ตอนที่แล้วบทที่ 21 เงินก้อนโต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23 คนของนิกายเทียนซิงมาเยือน

บทที่ 22 ยันต์เจวี๋ย


บทที่ 22 ยันต์เจวี๋ย

ในเมื่อซูจี้เหนียนบอกว่าจะหาวิชาที่ดีกว่านี้ให้ ซูเยว่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ในใจของซูเยว่ก็มีความคาดหวังอยู่บ้าง

วิชาควบคุมลมหายใจนั้น ในความคิดของซูเยว่ถือว่าแข็งแกร่งมากแล้ว หากยังมีวิชาที่ดีกว่านี้ เช่นนั้นจะเป็นวิทยายุทธที่ร้ายกาจขนาดไหน?

หลังจากซูเยว่ออกไป จิตสำนึกของซูจี้เหนียนก็เข้าไปในเจดีย์มิติ

ประตูชั้นที่สองยังคงปิดอยู่ บนประตูโบราณยังมีโซ่ตรวนหนักๆ อยู่ และในเวลานี้ซูจี้เหนียนเพียงแค่คิด เหรียญทองหนึ่งร้อยเหรียญก็หายไปจากถุงเงินของซูจี้เหนียนทันที มันกลายเป็นลำแสง บินเข้าไปในประตูชั้นที่สอง

แคร้ง!

โซ่ตรวนแตกสลาย ประตูเปิดออกทันที มีลมเย็นๆ พัดเข้ามา ในเวลานี้ซูจี้เหนียนยืนอยู่หน้าประตู มองไปที่ประตูที่เปิดออก ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น โลกใหม่นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นตรงหน้าซูจี้เหนียน!

โลกอันหลากหลาย!

โลกเล็กๆ นับไม่ถ้วน พลังปราณของโลกเล็กๆ เหล่านี้แข็งแกร่งกว่าชั้นแรกมาก และที่นี่ โลกต่างๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าซูจี้เหนียน มีบางโลกที่ซูจี้เหนียนรู้จัก มีบางโลกที่ซูจี้เหนียนไม่เคยเห็นมาก่อน

แต่ไม่ว่าจะเป็นโลกใด ในโลกเหล่านี้ล้วนมีของวิเศษมากมาย

ที่นี่มีอารยธรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ แม้ว่าชั้นแรกจะมีอารยธรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือแม้แต่มีปืนพกขาย แต่นั่นล้วนเป็นอารยธรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโบราณ ปืนพกเหล่านั้นมีพลังทำลายล้างธรรมดาทั่วไป แต่ในชั้นที่สองนี้ แม้แต่อาวุธหนักก็ยังมี

“ยินดีด้วยที่เจ้าเปิดชั้นที่สองได้”

ในเวลานี้ ผู้พิทักษ์มิติก็เดินออกมา เขายังคงแต่งตัวเหมือนผู้เฒ่าเต่า จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกครั้งที่เปิดชั้นใหม่ ข้าจะมอบของขวัญให้เจ้า”

พูดจบ ผู้พิทักษ์มิติก็ยื่นกล่องสมบัติเล็กๆ ให้กับซูจี้เหนียน

“เยี่ยม!”

ซูจี้เหนียนมองดูกล่องสมบัติเล็กๆ นี้ ในใจก็ตื่นเต้นมาก ก่อนหน้านี้เขาได้ 《ลมปราณภูติอุดร》 และ 《วิชามือหักกิ่งเหมยเทียนซาน》 ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะได้ของดีอะไร?

ซูจี้เหนียนรีบเปิดดู ในกล่องเล็กๆ นี้ มีแหวนวงหนึ่งวางอยู่อย่างเงียบๆ

“นี่คือแหวนมิติ?”

ดวงตาของซูจี้เหนียนเป็นประกาย นี่คือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด หากมีแหวนมิติ ร่างแยกของเขาในเทือกเขาฝูหลงก็สามารถหาสมบัติได้มากขึ้น ไม่ต้องพกย่ามใบเล็กๆ ที่ใส่ของได้ไม่มากนัก

“ใช่ นี่คือแหวนมิติ แต่ของขวัญที่ข้าจะมอบให้เจ้า อยู่ในแหวนมิติ” ผู้พิทักษ์มิติส่ายหน้าและยิ้ม

“ข้างใน?”

ซูจี้เหนียนรีบมองดูข้างในแหวนมิติ แหวนมิตินี้มีพื้นที่ไม่มากนัก เพียงแค่ประมาณสิบลูกบาศก์เมตร ทำให้ซูจี้เหนียนรู้สึกจนใจ มันเล็กไปหน่อย ดูเหมือนว่าต่อไปต้องเก็บเงินซื้อวงที่ใหญ่กว่านี้ แต่ซูจี้เหนียนกลับเห็นว่าในแหวนมิติมียันต์เจ็ดแผ่น

“นี่คืออะไร?”

ซูจี้เหนียนมองดูอย่างตั้งใจ ทันใดนั้นบนยันต์ก็มีตัวหนังสือเล็กๆ ปรากฏขึ้น

ยันต์เจวี๋ย! (ยันต์ชั้นยอดหรือสุดยอดยันต์)

ยันต์เจ็ดแผ่นนี้เป็นตัวแทนของธาตุทั้งห้า ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน และยังมีเวลากับมิติ พลังเจ็ดชนิดนี้ เป็นพลังที่ผู้เชี่ยวชาญเจ็ดคนที่เชี่ยวชาญพลังทั้งเจ็ดชนิดผนึกไว้ในยันต์ ยันต์แต่ละแผ่นใช้ได้เพียงครั้งเดียว หลังจากใช้แล้วจะถูกทำลาย

ซูจี้เหนียนเห็นเช่นนี้ก็เข้าใจแล้ว ที่แท้มันเป็นของใช้ครั้งเดียวทิ้ง การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้เชี่ยวชาญทั้งเจ็ดถูกผนึกไว้ในยันต์สินะ?

แม้ว่าซูจี้เหนียนจะไม่รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งเจ็ดนี้แข็งแกร่งแค่ไหน? พวกเขาสามารถเทียบเท่ากับมหาปรมาจารย์ได้หรือไม่? แต่สิ่งนี้สำหรับเขาก็เป็นของที่ดีมาก ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น หากใช้รับมือกับกลุ่มโจรหมาป่าทมิฬ แค่ยันต์วารีพิฆาตแผ่นเดียวก็สามารถจมน้ำพวกมันได้แล้วใช่ไหม?

“ไม่รู้ว่าของสิ่งนี้มีขายหรือเปล่านะ?”

ซูจี้เหนียนมองไปที่ผู้พิทักษ์มิติ ถามว่า “ยันต์เจวี๋ยนี้ราคาเท่าไหร่?”

“สิทธิ์ของเจ้าไม่เพียงพอ ข้าไม่สามารถตอบเจ้าได้”

ผู้พิทักษ์มิติส่ายหน้า

สิทธิ์ไม่เพียงพอ ซูจี้เหนียนเข้าใจ นั่นหมายความว่ามิติชั้นที่สองที่เขาเปิดไม่มีของสิ่งนี้ขาย งั้นไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ เปิดไปทีละชั้นก็แล้วกัน แต่เมื่อซูจี้เหนียนคิดจะดูว่าการเปิดชั้นที่สามต้องใช้เหรียญทองเท่าไหร่ เขาก็ตกใจ

เพราะซูจี้เหนียนพบว่าการเปิดชั้นที่สาม ต้องใช้เหรียญทองห้าหมื่นเหรียญ!

ชั้นแรกสิบเหรียญทอง

ชั้นที่สองหนึ่งร้อยเหรียญทอง

ชั้นที่สามไม่ใช่ควรจะเป็นหนึ่งพันเหรียญทองหรอกหรือ?

ทำไมถึงกระโดดไปห้าหมื่น?

เหรียญทองห้าหมื่นเหรียญ นี่เป็นเงินจำนวนมหาศาล เขาต้องขายกุ้งเครย์ฟิชกี่ตัวถึงจะได้เหรียญทองมากขนาดนี้?

ดูเหมือนว่าเขาต้องหาเงินอย่างหนักแล้ว!

มองดูโลกในชั้นที่สองอย่างละเอียด ที่นี่มีโลกของอนิเมะธรรมดาทั่วไปไม่น้อย และยังมีโลกของยุทธภพขั้นสูง เช่น โลกของเซียวฮื่อยี้กับฮวาอู๋เซวีย เดิมทีซูจี้เหนียนอยากหาดูว่ามีโลกของฟงอวิ๋นหรือไม่? แต่น่าเสียดายที่ซูจี้เหนียนไม่พบ ดูเหมือนว่าโลกอย่างฟงอวิ๋น แม้จะเป็นยุทธภพ แต่มันก็ใกล้เคียงกับโลกแฟนตาซีแล้ว

บางทีอาจจะพบในชั้นที่สามก็เป็นได้

ฝนเวลานี้ ซูจี้เหนียนก็ช่วยซูเยว่หาวิชาฝึกพลังภายในที่เหมาะสมกับนาง ซูจี้เหนียนเห็นวิชาไม่เลวอยู่สองสามวิชา เช่น วิชา 《คัมภีร์ดรุณีหยกใจสงบ》 ของสำนักสุสานโบราณ หรือ 《คัมภีร์เก้าอิม》 ก็ได้ แต่พอมองดูราคา ซูจี้เหนียนก็รู้สึกปวดใจ

อย่างน้อยก็ต้องห้าร้อยเหรียญทอง

ราคาแพงเช่นนี้ทำให้ซูจี้เหนียนจนใจ ของสิ่งนี้แพงขนาดนี้ ต่อไปหากต้องการซื้อของจากโลกแฟนตาซี ไม่ใช่ว่าจะยิ่งแพงกว่านี้หรอกหรือ?

“เงิน เงิน เงิน”

ซูจี้เหนียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ในชาติที่แล้วก็รู้สึกว่าเงินไม่พอใช้ ไม่คิดว่าหลังจากข้ามโลกมาแล้ว ก็ยังคงรู้สึกว่าเงินไม่พอใช้อยู่ดี

“ข้าไม่สามารถหาเงินคนเดียวได้ตลอดไป”

ซูจี้เหนียนมาที่ข้างหน้าต่าง มองดูเมืองหวังข่งด้านนอก เขาเป็นถึงเจ้าเมือง มีเมืองทั้งเมือง เมืองใหญ่ขนาดนี้ มีชาวเมืองมากมายขนาดนี้ หากให้เขาหาเงินคนเดียว มันช่างน่าสงสารเกินไปหน่อยไหม?

อย่างแรกคือด้านเกษตรกรรม ซูจี้เหนียนให้หลินฝูจัดคนไปทำนาแล้ว ตอนนี้แม้ว่าฤดูหนาวกำลังจะมาถึง แต่เมล็ดพันธุ์ที่ซื้อมาจากฟาร์ม QQ นั้นไม่มีข้อจำกัดนี้ แม้แต่ในฤดูหนาวก็ยังสามารถปลูกพืชผลได้ ซูจี้เหนียนซื้อเมล็ดพันธุ์จำนวนมาก ผักต่างๆ นานาล้วนถูกปลูก และในเมืองหวังข่ง ซูจี้เหนียนได้จัดสรรที่ดินผืนหนึ่งไว้เป็นฟาร์มโดยเฉพาะ

ปลูกของต่างๆ นานาที่นี่ นอกจากข้าวโพดและมันฝรั่งที่แจกจ่ายให้กับชาวเมืองแล้ว พืชผลอื่นๆ ซูจี้เหนียนตั้งใจจะเก็บไว้ใช้เองส่วนหนึ่ง และนำไปขายอีกส่วนหนึ่ง

ในเขตเทือกเขาฝูหลง มีเมืองเล็กเมืองใหญ่นับสิบเมือง เมืองที่ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินมีเพียงเมืองว่านเซียง เมืองอื่นๆ แม้จะดีกว่าเมืองหวังข่ง ก็ไม่ได้ดีกว่ามากนัก แต่ละเมืองล้วนยากจน แม้แต่จะให้ชาวเมืองอิ่มท้องก็ยังยาก

พวกเขาไม่มีช่องทางทำเงิน

ซูจี้เหนียนไม่อยากให้เมืองหวังข่งเป็นเช่นนี้ตลอดไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด