บทที่ 29 เขตแดนสายฟ้า
บทที่ 29 เขตแดนสายฟ้า
เป็นเขา!
เมื่อเห็นร่างนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
คนผู้นี้ไม่ใช่ซูจี้เหนียนแล้วจะเป็นใคร?
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่างหัวหน้าทีมเสือดาวราตรี แม้ว่าจะไม่ได้คุกเข่าลง แต่เขาก็ยืนอย่างยากลำบาก เข่าทั้งสองข้างสั่นเทา เหงื่อไหลอาบร่าง เห็นได้ชัดว่าการที่ต้านทานปราณดาบนี้เป็นเรื่องยากมาก แต่ลองมองดูซูจี้เหนียนสิ
เขาดูสงบนิ่ง ราวกับไม่ได้ใช้ความพยายามเลย เหมือนกับว่าปราณดาบที่หนักหน่วงราวกับภูเขานี้ไม่มีผลกระทบต่อเขาเลย!
นี่หมายความว่าอย่างไร?
ไม่ต้องอธิบาย แม้แต่คนธรรมดาที่เห็นฉากนี้ก็เข้าใจ มันแสดงให้เห็นว่าพลังของซูจี้เหนียนย่อมแข็งแกร่งมากเช่นกัน การที่สามารถเพิกเฉยต่อปราณดาบนี้ได้ พลังของเขาย่อมใกล้เคียงกับเฟิงอี๋ไห่
พลังใกล้เคียงกับจักรพรรดิดาบ!
ในเวลานี้ ทุกคนไม่ได้อิจฉาที่ซูจี้เหนียนเพิ่งเลื่อนเป็นระดับทองแดง แม้แต่คนที่คิดจะสั่งสอนซูจี้เหนียนเมื่อครู่ก็ยังรู้สึกหวาดกลัว ผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ การฆ่าพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าไก่!
จริงๆ แล้วในใจของซูจี้เหนียนก็รู้สึกงุนงง ทำไมคนเหล่านี้ถึงคุกเข่าลง?
ทุกสิ่งทุกอย่างในสวรรค์และปฐพีไม่สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายของร่างแยกไร้ขอบเขตของซูจี้เหนียนได้ ดังนั้นซูจี้เหนียนจึงไม่รู้สึกถึงปราณดาบ สิ่งที่มองไม่เห็นนี้ทำให้ซูจี้เหนียนไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิง
ในเวลานี้เอง หน้าประตูโถงใหญ่โถงหลงซาน มีร่างหลายร่างปรากฏขึ้น พวกเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญของโถงหลงซาน ไม่มีใครอ่อนแอ แต่ละคนล้วนมีปราณยุทธ์ที่แข็งแกร่งมาก
แต่พวกเขากลับมองไปที่เฟิงอี๋ไห่บนท้องฟ้าด้วยความระมัดระวัง
พลังของเฟิงอี๋ไห่นั้นแข็งแกร่งมาก เหนือกว่าพวกเขายิ่งนัก ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถต้านทานได้
ส่วนในสายตาของเฟิงอี๋ไห่ไม่ได้มองใครเลย เขามองไปที่ประตูโถงใหญ่เท่านั้น แสยะยิ้ม กล่าวว่า “อันเต๋อหลู่ การต่อสู้ครั้งนั้น เจ้าชนะข้าอย่างหวุดหวิด ทำไมตอนนี้ถึงไม่กล้าสู้กับข้า? ช่วงนี้ข้ามาท้าสู้เจ้าสามครั้ง เจ้าปฏิเสธข้าสามครา แต่วันนี้ เจ้าไม่มีทางปฏิเสธข้าได้!”
“เฟิงอี๋ไห่”
สิ้นเสียง ร่างสามร่างก็เดินออกมาจากโถงหลงซาน เป็นอันเต๋อหลู่ ผู้เฒ่าเสวี่ย และพนักงานที่ไปหาอันเต๋อหลู่เมื่อครู่
อันเต๋อหลู่ขมวดคิ้ว มองไปที่เฟิงอี๋ไห่บนท้องฟ้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้าบอกแล้ว การต่อสู้ครั้งนั้นที่แย่งชิงตำแหน่งเจ้าสำนัก เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของพวกเรา พวกเราไม่จำเป็นต้องสู้กันอีก มันไม่มีความหมายใดๆ ดังนั้นวันนี้ข้าจะยังคงปฏิเสธเจ้า ข้าจะไม่สู้กับเจ้า เจ้ากลับไปเสียเถอะ”
“ฮ่าๆๆๆๆ”
เฟิงอี๋ไห่เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะออกมา “อันเต๋อหลู่ เจ้าข่างไร้ความทะเยอทะยาน เจ้ากลายเป็นคนขี้ขลาดไปแล้วสินะ? เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ตลอดชีวิตของข้า แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าไม่กล้าแม้แต่จะสู้กับข้า ทว่าข้าเดาได้แล้วว่าวันนี้เจ้าจะไม่สู้กับข้า แต่ข้าก็บอกแล้วว่า วันนี้เจ้าอยากสู้ก็ต้องสู้ ไม่อยากสู้ก็ต้องสู้!”
พูดจบ ม้วนคัมภีร์ในมือของเฟิงอี๋ไห่ก็กางออก ทันใดนั้น สวรรค์และปฐพีก็เปลี่ยนสี!
พลังที่แข็งแกร่งพวยพุ่งออกมาจากม้วนคัมภีร์ พลังนั้นน่าตกใจมาก ท้องฟ้ามืดครึ้ม บนท้องฟ้ามีเสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วเมืองว่านเซียง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“นั่นคืออะไร?”
ในพริบตา ชาวเมืองนับไม่ถ้วนในเมืองว่านเซียงต่างเห็นฉากนี้ ทันใดนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?
“ทำไมท้องฟ้าถึงมืดครึ้ม?”
ถีฉีกำลังกินกุ้งเครย์ฟิชและดื่มสุราอยู่ในหอการค้าเฉียนอวิ๋น แต่เขารู้สึกว่าท้องฟ้ามืดครึ้มลง จึงรู้สึกแปลกๆ
“พลังเวทย์”
ในเมืองว่านเซียง มีจอมเวทย์หลายคนที่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังเวทย์ พวกเขาเป็นจอมเวทย์ พวกเขาย่อมคุ้นเคยกับความผันผวนของพลังเวทย์เป็นอย่างดี แต่เมื่อพวกเขาเห็นภาพบนท้องฟ้า ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าซีด พลังเวทย์นี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
มันจะเกินจริงขนาดนี้เลยหรือ?
จอมเวทย์ระดับใดกันที่ทำเช่นนี้ได้?
นี่มันเกือบจะถึงระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์แล้วใช่ไหม?
อันเต๋อหลู่รู้สึกถึงพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะเขารู้สึกว่าพลังเวทย์นี้แข็งแกร่งกว่าตัวเขาและเฟิงอี๋ไห่เสียอีก ในเวลานี้เอง ก็มีแสงสีน้ำเงินเข้มปกคลุมโถงหลงซานไว้ บนท้องฟ้ามีเมฆสายฟ้าปกคลุม
สายฟ้าคำรามในเมฆดำ ราวกับว่าสายฟ้านั้นสามารถตกลงมาได้ทุกเมื่อ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
“เขตแดนสายฟ้า!”
สีหน้าของอันเต๋อหลู่ดูไม่สู้ดีนัก!
เหล่าผู้พิทักษ์หลงซานที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็หน้าซีดเผือด พวกเขารู้สึกถึงพลังทำลายล้างจากเมฆสายฟ้า ราวกับว่าหากสายฟ้าตกลงมา พวกเขาจะกลายเป็นเถ้าธุลีในพริบตา
“ข้าจะออกไป!”
มีผู้พิทักษ์หลงซานบางคนที่ทนบรรยากาศนี้ไม่ไหว ต้องการจะหนีออกไป แต่เมื่อร่างกายของเขาเพิ่งสัมผัสกับแสงสีน้ำเงิน ก็มีสายฟ้าแล่นไปทั่วร่างกายทันที เขากระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง จากนั้นก็กระเด็นออกไป
เขามีลมหายใจรวยริน!
ครั้งนี้ ทุกคนต่างตกตะลึง
พวกเขาถูกขังอยู่ที่นี่?
“เฟิงอี๋ไห่ เจ้าต้องการทำอะไร? เขตแดนสายฟ้า นี่คือเวทมนตร์ของใต้เท้าไป๋ซัวซือ เจ้าหามันมาได้อย่างไร?” สีหน้าของอันเต๋อหลู่ดูไม่สู้ดีนัก
“เจ้ากลัวแล้วหรือ?”
ในเวลานี้เฟิงอี๋ไห่ส่ายหน้า “เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าใช้เขตแดนสายฟ้านี้ไม่ใช่เพื่อรับมือกับเจ้า ข้ายังไม่คิดจะใช้พลังของคนอื่นสู้กับเจ้าหรอก มิเช่นนั้นข้าจะไม่ขังพวกเขาไว้ในเขตแดนสายฟ้า และเจ้ายังอยู่ข้างนอก การที่ข้าได้เขตแดนสายฟ้านี้มาก็ต้องแลกมาด้วยราคาแพง เพื่อที่จะสู้กับเจ้าในวันนี้ วันนี้หากเจ้ารับคำท้า ทุกอย่างก็จบ แต่หากเจ้าไม่รับคำท้า…”
พูดถึงตรงนี้ เฟิงอี๋ไห่ก็ใช้นิ้วชี้ไป
“ตูม!”
ในเมฆสายฟ้า มีสายฟ้าผ่าลงมา ผู้พิทักษ์หลงซานระดับเหล็กดำคนหนึ่งมองดูสายฟ้าที่ตกลงมา แต่ความเร็วนั้นเร็วมาก เร็วจนเขาไม่มีเวลาตอบสนอง!
“ไม่!”
พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนา ผู้พิทักษ์หลงซานผู้นั้นก็กลายเป็นเลือดหมอก ตายในทันที!
ทุกคนต่างตกตะลึง นี่มันเอาพวกเขาเป็นตัวประกันหรือไง?
นี่คือเวทมนตร์ของจอมเวทย์ไป๋ซัวซือ พวกเขาไม่มีทางต้านทานได้ ไป๋ซัวซือนั้นคือประธานสมาคมจอมเวทย์แห่งอาณาจักรหลิงเจี้ยน
ผู้คนต่างขนานนามว่า เขาเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากครึ่งก้าวปรมาจารย์
หรือแม้แต่มีข่าวลือว่า หากต่อสู้ในระยะไกล แม้แต่ครึ่งก้าวปรมาจารย์ก็ไม่ใช่คู่มือของไป๋ซัวซือ
“อันเต๋อหลู่ เจ้าจะสู้หรือไม่?”
ในเวลานี้เฟิงอี๋ไห่ยืนอยู่บนหลังเหยี่ยว มองไปที่อันเต๋อหลู่อย่างดุดัน
อันเต๋อหลู่กำหมัดแน่น กัดฟัน เขาไม่กลัวการต่อสู้ แต่ก่อนที่ฮูหยินสุดที่รักของเขาจะเสียชีวิต เขาได้สัญญากับนางว่า ชาตินี้จะไม่สู้กับใครอีก เขาจะดูแลบุตรสาวของพวกเขาให้ดี
“เอาล่ะ ข้าจะรอดู หากผู้พิทักษ์หลงซานของเจ้าถูกข้าฆ่าจนหมด เจ้าจะลงมือหรือไม่?”
เฟิงอี๋ไห่ยิ้มเล็กน้อย ยกนิ้วขึ้นอีกครั้ง