ตอนที่แล้วบทที่ 38: คำสั่งของทอเรนระดับทองแดง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40: ต้องการเป็นโครงกระดูกไหม?

บทที่ 39: การจู่โจมของออร์ค


ฟาง ฮ่าวและเอียร่า ขับรถม้าออกจากตลาดมานิม

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกออร์คแตกตื่นและก่อปัญหาโดยไม่จำเป็น

จุดตั้งค่ายของกองทัพโครงกระดูกอยู่ห่างจากตลาดมานิมประมาณยี่สิบนาที

ตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางไปยังจุดตั้งค่ายเพื่อรวมตัวกับกองทัพโครงกระดูก

ระหว่างทาง เอียร่าก้มหน้าลงตลอดเวลา ดูท่าทีระมัดระวังและหวาดกลัว

“เจ้าเป็นทาสได้ยังไง?” ฟาง ฮ่าวถามขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก

ในอาณาเขตของเขาแทบไม่มีมนุษย์อยู่เลย

เขาเริ่มรู้สึกเบื่อกับการต้องอยู่ท่ามกลางพวกโครงกระดูกไม่มีชีวิต

นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาตัดสินใจซื้อเอียร่ามาใส่ชีวิตชีวาให้กับอาณาเขตบ้าง

“หมู่บ้านของข้าถูกโจมตี ผู้รอดชีวิตกระจัดกระจายไป ข้าถูกจับมาเป็นทาส” เอียร่าอธิบายเสียงเบา

เผ่าออร์คเคารพเพียงแต่พลัง

ทุกกฎของพวกมันตั้งอยู่บนความแข็งแกร่ง

สำหรับเผ่ากระต่ายที่อ่อนแอ แม้ว่าพวกเขาจะยอมเป็นข้ารับใช้ของเผ่าอื่น ๆ

แต่ก็มีเผ่าแข็งแกร่งเพียงไม่กี่เผ่าที่จะยอมรับพวกเขา

เมื่อหมู่บ้านถูกทำลายลง ก็จะมีพวกนักล่าทาสออกล่าผู้รอดชีวิตที่มีค่า เพื่อนำไปขายเป็นทาส

พวกนายทาสจะฝึกให้ทาสไม่ต่อต้านนายของพวกเขา ทำให้พวกมันขายง่ายขึ้น

“เจ้ายังมีครอบครัวหรือญาติพี่น้องเหลืออยู่ไหม?” ฟาง ฮ่าวถามต่อ

เอียร่าส่ายหัว แสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีครอบครัวเหลืออยู่แล้ว

ในฐานะเผ่ากระต่าย พวกเขาอ่อนแอและไม่เหมาะกับวิถีชีวิตของออร์ค

“ข้าเองก็เหมือนกัน ข้าอยู่คนเดียว ไม่ต้องกังวลไป เราต้องมองไปข้างหน้า” ฟาง ฮ่าวขับรถม้าไปพลางพูดเบา ๆ

เอียร่าจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองฟาง ฮ่าวอย่างสงสัย ก่อนจะก้มลงอีกครั้ง

[ความจงรักภักดีของเอียร่าเพิ่มขึ้น 5 คะแนน ความจงรักภักดีปัจจุบัน: 75]

ระบบแจ้งเตือนขึ้นมา

ความจงรักภักดี?

ใช่แล้ว ระบบเคยพูดถึงเรื่องความจงรักภักดีตั้งแต่วันแรกที่ฟาง ฮ่าวมาถึงโลกนี้

หากความจงรักภักดีต่ำเกินไป ชาวบ้านหรือนายทหารจะขี้เกียจ หรืออาจถึงขั้นหนีไป

ฟาง ฮ่าวที่เคยอยู่ท่ามกลางกองทัพโครงกระดูกที่ไม่มีปัญญามานานเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

แต่ตอนนี้แม้ว่าเขาไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ ความจงรักภักดีของเอียร่าก็ยังเพิ่มขึ้น

ฟาง ฮ่าวตรวจสอบสถานะของเอียร่าทันที

[เอียร่า (ระดับ 1)]

[ฝ่าย: ออร์ค]

[ลักษณะเผ่า: สิ่งมีชีวิต, ว่องไว, ระวังตัว]

[ทักษะ: เตะครึ่งวงพระจันทร์, หัวหน้าพ่อครัว]

[ความสามารถติดตัว: การต่อสู้พื้นฐาน, ความชำนาญดาบพื้นฐาน]

[สิ่งมีชีวิต]: ประเภทนี้สามารถรักษาได้ ถูกผลกระทบจากขวัญกำลังใจและอารมณ์ต่าง ๆ และภูมิคุ้มกันต่อทักษะควบคุมโครงกระดูก

[ว่องไว]: ร่างกายที่ว่องไว ความเร็วเหนือกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้สามารถเคลื่อนไหวที่ยากได้

[ระวังตัว]: เผ่ากระต่าย มีสัญชาตญาณระวังภัย สามารถรับรู้ถึงอันตรายได้

[หัวหน้าพ่อครัว]: เชี่ยวชาญสูตรอาหาร มีความสามารถในการสร้างสรรค์อาหารใหม่ ๆ และเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับสิ่งมีชีวิต

[เตะครึ่งวงพระจันทร์]: หมุนตัวกลางอากาศและเตะเป็นครึ่งวงพระจันทร์ สร้างความเสียหายให้กับศัตรู

แม้ว่าเอียร่าจะอยู่เพียงระดับ 1 แต่ฟาง ฮ่าวไม่ได้คาดหวังให้เธอออกไปรบแต่อย่างใด

รถม้าเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ พวกเขากำลังเข้าใกล้ค่ายโครงกระดูก

เมื่อผ่านพ้นเนินเขาข้างหน้า พวกเขาจะถึงจุดที่กองทัพโครงกระดูกตั้งค่ายอยู่

หูยาวของเอียร่ากระตุกทันที

เธอหันหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และมองไปทางซ้าย

“เกิดอะไรขึ้น?” ฟาง ฮ่าวสังเกตเห็นท่าทีของเอียร่า

“นายท่าน มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเข้ามาอย่างรวดเร็ว” เอียร่าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

“อะไรนะ?”

ฟาง ฮ่าวตกใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

เขามองไปทางซ้าย แต่ป่าไม้บดบังทัศนวิสัย เขามองไม่เห็นใคร

อย่างไรก็ตาม ฟาง ฮ่าวรู้ว่าเอียร่ามีความสามารถพิเศษในการรับรู้ถึงอันตราย เธอไม่พูดเล่นแน่

“ดูข้าไว้!” ฟาง ฮ่าวพูด ก่อนจะใช้ทักษะ เข้าควบคุมร่าง

“หา?” เอียร่ามองฟาง ฮ่าวอย่างไม่เข้าใจ แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นเขาล้มตัวลงหมดสติ

เอียร่ารีบจับตัวฟาง ฮ่าวไว้ แล้วควบรถม้าต่อไปข้างหน้า

ที่ค่ายโครงกระดูกในหุบเขา

เปลวไฟสีฟ้าลุกโชนขึ้นภายในร่างของค้างคาวโครงกระดูกยักษ์

[เป้าหมายของทักษะเข้าควบคุมร่าง: ค้างคาวโครงกระดูกยักษ์, ความเข้ากันได้ 45%]

ในวินาทีต่อมา

ฟาง ฮ่าวที่ควบคุมร่างของค้างคาวโครงกระดูกยักษ์ก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้า

มองลงมาจากเบื้องบน เขาเห็นเอียร่าที่กำลังขับรถม้าไปช้า ๆ ใกล้กับจุดที่ตั้งค่าย

และในป่าทางด้านซ้ายของรถม้า เขาเห็นกลุ่มออร์คจำนวนหนึ่งกำลังเร่งฝีเท้าเข้ามา

ดูเหมือนเป้าหมายของพวกมันคือรถม้าของเขา

“โลภมากก็คือหายนะดีๆ นี่เอง” ฟาง ฮ่าวพึมพำกับตัวเอง

ออร์คพวกนี้คงต้องการปล้นสมบัติของฟาง ฮ่าว

พวกมันไม่สามารถทำอะไรได้ในตลาดมานิม จึงวางแผนดักปล้นฟาง ฮ่าวบนถนนสายนี้

ท้ายที่สุด ขบวนของเขามีเพียงฟาง ฮ่าวและเอียร่าเท่านั้น

ดูอ่อนแอเหมือนลูกแกะให้หมาป่าไล่ล่า

เมื่อเข้าใจสถานการณ์แล้ว ฟาง ฮ่าวก็บินต่ำลงและเริ่มสั่งการกองทัพโครงกระดูกให้เตรียมพร้อม

รถม้าทั้งห้าคันเคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ

ในขณะเดียวกัน ร่างของออร์คก็ปรากฏออกมาจากป่า พุ่งตรงไปยังรถม้า

ฟาง ฮ่าวยกเลิกการใช้ทักษะเข้าควบคุมร่าง แล้วสั่งให้เบนเส้นทางรถม้าออกจากถนนหลัก มุ่งไปทางขวาแทน

เขาขับรถม้าเข้าไปในช่องเขา

อย่างไรก็ตาม ออร์คที่กำลังเข้ามานั้นได้ล้อมขบวนของฟาง ฮ่าวไว้แล้ว

ฟาง ฮ่าวมองไปยังกลุ่มออร์คที่ล้อมรอบด้วยท่าทีไม่ตื่นตระหนก เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบ

“กฎของตลาดมานิมห้ามการปล้น พวกเจ้าจะฝ่าฝืนกฎงั้นหรือ?”

“ฮ่า! ถ้าฆ่าเจ้ากับกระต่ายตัวนั้น ใครจะรู้ว่าเราทำ?” ออร์คตัวหนึ่งพูดเยาะเย้ย

สายตาของมันยังคงมองไปที่กล่องบนรถม้าอย่างโลภมาก

กลุ่มออร์คล้อมรอบรถม้าและปิดทางออกของฟาง ฮ่าว

พวกมันรู้ว่ากล่องไม้เก่า ๆ นั้นเต็มไปด้วยเหรียญวอร์ไฟร์

ถ้าปล้นสำเร็จ พวกมันจะร่ำรวยมหาศาล

“งั้นแสดงว่าเจ้าไม่คิดจะเจรจาแล้วสินะ?” ฟาง ฮ่าวถามกลับด้วยท่าทีไม่หวั่นไหว

“ฮ่าฮ่า! เจ้าคิดจริง ๆ ว่ายังจะมีชีวิตรอดได้หรือ?” ออร์คหัวเราะเยาะ

“พวกเราจะถลกหนังเจ้า หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วทำสตูว์แบ่งกันกิน” ออร์คตัวหนึ่งเลียริมฝีปาก

“เจ้าจะไม่เหลือแม้แต่ศพ ใครจะรู้ว่าเจ้าตายยังไง” พวกออร์คหัวเราะราวกับกำลังล้อเล่นเหยื่อของพวกมัน

“อย่าลืมโยนสมองของมันทิ้งไปล่ะ มันคงโง่มาก ถ้ากินเข้าไปอาจจะทำให้เราฉลาดน้อยลง” ออร์คอีกตัวพูดเยาะเย้ยเสียงดัง

บนถนนใหญ่ พวกออร์คยังคงระมัดระวังตัวอยู่บ้าง

แต่พวกมันไม่คาดคิดเลยว่ามนุษย์คนนี้จะโง่ขับรถม้าเข้าไปในช่องเขาแคบ ๆ

เป็นสถานที่เหมาะสำหรับฆ่าและปล้นอย่างแท้จริง

ในขณะที่พวกออร์คกำลังพูดถึงว่าจะทำอาหารจากพวกเขายังไง

เอียร่าก็ถามด้วยเสียงสั่นเทา “นาย...นายท่าน พวกเราจะทำยังไงดี?”

เธอคิดในใจว่าเธอช่างโชคร้ายเหลือเกิน

เพิ่งถูกขายเป็นทาสให้มนุษย์ และตอนนี้ก็มาติดอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

“ไม่ต้องห่วง พวกมันเป็นแค่เครื่องสังเวยเท่านั้นเอง” ฟาง ฮ่าวพูดพร้อมยิ้ม

ทันใดนั้น ความเงียบก็ปกคลุมไปทั่ว

ใบหน้าของพวกออร์คเต็มไปด้วยความโกรธ

พวกมันคิดว่ามนุษย์คนนี้ช่างอวดดีเกินไป เขากล้าดูถูกพวกมันทั้ง ๆ ที่กำลังเผชิญหน้ากับความตาย

“ไอ้หนู เจ้ากำลังขอความตายอยู่ สังหารพวกมันให้หมด แล้วแบ่งเงินกัน!” ออร์คนำสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ออร์คตัวอื่น ๆ คำรามอย่างเกรี้ยวกราด เตรียมที่จะสังหารมนุษย์ผู้โอหังนี้

ครืด ครืด ครืด!

เสียงเหมือนกระดูกเสียดสีกันดังขึ้นรอบ ๆ พวกมัน

จากนั้น เหล่าโครงกระดูกที่สวมเกราะและถืออาวุธก็ปรากฏตัวออกมาจากหลังโขดหิน ล้อมรอบทุกคน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด