บทที่ 544 "เขาคือแฟนของเซี่ยหลี่" (ฟรี)

เซี่ยหลี่เคยติดต่อกับหม่าเทียนมาก่อน ประการแรกเธอชอบเขามาก และประการที่สองก็เพื่อรักษาตำแหน่งของพ่อเธอในสาขาดีฟบลู

ทุกคนรู้ดีว่าหม่าเทียนเป็นผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานใหญ่ดีฟบลู ตอนนั้นเขาได้เผยว่านอกจากจะรับประกันตำแหน่งของพ่อเซี่ยหลี่ในสาขาแล้ว เขายังยินดีที่จะย้ายเซี่ยหลี่ไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ด้วย

ในสายตาคนนอก เซี่ยหลี่กับหม่าเทียนเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง

ผู้หญิงสวย ผู้ชายหล่อ ทั้งคู่ก็รวยด้วย พวกเขาเข้ากันได้ดี

เซี่ยหลี่หันไปมองชูเป่ย แล้วหันไปมองหม่าเทียน ความแตกต่างนั้นชัดเจนจนไม่จำเป็นต้องพูดอะไร

"พี่เทียน!" เซี่ยหลี่ทักทายด้วยรอยยิ้ม

"จิงจิง" หม่าเทียนโบกมือ วันนี้เขาสวมสูทอาร์มานีที่ตัดเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่ดูโดดเด่นและแสดงถึงความมีระดับ แต่ยังดึงดูดสายตาผู้คนมากมาย

"คุณหม่า"

"ว้าว พี่หม่าเทียน"

"คุณหม่า ไม่ได้เจอกันนาน"

หลังจากที่เซี่ยหลี่ทักทาย หลายคนก็เริ่มทักทายหม่าเทียนทันที

สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและความอิจฉา

ในทางกลับกัน ชูเป่ยดูเหมือนคนผ่านทางเมื่อเทียบกับหม่าเทียน

โดยมีสวี่คุนยืนอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ด้วยกันเป็นภาพที่งดงามอย่างแท้จริง

พวกเขาเป็นเหมือนดาวที่สะดุดตาที่สุดในสถานที่แห่งนี้

ในตอนนี้ สวี่คุนดึงตัวหม่าเทียนและกระซิบบางอย่างที่หูของเขา สีหน้าของหม่าเทียนเปลี่ยนไปหลายครั้ง แล้วเขาก็พูดที่หูของสวี่คุน

"ไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉัน ฉันจะทำให้เขาได้หน้าวันนี้"

จากนั้นเขาก็เดินไปหาเซี่ยหลี่ตามลำพัง

"จิงจิง คนที่อยู่ข้างๆ เธอคือใคร?" หม่าเทียนถามขึ้นอย่างกะทันหัน

สวี่คุนเพิ่งเล่าให้หม่าเทียนฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ในสาขาดีฟบลู

ดังนั้นหม่าเทียนจึงอยากเข้ามาก่อกวนชูเป่ยในตอนนี้

สำหรับเขาแล้ว การจัดการใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หรอกหรือ?

จริงๆ แล้วหลายคนก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมเซี่ยหลี่ถึงมีผู้ชายมาด้วย

แต่ตอนแรกทุกคนคิดว่าชายคนนี้เป็นผู้ติดตามของเซี่ยหลี่หรืออะไรทำนองนั้น จึงไม่มีใครถามอะไรมากไปกว่านั้น

เมื่อถูกหม่าเทียนถาม เซี่ยหลี่ก็รู้สึกอึดอัดทันที

เธอควรแนะนำชูเป่ยอย่างไรดี?

เธอควรจะบอกต่อหน้าทุกคนและต่อหน้าหม่าเทียนว่าชูเป่ยเป็นแฟนของเธอหรือ?

เซี่ยหลี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็มองดูเสื้อผ้าของชูเป่ย แล้วพูดออกมา

"เขาคือ..."

"เขาคือแฟนของเซี่ยหลี่ ลูกสาวตระกูลเซี่ย!"

จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา เผยตัวตนของชูเป่ยออกมาตรงๆ

ทุกคนมองไปทางไกล เห็นหญิงสาวที่งดงามอย่างยิ่ง สวมชุดราตรีสีเบจ เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ราวกับหงส์งาม

มีกลุ่มคนเดินตามหลังเธอมา เต็มไปด้วยบรรยากาศของผู้มีอำนาจ

แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าหญิงสาวงามคนนี้มีฐานะที่ไม่ธรรมดา

ในระยะไกล เกิ้งเหม่ยยุ่นกับชายวัยกลางคนยืนอยู่ด้วยกัน มีรอยยิ้มบนใบหน้า

ชายวัยกลางคนคนนี้ก็คือเจิ้งหยงต้า

เจิ้งหยงต้าคอยขยิบตาให้ชูเป่ย

"เฒ่าเจิ้ง คุณคิดว่ามันเหมาะสมไหมที่จะทำลายสถานการณ์แบบนี้? ถ้าคุณชูโกรธเราทีหลัง เราคงรับไม่ไหว" เกิ้งเหม่ยยุ่นดูกังวลเล็กน้อย

"ฉันว่าวันนี้อาจมีคนโชคร้าย แต่แน่นอนว่าไม่ใช่พวกเรา" เจิ้งหยงต้ามองหม่าเทียนกับสวี่คุนด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก

ยิ่งไปกว่านั้น แค่นี้ชูเป่ยก็จะสามารถเข้ากับบริษัทดีฟบลูได้ดีขึ้น

เขาคือแฟนของเซี่ยหลี่?

พอคำพูดนี้หลุดออกมา ชูเป่ยก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในงานทันที

สายตามากมายจ้องมองที่ชูเป่ย แต่หลังจากเห็นเสื้อผ้าของเขา สายตาเหล่านั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นไม่เป็นมิตร กลับกลายเป็นการดูถูกและเยาะเย้ย

เพราะในงานแบบนี้ ทุกคนแต่งตัวอย่างเป็นทางการ แต่ชูเป่ยกลับแต่งตัวแตกต่างจากคนอื่น ดูแย่กว่าพนักงานเสิร์ฟเสียอีก

ใบหน้าของเซี่ยหลี่แดงก่ำทันที เธอรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เพราะรู้สึกว่ามันน่าอายที่ต้องพูดคำเหล่านี้

"เกิ้งเหม่ยยุ่น เธอพูดว่าอะไรนะ?" หม่าเทียนก็ตกตะลึงเช่นกัน

เมื่อกี้สวี่คุนเพิ่งบอกเขาว่าคนนี้เป็นเพื่อนของเซี่ยหลี่ และกำลังเป็นที่นิยมในสาขาดีฟบลูเมื่อเร็วๆ นี้

แต่เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะกลายเป็นแฟนของเซี่ยหลี่ไปซะงั้น

และเขาที่มาที่นี่เพื่อจะอวดอำนาจให้ชูเป่ยดู แต่ชูเป่ยกลับแสดงอำนาจให้เขาดูก่อน

แม้แต่สวี่คุนก็ยังตกตะลึง ข้อมูลที่เขาได้รับมาผิดพลาดหรือ?

แต่ทำไมชูเป่ยถึงกลายเป็นแฟนของเซี่ยหลี่ได้อย่างกะทันหัน?

คนที่อยู่ในที่นี้ล้วนเป็นลูกหลานตระกูลร่ำรวย พวกเขาย่อมรู้ข่าวลือบางอย่าง

ในสายตาทุกคน หม่าเทียนกับเซี่ยหลี่เป็นคู่ที่เหมาะสมกัน แล้วทำไมจู่ๆ ก็มีคนโผล่มาเป็นแฟนของเซี่ยหลี่?

แต่ทุกคนก็แสดงสีหน้าสะใจและรอดูการแสดงทันที

ซ่งหนี่ซางที่อยู่ข้างๆ ตกใจจนถือแก้วไวน์ไม่มั่น

ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีละครให้ดูแล้ว กล้าแย่งผู้หญิงของหม่าเทียนงั้นเหรอ?

มันคงแปลกถ้าหม่าเทียนจะปล่อยชูเป่ยไปง่ายๆ

ในตอนนี้ มีหญิงสาวงามอีกคนเดินออกมาจากฝูงชนและเข้ามาหาชูเป่ยพร้อมพูดว่า

"สวัสดีค่ะ ฉันเกิ้งซิวเอ๋อร์ เกิ้งเหม่ยยุ่นเป็นพี่สาวฉัน" เกิ้งซิวเอ๋อร์ยกชายกระโปรงคำนับชูเป่ยเล็กน้อย

สีหน้าของเซี่ยหลี่ดูแย่มาก

เพราะเธอไม่อยากให้เรื่องของหม่าเทียนถูกเปิดเผยต่อหน้าเธอ และในงานนี้ มันเท่ากับเป็นการบอกทั้งเมืองว่าชูเป่ยเป็นแฟนของเธอ

แต่คนที่พูดคือเกิ้งเหม่ยยุ่นแห่งตระกูลเกิ้ง ซึ่งเป็นประธานตระกูลเกิ้งในปัจจุบัน เซี่ยหลี่จึงไม่กล้าพูดอะไร

เกิ้งซิวเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่ใช่คนที่จะมาวุ่นวายด้วยได้ง่ายๆ หรือพูดอีกอย่างก็คือ ทั้งตระกูลเกิ้งไม่ใช่คนที่จะมายุ่งด้วยได้ง่ายๆ แต่ละคนเป็นเสือที่ซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ใต้รอยยิ้ม

ในฐานะคนรุ่นใหม่ในวงการลูกหลานตระกูลร่ำรวยแห่งกวางโจว เกิ้งซิวเอ๋อร์มีความสามารถและสถานะที่ไม่ธรรมดา อย่างน้อยก็แข็งแกร่งกว่าเซี่ยหลี่มากนัก

"แฟน?" สีหน้าของหม่าเทียนเครียดขึ้นมาทันที

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เซี่ยหลี่จะต้องเป็นผู้หญิงของเขาในอนาคต ซึ่งเป็นที่รับรู้และรู้กันทั่ว

แต่พอเกิ้งซิวเอ๋อร์พูดแบบนี้ มันเหมือนเป็นการตบหน้าเขา ทำให้หม่าเทียนรู้สึกอับอายเล็กน้อย

ผู้หญิงที่เขาจองไว้แล้วจู่ๆ ก็กลายเป็นแฟนของคนแปลกหน้าที่แต่งตัวห่วยแตก และไม่มีใครรู้จัก หม่าเทียนจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกได้อย่างไร?

แม้แต่เพื่อรักษาหน้า เขาก็ข้ามเรื่องนี้ไปไม่ได้ใช่ไหม?

"จริงเหรอ?" หม่าเทียนมองเซี่ยหลี่ด้วยความไม่พอใจ รอให้เธอยืนยัน

หลังจากลังเลอยู่นาน ในที่สุดเซี่ยหลี่ก็พยักหน้าช้าๆ อย่างยากลำบาก

เรื่องนี้ไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไป และสักวันก็ต้องรู้กันอยู่ดี

นี่ก็เป็นปัญหาที่เธอต้องเผชิญ

แต่มองดูชูเป่ย แล้วมองดูหม่าเทียน

ช่องว่างมันใหญ่เกินไป ไม่ว่าจะเป็นชาติกำเนิด พื้นเพครอบครัว ความสามารถ หรือแม้แต่รสนิยมส่วนตัว ชูเป่ยดูเหมือนจะอยู่คนละฟ้ากับหม่าเทียน!

หลังจากได้รับคำตอบยืนยันจากเซี่ยหลี่ ดวงตาของหม่าเทียนวาบขึ้นด้วยความอำมหิตที่แทบสังเกตไม่เห็น จากนั้นก็หันไปมองชูเป่ย

พลังอิ๋นบนร่างกายของเขาก็พลันแรงขึ้นมากทันที ทำให้ชูเป่ยรู้สึกว่ามันกำลังจะทะลักออกมาจากร่างของเขา

และคนรอบข้างก็เริ่มจับจ้องพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสีหน้าที่รอดูการแสดงที่กำลังจะเริ่มขึ้น

เห็นได้ชัดว่ากำลังจะมีการแสดงที่น่าสนใจเกิดขึ้นที่นี่

การได้ทำให้หม่าเทียนไม่พอใจ แฟนหนุ่มของเซี่ยหลี่คงจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากแน่ๆ

FB Page: Rubybibi นิยายแปล [ฝากกดติดตามเพจด้วยนะคะ อัพเดททุกวัน อ่านตอนใหม่ก่อนใคร จิ้มที่นี่เลยค่ะ]