บทที่ 18 ใบไม้ภูต
บทที่ 18 ใบไม้ภูต
เมื่อเห็นชายชราคุกเข่าลง ศิษย์ทั้งสองก็ไม่ลังเล รีบคุกเข่าลงตามหลังชายชรา จากนั้นกล่าวอย่างเคารพว่า “ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิต!”
ในขณะเดียวกัน ในใจของคนทั้งสองก็ตกตะลึง ท่านอาจารย์จินฉือเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งของนิกายเทียนซิงของพวกเขาแล้ว
แม้แต่ท่านอาจารย์ยังต้องเรียกคนผู้นี้ว่าท่านผู้อาวุโส เช่นนั้นคนผู้นี้จะมีพลังระดับใดกันแน่?
ซูจี้เหนียนอยากจะบอกว่าตนเองเป็นเพียงแค่คนธรรมดา แต่คำพูดนี้กลับพูดไม่ออก เพราะซูจี้เหนียนรู้ว่าหากเขาพูดออกไป มันจะไม่มีน้ำหนักเลย
“ลุกขึ้นเถอะ ข้าแค่ช่วยเหลือเล็กน้อย”
ซูจี้เหนียนพยักหน้า เขาแค่ช่วยเหลือเล็กน้อยจริงๆ
ชายชราเงยหน้าขึ้น พูดอย่างตื่นเต้นว่า “สำหรับท่านผู้อาวุโสแล้ว มันเป็นเพียงการช่วยเหลือเล็กน้อย แต่สำหรับนิกายเทียนซิงของพวกเราแล้ว มันเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ข้าคือผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายเทียนซิง มีนามว่าจินฉือ พวกเขาเป็นศิษย์สองคนของข้าน้อย หลี่อี้คง และจินซือโหรว”
“คารวะท่านผู้อาวุโส”
คนทั้งสองกล่าวอย่างเคารพ
ซูจี้เหนียนมองดูคนทั้งสอง หลี่อี้คงมีวิทยายุทธฝึกฝนร่างกายไม่เลว ปราณยุทธ์ก็แข็งแกร่ง ส่วนจินซือโหรวดูเหมือนจะเป็นคนเก็บตัว แต่ก็นับว่าเป็นหญิงงาม กระบี่สองเล่มในมือนางก็ดูน่าเกรงขาม
“พวกเรามาที่นี่ ก็เพื่อตามหาใบไม้ภูต ประมุขของนิกายเทียนซิงของพวกเราได้รับบาดเจ็บ ต้องใช้ใบไม้ภูตนี้เพื่อขจัดปราณภูตในร่างกาย พวกเราเพิ่งพบภูตต้นไม้นี้ บนร่างของมันมีใบไม้ภูตอยู่หนึ่งใบ เดิมทีมันกำลังหลับใหลอยู่ แต่พวกเราเผลอปลุกมันขึ้นมา จากนั้นก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่ท่านผู้อาวุโสช่วยพวกเราไว้” ผู้อาวุโสจินฉือรีบพูดอย่างสุภาพ
“ใบไม้ภูต?”
ในเวลานี้ซูจี้เหนียนก็นึกขึ้นมาได้ เมื่อครู่เขาเห็นใบไม้ที่ปกคลุมด้วยปราณภูตสีดำสนิทอยู่ท่ามกลางใบไม้อื่นๆ บนต้นไม้โบราณ
“ทั้งหมดเป็นความผิดศิษย์ ศิษย์เผลอทำเสียงดัง จึงปลุกภูตต้นไม้นี้” หลี่อี้คงรู้สึกละอายใจมาก เมื่อเห็นอาจารย์ของตนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะตนเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดไปใหญ่
“ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”
จินฉือยิ้ม กล่าวว่า “อีกอย่างข้าก็ไม่ได้เป็นอะไร”
“ท่านอาจารย์ ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่ได้ใบไม้ภูตแล้ว จะทำอย่างไรดี?” จินซือโหรวพูดอย่างกังวล “หากไม่ได้ใบไม้ภูตกลับไป อาการบาดเจ็บของท่านประมุข…”
“ไม่เป็นไร”
จินฉือส่ายหน้า กล่าวว่า “ในเมื่อไม่ได้ใบไม้ภูต ก็ทำได้เพียงซื้อมัน”
“ใบไม้ภูตนี้มีอยู่ที่หอการค้าเฉียนอวิ๋น เพียงแต่ราคาแพงมาก ต้องใช้ห้าร้อยเหรียญทอง ในเมื่อไม่ได้มัน ก็ทำได้เพียงซื้อมันเท่านั้น”
เดิมทีซูจี้เหนียนตั้งใจจะจากไป เพื่อตามหาวารีไขกระดูกม่วงต่อ ใครจะรู้ว่าเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูจี้เหนียนก็หยุดเดิน สีหน้าตกตะลึง ของสิ่งนั้นมีค่ามากขนาดนั้นเลยหรือ?
ห้าร้อยเหรียญทอง?
“ช้าก่อน”
ในเวลานี้ซูจี้เหนียนมองไปที่จินฉือ อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ใบไม้ภูตที่เจ้าพูดถึง คือใบไม้สีดำบนหัวของภูตต้นไม้ตัวนั้นหรือ?”
“ใช่”
ผู้อาวุโสจินฉือรีบตอบทันที
“เจ้าบอกว่าหอการค้าเฉียนอวิ๋น ขายมันในราคาห้าร้อยเหรียญทอง?” ซูจี้เหนียนถามอีกครั้ง
“ใช่ ถูกต้อง”
จินฉือรู้สึกสงสัย ซูจี้เหนียนถามเรื่องนี้ทำไม?
“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น” ซูจี้เหนียนกล่าว “ข้าจะไปเอาใบไม้ภูตนั้นมาให้เจ้า เจ้าให้ข้าห้าร้อยเหรียญทอง เป็นอย่างไร?”
“หา?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ คนทั้งสามก็ตกตะลึง พวกเขามองไปที่ซูจี้เหนียน ความน่ากลัวของภูตต้นไม้นั้นพวกเขารู้ดี ซูจี้เหนียนพูดราวกับว่าไปเก็บเห็ด มันง่ายดายขนาดนั้นเลยหรือ?
“ท่านผู้อาวุโส!”
จินฉือครุ่นคิด กล่าวว่า “ภูตต้นไม้นั้นแข็งแกร่งมาก ท่านต้องรู้ก่อนว่า เผ่าพันธุ์ภูตเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว พวกมันมีข้อได้เปรียบโดยกำเนิด แม้ว่าภูตต้นไม้นั้นจะยังไม่ถึงระดับครึ่งก้าวราชันย์ภูต แต่พลังของมันก็เทียบเท่ากับครึ่งก้าวปรมาจารย์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันอันตรายมาก ท่านผู้อาวุโสอย่าได้เสี่ยงเลย”
“ไม่เป็นไร ข้าไปเดี๋ยวเดียวก็กลับมาแล้ว”
ซูจี้เหนียนไม่ได้กังวลเรื่องนี้ ในความคิดของซูจี้เหนียน การเก็บใบไม้ภูตนั้นง่ายกว่าการเก็บเส้นสีทองของงูหลามลายทองมาก
พูดจบ ร่างกายของซูจี้เหนียนก็ขยับ หายไปต่อหน้าคนทั้งสามในทันที
“เร็วมาก!”
คนทั้งสามตกใจมาก
“เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งก้าวปรมาจารย์จริงๆ!” จินฉือพึมพำกับตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนหลี่อี้คงและจินซือโหรวก็ตกตะลึง
ครึ่งก้าวปรมาจารย์?
ไม่ใช่ว่ามีข่าวลือว่าอาณาจักรหลิงเจี้ยนมีผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์เพียงคนเดียวหรอกหรือ?
ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวปรมาจารย์ผู้นี้มาจากที่ไหน?
ซูจี้เหนียนกลับไปที่หุบเขาอีกครั้ง ภูตต้นไม้เพราะไม่สามารถจับจินฉือได้ มันกำลังโกรธมาก ไม่คิดว่างูหลามลายทองที่อยู่ใต้อาณัติของมันจะหนีไป เรื่องนี้ทำให้ภูตต้นไม้โกรธจนเกือบจะเผาใบไม้ของตัวเอง
“หืม?”
ในเวลานี้ ภูตต้นไม้ก็เห็นร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า คนผู้นี้สวมหน้ากาก เป็นบุคคลลึกลับที่ช่วยคนเหล่านั้นไปเมื่อครู่
“มนุษย์ เจ้ายังกล้ากลับมาอีก!”
ในเวลานี้ภูตต้นไม้ก็แสยะยิ้ม เถาวัลย์จำนวนมากก็ค่อยๆ ยกขึ้น ราวกับว่าในพริบตาถัดไปจะแทงทะลุหัวใจซูจี้เหนียน
แต่ซูจี้เหนียนไม่ได้สนใจ เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองใบไม้อื่นๆ บนหัวของภูตต้นไม้ มีใบไม้ใบหนึ่งปกคลุมด้วยปราณภูตสีดำ เปล่งแสงสีม่วงดำ
“นั่นคือใบไม้ภูตสินะ?”
ดวงตาของซูจี้เหนียนเป็นประกาย นั่นคือห้าร้อยเหรียญทอง!
“ตาย!”
ภูตต้นไม้ตวาด กิ่งไม้นับพันกลายเป็นลูกธนู พุ่งเข้าหาซูจี้เหนียนโดยตรง และในเวลานี้เอง ร่างกายของซูจี้เหนียนก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ทะลุเถาวัลย์ทั้งหมดในทันที มาถึงกลางอากาศ
“อะไรกัน ครึ่งก้าวปรมาจารย์!”
สีหน้าของภูตต้นไม้เปลี่ยนไปอย่างมาก การที่สามารถลอยขึ้นไปในอากาศได้ เช่นนี้ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งก้าวปรมาจารย์เป็นอย่างน้อย!
มันไม่คิดว่ามนุษย์ที่ดูแปลกประหลาดคนนี้ จะมีพลังขอบเขตครึ่งก้าวปรมาจารย์
“ถึงจะเป็นครึ่งก้าวปรมาจารย์ วันนี้ก็ต้องตายที่นี่!”
ภูตต้นไม้โกรธจัด ทันไดนั้น ปราณยุทธ์ที่แข็งแกร่งก็ระเบิดออกมาเหมือนภูเขา เถาวัลย์ทั้งหมดมีปราณยุทธ์เปลี่ยนเป็นอาวุธ พุ่งเข้าหาซูจี้เหนียนทั้งหมด!
มีด ดาบ กระบี่ หอก ขวาน ง้าว ตะขอ สามง่าม!
อาวุธนับไม่ถ้วนราวกับจะสับซูจี้เหนียนเป็นชิ้นๆ แต่ในเวลานี้ซูจี้เหนียนก็ขยับตัว ร่างกายของเขาทะลุอาวุธทั้งหมดโดยตรง และมาถึงหน้าใบไม้ภูต
“เป็นไปได้ยังไงกัน!?”
ภูตต้นไม้ไม่คิดว่าซูจี้เหนียนจะสามารถหลบการโจมตีทั้งหมดของมันได้ และมันยังมองไม่เห็นว่าซูจี้เหนียนทำได้อย่างไร?
และในเวลานี้ ซูจี้เหนียนก็ยื่นมือออกไป หยิบใบไม้ภูต
“มนุษย์ผู้นี้ รนหาที่ตายงั้นหรือ?”
ภูตต้นไม้ถึงกับตะลึง ใบไม้ภูตเป็นสิ่งที่เกิดจากปราณภูตของมัน และยังเป็นที่รวมพิษในร่างกายของมัน ใบไม้ภูตมีพิษร้ายแรง แม้แต่ปราณยุทธ์ก็ยังสามารถกัดกร่อนได้ หากไม่มีวิธีพิเศษ ย่อมไม่สามารถเก็บมันได้ตามใจชอบ
มนุษย์คนนี้กลับใช้มือเปล่าเก็บใบไม้ภูต?
นี่ไม่ใช่การหาที่ตายหรือไง?
ภูตต้นไม้แสยะยิ้ม มันจินตนาการถึงฉากที่มือของซูจี้เหนียนสัมผัสใบไม้ภูต และถูกปราณภูตที่น่ากลัวกัดกร่อน!