บทที่ 1166: น้ำที่หกไปแล้ว เก็บกลับคืนมาไม่ได้ เช่นเดียวกับความเชื่อใจที่สูญเสียไป
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 1166: น้ำที่หกไปแล้ว เก็บกลับคืนมาไม่ได้ เช่นเดียวกับความเชื่อใจที่สูญเสียไป
เสียงจอแจดังระงมไปทั่วทางเดินของโรงพยาบาล แม้ในยามปกติโรงพยาบาลแห่งนี้จะเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นพร้อมกันทีละมาก ๆ ความเป็นห่วง กังวล และเสียงบ่นของญาติ ๆ รวมถึงเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเหล่าคนไข้ ก็ทำให้ที่นี่ดูวุ่นวายไปหมด
และในช่วงเวลาแบบนี้ การตะโกนแข่งกันก็เริ่มขึ้น เพราะการพูดด้วยน้ำเสียงปกติคงไม่มีใครได้ยิน
"ลัคกี้!"
เสียงตวาดของลัคกี้ดังมาจากทางด้านหนึ่ง ลัคกี้ตัวน้อยถือค้อนขนาดใหญ่เท่าตัว เดินแหวกฝูงชนในทางเดิน ทำให้ผู้คนที่ส่งเสียงดังเอะอะสงบลงได้
ถึงแม้ภาพพยาบาลถือค้อนจะดูแปลกตา แต่ที่นี่กลับดูสมเหตุสมผล เหล่าโจรสลัดที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ในพื้นที่อื่น ๆ ก็จะถูกส่งตัวมารักษาที่นี่เช่นกัน
กฎระเบียบภายนอกเกาะโอนิงะชิมะนั้นหย่อนยานกว่าภายใน หากใครควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลัคกี้ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือพวกเขาด้วยวิธีการทางกายภาพ
ส่วนเรื่องที่จะทำให้คนอื่นตกใจกลัวนั้นไม่ต้องห่วง เพราะค้อนของเธอถูกทาด้วยสีชมพู แถมยังมีสัญลักษณ์กากบาทสีแดงประจำตัว ไม่น่ากลัวเลยสักนิด
แม้บรรยากาศโดยรอบจะดูวุ่นวาย แต่ทุกอย่างภายในศูนย์ดูแลโปเกมอนแห่งนี้กลับดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ
เหล่าผู้บาดเจ็บต่างก็บ่นเรื่องราวแตกต่างกันไป บางคนดีใจที่ตอนนั้นไม่ได้อยู่บ้าน บางคนเสียใจที่ข้าวของในบ้านเสียหาย บางคนปลอบใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือ พวกเขาก่นด่าไอ้คนวางเพลิงนั่น
รวมไปถึงโมโมโนะสุเกะด้วย ในเมื่อหายไปตั้ง 20 ปีแล้ว ทำไมไม่หายไปตลอดกาลเสียเลยล่ะ? มีเขาหรือไม่มีเขาก็ไม่ได้ต่างอะไรกับประเทศวาโนะเลยสักนิด
คนเหล่านี้ไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์โมโมโนะสุเกะเลยแม้แต่น้อย กลับรู้สึกว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตที่สงบสุขของพวกเขาพังทลาย บุไดใช้วิธีนี้ในการเบี่ยงเบนความรู้สึกด้านลบในใจของชาวเมืองได้สำเร็จ
ภายใต้การชี้นำของเขา ไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากความไร้ประสิทธิภาพของหน่วยชินเซ็นกุมิ แต่ทุกคนกลับคิดว่าเป็นเพราะการปรากฏตัวของโมโมโนะสุเกะต่างหากที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้น
ทว่า คำพูดเหล่านี้กลับทำให้เด็นจิโร่รู้สึกเจ็บปวด
หลังจากสืบหาความจริง เด็นจิโร่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่คุริ เขาไม่คิดว่าคันจูโร่และคินเอมอนจะวางเพลิงเพื่อให้หนีออกจากวาโนะได้สำเร็จ
ประเทศวาโนะในตอนนี้ขาดความจงรักภักดีต่อตระกูลโคซึกิ หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ขาดความจงรักภักดีต่อโคซึกิ โมโมโนะสุเกะ เด็กน้อยที่หนีไปนาน 20 ปี คำพูดสวยหรูที่เขาพูดล้วนเป็นเพียงคำพูดที่ดูดีไปวัน ๆ เท่านั้น
แม้ไม่มีเรื่องพวกนี้ โมโมโนะสุเกะก็คงยากที่จะรวบรวมใจผู้คน ยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
แต่สำหรับเด็นจิโร่แล้ว ปัญหายังไม่หมดแค่นั้น เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรที่โมโมโนะสุเกะได้เลย ตอนนี้เขากำลังตกที่นั่งลำบาก เขายังเอาตัวเองไม่รอดเลยด้วยซ้ำ
เด็นจิโร่มาที่นี่เพื่อรักษาบาดแผลที่มือ เป็นความต้องการของโคซึกิ ฮิโยริ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
สิ่งที่เด็นจิโร่ทำลงไปทำให้โคซึกิ ฮิโยริสูญเสียความไว้วางใจในตัวเขาไปแล้ว ตอนที่เขามาที่นี่ คาวามัตสึและคิคุโนะโจมาเป็นเพื่อน แต่พริบตาเดียว ทั้งสองคนก็หายไป ถูกแทนที่ด้วยเก็คโคกะ
แม้ว่านินจาคาถาจะดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยองครักษ์เงาของฮิโยริ และหน่วยองครักษ์เงาก็เป็นกองกำลังที่ขึ้นตรงกับฮิโยริ โดยปกติแล้วหัวหน้าหน่วยนี้จะเป็นหัวหน้าองครักษ์ของฮิโยริ
นอกจากรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของโชกุนแล้ว พวกเขายังทำงานกำจัดศัตรูในที่ลับ ในทางทฤษฎีแล้ว พวกเขาคือคนที่โชกุนควรไว้วางใจมากที่สุด
แต่เก็คโคกะนั้นแตกต่างออกไป นอกจากจะมีนินจาสำนักคาถาจำนวนมากภายใต้บังคับบัญชาแล้ว เขายังมีสถานะที่เหนือกว่าคนอื่น ๆ ภายในวัง
เนื่องจากอาร์เซอุสสั่งให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของโคซึกิ ฮิโยริชั่วคราว เก็คโคกะจึงช่วยเธอจัดการเรื่องต่าง ๆ
โคซึกิ ฮิโยริรู้เรื่องนี้ดี หากเธอขอให้เก็คโคกะทำอะไร เก็คโคกะคงไม่ปฏิเสธ แต่มันก็เหมือนกับการติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องนอน ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด
ดังนั้น เธอจึงไม่เคยขอให้เก็คโคกะทำอะไรให้ แต่ตอนนี้เธอกลับติดต่อเก็คโคกะ มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอไม่ไว้ใจข้ารับใช้ของเธอ
ไม่ใช่แค่เด็นจิโร่เท่านั้น แม้แต่คิคุโนะโจและคาวามัตสึก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
"ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?"
"แน่นอนว่าเป็นคำขอของท่านโชกุน เธอเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของเจ้ามาก จึงให้ฉันมาดูว่านายได้รับการรักษาอย่างดีหรือไม่ และยังกำชับให้นายพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น งานของนายจะมีคนอื่นรับช่วงต่อ
นายคงเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ใช่ไหม?
ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่านายเป็นคนฉลาด ไม่คิดว่าในเวลาแบบนี้นายจะทำเรื่องโง่ ๆ "
แม้เหล่าข้าราชบริพารอย่างพวกเขาจะแทบไม่มีอำนาจ อย่างมากก็แค่สั่งคนในวัง และรับรู้ข้อมูลบางอย่างล่วงหน้า แต่ตอนนี้ โคซึกิ ฮิโยริกลับริบอำนาจส่วนนี้ของเด็นจิโร่ไป
ต่างจากโมโมโนะสุเกะที่หายไปนาน 20 ปี สำหรับเด็นจิโร่ที่อยู่เคียงข้างเธอมาตลอด 20 ปี เธอยังคงมีความรู้สึกดี ๆ ให้เขาอยู่บ้าง ถึงจะไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเขา
"พวกเจ้าต้องการทำอะไรกันแน่?"
"คำถามไร้เดียงสาแบบนี้ไม่จำเป็นต้องตอบหรอก ตัวประกอบกระจอกงอกง่อยแบบนี้ไม่คุ้มค่าให้พวกเราเสียเวลา แทนที่จะถามฉัน นายลองเดาดูสิว่าท่านโชกุนของนายกำลังคิดจะทำอะไร?
อย่าหาว่าฉันไม่เตือน ท่านโชกุนของนายบอกว่า ถ้านายมีท่าทีผิดปกติ เธอแนะนำให้ฉันจัดการนายซะ"
ดาวกระจายขนาดเล็กเฉียดผ่านหน้าผากของเด็นจิโร่ไป เส้นผมบางส่วนร่วงหล่นลงมา
"ไปกันเถอะ บาดแผลเล็กน้อยแค่นั้น เสียเวลามามากพอแล้ว ท่านโชกุนของนายเตรียมห้องพักอย่างดีไว้ให้นาย ใช้ชีวิตบั้นปลายต่อไปชิว ๆ ก็พอแล้ว"
"แล้วอินุอาราชิกับเนโกะมามุชิล่ะ?"
เด็นจิโร่ไม่รู้ว่าไรโซไม่ได้หนีไป เขาสนใจเพียงอินุอาราชิกับเนโกะมามุชิที่ถูกจับพร้อมกับโมโมโนะสุเกะ
"รอท่านโชกุนเถอะ สิ่งที่เธออยากจะบอก เดี๋ยวเธอก็มาบอกนายเอง"
"…."
อย่างน้อยเด็นจิโร่ก็ยังมีหมอมารักษาบาดแผล แต่ไรโซนั้นต่างออกไป เขาได้รับเพียงการพันแผลแบบลวก ๆ ก่อนจะถูกโยนเข้าไปในเหมืองแร่ที่อุดง ไม่นานนัก โมโมโนะสุเกะก็กลายมาเป็นเพื่อนร่วมห้องขังของเขา
นอกจากนี้ โคซึกิ ฮิโยริไม่ได้ทำอะไรอีก ดูเหมือนเธอกำลังรออะไรบางอย่าง ส่วนอินุอาราชิกับเนโกะมามุชินั้นได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปเนื่องจากเชื้อชาติของพวกเขา
เผ่ามิ้งค์มีสิทธิในการปกครองตนเอง ซึ่งสิทธิ์นี้ก็อยู่ภายใต้กฎของกลุ่มร้อยอสูร แต่หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็ต้องจัดการกันเองภายใน
ในประเทศวาโนะไม่มีเขตปกครองตนเองของเผ่ามิ้งค์ มิ้งค์ส่วนใหญ่มักอาศัยอยู่ในโซว ประเทศวาโนะเป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับพวกเขา อย่างมากก็มีแค่ "สถานทูต" พิเศษเท่านั้น
ถ้าเซ็ตสึนะอยู่ที่นี่ เรื่องแบบนี้มักจะถูกโยนให้เธอจัดการ แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่ แถมเซราโอร่าก็อยู่ที่โซวด้วย
สุดท้าย จึงต้องให้มิ้งค์ที่อาวุโสและมีบารมีมาจัดการเรื่องนี้
และมิ้งค์ที่มีคุณสมบัติเช่นนั้น นอกจากซัทสึนะแล้ว ก็มีเพียงฮิตสึสึงิคังเท่านั้น
ไม่นานมานี้ ที่บ่อน้ำพุร้อนฮาคุไม ฮิตสึสึงิคังกำลังเพลิดเพลินกับชีวิตหลังเกษียณ คุซันผู้ซึ่งกำลังพักผ่อนเช่นกัน ก็มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเขา
ในอดีต ฮิตสึสึงิคังกับคุซันไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กัน แต่ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
พวกเขาเห็นพ้องต้องกันในเรื่องพิเศษเรื่องหนึ่ง นั่นคือ การทำงานมันเหนื่อย การเกษียณแล้วใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยสบายกว่าเยอะ
แต่ฮิตสึสึงิคังเพิ่งจะพูดจบว่าช่วงนี้สบาย ๆ เรื่องวุ่นวายก็มาถึง
"นี่มันไม่ใช่โรงพยาบาล ไม่ใช่สถานีดับเพลิง ทำไมถึงมีเรื่องปวดหัวมาได้ล่ะ?"
บางสิ่งบางอย่างก็แปลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่ปกติงานยุ่ง ๆ ยิ่งต้องระวังคำพูด หากพูดว่าว่าง วันนั้นอาจจะต้องทำงานล่วงเวลาจนถึงเช้า
เมื่อฮิตสึสึงิคังมาถึงที่นี่ บนหัวของเขายังมีโรลม้วนผมติดอยู่ เขาเพิ่งจะทำผมเสร็จ ถ้าแกะออก ความพยายามหลายชั่วโมงก็จะสูญเปล่า จึงใส่มาด้วยเลย
"พวกนาย อินุอาราชิ เนโกะมามุชิ? พวกนายไม่ได้หายไปเหรอ?"
ด้วยความจำอันยอดเยี่ยม ฮิตสึสึงิคังยังจำพวกเขาสองคนได้ ตอนนั้นเซ็ตสึนะก็ไม่รู้ว่าพวกเขาหายไปไหน สุดท้ายจึงสรุปว่าหายสาบสูญ
"พวกนายไปทำอะไรมา?"
ฤทธิ์ยาคลายกล้ามเนื้อของควีนหมดลงแล้ว อินุอาราชิดูเหมือนจะโอเค นั่งสงบอยู่ข้าง ๆ ส่วนเนโกะมามุชิถูกใส่กุญแจมือ มีเปโดรคอยดูแลเขาอยู่ข้าง ๆ
ในไทม์ไลน์เดิม เปโดรอาศัยอยู่ในป่าปลาวาฬ จึงถือเป็นลูกน้องของเนโกะมามุชิ แต่ตอนนี้ต่างออกไป เนื่องจากความแตกต่างของอายุ เนโกะมามุชิที่ถูกโคซึกิ โทคิส่งมาอนาคตจึงไม่รู้จักเปโดร
"ท่านฮิตสึสึงิคัง พวกเขาสองคน..."
แครอทกระโดดขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ เอามือจับเขาของฮิตสึสึงิคังแล้วกระซิบข้างหูว่า "พวกเขาสองคนจู่ ๆ ก็โผล่มาที่คุริ แล้วก็เข้าโจมตีเหมียวกับวูล์ฟ"
เผ่ามิ้งค์มีรูปร่างที่แตกต่างกันมาก มีทั้งตัวเล็ก ๆ อย่างแครอท และร่างใหญ่ยักษ์อย่างฮิตสึสึงิคัง ด้วยอายุของฮิตสึสึงิคังในตอนนี้ การก้มตัวเป็นเรื่องยาก
"แล้วเจ้าหนูสองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?"
"ไม่เป็นไรค่ะ แต่หนูได้ยินมาว่าเจ้าแมวเนโกะมามุชิน่ะ เคยมีเรื่องบาดหมางกับท่านดยุกมาก่อน ถ้าท่านดยุกทรงทราบเรื่องนี้..."
ฟังข่าวจากแครอทแล้ว ฮิตสึสึงิคังก็ยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม แทนที่จะได้เกษียณไปดี ๆ กลับต้องมาจัดการเรื่องวุ่นวายแบบนี้อีก
"อินุอาราชิ เนโกะมามุชิ พวกนายรู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป?"
"พวกข้าแค่ต้องการปกป้องลูกของนายท่าน ท่านดยุกฮิตสึสึงิคัง ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ทำไมถึงมีเผ่ามิ้งค์อยู่ที่นี่มากมาย? ที่นี่ถูกยึดครองโดยกลุ่มร้อยอสูรแล้วไม่ใช่เหรอ?"
"ปกป้องลูกของนายท่าน? นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเจ้าทำร้ายเด็ก ๆ ที่เป็นเผ่าเดียวกันงั้นเหรอ?!"
ได้ยินเหตุผลของอินุอาราชิแล้ว ฮิตสึสึงิคังก็โกรธจนแทบระเบิด เผ่ามิ้งค์มีจำนวนน้อยอยู่แล้ว ไม่ว่าเมื่อไหร่ สิทธิของพวกพ้องก็ต้องมาก่อนคนนอก ยิ่งเด็กสองคนนั้นเป็นลูกของท่านดยุกด้วย
เขารับเหตุผลของอินุอาราชิกับเนโกะมามุชิไม่ได้เลย
"ท่านดยุกฮิตสึสึงิคัง โซวกับตระกูลโคซึกิมีพันธสัญญาพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ?"
"ดังนั้นระหว่างลูกของตัวเองกับลูกของพี่น้อง ในสายตาพวกแก ลูกของพี่น้องสำคัญกว่างั้นสิ?"
ฮิตสึสึงิคังตั้งใจจะสั่งสอนพวกเขาสักหน่อย แต่แล้วก็มีเสียงร้องของช้างดังกึกก้องขึ้น
นอกจากซุนิชาแล้ว ไม่มีช้างตัวไหนส่งเสียงแบบนี้ได้อีก และเสียงนี้ก็หมายความว่า ราชินีที่แท้จริงกลับมาแล้ว
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_