บทที่ 25 โถงหลงซาน
บทที่ 25 โถงหลงซาน
จิบชาคำหนึ่ง
ราวกับว่าสวรรค์และปฐพีนั้นอิสระเสรี
ทิวทัศน์ของภูเขาและแม่น้ำ ความรู้สึกนั้นทำให้คนทั้งสองลืมไปชั่วขณะว่าตนเองอยู่ที่ไหน?
ความรู้สึกที่สดชื่นราวกับชำระล้างสิ่งสกปรกในร่างกาย
ในเวลานี้คนทั้งสองไม่อยากจะเชื่อ น้ำชาจะมีรสชาติเช่นนี้ได้ด้วย? ไม่สิ สิ่งที่พวกเขาดื่มไม่ใช่รสชาติ แต่มันเป็นความรู้สึก!
ของสิ่งนี้ มันช่างเหลือเชื่ออย่างยิ่ง!
“นี่คือชาอะไร?”
หลี่อี้คงอดไม่ได้ที่จะถาม
“เซี่ยชาเหรินเซียง(หอมจนชวนผู้คนนิ่งงัน)”
ซูจี้เหนียนกล่าวอย่างใจเย็น “เดี๋ยวตอนกลับ พวกเจ้าสามารถนำไปได้เล็กน้อย นำไปฝากผู้อาวุโสจินฉือด้วย เขาได้รับบาดเจ็บไม่ใช่หรือ?”
“เช่นนั้นข้าขอน้อมรับแทนท่านอาจารย์ด้วยความยินดี!”
คนทั้งสองตื่นเต้นมาก พวกเขาไม่ใช่เด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักโลกภายนอก อาจารย์ของพวกเขา ผู้อาวุโสจินฉือ ชอบดื่มชามาก แถมยังสะสมชาดีๆ ไว้ไม่น้อย ปกติแล้วไม่กล้านำออกมาดื่ม แต่พวกเขาก็เคยลองชิมชาเหล่านั้น เมื่อเทียบกับเซี่ยชาเหรินเซียงแล้ว มันเทียบกันไม่ได้เลย แถมชายังมีราคาแพงมาก พวกเขายิ่งรู้ซึ้งถึงคุณค่าของเซี่ยชาเหรินเซียงนี้
ของล้ำค่าเช่นนี้ กลับมอบให้กับอาจารย์ของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าซูจี้เหนียนต้องการสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา
“ท่านเจ้าเมืองซูมีเรื่องอะไรก็สั่งมาเถอะ!”
ครั้งนี้หลี่อี้คงพูดอย่างจริงจัง
“ก็ไม่มีเรื่องใหญ่อะไร” ซูจี้เหนียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ครึ่งเดือนหลังจากนี้ คนของกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬจะมาหาเรื่องเมืองหวังข่งของข้า หากพวกเจ้าว่าง ถึงตอนนั้นหากยินดีมาช่วยเหลือ ก็คงจะดีไม่น้อย”
“กลุ่มโจรหมาป่าทมิฬ?”
คนทั้งสองไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องนี้ พวกเขาเคยได้ยินเรื่องของกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬ ได้ยินมาว่าหัวหน้าเสวี่ยหลางมีฝีมือมาก แต่สำหรับนิกายเทียนซิงของพวกเขาแล้ว กลุ่มโจรเล็กๆ อย่างกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬนั้น พวกเขามองไม่เห็นอยู่ในสายตา จินซือโหรวพูดด้วยความสงสัยว่า “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ศิษย์ของนิกายพวกเรากำลังจะออกไปฝึกฝนพอดี ถือโอกาสนี้ให้พวกเขาได้ฝึกฝนเถอะ”
“แต่ทำไมกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬถึงได้กล้าหาญเช่นนี้? มีท่านผู้อาวุโสเหยียนอ๋องอยู่ กลุ่มโจรหมาป่าทมิฬยังกล้ามาหาเรื่อง?”
“ท่านผู้อาวุโสเหยียนอ๋องเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งก้าวปรมาจารย์” หลี่อี้คงส่ายหน้า “เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ หากต้องให้ท่านผู้อาวุโสเหยียนอ๋องลงมือเอง ไม่ใช่ว่าจะลดคุณค่าของท่านผู้อาวุโสเหยียนอ๋องหรอกหรือ?”
“ก็จริง”
จินซือโหรวพยักหน้า รู้สึกว่าสิ่งที่หลี่อี้คงพูดนั้นมีเหตุผล
“ท่านเจ้าเมืองซูโปรดวางใจ สิบวันหลังจากนี้ ข้าจะพาศิษย์น้องของข้ามาช่วยเหลือเมืองหวังข่ง!” หลี่อี้คงลุกขึ้นยืน กำหมัดแล้วกล่าว
“ได้ เช่นนั้นก็รบกวนแล้ว”
ซูจี้เหนียนยิ้ม
แม้ว่าตอนนี้ซูจี้เหนียนจะมีเจดีย์มิติแล้ว รู้สึกว่าการรับมือกับกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากปลอดภัยกว่านี้ได้ก็ย่อมดีกว่า มีผู้เชี่ยวชาญของนิกายเทียนซิงมาช่วยเหลือ การรับมือกับกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬย่อมง่ายดาย!
ยิ่งกว่านั้น ช่วงนี้พลังของกองกำลังสิบสองนักษัตรก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย
ซูจี้เหนียนให้ใบชาหนักสองเหลี่ยง(100กรัม) กับหลี่อี้คง ให้นำกลับไปมอบให้กับผู้อาวุโสจินฉือ และเตรียมไว้อีกสองเหลี่ยงสำหรับประมุขนิกายเทียนซิง ซ่งว่านเหนียน แม้ว่านิกายเทียนซิงจะไม่ใช่นิกายใหญ่ แต่หากสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ต่อไปย่อมมีประโยชน์ ดังนั้นซูจี้เหนียนจึงไม่หวงใบชา เพราะใบชานี้ซื้อมาก็ไม่ได้แพงอะไร
“หากของที่ซื้อมาจากเจดีย์มิติสามารถขายได้ก็คงจะดี”
ซูจี้เหนียนถอนหายใจ เดิมทีซูจี้เหนียนคิดว่ามีของมากมายในเจดีย์มิติที่ราคาถูก หากนำไปขายต่อ ย่อมสามารถรวยได้อย่างรวดเร็ว แต่ความคิดนี้ถูกผู้พิทักษ์มิติเตือน หากทำเช่นนั้น จะถูกลงโทษจากเจดีย์มิติ และเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงมาก อาจจะทำให้ซูจี้เหนียนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
เรื่องนี้ทำให้ซูจี้เหนียนตกใจมาก เขาจึงรีบล้มเลิกความคิดนี้ แม้ว่าจะขายของไม่ได้ แต่สามารถใช้เป็นส่วนผสมในการทำอาหารได้ เช่น ซีอิ๊วในกุ้งเครย์ฟิช หลังจากทำกุ้งเครย์ฟิชเสร็จแล้ว ก็สามารถนำไปขายได้
“หนทางการหาเงินยังอีกยาวไกล”
ซูจี้เหนียนถือเหรียญทองห้าร้อยเหรียญ จากนั้นก็เข้าไปในเจดีย์มิติโดยตรง ตอนนี้ซูจี้เหนียนต้องการหาวิทยายุทธที่เหมาะสมกับซูเยว่
ตอนนี้ซูจี้เหนียนมีเหรียญทองเพียงพอแล้ว เขาสามารถเลือกวิทยายุทธที่ดีให้กับซูเยว่ได้ ซูจี้เหนียนมองหาวิทยายุทธในโลกยุทธภพ ในที่สุดก็เลือก 《คัมภีร์เก้าอิม》
วิทยายุทธที่เกือบจะอยู่ในระดับสูงสุดของโลกยุทธภพ เหมาะสมกับซูเยว่มาก!
แม้ว่าราคาของ 《คัมภีร์เก้าอิม》 จะเกือบหกร้อยเหรียญทอง แต่ซูจี้เหนียนก็ยังคงกัดฟัน ซื้อมันมา
…
เมืองว่านเซียง
ร่างหนึ่งเดินออกมาจากตรอกเล็กๆ บนใบหน้าของคนผู้นี้สวมหน้ากาก ทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกๆ แต่มันก็ไม่ได้มีใครสนใจมากนัก เพราะในโลกนี้ มีเผ่าพันธุ์มากมาย คนแปลกๆ มีเยอะแยะ
เผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์อสูร เผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ เผ่าพันธุ์ภูตวิญญาณ เผ่าพันธุ์คนแคระ มีเผ่าพันธุ์ต่างๆ มากมาย การที่คนสวมหน้ากาก มันแปลกตรงไหน?
คนผู้นี้คือร่างแยกไร้ขอบเขตของซูจี้เหนียน
จากเทือกเขาฝูหลงมาถึงเมืองว่านเซียง ซูจี้เหนียนเตรียมหาที่ขายสมบัติที่ได้มา
ในย่ามของซูจี้เหนียนล้วนเป็นสมุนไพรล้ำค่า และเป็นสมุนไพรที่หายาก ซูจี้เหนียนพบวารีไขกระดูกม่วงไม่น้อย ของที่ให้กับอู่ซานเจียงนั้นเพียงพอแล้ว หรือแม้แต่ยังมีเหลืออีกมากมาย สามารถเก็บไว้หรือขายก็ได้
เมืองว่านเซียงคึกคักมาก ตอนที่เดินผ่านหอการค้าเฉียนอวิ๋น ซูจี้เหนียนก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคย
มันคือกลิ่นของกุ้งเครย์ฟิช
ซูจี้เหนียนยิ้ม กุ้งเครย์ฟิชในเมืองว่านเซียงขายดีจริงๆ
“หอการค้าเฉียนอวิ๋น?”
ซูจี้เหนียนคิดว่าหากจะขาย ก็ควรไปที่หอการค้าเฉียนอวิ๋น
แต่ในขณะที่ซูจี้เหนียนกำลังจะไปที่หอการค้าเฉียนอวิ๋น ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “ได้ยินหรือไม่? วันนี้โถงหลงซานได้ประกาศภารกิจแปดสิบดาว ต้องการไผ่โลหิตอายุเกินหกร้อยปี”
“ไผ่โลหิตอายุหกร้อยปี? ของแบบนั้นจะมีได้อย่างไร? ได้ยินมาว่าลวดลายบนไผ่โลหิตนั้น ร้อยปีมีหนึ่งลาย ข้าเคยเห็นไผ่โลหิตสองลายมากที่สุด ส่วนหกลายนั้นเป็นไปไม่ได้! แต่โถงหลงซานสาขาเมืองว่านเซียงเล็กๆ ของพวกเรา กลับมีภารกิจแปดสิบดาวปรากฏขึ้น มันแปลกจริงๆ ข้าคิดว่ามีเพียงโถงหลงซานในเมืองหลวงเท่านั้นถึงจะมี”
คนผู้นั้นพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไผ่โลหิตหกลาย?”
ซูจี้เหนียนตกใจ ในย่ามของเขาดูเหมือนจะมีอยู่หนึ่งต้น
ไผ่โลหิตนี้ไม่ยาวนัก เพียงแค่เท่ากับปล้องไผ่ธรรมดาปล้องหนึ่ง ซูจี้เหนียนบังเอิญมีไผ่โลหิตหกลายอยู่หนึ่งต้น ภารกิจแปดสิบดาวของโถงหลงซาน น่าจะให้รางวัลมากมายใช่ไหม?
ซูจี้เหนียนรู้ว่าโถงหลงซานนั้นลึกลับมาก มีคนบอกว่าเป็นเหมือนองค์กรทั่วไป บางคนบอกว่ามีผู้ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลัง ผู้คนนับไม่ถ้วนไปลงทะเบียนที่โถงหลงซานเพื่อเป็นผู้พิทักษ์หลงซาน พวกเขาสามารถประกาศภารกิจและรับภารกิจได้ และยังมีตำแหน่งพิเศษ เพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษที่ดีกว่า
ในความคิดของซูจี้เหนียน ผู้พิทักษ์หลงซานก็เหมือนกับผู้ฝึกยุทธ์รับจ้าง
อือ ผู้ฝึกยุทธ์รับจ้างสินะ?
นี่ก็เป็นวิธีหาเงินที่ไม่เลวเช่นกัน!