บทที่ 41: รูปปั้นแห่งการเก็บเกี่ยว
หลังจากฟาง ฮ่าวได้เลือกตำแหน่งสำหรับหอคอยธนู
เขาก็จัดตั้งหอคอยธนูทั้งสี่แห่งไว้ที่มุมของกำแพงเมือง
กระท่อมลอร์ดของเขาเพิ่งจะอัปเกรดเป็นระดับ 3
พื้นที่ของเมืองยังคงมีขนาดเท่าหมู่บ้านใหญ่ ๆ
แต่ไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดที่ต้องสร้างกำแพงเมืองที่ยาวหลายร้อยเมตร
การสร้างหอคอยธนูสี่แห่งนี้เพียงพอสำหรับปัจจุบัน
หากในอนาคตขยายเมืองและอัปเกรดกำแพง ก็สามารถเพิ่มจำนวนหอคอยธนูได้มากขึ้น
เมื่อเลือกตำแหน่งได้แล้ว ฟาง ฮ่าวก็เริ่มสร้างหอคอยธนูทั้งสี่
แสงสว่างพวยพุ่งขึ้นมาจากจุดที่หอคอยจะตั้งอยู่
หอคอยธนูทั้งสี่สร้างเสร็จอย่างรวดเร็ว
หอคอยแต่ละแห่งมีความสูงประมาณ 5 เมตร มีฐานเป็นหินและมีแท่นไม้ด้านบน
นักธนูสามารถประจำการเพื่อเฝ้ายามและทำการโจมตีระยะไกลจากบนหอคอยได้
[หอคอยธนูระดับ 1]
[จำนวนที่วางได้: 0/3]
[วัสดุที่ต้องใช้สำหรับการอัปเกรด: ไม้ 750 หน่วย, หิน 600 หน่วย, ฟาง 150 หน่วย, เชือกป่าน 330 หน่วย]
จากนั้นเขาก็อัปเกรดหอคอยธนูทั้งสี่แห่งเป็นระดับ 3
[หอคอยธนูระดับ 3]
[จำนวนที่วางได้: 0/4]
[วัสดุที่ต้องใช้สำหรับการอัปเกรด: ไม้ 1500 หน่วย, หิน 1300 หน่วย, เชือกป่าน 800 หน่วย, อิฐ 400 ก้อน]
(คำอธิบาย: หอคอยธนูเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันฐาน สามารถวางไว้ภายในปราสาทเพื่อสังเกตการเคลื่อนไหวของศัตรู และยังสามารถโจมตีระยะไกลใส่ศัตรูที่อยู่ในระยะการยิงได้)
หอคอยธนูระดับ 3 มีความสูงเกือบ 7 เมตร โดดเด่นตระหง่าน
เหมาะที่จะวางนักธนูสี่คนต่อหอคอยเพื่อเฝ้าดูศัตรูและโจมตีจากภายนอกอาณาเขต
แต่ฟาง ฮ่าวไม่มีนักธนู เขาจึงต้องใช้ทหารโครงกระดูกแทน โดยให้พวกมันถือหน้าไม้
"พวกเจ้า ไปที่โกดังแล้วเปลี่ยนอาวุธเป็นหน้าไม้" ฟาง ฮ่าวสั่งทหารโครงกระดูก 16 ตัวให้เปลี่ยนอาวุธ
ทหารโครงกระดูกที่ลาดตระเวนอยู่หยุดเดิน จากนั้นพวกมันหันหลังและมุ่งหน้าไปยังโกดัง
ฟาง ฮ่าวใช้โอกาสนี้เปิด หนังสือลอร์ด และเริ่มผลิตลูกธนูเหล็ก
จากแบบแปลนที่เขาแลกมาจากตลาดออร์ค มีแบบแปลนสำหรับการผลิตลูกธนูเหล็ก ซึ่งได้บันทึกไว้ในหนังสือลอร์ด
[ลูกธนูเหล็ก: ไม้ 1 หน่วย, เหล็ก 1 หน่วย]
จำนวนที่เลือก: 10
สร้าง!
[ทักษะขยายผล 100 เท่าได้ทำงาน สำเร็จในการผลิตลูกธนูเหล็ก 1010 ดอก]
ทันทีที่การผลิตเสร็จสิ้น ทหารโครงกระดูกทั้ง 16 ตัวก็ปรากฏตัวพร้อมหน้าไม้ในมือ
"หยิบลูกธนูแล้วขึ้นไปที่หอคอยธนู" ฟาง ฮ่าวสั่ง
ทหารโครงกระดูกหยิบชุดลูกธนูที่อยู่บนพื้นขึ้นมา จากนั้นพวกมันปีนขึ้นหอคอยธนูกันเป็นกลุ่มละ 4 ตัว
หลังจากสร้างหอคอยธนูเสร็จ ฟาง ฮ่าวก็เปิดหนังสือลอร์ดเพื่อดูสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่สามารถสร้างได้
[รูปปั้นแห่งการเก็บเกี่ยว (น้ำเงิน)]
[ประเภท: สิ่งก่อสร้างพิเศษ]
[เอฟเฟกต์: การปลูกพืชและการเก็บเกี่ยว +10%]
(คำอธิบาย: เทพีประทานพรให้แก่ผืนแผ่นดินนี้ ใบไม้เขียวชอุ่มและผลไม้มากมาย รวมถึงการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์)
[วัสดุที่ต้องใช้ในการสร้าง: ไม้ 320 หน่วย, หิน 1200 หน่วย, อัญมณีธรรมชาติ 5 เม็ด, สารเวทมนตร์ 2 หน่วย, ร่องรอยแห่งผืนดิน 3 หน่วย, ร่องรอยแห่งป่า 3 หน่วย]
"โอ้ พระเจ้า!" ฟาง ฮ่าวอุทานเมื่อเห็นคุณสมบัติของแบบแปลนนี้
เขาไม่ทันสังเกตมาก่อน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะพบสมบัติที่ซ่อนอยู่แล้ว
รูปปั้นแห่งการเก็บเกี่ยวนี้ช่วยเสริมการปลูกพืชและการเก็บเกี่ยวในอาณาเขตได้อย่างมาก
เอฟเฟกต์นี้มีประสิทธิภาพดีพอ ๆ กับอุปกรณ์ระดับสุดยอด
ฟาง ฮ่าวพยายามระงับความดีใจในใจ
หลังจากตรวจตรารอบอาณาเขต เขาก็เลือกที่จะวางรูปปั้นไว้ที่ใจกลางอาณาเขต
โชคดีที่มีวัสดุเพียงพอ เขาจึงเลือกสร้างได้ทันที
แสงสีน้ำเงินพวยพุ่งขึ้น และค่อย ๆ เผยให้เห็นโครงร่างของรูปปั้น
การก่อสร้างใช้เวลานานถึง 5 นาที
เมื่อแสงหายไป รูปปั้นเทพีที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
แท่นฐานสูงประมาณ 3 เมตร บนแท่นมีรูปเทพีมารดาผู้สวมมงกุฎ หน้าตาเคร่งขรึม มือยื่นออกมาด้านหน้าเหมือนกับกำลังประทานพรให้ผืนดิน
จากนั้น แสงสว่างจาง ๆ ก็ค่อย ๆ แผ่ขยายไปทั่วทั้งอาณาเขต
เอฟเฟกต์ของรูปปั้นเริ่มทำงานในทันที
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน การพัฒนาอาณาเขตค่อนข้างดีทีเดียว
มีทั้งกำลังคน กำแพงเมืองและหอคอยธนู
แม้ว่าโล่ป้องกันสำหรับผู้เล่นใหม่จะหายไป แต่อาณาเขตของฟาง ฮ่าวก็มีความสามารถในการป้องกันตัวเอง
แม้จะต้องเผชิญหน้ากับพวกยักษ์นอล หรือกองกำลังระดับหมื่น เขาก็ยังสามารถป้องกันตัวเองได้
สำหรับอันเดด สงครามคือแหล่งเสบียงที่เพียงพอ
ตราบใดที่ฟาง ฮ่าวไม่ถูกสังหารในสนามรบ
เขาสามารถใช้กระดูกสันหลังชีวิตและทักษะขยายผล 100 เท่า
การสั่งสมกำลังทหารจะเหมือนการกลิ้งลูกบอลหิมะ ยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
"นายท่าน อาหารเย็นเสร็จแล้ว ท่านสามารถรับประทานได้แล้วค่ะ" เอียร่ากล่าวขึ้นขณะที่ฟาง ฮ่าวกำลังเหม่อ
ฟาง ฮ่าวเดินไปที่โต๊ะ กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูก
บนโต๊ะมีซุปผักและสเต๊กเนื้อ
ไม่เพียงแต่กลิ่นจะหอมเย้ายวน แต่หน้าตาของอาหารก็ดูดีมากเช่นกัน
เพียงแค่มองก็ทำให้อยากกินทันที
เขานั่งลงบนม้านั่ง หยิบเนื้อขึ้นมากัดคำแรกก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ
การปรุงเนื้อทำได้พอดี รสชาติอร่อยมาก
ดีกว่าที่เขาทำเองนิดหน่อย
ขณะที่เขากำลังจะกัดคำที่สอง เขาก็สังเกตเห็นว่าเอียร่ากำลังยืนอยู่ข้าง ๆ
มองอาหารตาเป็นประกาย และกลืนน้ำลายอย่างเงียบ ๆ
"มองอะไรน่ะ? มานั่งกินด้วยกันสิ" ฟาง ฮ่าวพูดอย่างสงสัย
เขาจำได้ว่าเอียร่าบอกว่าเผ่ากระต่ายก็กินเนื้อได้เช่นกัน
ทำไมตอนนี้ถึงไม่กินล่ะ?
"เอ่อ... เอียร่าไม่หิวค่ะ ข้าจะกินหลังจากที่นายท่านกินเสร็จ" เอียร่าตอบเสียงเบา
ทาสหลายคนไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีเท่าฟาง ฮ่าว
บางคนอดตายอยู่ในคอก ไม่ต้องพูดถึงการได้กินเนื้อ แค่จะได้กินอาหารอิ่มก็ยากแล้ว
นอกจากนี้ ทาสยังไม่ได้รับอนุญาตให้นั่งร่วมโต๊ะกับนายของพวกเขา
ถึงแม้เอียร่าจะบอกว่าเธอไม่หิว แต่สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่อาหารในหม้อ และกลืนน้ำลายอีกครั้ง
"เอาล่ะ ที่นี่ไม่มีข้อห้ามแบบนั้น มานั่งกินด้วยกันเถอะ กินอิ่มแล้วเจ้าจะทำงานได้ดี" ฟาง ฮ่าวบอก
เอียร่าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ถอนตัวกลับอีกครั้ง
"มาสิ นั่งลงแล้วกินเถอะ" ฟาง ฮ่าวพูดต่อ
ในที่สุดเอียร่าก็นั่งลงอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนเด็กที่ทำอะไรผิด
เธอตักซุปผักขึ้นมาใส่ชามแล้วแอบมองฟาง ฮ่าว ก่อนจะเริ่มกินเงียบ ๆ
เมื่อเห็นเอียร่ากินอย่างสงบ ฟาง ฮ่าวก็เปิดหนังสือลอร์ดขึ้นมาเพื่อตรวจสอบช่องสนทนาของวันนี้
ทันทีที่เขาเปิดขึ้นมา ข้อความสนทนาก็โผล่ขึ้นมามากมาย
"แย่แล้ว มีเรื่องเกิดขึ้นกับท่านฟาง ฮ่าวแน่ ๆ เพราะวันนี้ยังไม่มีอาหารออกขายเลย ทั้งช่วงบ่ายและตอนเย็นก็ยังไม่มี"
"ใช่ ข้าเพิ่งสร้างโรงทหารใหม่ และรอแลกอาหารกับท่านฟาง ฮ่าวเพื่อจ้างทหาร ข้าหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ นะ"
"ทำไมทุกคนถึงบอกว่าฟาง ฮ่าวซวยอยู่ตลอดเวลา ข้าอยู่ในโลกนี้มา 6 วันแล้ว และได้ยินแบบนี้ทุกวัน ทำไมพวกเจ้าไม่อวยพรให้เขาบ้าง?"
"ใช่เลย ปากพวกเจ้ามันช่างร้ายกาจ ทำไมถึงชอบบอกว่าคนอื่นจะเจอปัญหา หรือจะมีเรื่องลำบากอยู่เสมอ"
"โอ้! คนที่พูดข้างบนนั้นคงจะร้อนใจ ทำไมถึงเร่งรีบเมื่อมีคนพูดถึงฟาง ฮ่าว?"
"เขาเป็นลูกชายที่ดีของฟาง ฮ่าวรึไง! แค่เอ่ยถึงฟาง ฮ่าว เขาก็รีบกระโดดเข้ามาแล้วกัดทันที"
"หึ! ฟาง ฮ่าวโง่เง่า ข้าบอกเลยว่าทำตัวโอ้อวดขนาดนั้น ถ้าเขาไม่ตายข้างนอก ถ้าข้าเจอเขา ข้าจะกำจัดเขาเอง"
