บทที่ 1165: สิ่งที่ไม่อาจย้อนคืน
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 1165: สิ่งที่ไม่อาจย้อนคืน
วิ้ดด~! วี้ดดด~!
เสียงนกหวีดยาวแหลมดังก้องไปทั่วเกาะลอยฟ้าชั้นแรก เหล่าทหารอากาศที่กำลังพักผ่อนได้ยินเสียงนกหวีดก็รีบรวมพล พกอาวุธเตรียมพร้อม
"พวกแกเห็นแล้วใช่ไหม? มีคนกลุ่มหนึ่งบินว่อนอยู่บนฟ้าเหนือวาโนะ ให้พวกมันรู้ซะบ้างว่าท้องฟ้าเป็นเขตแดนของพวกเรา! ออกเดินทางได้!"
คนและมังกรพันปีเตรียมพร้อมจะออกเดินทาง แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นบิน ไคโดก็ร่วงลงมาตรงหน้าพวกเขา
"ท่านไคโด!"
"หืม? เกิดอะไรขึ้น? พวกแกกำลังทำอะไรกัน?"
"คืออย่างนี้ครับ ท่านไคโด ท่านควีนเพิ่งค้นพบเรื่องแปลก ๆ เมื่อ 20 ปีก่อน คนพวกนั้นปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แล้วบุไดแห่งหน่วยชินเซ็นกุมิก็เพิ่งรายงานมา..."
"พอแล้ว พวกแกไม่ต้องไปตามแล้ว"
"ท่านไคโด ท่านหมายความว่า...?"
"แค่เพิ่มสีสันให้กับชีวิตอันแสนน่าเบื่อเท่านั้นเอง พวกแกยังอยู่ที่นี่อีกทำไม? ไม่เข้าใจคำสั่งฉันรึไง?"
"ครับ! รับทราบ!"
เหล่าทหารอากาศที่เพิ่งรวมพลกันก็แยกย้ายกันไปทันที คำสั่งของไคโดคือที่สุด เขาไม่อยากพูดมาก ลูกน้องก็ทำได้แค่เชื่อฟัง พวกเขายังไม่มีสิทธิ์เสนอความคิดเห็น
ไคโดยอมอธิบายสักประโยคก็ถือว่าดีมากแล้ว
[20 ปีก่อน คำทำนายงี่เง่า ฉันจะรอดูว่าพวกแกจะทำอะไรได้บ้าง ฉันอยู่ที่วาโนะนี่แหละ และจะไม่ไปไหนทั้งนั้น]
นอกจากคำอธิบายสำหรับคนภายนอกแล้ว ไคโดยังมีความคิดของตัวเอง แต่ลูกน้องธรรมดาพวกนี้ไม่รู้เรื่องแบบนี้หรอก พวกเขาเห็นแค่ไคโดทำท่าจะโจมตี
"โว่ะโระโระโระ ปล่อยให้พวกแกไปง่าย ๆ แบบนี้ก็น่าเบื่อเกินไป ฉันขอส่งของขวัญเล็กๆ น้อย ๆ ให้พวกแกแล้วกัน เบโรเบรธ!"
ถึงจะตั้งใจปล่อยให้ทั้งสองคนไป แต่ไคโดก็ไม่ได้อยากให้พวกเขาจากไปเฉย ๆ จึงปล่อยเบโรเบรธออกมาเอง
ร่างปลอมที่วาดด้วยหมึกกับร่างจริงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หลอกตาพวกชินเซ็นกุมิทั่วไปได้ ทำให้บุไดสับสนได้ แต่หลอกไคโดไม่ได้
เขายืนอยู่บนยอดเกาะโอนิงะชิมะเหมือนป้อมปืน ปล่อยเบโรเบรธออกมาอย่างต่อเนื่อง โดนร่างปลอมที่คันจูโรสร้างขึ้นทั้งหมด
ภายใต้การโจมตีของเบโรเบรธ บนท้องฟ้าเกิดการระเบิดต่อเนื่อง ร่างปลอมที่คันจูโรสร้างขึ้นพังทลายทันทีที่โดน ไคโดใช้ฮาคิเล็งเป้าหมายไม่ใช่เพื่อฆ่าพวกเขา แต่เพราะกลัวว่าตอนขู่จะพลาดไปโดนตัวจริงเข้า
สุดท้าย ไคโดยังจงใจยิงพลาด เพื่อให้พวกเขาหนีไปได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็เป็นเหตุการณ์สุดเหลือเชื่อที่ยามาโตะกับควีนประสบ
ด้านนอกวาโนะ บนเหยี่ยวขนาดยักษ์ที่คันจูโรวาดขึ้น
พวกเขาเพิ่ง "หนีตาย" จากการโจมตีของไคโดมาได้ ชั่วขณะหนึ่งไม่มีใครพูดอะไร คินเอมอนไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่ ส่วนคันจูโรก็กำลังเรียบเรียงคำพูด
ท่าทางของเขาตอนนี้ต่างจากเมื่อก่อนมาก เพราะเพื่อปกปิดตัวเอง เขาจึงวาดรูปด้วยมือซ้ายมาตลอด
เขาถนัดขวาอยู่แล้ว แถมยังจงใจบิดเบือนลายเส้น ทำให้ภาพที่เขาวาดออกมาดูแปลกประหลาดมาก เทียบกับตอนนี้ไม่ได้เลย
ตอนนี้เพื่อถอนตัวจากวาโนะได้สำเร็จ คันจูโรได้เปิดเผยทุกอย่างแล้ว เขากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้คินเอมอนเชื่อตัวเองได้
"คินเอมอน ข้า..."
"ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเข้าใจ เจ้าเองก็ทำอะไรไม่ได้ ท่านโมโมโนะสุเกะถูกเปิดเผยแล้ว ไรโซก็เสียสละอย่างมาก เจ้าไม่มีทางช่วยพวกเขาออกมาได้พร้อมกันหรอก"
"ไม่ใช่ ข้าอยากจะบอกว่า..."
"ข้าเข้าใจ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเสียใจ เราต้องรีบหาคนช่วยที่เหมาะสม ถึงจะช่วยพวกเขาออกมาได้
แต่ฝีมือการวาดของเจ้า..."
"จริง ๆ แล้วข้า..."
"เก่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? มีความสามารถแบบนี้ การปฏิบัติการหลังจากนี้ต้องราบรื่นขึ้นแน่"
คันจูโรไม่คิดเลยว่าตัวเองจะคิดหาคำพูดตั้งนาน สุดท้ายคินเอมอนก็เหมือนคนโง่ ไม่เคยสงสัยเขาเลย ทำให้สิ่งที่เขาคิดไว้ทั้งหมดสูญเปล่า
แต่แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย
ในขณะที่รู้สึกโล่งใจ คันจูโรก็รู้สึกสิ้นหวัง เขาอินกับบทบาทมากเกินไปจนถอนตัวไม่ได้ ตัดสินใจจะแสดงบทบาทลูกน้องตระกูลโคสึกิจนตาย
การช่วยเหลือโมโมโนะสุเกะเป็นสิ่งจำเป็น แต่ตอนนี้ความต่างของฝ่ายเรากับศัตรูมันช่างมากมายเหลือเกิน
ตัวเขาเองต้องพาคนซื่อบื้อคนหนึ่งไปสู้กับวาโนะ+กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร ดันเจี้ยนระดับนรกแบบนี้ ต่อให้ร็อคส์ ดี. ซีเบ็คฟื้นคืนชีพก็จัดการไม่ไหว ยิ่งพาคันจูโรที่อาจจะกลายเป็นตัวถ่วงของคินเอมอนไปด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
การเป็นสายลับถึงขั้นนี้ คันจูโรเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์เลยทีเดียว
ถ้าจะหาเหตุผล ก็คงต้องโทษคุโรซึมิ โอโรจิ เขาใช้ประโยชน์จากนิสัยของคันจูโรให้ไปเป็นสายลับ ตัวเองก็ดันโดนฆ่าตาย สุดท้ายก็เลยเป็นแบบนี้
คุริ ไฟที่ลุกโชนดับลงแล้ว เหล่าเซนิกาเมะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ประสานงานกับหน่วยชินเซ็นกุมิที่เริ่มดับไฟตั้งแต่เนิ่น ๆ ควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากความเสียหายทางทรัพย์สินจำนวนมากแล้ว ก็ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่จำนวนผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้ก็ยังคงมีไม่น้อย
ตอนนี้เหล่าเซนิกาเมะกำลังตรวจสอบพื้นที่เพลิงไหม้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีไฟที่ยังไม่ดับหลงเหลืออยู่
บริเวณรอบนอกเป็นหน้าที่ของเซนิกาเมะ ด้านในเป็นคามิคาเมะ ส่วนจุดศูนย์กลางเป็นคาเม็กซ์ที่กำลังตรวจสอบอยู่
"คาเม็กซ์"
คาเม็กซ์ยกแขนขึ้นสูง กั้นคานบ้านที่กำลังจะพังลงมา
พื้นที่บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางการต่อสู้ ได้รับผลกระทบมากที่สุด ถูกเผาจนกลายเป็นซากปรักหักพัง มีความเสี่ยงที่จะถล่มลงมาสูง
ถ้าคามิคาเมะหรือเซนิกาเมะตัวเล็ก ๆ เข้ามาตรงนี้ก็มีโอกาสโดนฝังทั้งเป็น มีเพียงคาเม็กซ์ตัวใหญ่เท่านั้นที่รับหน้าที่นี้ได้
จากนั้นคาเม็กซ์ก็ปรับมุมปืนใหญ่ที่หลัง ดับไฟที่ซ่อนอยู่ใต้เถ้าถ่านจนหมด
หลังจากค้นหาอยู่นาน ในที่สุดมันก็พบกล่องเหล็กใบเล็ก ๆ ในซากปรักหักพัง เนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำ มันจึงรอดจากเปลวเพลิงมาได้ คาเม็กซ์ปัดฝุ่นออก แล้วหยิบกล่องใบเล็กออกจากซากปรักหักพัง
"คุณยายครับ ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ บ้านหลังนี้ถือว่าเสียหายจากการต่อสู้ เราจะชดเชยบ้านหลังใหม่ให้ครับ แล้วที่นี่ก็เป็นบ้านเก่า อยู่ในแผนรื้อถอนอยู่แล้ว
ต่อให้ไม่มีไฟไหม้ครั้งนี้ อย่างช้าปีหน้าถนนสายนี้ก็จะถูกสร้างใหม่ ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ คนในบ้านคุณยายก็ไม่ได้เป็นอะไร"
บุไดดึงผมตัวเองด้วยความปวดหัว จับไรโซได้หนึ่ง หนีไปได้สอง
เขาไม่รู้ว่าทำไมทหารอากาศไม่ออกมา แต่เรื่องบนฟ้าไม่ใช่หน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ภารกิจครั้งนี้ก็ไม่ได้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ข้อมูลเมื่อ 20 ปีก่อนมีไม่มาก ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับความสามารถในการบิน
ปัญหาคือไฟที่คันจูโรจุดขึ้นในตอนท้าย ทำให้เกิดความเสียหายมากมาย ดังนั้นบุไดจึงพยายามแก้ไขปัญหาอยู่
"เฮ้อ ฉันอยู่ที่นี่มา 60 ปี ที่นี่มีความทรงจำช่วงครึ่งชีวิตของฉัน..."
เห็นหญิงชราตกอยู่ในห้วงความทรงจำ หัวของบุไดก็ดูเหมือนจะใหญ่ขึ้น เขาโบกมือเรียกลูกน้อง ให้พวกเขามาจัดการเรื่องนี้ บุไดก็อยากจะไป แต่ในตอนนั้นเอง คาเม็กซ์ก็เดินออกมาจากกองเพลิง ในมือถือกล่องใบนั้นอยู่
"คาเม็กซ์"
"ขอบคุณนะจ๊ะ"
หญิงชรารับกล่องเหล็กมาด้วยมือที่สั่นเทา กอดไว้ในอ้อมแขนราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า ไม่มีใครรู้ว่าข้างในนั้นมีอะไร มีไม่กี่คนที่สนใจ แต่ตอนที่บุไดกำลังจะไป หญิงชราก็ตะโกนเรียกเขาไว้
"หัวหน้าหน่วยบุได พวกคุณจับพวกมันได้ไหม? ไอ้ปีศาจแห่งชิโมสึกิ"
"ปีศาจแห่งชิโมสึกิ?"
"ก็จริง หัวหน้ายังเด็กเกินไป อาจจะไม่รู้เรื่องนี้
เมื่อก่อน ชิโมสึกิมีปีศาจที่ชอบขโมยผมคนอื่น จะปรากฏตัวขึ้นในตอนกลางวันแล้วตัดผมคนอื่น แม้แต่ผมของคนตายมันก็ไม่เว้น ไอ้บ้านั่นแหละคือคนที่จุดไฟเมื่อกี้"
หญิงชราเล่าเรื่องราวในอดีตด้วยน้ำเสียงเหมือนเล่านิทานผี มันเป็นเรื่องนานมาแล้ว คันจูโรจะใช้ผมที่ขโมยมาทำพู่กันขาย ตอนที่คิดจะขโมยผมของโอเด้งก็สู้ไม่ได้ โดนซัดหมอบไป หลังจากนั้นก็เลยกลายมาเป็นลูกน้องของโอเด้ง
นั่นเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่คันจูโรแสดง
ด้วยพฤติกรรมแปลกประหลาดและใบหน้าที่โดดเด่น ทำให้คนเฒ่าคนแก่หลายคนยังจำเขาได้
"ครับ ผมจะจัดการให้เองครับคุณยาย วางใจได้เลยครับ ไอ้บ้านั่นเป็นอาชญากรวางเพลิงนะครับ"
ถึงแม้ไฟที่คันจูโรจุดขึ้นจะช่วยให้พวกเขาหนีไปได้โดยอ้อม แต่มันก็ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่า
คุริเดิมทีเป็นดินแดนของโคสึกิ โอเด้ง ตอนที่เขาปกครองที่นี่ เขาก็พยายามอย่างหนักที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพความยากจน และได้ลงมือทำบางอย่างไปบ้างแล้ว
ดังนั้น คนเฒ่าคนแก่แห่งคุริจึงมีความทรงจำเกี่ยวกับเขาที่แน่นอนกว่า แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ไม่ถูกลืมเลือนไปเสียทีเดียว
แต่ไฟในวันนี้กลับเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง พวกเขาไม่ได้โทษโอเด้งที่ตายไปแล้ว แต่กลับโกรธแค้นเหล่าข้ารับใช้ที่เดินทางมาจากอดีต
ก่อนที่พวกเขาจะปรากฏตัวขึ้น ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอคนพวกนี้โผล่มา พวกเขาก็ต้องสูญเสียบ้านไป ชื่อเสียงที่หลงเหลืออยู่ก็ถูกบั่นทอนลงไปอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้คำสั่งลับ ๆ ของบุได ลูกน้องคนสนิทของเขาก็แพร่ข่าวลือว่า การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะลูกน้องของโมโมโนะสุเกะต้องการก่อสงคราม
ทำให้คนที่ทรัพย์สินเสียหาย หรือมีคนในครอบครัวบาดเจ็บ เริ่มเกลียดชังไอ้คนที่หายไป 20 ปีคนนี้
ที่ศูนย์ดูแลโปเกมอนร้อยอสูร แผนกเด็ก ขั้นตอนการตรวจร่างกายเสร็จสิ้นแล้ว แมนเดรลล์กำลังรอผลอยู่
"ท่านแมนเดรลล์ ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ตอนนี้ดูเหมือนเด็ก ๆ ทั้งสามคนจะแข็งแรงดี รอผลตรวจอีกสักครู่นะครับ"
"รบกวนด้วยครับ"
มองดูลูกสาวที่ไม่งอแงแล้ว ภายใต้การดูแลของเหมียวและวูล์ฟ แมนเดรลล์ก็ถอนหายใจอย่างจนใจ เขารู้สึกว่าการตรวจร่างกายครั้งนี้ไม่จำเป็นเลย แต่ควีนยืนยันว่าพวกเขาต้องมา
ดังนั้น ก่อนจะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวเล่น แมนเดรลล์จึงต้องมาที่นี่ก่อน
ระหว่างที่พวกเขารอผลตรวจ คนที่ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ก็ถูกส่งตัวมาที่นี่ แผนกไฟไหม้ก็ยุ่งวุ่นวายขึ้นมาทันที ในเวลาเดียวกัน เด็นจิโร่ก็ตามคาวามัตสึและคิคุโนะโจมาที่นี่ด้วย
ฮิโยริให้เขามารักษาแผลที่มือ ดูเหมือนจะเป็นห่วงเขา แต่เด็นจิโร่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ฮิโยริในตอนนี้ไม่ไว้ใจเขาแล้ว คงอีกไม่นานตำแหน่งของเขาก็จะเปลี่ยนไป
โมโมโนะสุเกะยังไม่ตาย แต่อนาคตน่าเป็นห่วง ขณะที่เด็นจิโร่กำลังสับสน ก็ได้ยินเสียงด่าทอของคนบางคน
"โมโมโนะสุเกะนั่นมันใคร? ทำไมมันถึงกลับมา? พ่อฉันบาดเจ็บก็เพราะมัน!"
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_