ตอนที่แล้วบทที่ 25 โถงหลงซาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 เลื่อนขั้นเป็นระดับทองแดง

บทที่ 26 ระดับฉายา


บทที่ 26 ระดับฉายา

แม้ว่าเขาจะไม่มีพลังยุทธ์ แต่หากสามารถทำภารกิจค้นหาสิ่งของได้ก็คงจะดี ภารกิจแบบนั้นสำหรับคนอื่นอันตรายมาก แต่สำหรับเขาแล้วไม่มีอันตรายเลยแม้แต่น้อย

เขาไม่ได้อยู่ในหกวิถี ไม่อยู่ในเบญจธาตุ อันตรายใดๆ สำหรับเขามันไร้ประโยชน์ เช่นนี้แล้ว สถานที่อันตรายใดๆ เขาย่อมกล้าไป หากต้องการหาของ มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูจี้เหนียนก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปที่หอการค้าเฉียนอวิ๋น และหันหลังไปที่โถงหลงซานทันที ก่อนอื่นต้องส่งภารกิจไผ่โลหิตหกลายนี้ก่อน

ที่ตั้งของโถงหลงซานคือจัตุรัสขนาดใหญ่ เมื่อก้าวเข้าไปในเขตของโถงหลงซาน ซูจี้เหนียนก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่เคร่งขรึมในทันที

เขามองดูรอบๆ ทุกคนที่อยู่ในจัตุรัสนี้ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ!

มีทั้งมนุษย์ มีเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ที่แบกขวาน มีปีศาจจิ้งจอกที่ดูน่ารักและเซ็กซี่  แถมยังมีคนรวยที่ขี่สัตว์อสูรขนาดใหญ่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเงินทอง รอบข้างยังมีทาสต่างๆ นานา มีทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ร่างกำยำ มีหญิงงาม คนแบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับความนิยม แต่พวกเขามีเงิน พวกเขาคือผู้ว่าจ้าง

คนรวยเหล่านี้มาที่นี่ หากต้องการสิ่งใด ก็แค่ประกาศภารกิจ หลังจากนั้นย่อมจะมีผู้พิทักษ์หลงซานระดับต่างๆ ไปเสี่ยงชีวิตเพื่อพวกเขา

มีผู้พิทักษ์หลงซานจำนวนมากรวมตัวกันเป็นทีม ทำภารกิจร่วมกัน แต่เช่นนี้แล้ว รางวัลที่พวกเขาได้รับก็ต้องแบ่งให้ทุกคน แม้ว่าจะปลอดภัยกว่า แต่ระดับของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นช้า

การเพิ่มระดับของผู้พิทักษ์หลงซานนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนดาว

เช่นภารกิจไผ่โลหิตหกลายที่ซูจี้เหนียนได้ยินเมื่อครู่นี้ คือภารกิจแปดสิบดาว ถือว่าเป็นภารกิจระดับสูงมาก ภารกิจเช่นนี้แทบจะไม่มีใครคิดจะทำคนเดียว เพราะนั่นคือการรนหาที่ตาย ไผ่โลหิตหกลายสามารถอยู่ในสถานที่ที่มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมากเท่านั้น มีเพียงผู้พิทักษ์หลงซานหลายร้อยคนรวมทีมกัน ถึงจะมีโอกาสพบสมบัติเช่นนี้

แต่หากผู้พิทักษ์หลงซานหลายร้อยคนไปหาไผ่โลหิตหกลาย ผลตอบแทนดาวแปดสิบดาวนั้นไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาเลย แต่ละคนได้มากสุดหนึ่งดาว แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีผู้พิทักษ์หลงซานจำนวนมากที่สะสมดาวมาเป็นเวลานาน จนกลายเป็นผู้พิทักษ์หลงซานระดับสูง

ซูจี้เหนียนเดินไปตามถนน มองดูผู้พิทักษ์หลงซานที่เดินผ่านไปมา เขาสังเกตเห็นว่ามีบางคนติดตราผู้พิทักษ์หลงซาน

ถ้าติดตราสีดำ คนระดับนี้ถูกเรียกว่าระดับเหล็กดำ

ส่วนบางคนติดตราสีทองแดง คนแบบนี้หาได้ยาก เมื่อพวกเขาเดินผ่านไปมา ผู้พิทักษ์หลงซานรอบข้างต่างพากันคำนับ คนแบบนี้ถูกเรียกว่าระดับทองแดง

เหนือระดับทองแดงคือระดับเงิน นั่นคือผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ปกติแล้วแทบจะไม่พบเห็น

เหนือระดับเงินคือระดับทองคำ ยิ่งหายากมากกว่า

เหนือระดับทองคำคือระดับฉายา

นั่นคือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุด หลายคนใช้ชีวิตทั้งชีวิตก็ยังไม่เคยเห็นผู้พิทักษ์หลงซานระดับฉายา แต่น่ากลัวคือ ระดับฉายายังไม่ใช่ระดับสูงสุด เหนือระดับฉายายังมีระดับในตำนานนั่นคือ….

ระดับมหากาพย์!

ตลอดประวัติศาสตร์ของอาณาจักรหลิงเจี้ยน เล่าลือกันว่ามีคนหนึ่งที่สามารถไปถึงระดับมหากาพย์ได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าคนผู้นี้ชื่ออะไร ในตำนานต่างเรียกเขาว่าจักรพรรดิมังกร

แต่จักรพรรดิมังกรคือใคร? ไม่มีใครเคยเห็น แม้แต่มีคนสงสัยว่าจักรพรรดิมังกรมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่?

แต่สำหรับผู้พิทักษ์หลงซานส่วนใหญ่แล้ว จักรพรรดิมังกรคือความเชื่อ เป็นเป้าหมายที่พวกเขาไล่ตาม เป็นต้นแบบของพวกเขา!

