบคำถามของฮวาเอ๋อร์ด้วยท่าทางจริงจังราวกับเป็นนักพยากรณ์

ฮวาเอ๋อร์กระพริบตาปริบ ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง

“ฮวาเอ๋อร์ เจ้านี่ซื่อจริง ๆ! เขาเขียนว่า ‘วันนี้หิมะตก’ แล้วก็สั่งให้เจ้าเปิดตอนหิมะตกเท่านั้น จะไม่ตรงได้ยังไง!” หลี่ซูอดไม่ได้ที่จะยื่นมือขาวผ่องเคาะหน้าผากของฮวาเอ๋อร์เบา ๆ

ฮวาเอ๋อร์ลูบหน้าผากตัวเองด้วยความรู้สึกผิด พลางคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง เขาพองแก้มและจ้องมองจูผิงอันด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “อ๊า! ที่แท้ข้าก็โดนเจ้าหลอกอีกแล้ว!”

จูผิงอันหันหน้าหนี แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้

“เจ้าคนเลว วันนี้ไม่ว่าจะยังไงข้าก็จะไม่ให้เจ้ากินอะไรเด็ดขาด!” ฮวาเอ๋อร์พูดอย่างขุ่นเคือง

เหล่าบ่าวไพร่และสาวใช้อื่น ๆ ที่อยู่เบื้องหลังหลี่ซูต่างก็หัวเราะออกมา ในยุคโบราณที่ไม่มีความบันเทิงอื่น ๆ พวกเขากลับตั้งตารอให้จูผิงอันมาหยิบยืมหนังสืออยู่เสมอ เพราะทุกครั้งที่เขามา เขาจะนำของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ มาแบ่งให้ และเล่าเรื่องสนุก ๆ ให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทพนิยายหรือนิยายกำลังภายใน ซึ่งมักจะทำให้พวกเขาเพลิดเพลิน และดูเหมือนว่าของกินที่ฮวาเอ๋อร์นำมาจะถูกปากจูผิงอันที่สุด

ห้องสมุดของบ้านเศรษฐีหลี่ถูกสร้างอย่างกว้างขวางและหรูหรา หนังสือที่เก็บไว้ก็มีมากมายและหลากหลาย ซึ่งดึงดูดความสนใจของจูผิงอันทุกครั้งที่มา

ในห้องสมุดมีชายชราคนหนึ่งไว้เคราขาว ทำหน้าที่ดูแล เมื่อจูผิงอันเข้ามา เขาก็หยิบหนังสือเล่มที่ยืมครั้งก่อนจากกระเป๋าสะพายส่งคืนด้วยสองมือ ชายเคราขาวตรวจสอบความเรียบร้อยของหนังสือ ก่อนจะอนุญาตให้จูผิงอันเข้าไปเลือกหนังสือใหม่

“อืม... อันเอ๋อร์ (คำเรียกแบบรักใคร่) เป็นคนรักหนังสือสินะ อีกไม่กี่เดือนก็ถึงการสอบบัณฑิตแล้ว เจ้าจะลองลงสนามดูสักหน่อยไหม?” ชายเคราขาวพูด

การสอบบัณฑิตหรือที่เรียกว่า “การสอบเด็กชาย ก่อนการสอบเพื่อเป็นบัณฑิต แบ่งออกเป็นสามขั้นตอน ได้แก่ การสอบระดับอำเภอ การสอบระดับเมือง และการสอบระดับสถาบัน การสอบระดับอำเภอจัดขึ้นที่แต่ละอำเภอ โดยมีเจ้าเมืองเป็นผู้ดูแล ส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์และสอบต่อเนื่องห้าครั้ง หากผ่านการสอบระดับอำเภอ จะเข้าสู่การสอบระดับเมืองที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน ต่อเนื่องสามครั้ง และหากผ่านทั้งสองขั้นตอนนี้จะได้รับตำแหน่ง ”ถงเซิง“ซึ่งจะมีสิทธิ์เข้าสอบระดับสถาบันที่จัดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษา หากผ่านการสอบนี้ จะได้รับตำแหน่ง ”เซิ่งหยวน” (บัณฑิต)

สำหรับจูผิงอัน ครั้งนี้เขาจะเข้าสอบหรือไม่นั้น...

“การสอบเด็กชายหรือ? อืม... ดูเหมือนว่าเมื่อวันก่อนอาจารย์จะบอกว่าข้าไม่จำเป็นต้องสอบหรอก แต่เพราะพี่ชายร่วมสำนักคนหนึ่งต้องไว้ทุกข์จึงไม่สามารถสอบได้ และการสมัครสอบต้องมีคนค้ำประกันห้าคน พอดีข้าช่วยเติมเต็มจำนวนได้ อาจารย์เลยบอกว่าให้ไปลองดู เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จะได้ไม่ตกใจในครั้งต่อ ๆ ไป”

จูผิงอันคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเล่าถึงคำพูดของอาจารย์ให้ชายเคราขาวฟัง ก่อนจะยิ้มเยาะตัวเองเบา ๆ

การสอบนี้ ผู้สมัครจะต้องมีการค้ำประกันโดยบุคคล 5 คนจากเขตเดียวกัน และต้องมีผู้ศึกษาระดับ หลิ่นเซิง ซึ่งมีสิทธิ์ค้ำประกันเป็นผู้รับรองอีกด้วย เรียกว่า “เหรินเป่า” อาจารย์ซุน ผู้เป็นอาจารย์ของจูผิงอันเองก็เป็นหลิ่นเซิงที่มีคุณสมบัติค้ำประกัน ตอนแรกเขาไม่คิดจะให้จูผิงอันลงสอบเลย แต่เพราะหนึ่งในกลุ่มผู้สมัครที่ต้องทำหน้าที่ค้ำประกันติดภารกิจไว้ทุกข์ ทำให้ขาดคนไปหนึ่งคน อาจารย์ซุนจึงใส่ชื่อจูผิงอันเข้าไปแทน โดยไม่ได้คาดหวังให้เขาสอบผ่านเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ให้ไปช่วยเติมจำนวนให้ครบเท่านั้น

“โอ้โห! เจ้าคางคกยังพอมีสติรู้อะไรดีอยู่บ้างนะ เจ้าเด็กขี้โกงหลอกสาวแบบเจ้าถ้าสอบติดได้ล่ะก็ แดดคงต้องออกทางทิศตะวันตกแน่ ๆ ข้าบอกเลยว่า การบอกว่าเจ้าแค่ไปช่วยเพิ่มจำนวนยังถือว่ายกย่องเกินไป คนที่สอบติดได้ต้องเป็นดาวนักปราชญ์บนฟ้า แต่เจ้าน่ะมันแค่คางคกตัวหนึ่ง!”

คำพูดของจูผิงอันยังไม่ทันจบ หลี่ซู คุณหนูเจ้าอารมณ์ที่ตามหลังมาก็เอ่ยคำเยาะเย้ยขึ้นทันที

เมื่อพูดจบ หลี่ซูมองจูผิงอันที่นิ่งอึ้ง แล้วก็หัวเราะคิกคักอย่างสะใจ จากนั้นสาวใช้และคนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังก็พากันหัวเราะตาม

แม้คำพูดของหลี่ซูจะทำให้จูผิงอันรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นเหล่าสาว ๆ พากันหัวเราะร่าเริงในสายตาของเขา มันก็ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินได้เหมือนกัน

จูผิงอันทำเพียงยิ้มบาง ๆ แล้วเดินเข้าไปเลือกหนังสือในห้องสมุดต่อ เขาเลือกหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการสอบ เช่น ตำรา สี่หนังสือห้าคัมภีร์ และ ข้อเขียนแปดขุทธ์ ซึ่งเป็นตำราสำหรับการสอบ แม้เนื้อหาจะดูคล้ายกัน แต่คำอธิบายโดยจูซีและซูซือแตกต่างกัน ครั้งนี้เขาเลือกเล่ม “จงหยง” ที่เขียนโดยจูซี

แต่ละครั้งสามารถยืมได้แค่เล่มเดียว กฎนี้ถูกตั้งโดยหลี่ซู คุณหนูเจ้าอารมณ์ที่เพิ่งเยาะเย้ยเขาเมื่อครู่ ซึ่งเศรษฐีหลี่ผู้เป็นบิดาก็สนับสนุนจนออกกฎนี้ขึ้นมา

เมื่อเลือกหนังสือเสร็จ หลี่ซูก็ไม่ยอมให้จูผิงอันกลับง่าย ๆ เขาบังคับให้จูผิงอันเล่าเรื่องหนึ่งก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่ให้ยืมหนังสือ

ด้วยความจำใจ จูผิงอันจึงเล่าต่อจากเรื่อง “เทียนหลงปาปู้” ที่ยังเล่าไม่จบในครั้งก่อน

สาวใช้และคนรับใช้ที่อยู่ในห้องสมุด ต่างก็นำเก้าอี้มานั่งเรียงกัน พร้อมทั้งหยิบขนมออกมาทานอย่างคุ้นเคย แต่วันนี้ฮวาเอ๋อร์ยังโกรธจูผิงอันที่หลอกเขา จึงไม่แบ่งของกินให้จูผิงอัน

ที่ร้ายกว่านั้น หลี่ซูจงใจสั่งครัวให้ทำซุปไก่มาเสิร์ฟ เนื้อแกะและปลาแผ่นบาง ๆ พร้อมผักสดถูกจัดวางบนโต๊ะ สาวใช้รวมทั้งฮวาเอ๋อร์นั่งล้อมโต๊ะทานซุปไก่กันอย่างออกรส และจงใจส่งเสียงดังเพื่อแกล้งจูผิงอัน

ในวันที่หิมะตกหนักเช่นนี้ ซุปไก่ดูเหมือนจะเป็นเมนูที่เหมาะที่สุด

จูผิงอันไม่รู้ว่าเขากลืนน้ำลายไปกี่ครั้งแล้ว ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ จึงหันไปพูดกับฮวาเอ๋อร์ “คุณหนูฮวาเอ๋อร์...”

ฮวาเอ๋อร์ที่ปากเต็มไปด้วยเนื้อแกะ หันมามองเขาแล้วส่ายหน้า “อย่าคิดเลย ครั้งนี้ยังไงข้าก็ไม่แบ่งให้เจ้ากินแน่นอน!”

“เปล่า... ไม่ได้จะขอของกิน แค่ขอยืมผ้าเช็ดหน้าสักผืนได้หรือไม่?” จูผิงอันส่ายหัว

“จะเอาไปทำอะไร?” ฮวาเอ๋อร์ถามด้วยความสงสัย

“ตอนเห็นพวกเจ้ากินกัน จะได้เช็ดน้ำลาย...” จูผิงอันตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าสาวใช้ที่นั่งกินซุปไก่ก็หัวเราะออกมาเสียงใส

“ดูเจ้าไม่มีความทะเยอทะยานอะไรเลย แล้วยังจะหวังไปสอบเข้าระดับนักปราชญ์อีก! ข้าบอกเลยว่าไม่เคยเห็นดาวนักปราชญ์คนไหนไร้ค่าแบบเจ้า!” หลี่ซูพูดพลางมองจูผิงอันด้วยสายตาเหยียดหยาม

จากนั้นเขาหันไปสั่งสาวใช้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง “เจ้าไปบอกครัวให้ส่งซุปไก่มาอีกชุด!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด