บทที่ 135: บังเอิญได้พลังที่ไม่มีใครมี (ฟรี)
รอร์ชาคไม่คาดคิดว่าเลเซอร์ของเขาจะกระตุ้นหินให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่าง
เมื่อยืนยันแล้วว่าหินไม่ใช่วัตถุธรรมดา รอร์ชาคจึงไม่ทำการทดลองแบบมั่วซั่วต่อ
ในหนังมากมายที่เขาเคยดูในชีวิตก่อน มีเรื่องราวในทำนองที่ว่าความอยากรู้อยากเห็นจะนำไปสู่หายนะ
ถ้ามีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นจากการทดลองแบบมั่วๆ คงไม่ดีเท่าไหร่
แต่เมื่อพบหินลึกลับเช่นนี้ รอร์ชาคก็ไม่อาจปล่อยมันไว้เฉยๆ ได้
เขาจะนำมันกลับไปให้แฮงค์วิจัย
แคร่ก!
แต่สิ่งที่รอร์ชาคไม่คาดคิดคือในตอนนี้ หินที่ตอนแรกปกติดีกลับแตกร้าว
รอยแตกยังคงปล่อยแสงสีฟ้าที่สว่างจ้านั้น
แคร่ก!
แคร่ก!
เสียงนี้ดังต่อเนื่อง รอยแตกบนหินก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดหินทั้งก้อนระเบิดออกแสงสีฟ้าที่สว่างจ้ามากวาบออกมา
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือแสงสีฟ้าดูเหมือนมีชีวิต และพุ่งเข้าหารอร์ชาค
"อะไรเนี่ย?" :รอร์ชาคตกใจมากเขาใช้ความเร็วเกือบสองเท่าของเสียงและหลบไปด้านข้าง
แต่แม้จะใช้ความเร็วของเขา เขาก็ไม่สามารถหลบแสงสีฟ้าได้ มันพุ่งเข้าร่างของรอร์ชาคและหายไป
รอร์ชาค: "..."
เขาเริ่มกังวลแล้วตอนนี้
เขาจะถูกกัดกินด้วยคำสาปร้ายหรือถูกฉายรังสีจากพลังงานที่ไม่รู้จักหรือเปล่า?
เขาคงจะไม่กลายร่างเป็นปีศาจหรอกใช่ไหม?
ในหนังมันเป็นแบบนี้ตลอดเลยไม่ใช่เหรอ?
ไม่มีทางหรอก? ฉันจะไม่เป็นแบบนั้นใช่ไหม?
รอร์ชาคกลืนน้ำลายอึกใหญ่ และรีบเริ่มตรวจสอบร่างกายของเขา
หลังการตรวจสอบ สีหน้าของรอร์ชาคเปลี่ยนไปทันที เขาพบบางอย่างจริงๆ
และมันไม่ใช่ทางกายภาพ แต่เป็นทางจิตใจ
รอร์ชาครู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เขารู้สึกเหมือนมี "ความรู้สึก" ที่อธิบายไม่ได้ ความรู้สึกที่แยกจากประสาทสัมผัสทั้งห้า
รอร์ชาคไม่สามารถอธิบายความรู้สึกนั้นได้ บอกได้แค่เขาสามารถรับรู้ถึงวัตถุบางอย่างรอบตัวได้โดยไม่ต้องใช้ประสาทสัมผัสธรรมดาเช่น การสัมผัส การมองเห็น และการดมกลิ่น
เมื่อรอร์ชาคหลับตา ทุกอย่างในสภาพแวดล้อมรอบๆ ก็ปรากฏในจิตใจของเขาในรูปแบบของภาพสีฟ้า
คล้ายกับ... การรับรู้ของแดร์เดวิล
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากแสงสีฟ้าในหินประหลาด
— แม้แต่สีหลักของการรับรู้ก็เป็นสีฟ้า
ดังนั้นแสงประหลาดเมื่อครู่นี้ สุดท้ายแล้วแค่ให้พลังพิเศษใหม่กับรอร์ชาค แค่นั้นเอง?
พลังพิเศษที่ไร้ประโยชน์ที่แม้แต่โฮมแลนเดอร์ก็ไม่อยากได้?
ไม่มีผลด้านอื่นจริงๆ ใช่ไหม?
เขาพยายามตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งข้างในและข้างนอก แต่ก็ไม่พบการเปลี่ยนแปลงอื่นใด
"ช่างมันเถอะ จะเกิดอะไรขึ้นก็ช่าง" :รอร์ชาคได้แต่ยอมแพ้
แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าหลังกลับไป เขาต้องให้แฮงค์ตรวจร่างกายให้เขาอย่างละเอียดอีกครั้ง
...
อลาสก้า-เมืองป่าฝนเฟรนซี่
รถกระบะที่ดูเก่าๆ หน่อยกำลังขับไปข้างหน้าช้าๆ บนถนนเล็กๆ ที่ดูสกปรกเล็กน้อย
ในกระบะด้านหลังรถ มีกล่องวางเรียงกัน รวมทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ม้านั่ง และเฟอร์นิเจอร์บางอย่าง
ในรถกระบะ มีคาวบอยที่ดูอายุราวสี่สิบปี หน้าผอมแต่มีแววตาลึกล้ำ กำลังขับรถด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ที่นั่งข้างคนขับมีเด็กสาวที่ดูอายุราว 15-16 ปี อ่อนเยาว์และสวยงาม มีผมหยิกสีทองขนาดใหญ่ แต่เด็กสาวดูบึ้งตึงและโกรธ
"สมิธ หนูเพิ่งจะปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้ เพิ่งมีเพื่อน และพวกเขายังชวนหนูไปงานคาร์นิวัล... เราหยุดทำแบบนี้ได้ไหม?"
"เราย้ายมาแปดครั้งในสิบปี หนูเบื่อจริงๆ!"
"นี่ไม่ใช่ชีวิตที่หนูต้องการ!"
เด็กสาวบ่นกับคาวบอยข้างๆ ด้วยความไม่พอใจ
"นัมเบอร์ซิกซ์ หยุดบ่นไร้สาระได้แล้ว! เราอยู่ที่เดียวนานๆ ไม่ได้ ไม่งั้นพวกเมาก้าจะตามหาเราเจอ"
"นอกจากนี้ เรายังต้องหาหินศักดิ์สิทธิ์และคนอื่นๆ!"
สมิธมองไปข้างหน้า โดยไม่แม้แต่จะมองเด็กสาว และพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา:
"เธอต้องจำไว้ว่าเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเล่นสนุก! เรามีภารกิจและงานที่สูงส่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือฉัน! เธอลืมไปแล้วหรือว่าพวกเมาก้าทำลายบ้านเกิดของเรายังไง!"
สีหน้าไม่พอใจของนัมเบอร์ซิกซ์ชะงักทันทีและใบหน้าเริ่มหนักและหม่นหมอง ราวกับนึกถึงอดีตที่โศกเศร้าบางอย่าง
สมิธมองนัมเบอร์ซิกซ์ แล้วรู้สึกว่าคำพูดของเขาอาจแรงไป จึงปลอบใจ: "นัมเบอร์ซิกซ์ ฉันรู้ว่านี่เป็นภารกิจที่หนัก แต่โชคดีที่เธอไม่ต้องแบกรับมันคนเดียว นี่เป็นชะตากรรมของพวกเธอทั้งเก้าคน ไม่ใช่แค่เธอ"
"นั่นแหละปัญหา สมิธ" :นัมเบอร์ซิกซ์ดูหมดหนทาง: "เราไม่สามารถหาว่าคนอื่นๆ อยู่ไหนได้"
"ไม่ต้องกังวล เมื่อฉันหาหินศักดิ์สิทธิ์เจอ มันจะนำทางเราไปหาคนอื่นๆ" :สมิธปลอบใจ
"แต่มีเงื่อนไข คือเราต้องหาหินศักดิ์สิทธิ์ให้เจอก่อน" :นัมเบอร์ซิกซ์เน้นย้ำ
ประโยคนี้ทำให้สมิธพูดไม่ออก
หินศักดิ์สิทธิ์สามารถนำทางพวกเขาไปหาคนอื่นได้ แต่ปัญหาคือพวกเขาไม่รู้ว่าหินศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหน
"นัมเบอร์ซิกซ์ อย่ากังวลไป แม้ฉันจะไม่รู้ว่าหินศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหน แต่ตราบใดที่พลังงานของหินศักดิ์สิทธิ์ถูกกระตุ้น ฉันจะรู้สึกได้ทันที"
"ดังนั้น... ไมต้องกังวล"
แม้สมิธจะพูดแบบนั้น แต่นัมเบอร์ซิกซ์ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย
แม้ชื่อของหินศักดิ์สิทธิ์จะฟังดูยิ่งใหญ่ แต่มันก็แค่ก้อนหินธรรมดาจากภายนอก
ใครจะรู้ว่ามันตกอยู่ที่ไหนบนโลกนี้? มันจะถูกกระตุ้นได้ยังไงโดยไม่มีเหตุผล?
เธอจะต้องสวดมนต์ขอให้ฟ้าผ่าลงมาตอนฝนตกและโดนหินศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม?
พวกเขาตามหาหินศักดิ์สิทธิ์มาสิบปีแล้ว แต่ยังไม่มีแม้แต่เบาะแส
"สมิธ นายว่า..."
นัมเบอร์ซิกซ์กำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับสมิธ แต่เธอประหลาดใจที่พบว่าใบหน้าของสมิธจู่ๆ ก็แสดงความตื่นเต้นและดีใจ
ไม่เพียงเท่านั้น "ฟันหมาป่า" ที่ห้อยอยู่บนหน้าอกของสมิธก็เริ่มกะพริบด้วยแสงสีฟ้าจางๆ
"เกิดอะไรขึ้น? สมิธ เป็นอะไรไป?" :นัมเบอร์ซิกซ์ถามด้วยความแปลกใจ
"หินศักดิ์สิทธิ์เพิ่งถูกกระตุ้น!"
FB Page: Rubybibi นิยายแปล [ฝากกดติดตามเพจด้วยนะคะ อัพเดททุกวัน อ่านตอนใหม่ก่อนใคร จิ้มที่นี่เลยค่ะ]