การมาของซูจี้เหนียนไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใคร แม้ว่าซูจี้เหนียนจะสวมหน้ากาก ทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกๆ แต่ซูจี้เหนียนไม่มีปราณยุทธ์ของผู้เชี่ยวชาญ ที่นี่ใช้พลังเป็นตัวตัดสิน มีเพียงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้

“ข้าต้องการลงทะเบียนเป็นผู้พิทักษ์หลงซาน”

ซูจี้เหนียนมาถึงหน้าชายชราผู้หนึ่ง ชายชราผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นคนลงทะเบียน

“หืม?”

ชายชราเงยหน้าขึ้นมองซูจี้เหนียน จากนั้นก็ส่ายหน้าและยิ้ม ในความคิดของเขา คนที่ไม่มีปราณยุทธ์ของผู้เชี่ยวชาญอย่างซูจี้เหนียน ยังคิดจะเป็นผู้พิทักษ์หลงซาน คงจะอยากได้เงินจนเสียสติไปแล้วสินะ?

แต่ชายชราก็ยังคงลงทะเบียนให้ซูจี้เหนียนตามขั้นตอน

“ชื่อ?”

“เหยียนอ๋อง”

หลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จแล้ว ชายชราก็ยื่นหนังสือเล่มเล็กๆ ให้ซูจี้เหนียน จากนั้นกล่าวว่า “ข้างในบันทึกเรื่องราวและกฎเกณฑ์ของผู้พิทักษ์หลงซาน เจ้าอ่านดูให้ละเอียด และค่าลงทะเบียนหนึ่งเหรียญเงิน”

หลังจากจ่ายเงินแล้ว ซูจี้เหนียนก็เปิดหนังสือเล่มเล็กๆ นี้ออกดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ข้างในบันทึกประวัติศาสตร์ของผู้พิทักษ์หลงซาน จากนั้นก็อธิบายข้อมูลที่คลุมเครือของจักรพรรดิมังกร แต่สิ่งที่ซูจี้เหนียนสนใจมากที่สุดคือรางวัลของระบบระดับผู้พิทักษ์หลงซาน

เริ่มต้นจาก ผู้พิทักษ์หลงซานฝึกหัด

อย่างเช่นซูจี้เหนียน ไม่มีรางวัลใดๆ

ระดับเหล็กดำ: สามสิบดาว

ระดับทองแดง: เจ็ดสิบดาว

ระดับเงิน: หนึ่งร้อยห้าสิบดาว

ระดับทองคำ: ห้าร้อยดาว

ระดับฉายา: สองพันดาว

ระดับมหากาพย์: หนึ่งหมื่นดาว

เมื่อเห็นเช่นนี้ ซูจี้เหนียนก็ตกตะลึง การเพิ่มระดับนั้นง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ?

หากเขาส่งไผ่โลหิตหกลาย ก็จะได้รางวัลแปดสิบดาว เช่นนั้นก็หมายความว่าเขาสามารถกลายเป็นผู้พิทักษ์หลงซานระดับทองแดงได้แล้ว?

ซูจี้เหนียนรู้สึกว่ามันง่ายดาย นั่นเป็นเพราะในเทือกเขาฝูหลง ซูจี้เหนียนเข้าไปลึกเกือบพันลี้ สัตว์อสูรในเขตนั้นล้วนแข็งแกร่งมาก การที่เขาพบไผ่โลหิตหกลายนั้นถือว่าโชคดี หากเป็นคนอื่น แม้แต่ทีมขนาดใหญ่ที่มีคนหลายร้อยคน หากต้องการเข้าไปลึกขนาดนั้นในเทือกเขาฝูหลง ย่อมเป็นไปไม่ได้

ไม่ต้องพูดถึงการหาไผ่โลหิตหกลายเลย!

การที่กลายเป็นระดับทองแดงโดยตรงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

ในขณะเดียวกัน ระดับต่างๆ ก็มีรางวัลรายเดือน นี่คือสิ่งที่ซูจี้เหนียนสนใจมาก

ระดับฝึกหัดไม่มีอะไรเลย

ระดับเหล็กดำ ยี่สิบเหรียญเงินต่อเดือน

ระดับทองแดง หนึ่งเหรียญทองต่อเดือน

ระดับเงิน สองเหรียญทองต่อเดือน

ระดับทองคำ ห้าเหรียญทองต่อเดือน

ระดับฉายา หนึ่งร้อยเหรียญทองต่อเดือน

ระดับมหากาพย์: ?

ระดับมหากาพย์ไม่ได้เขียนอะไรไว้ และแต่ละระดับก็มีสิทธิ์ที่แตกต่างกัน พลังของโถงหลงซานนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านข่าวสารหรือด้านอื่นๆ มีเพียงระดับสูงเท่านั้น ถึงจะสามารถใช้สิทธิ์ได้มากขึ้น

หลังจากปิดหนังสือเล่มเล็กๆ แล้ว ซูจี้เหนียนก็ไปที่เคาน์เตอร์ส่งมอบภารกิจทันที ภารกิจแปดสิบดาวเช่นนี้ไม่ได้กำหนดคนรับ ใครทำภารกิจนี้สำเร็จก่อนก็เป็นของคนผู้นั้น

“ข้ามาส่งภารกิจ นี่คือเขี้ยวเสือของเสือแสงดาว”

“ของถูกต้อง รางวัลหกสิบเหรียญเงิน และหนึ่งดาว”

“ส่งภารกิจ นี่คือหินสายฟ้าสามสิบจิน”

“ของถูกต้อง รางวัลสองเหรียญทอง และหนึ่งดาว”

ที่เคาน์เตอร์ส่งมอบภารกิจ มีผู้คนมากมาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด