ตอนที่แล้วบทที่ 139 สวัสดีครับครูเย่ ผมชื่อเฉินอู๋ซิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 141 ปัญหาของเฉินอู๋ซิน...

บทที่ 140 เฉินอู๋ซินเป็นคนที่ใส่ใจมากที่สุด...


บทที่ 140 เฉินอู๋ซินเป็นคนที่ใส่ใจมากที่สุด...

เย่เหรินฟังคำพูดของอาจารย์ซื่อ เขาเดินไปเดินมาด้วยความตื่นเต้น

ซื่อหัวชิงที่เห็นสีหน้าตื่นเต้นของเย่เหริน...

เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย...

เฉินอู๋ซินที่อยู่ข้างๆ มองสีหน้าของเย่เหริน

เขามองซื่อหัวชิงด้วยความสับสน

“อาจารย์ ครูเย่คนนี้...”

“เงียบ” ซื่อหัวชิงมองเฉินอู๋ซินอย่างไม่พอใจ

เฉินอู๋ซินไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้น

ยังคงยิ้มให้กับทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา

มองไม่ออกเลยว่าพระหนุ่มรูปนี้กำลังคิดอะไรอยู่...

ไม่นานนัก

เย่เหรินก็มาหยุดอยู่ที่หน้าซื่อหัวชิงอีกครั้ง

เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“อาจารย์ซื่อ ผมไม่สามารถรับประกันอะไรได้ แต่ผมรับประกันได้ว่าศิษย์ของท่านจะต้องค้นพบเส้นทางของตัวเองแน่”

ซื่อหัวชิงได้ยินเย่เหรินพูดแบบนั้น

ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย

เขาพนมมือ

“ถ้างั้นอาตมาก็ต้องขอขอบคุณโยมเย่ไว้ล่วงหน้า!!”

เย่เหรินโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็พูดกับซื่อหัวชิงอย่างจริงจัง

“แต่ผมก็มีเรื่องจะขอรบกวนท่านอาจารย์เช่นกัน”

ซื่อหัวชิงมองเย่เหริน

“โยมเย่ ไม่ต้องเกรงใจหรอก ตราบใดที่อาตมาทำได้ อาตมาก็ยินดีช่วยเหลือ”

เย่เหรินมองซื่อหัวชิงอย่างจริงจัง

“อาจารย์ซื่อ ผมอยากจะสร้างรูปปั้นทองคำของหลานมั่วเหยียนในวัดวัชระ วางมันไว้ในโถงหลัก!!”

ซื่อหัวชิงได้ยินแบบนั้น

เขาก็ตกตะลึง

สีหน้าตื่นเต้นของเย่เหรินก่อนหน้านี้ทำให้เขาคิดว่าเย่เหรินคงจะคิดถึงเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อเขา

แต่เขาไม่คิดเลยว่า

เย่เหรินไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาด้วยซ้ำ...

เย่เหรินเห็นซื่อหัวชิงตกตะลึง เขารีบพูดเสริม

“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการสร้างรูปปั้นทองคำขนาดเท่าตัวจริงเอง!!”

ในฐานะทายาทของตระกูลเย่

ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะห้ามไม่ให้เขาใช้คนของตระกูลเย่ แต่เขาก็ไม่เคยห้ามไม่ให้เย่เหรินใช้เงินของตระกูลเย่...

ซื่อหัวชิงฟังคำพูดของเย่เหริน

เขามองเย่เหรินอีกครั้ง

ด้วยประสบการณ์หลายสิบปี เป็นธรรมดาที่เขามีวิสัยทัศน์ที่เฉียบคม

เห็นได้ชัดว่าความกระตือรือร้นและความจริงจังของเย่เหรินไม่ใช่การแสดง...

เย่เหรินที่สามารถเรียกร้องอะไรก็ได้

แต่เขากลับไม่ได้ผลประโยชน์อะไร แถมยังต้องจ่ายเงินสร้างรูปปั้นของหลานมั่วเหยียนเองอีก...

ภาพลักษณ์ของเย่เหรินในใจของซื่อหัวชิงสูงขึ้น...

น้ำเสียงของซื่อหัวชิงจริงจังขึ้น

“อาตมา...ตกลง”

เย่เหรินได้ยินคำพูดของซื่อหัวชิง

เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาไม่รอช้า รีบพูดกับซื่อหัวชิง

“อาจารย์ซื่อ บัญชีธนาคารของวัดวัชระคือ...”

ซื่อหัวชิงเห็นการกระทำของเย่เหริน เขาก็หน้าแดง

ช่วงนี้

คนที่นับถือศาสนาพุทธบิดเบือนวัฒนธรรมศาสนาพุทธ...

ฉันต้องกลับไปสั่งสอนนักบวชที่โลภมากพวกนั้น!!

ก่อนที่เย่เหรินจะพูดจบ ซื่อหัวชิงก็ขัดจังหวะเขา

“โยมเย่ พวกเราจะสร้างรูปปั้นหลานมั่วเหยียนเอง ไม่ต้องเสียเงินหรอก...”

“แต่.....”

“โยมเย่ เรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงแล้ว อาตมากับศิษย์ขอตัวก่อน”

“อาจารย์ซื่อ อย่าเพิ่งรีบ...”

เย่เหรินยังพูดไม่จบ

ซื่อหัวชิงก็หายตัวไปแล้ว

เย่เหรินมองซื่อหัวชิงที่จากไปโดยไม่ลังเล

ตราบใดที่ทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ

ถ้าหากรูปปั้นของหลานมั่วเหยียนถูกวางไว้ในวัดวัชระเพื่อให้ผู้ศรัทธากราบไหว้ได้เมื่อไหร่

มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการชุบชีวิตหลานมั่วเหยียน!!

ส่วนนักเรียนใหม่คนนี้...

เย่เหรินหันไปมองเฉินอู๋ซิน

ก่อนที่เย่เหรินจะทันได้พูดอะไร

เฉินอู๋ซินก็พนมมือคารวะเย่เหรินอย่างเชื่อฟัง

“ศิษย์เฉินอู๋ซิน คารวะอาจารย์!!”

เฉินอู๋ซินหยิบพระคัมภีร์ออกมาจากกระเป๋า

ชูมันขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง

“ผมได้ยินมาว่าครูเย่มาจากตระกูลเย่แห่งจินหลิง นี่คือพระสูตรแปดหัวใจมังกรสวรรค์ที่ผมคัดลอกมาทั้งคืน สวดเจ็ดครั้ง สี่สิบเก้าจบต่อหน้าพระพุทธรูป”

“พระคัมภีร์นี้ได้รับพรจากคำปฏิญาณของชาวพุทธ มันมีผลกับพลังมังกรอย่างน่าอัศจรรย์”

“ถึงแม้ว่าของขวัญชิ้นนี้จะไม่ได้มีค่าอะไรมาก แต่มันก็เป็นของขวัญจากใจของผม โปรดรับไว้ด้วยครับ ครูเย่!”

เฉินอู๋ซินพูดพลางโค้งคำนับเล็กน้อย

พระคัมภีร์อยู่ห่างจากซี่โครงล่างของเย่เหรินไม่ถึงห้าเซนติเมตร

เย่เหรินแค่ยกมือขึ้นเล็กน้อยก็หยิบมันมาได้...

คำพูดและการกระทำ

ราบรื่น...

ระยะห่างและสัดส่วน

สมบูรณ์แบบ...

เย่เหรินรับพระคัมภีร์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงาม

ทันทีที่เขาได้รับมัน เขาก็รู้สึกได้ถึงแสงธรรมที่แผ่ออกมาจากพระคัมภีร์

แสงธรรมนั้นล้อมรอบร่างกายของเขา

เย่เหรินรู้สึกได้ถึงพลังของราชาแห่งมังกร

มันสบายเหมือนกับการไปซาวน่า...

เฉินอู๋ซินเห็นเย่เหรินรับพระคัมภีร์

เขาก็หันฝ่ามืออย่างเป็นธรรมชาติ

ยืนนิ่งด้วยความสุภาพ

ยังคงหรี่ตาลงและยิ้มอยู่บนใบหน้า

ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา

เย่เหรินพลิกพระคัมภีร์อย่างเงียบๆ

รอยยับบนนั้นยังไม่...

ไอ้หมอนี่ไม่ได้โกหก...เขาเพิ่งจะคัดลอกมันมาจริงๆ...

“โอ๊ย...เจ็บ...”

ทันใดนั้นตัวเปาก็เดินเข้ามา

ตัวเปามีสีหน้าที่เจ็บปวด

มันพูดกับเย่เหริน “เย่เหริน มาดูเพรียงบนกระดองของข้าหน่อยสิ กระดอกงข้าแตกแล้วเหรอ? ทำไมมันถึงได้เจ็บแบบนี้?”

เย่เหรินมองกระดองเต่าของตัวเปา

“มันไม่ได้แตกหรอก แค่เจ็บเป็นพักๆ เพราะเพรียงมิติ พอมีโอกาสเมื่อไหร่ ฉันจะกำจัดมันให้นายเอง...”

“โอ๊ย แต่มันเจ็บจริงๆ...”

“นี่ใครเหรอครับ?” เฉินอู๋ซินมองเย่เหริน

“เพื่อนฉันเอง” เย่เหรินตอบ

เฉินอู๋ซินพยักหน้า

จากนั้นเขาก็ถอดจีวรออก

คลุมกระดองเต่าของตัวเปาอย่างเบามือ

“นี่คือจีวรของนักบวชจากวัดวัชระของพวกเรา มันมีหน้าที่ในการปราบปีศาจ” เฉินอู๋ซินแนะนำ

“ผมสวมจีวรตัวนี้มาตลอด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผลอะไรมาก แต่มันก็ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้กับรุ่นพี่ได้”

เฉินอู๋ซินพูดพลาง

แสงสีทองก็แผ่ออกมาจากจีวร

เมื่อแสงสว่างวาบขึ้น ความเจ็บปวดบนใบหน้าของตัวเปาก็ลดลง...

มันมองเฉินอู๋ซินด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณมาก เจ้าหนู”

เฉินอู๋ซินยังคงยิ้มอยู่บนใบหน้า

“เป็นเกียรติของผม ที่ช่วยเหลือรุ่นพี่ได้ครับ”

ตัวเปาได้ยินคำพูดของเฉินอู๋ซิน

มันก็รู้สึกสบายใจ

จากนั้นเฉินอู๋ซินก็หันไปมองเย่เหริน

“ครูเย่ คุยกันก่อนเถอะ เดี๋ยวผมทำความสะอาดที่นี่ก่อนนะครับ”

เย่เหรินได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย

ช่วงนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี เลยไม่ได้ทำความสะอาด...

เย่เหรินกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

เฉินอู๋ซินก็หยิบไม้กวาดและเริ่มทำงาน...

เย่เหรินเห็นเฉินอู๋ซินเริ่มทำงานแล้ว เขาจึงหยุดเฉินอู๋ซินไม่ได้อีก

เขาได้แต่พูดอย่างเขินอาย “เอ่อ มันรกไปหน่อย...”

เฉินอู๋ซินเงยหน้าขึ้น “อาจารย์พูดอะไรครับ? ความวุ่นวายมันก็คือลมหายใจของชีวิต”

เฉินอู๋ซินพูดจบ เขาก็ก้มหน้าลงและเริ่มทำความสะอาด

เย่เหรินและตัวเปามองเฉินอู๋ซินที่กำลังทำความสะอาด พวกเขาก็ตกตะลึงอยู่นาน

เชื่อฟัง ปรับตัวเก่ง และรอบรู้...

ที่สำคัญเฉินอู๋ซินเป็นคนที่ใส่ใจกับทุกอย่างจนถึงที่สุด...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด