ตอนที่แล้วตอนที่ 154 สกายไปเรียนมหาวิทยาลัย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 156 ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และส่งเสริมศักยภาพของทุกคน นี่แหละคือสิ่งที่เจ้าของกิจการควรทำ!

ตอนที่ 155 มันมาแล้ว!


ตอนที่ 155 มันมาแล้ว!

สุดท้ายสกายก็ยืนยันเลือกเรียนฟิสิกส์ควอนตัมอย่างแน่วแน่ แม้ว่าเอริคจะพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนใจ

ดังนั้นเอริคจะทำอะไรได้อีกล่ะ? ก็ต้องปล่อยเธอไปตามทางที่เธอเลือก เพราะถึงอย่างไรแล้วเธอจบมาก็ไม่ต้องหางานทำ และเมื่ออายุครบ 18 ปี เธอก็จะได้สืบทอดบริษัทและทรัพย์สมบัติของเขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกคนใหม่ ดังนั้นเธอไม่มีทางอดอยากแน่นอน!

หลังจากที่เอริคอยู่เที่ยวกับสกายในคอนเนตทิคัตสองสามวัน และจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เขาก็เดินทางกลับนิวยอร์กเพียงลำพัง และมองบ้านพักตากอากาศที่ว่างเปล่าด้วยความรู้สึกเหงาแปลก ๆ

“นายท่าน ต้องการให้ฉันต่อสายถึงคุณหนูไหมคะ?” ฟิวเจอร์ผู้ช่วยเอไอผู้รอบรู้ปรากฏตัวข้าง ๆ เอริค

“ไม่ต้องหรอก กว่าเธอจะหลุดพ้นจากตาแก่อย่างฉันได้ ปล่อยให้เธอสนุกให้เต็มที่เถอะ” เอริคส่ายหัว “แต่ปรับดาวเทียมสักดวงเพื่อจับตาดูความปลอดภัยของเธอตลอดเวลาเอาไว้ด้วยล่ะ”

“รับทราบค่ะ นายท่าน”

นี่แหละที่เรียกว่าคนรวยระดับมหาเศรษฐี เพื่อความปลอดภัยของลูกสาว เขายังใช้งานดาวเทียมทั้งดวงเพื่อดูแลเธอโดยเฉพาะ!

“แล้วดร.ดูมเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ดร.ดูมได้จัดการพูดปราศรัยในที่สาธารณะหลายครั้งในลัตเรเวีย และด้วยเงินทุนมหาศาลและอาวุธล้ำสมัย เขาได้รวบรวมกองกำลังที่มีศักยภาพสูงและกำลังฝึกอย่างหนักในตอนนี้ค่ะ”

เอริคพยักหน้า “แล้วแม็กล่ะ?”

“คุณแม็กได้ติดต่อกับดร.ดูมแล้ว ทั้งสองตกลงว่าจะเริ่มปฏิบัติการร่วมกันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า”

เอริคพยักหน้าอีกครั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้ ซึ่งเขามั่นใจว่าถ้าหากทุกอย่างดำเนินไปตามนี้ การสร้างประเทศสำหรับมนุษย์กลายพันธุ์จะไม่ใช่เพียงความฝันอีกต่อไป

“แล้วรองประธานาธิบดีล่ะ?”

“ลูกสาวของท่านรองเพิ่งจะฉลองวันเกิดครบหนึ่งปี และกำลังรักษาตัวในแคลิฟอร์เนีย แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น โดยแพทย์แนะนำให้ตัดขาขวาค่ะ”

ลูกสาวคนเล็กของรองประธานาธิบดีถูกวินิจฉัยว่ามีโรคแต่กำเนิดตั้งแต่เกิด เขาพยายามพาเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลทั่วโลก แต่ก็ได้รับคำตอบแบบเดียวกันทุกที่ จนแทบจะหมดหวังและเกือบลาออกจากตำแหน่งรองประธานาธิบดี

โดยในเนื้อเรื่องดั้งเดิมนั้น รองประธานาธิบดียอมให้หมอตัดขาของลูกสาวตัวเอง แต่เขาก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะรักษาเธอให้กลับมายืนได้อีกครั้ง ถึงขนาดยอมละเมิดกฎหมายด้วยการร่วมมือกับคิเลียนจากบริษัท ไพโอเนียร์ เทคโนโลยี และวางแผนที่จะโค่นประธานาธิบดี

“จัดการนัดพบกับรองประธานาธิบดีให้ฉันโดยเร็วที่สุด”

“ได้ค่ะนายท่าน ฉันนัดหมายไว้วันอังคารหน้าเรียบร้อยแล้วค่ะ” ฟิวเจอร์ช่างทำงานรวดเร็วจริง ๆ ทุกอย่างจัดการได้ในพริบตา

“วันอังคารหน้า? ยังมีเวลาอีกหลายวัน จะไปเจอกับ นิค ฟิวรี่ สักหน่อยดีไหมนะ?” เอริคครุ่นคิดอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ส่ายหัวแล้วล้มเลิกความคิดนั้น เพราะถ้าเจ้าหมอนั่นรู้เรื่องอะไรขึ้นมามีหวังวุ่นวายแน่ ดังนั้นรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนค่อยบอกเขาดีกว่า!

. . .

แน่นอนว่าการพบกับรองประธานาธิบดีเป็นไปตามคาด เพราะเมื่อเอริคนำแหวนเปลี่ยนแปลงโมเลกุลเข้าไปช่วยรักษาให้ มันก็ไม่มีโรคใดที่รักษาไม่ได้อีกต่อไป

ทำให้หลังจากที่รองประธานาธิบดีขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้ง เอริคก็ใช้โอกาสนี้ยื่นข้อเสนอเล็ก ๆ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์กลายพันธุ์ แม้รองประธานาธิบดีจะลำบากใจ แต่สุดท้ายก็ยอมรับข้อเสนอนั้นในที่สุด

. . .

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว การฝึกของทีมวิลและคนอื่น ๆ ก็เสร็จสมบูรณ์ ทำให้หลังจากพักผ่อนไม่นาน โปรเจกต์ฟาร์สตาร์ ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

เอริคในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในแผนการนี้ได้เข้าร่วมกับวิลและและคนอื่น ๆ รวมเจ็ดคน พวกเขาถูกพาไปยังถ้ำเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรแปลกประหลาด

ที่ศูนย์กลางของถ้ำมีหินสีดำสูงกว่า 2 เมตรตั้งตระหง่านอยู่ นักบินอวกาศนาซ่าทั้งสี่คนรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก นี่ไม่ใช่การสำรวจอวกาศหรือ? ทำไมถึงกลายเป็นการสำรวจใต้ดินแทนล่ะ?

แน่นอนว่าในขั้นตอนนี้ ไม่มีใครอธิบายอะไรให้พวกเขาเข้าใจอีกแล้ว การฝึกในอวกาศหนึ่งเดือนนั้นแท้จริงคือการฝึกสามสมาชิกไฮดรา ส่วนพวกเขาสี่คนเป็นแค่ตัวล่อให้ผู้คนไขว้เขวเท่านั้น พวกเขาก็แค่ ‘เครื่องสังเวย’ สำหรับ ไฮฟ์ ดังนั้นพวกเขายังจำเป็นต้องฝึกอะไรอีกเหรอ?

ในขณะที่นักบินทั้งสี่คนกำลังตกใจ มาลิก และทีมงานของเขาก็เริ่มเปิดการทำงานของเครื่องจักร

ทันใดนั้นเครื่องจักรโบราณเหล่านั้นก็ส่งเสียงดังในขณะที่เริ่มทำงาน เมื่อกระบวนการสำเร็จ คลื่นสั่นสะเทือนพิเศษก็ถูกปล่อยไปที่หินสีดำ ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นของเหลวและกลายเป็นแอ่งน้ำสีดำบนพื้น

วิลและอีกสามคนรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นเอริคและสมาชิกไฮดราทยอยกระโดดลงไปในแอ่งน้ำ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกลูกน้องของมาลิกผลักลงไปในแอ่งน้ำสีดำในที่สุด

. . .

ตอนนี้เอริครู้สึกเหมือนทุกอย่างมืดสนิทอย่างกะทันหัน ตามมาด้วยแรงสั่นสะเทือนรุนแรงและแรงดึงดูดที่ทรมาน แม้ว่าเขาจะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดเหมือนผิวหนังถูกฉีก และเมื่อการมองเห็นกลับคืนมาอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนผืนดินที่แปลกประหลาด

“ไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนสร้างหินนี้ขึ้นมา พลังงานมิติถึงกับถูกใช้งานแบบนี้ได้ ช่างเป็นเทคโนโลยีที่น่าอัศจรรย์จริง ๆ!” เอริคไตร่ตรองถึงประสบการณ์การเคลื่อนย้ายก่อนหน้านี้อย่างละเอียด และพบว่าความเข้าใจเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงของเขาเพิ่มพูนขึ้นเล็กน้อย

ในขณะที่เอริคยังยืนอยู่ได้ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกาย อีกเจ็ดคนที่เหลือต่างก็สลบไสล

เอริคใช้พลังแม่เหล็กไฟฟ้าสำรวจสภาพโดยรอบ และไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ซึ่งคาดว่าไฮฟ์น่าจะยังอยู่ไกลจากพวกเขาพอสมควร

“ตื่นได้แล้ว!” เอริคปล่อยคลื่นพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้ากวาดผ่านสมองของทุกคนที่นอนอยู่บนพื้นบังคับให้พวกเขาได้สติขึ้นมา ทำให้หลังจากนั้นไม่นานแต่ละคนก็ค่อย ๆ ลืมตาและลุกขึ้นอย่างช้า ๆ

“เอาล่ะ ฉันมีเวลาจำกัด ดังนั้นจะไม่พูดมาก!” เอริคพูดขณะที่คนทั้งเจ็ดยังดูงุนงง ก่อนที่เขาจะโบกมือไปทางเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่พวกเขานำมาด้วย

ชิ้นส่วนอุปกรณ์หลายอย่างพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและเริ่มประกอบตัวเองในอากาศ และไม่นานมันก็กลายเป็นอุปกรณ์ที่ดูแปลกประหลาด นี่คือเครื่องมือสำหรับดึงดูดไฮฟ์ ซึ่งเอริคเคยเห็นเหล่าสมาชิกไฮดราประกอบขึ้นบนยานอวกาศหลายครั้ง

“คุณทำอะไรน่ะ!” หนึ่งในสมาชิกไฮดรามองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ และหยิบปืนขึ้นมาจ่อเอริค

“เงียบซะ!” เอริคไม่แม้แต่จะเงยหน้า ก่อนที่อาวุธปืนของสมาชิกไฮดราทั้งสามคนจะละลายกลายเป็นโซ่เหล็กสามเส้นที่พันรัดตัวพวกเขาไว้แน่น

วิลและนักบินคนอื่น ๆ ที่เหลือมองเหตุการณ์ด้วยความตกตะลึงจนพูดไม่ออก พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

“นี่คือภารกิจฆ่าตัวตายของพวกนาย เพราะบนดาวดวงนี้มีสัตว์ประหลาดที่สามารถกลืนกินสิ่งมีชีวิตได้ และมันก็กินสิ่งมีชีวิตบนดาวจนหมดแล้ว ดังนั้นเพื่อไม่ให้มันอดตายมาลิกก็เลยส่ง 'อาหาร' มาให้มันเป็นระยะ ๆ”

“พวกเรา . . . เป็นอาหารอย่างนั้นเหรอ?” วิลถามด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว ทำให้เอริคที่เห็นเช่นนั้นก็ตอบเขาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้วิลถึงกับเย็นยะเยือกไปทั่วทั้งตัว

“ในเมื่อเป็นภารกิจฆ่าตัวตาย แล้วคุณมาด้วยทำไม?” นักบินอีกคนที่ยังมีสติตั้งคำถามขึ้นมา

“แน่นอนว่าฉันมาที่นี่เพราะเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น!” เอริคเปิดใช้งานอุปกรณ์พร้อมขยายการรับรู้แม่เหล็กไฟฟ้าของเขาไปจนถึงขีดสุด “สนใจมาร่วมงานกับฉันไหม? ไปผจญภัยในห้วงลึกของอวกาศด้วยกัน พอดีฉันรู้จักกับมนุษย์ต่างดาวสาวสวยหลายคน เดี๋ยวฉันจะแนะนำพวกเธอให้นายรู้จักเอง”

“มนุษย์ต่างดาว? โลกนี้มีมนุษย์ต่างดาวจริง ๆ เหรอ?” วิลที่ได้ยินถึงเรื่องนี้ก็สงบลงในทันที ดวงตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

“แน่นอน ไม่อย่างนั้นนายคิดว่ายานอวกาศของฉันมาจากไหนล่ะ?” เอริคหัวเราะ และในขณะที่กำลังจะพูดอะไรต่อ ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “มันมาแล้ว!”

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด