บทที่ 26: ชีวิตคือโรคร้าย

[สนามแปรกายโครงกระดูก (สีน้ำเงิน)]

[หมวดหมู่: แปลนสิ่งก่อสร้าง]

[วัสดุที่ต้องใช้: ไม้ 500 หน่วย, หิน 500 หน่วย, เชือกป่าน 50 เส้น, หินเงา 5 ก้อน, รอยเท้าแห่งความตาย 2 ชิ้น]

(คำอธิบาย: สนามแปรกายโครงกระดูกสามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตหรือกระดูกที่ฝังไว้ให้กลายเป็นทหารโครงกระดูก

ปลดล็อกกองทหาร และสามารถใช้เครื่องบูชาจำนวนที่เหมาะสมเพื่อเรียกทหารได้)

ฟาง ฮ่าวไม่ผิดหวังเลยจริงๆ

หลังจากที่สามารถโค่นทหารระดับ 5 ลงได้ เขาก็ได้รับแปลนสิ่งก่อสร้างสีน้ำเงิน

เมื่อดูจากคำอธิบายแล้ว มันก็ไม่เลวเลย

แปลนนี้สามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตหรือซากศพที่ฝังอยู่ให้กลายเป็นทหารโครงกระดูกได้

หลังจากการแปรกายครั้งแรก สิ่งก่อสร้างนี้จะบันทึกข้อมูลไว้

จากนั้นจะสามารถใช้เครื่องบูชาที่เหมาะสมในการเรียกทหารออกมาได้

เครื่องบูชาที่กล่าวถึงน่าจะหมายถึง กระดูกสันหลังชีวิต

ส่วนในอนาคตจะมีเครื่องบูชาแบบอื่นๆ หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่รู้

นี่ถือว่าเป็นแปลนที่ค่อนข้างดี

แต่ตอนนี้ หนังสือลอร์ด ยังอยู่ในปราสาท ฟาง ฮ่าวจึงเก็บแปลนนี้ไว้อย่างปลอดภัย

และจะบันทึกไว้เมื่อกลับไปยังอาณาเขตของเขา

ภายในห้องโถงไม่มีของมีค่าอื่นๆ เหลืออยู่แล้ว

ของตกแต่งเล็กๆ อย่างพรมหรือเชิงเทียนจะถูกค้นหาเมื่อเขาออกจากปราสาท

“ตามข้าขึ้นไปชั้นสอง” ฟาง ฮ่าวพูด

เขาพาทหารโครงกระดูกสิบตัวขึ้นบันไดไปชั้นสอง

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากนำโครงกระดูกมามากกว่านี้

แต่พื้นที่บนชั้นสองค่อนข้างแคบและแบ่งเป็นหลายห้อง

หากนำคนมากเกินไปก็จะไม่พอที่ และหากเกิดการต่อสู้ขึ้น

การสู้ด้วยจำนวนมหาศาลจะทำได้ยาก

ฟาง ฮ่าวเลือกทหารโครงกระดูกจำนวนเล็กน้อยแล้วค้นหาทีละห้อง

ห้องบนชั้นสองตกแต่งอย่างดี แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ถูกใช้งานมานานแล้ว

เฟอร์นิเจอร์ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นหนา

เมื่อมาถึงห้องสุดท้ายบนชั้นสอง มันเป็นห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างประณีต

โต๊ะและเก้าอี้ถูกแกะสลักอย่างงดงาม และมีผ้าม่านสีน้ำเงินหนาหนัก

แสดงถึงความชื่นชอบของเจ้าของปราสาทที่มีต่อห้องนี้

หลังจากแน่ใจว่าไม่มีอันตราย ฟาง ฮ่าวก็เดินเข้าไปข้างใน

ชั้นหนังสือเต็มไปด้วยหนังสือที่ถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย

รวมถึงของประดับที่เจ้าของเดิมชื่นชอบ เช่น เชิงเทียนทองคำ และหนังสือที่ถูกอ่านไปครึ่งเล่มวางอยู่บนโต๊ะทำงาน

มีหินที่ส่องแสงอยู่บนเชิงเทียน เหมือนกับโคมไฟที่อยู่ตรงบันได

[หินราตรี]

[หมวดหมู่: แร่]

(คำอธิบาย: แร่ที่สามารถสะสมแสงได้ จะส่องแสงนุ่มนวลในเวลากลางคืนหรือในที่มืด)

“โห มันคือไข่มุกราตรีนี่เอง” ฟาง ฮ่าวพูดด้วยความทึ่ง

“ค้นดูรอบๆ ว่ามีของดีอะไรอีกไหม” เขาพูดพลางหยิบหนังสือจากโต๊ะขึ้นมาอ่านคร่าวๆ

เมื่อพวก ลอร์ด ถูกส่งมายังโลกนี้

พวกเขาก็ได้รับความสามารถบางอย่างจากระบบด้วยเช่นกัน

พวกเขาสามารถสื่อสารกับเผ่าพันธุ์ต่างๆ ได้ตามปกติ และเข้าใจภาษาของหลายเผ่าพันธุ์

ดังนั้น พวกเขาจะไม่มาอยู่ที่นี่แล้วถูกตัดขาดจากโลกนี้โดยสิ้นเชิง

ทหารโครงกระดูกเริ่มค้นหาของรอบๆ ห้อง

ขณะที่ฟาง ฮ่าวถูกดึงดูดโดยประโยคแรกในหนังสือ

“ชีวิตคือมะเร็ง แต่ข้าพบวิธีรักษาแล้ว”

ทันใดนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น

[พบเบาะแสของยาชีวิตนิรันดร์ 1/5]

เรื่องนี้ทำให้ฟาง ฮ่าวสนใจทันที

สำหรับมนุษย์แล้ว ความเป็นอมตะคือสิ่งที่ดึงดูดใจมาโดยตลอด

ถ้าเขาเห็นข้อความแบบนี้ในโลกเดิมของเขา ฟาง ฮ่าวคงโยนหนังสือทิ้งแล้วโทรแจ้งตำรวจทันที

แต่หลังจากที่เขามายังโลกนี้ โลกที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์ต่างๆ และสิ่งมีชีวิตทรงพลัง

ฟาง ฮ่าว ที่อยู่ฝ่ายอันเดดยังเจอโครงกระดูกที่พูดได้

จึงไม่คิดว่ายาชีวิตนิรันดร์จะเป็นเรื่องโกหก

ดังนั้น หากสถานการณ์เอื้ออำนวย ฟาง ฮ่าวคิดว่าบางที

เขาอาจจะสามารถรวบรวมเบาะแสของยาชีวิตนิรันดร์ได้

เขาพลิกดูหนังสือต่อ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโลกนี้เพิ่มเติม

เหมือนกับที่เขาเคยพบกองทัพ ราตรีนิรันดร์ มาก่อน

**คำว่า "ราตรีนิรันดร์" หมายถึงฝ่ายแวมไพร์

และฝ่ายของเขาเอง ฝ่ายอันเดด ก็ถูกเรียกว่า อมตะ

ทั้งสองฝ่ายใช้สิ่งมีชีวิตอันเดด แต่เผ่าพันธุ์ของพวกเขาแตกต่างกัน

หลังจากอ่านหนังสือจบ เขาก็เก็บมันไว้และเริ่มค้นหาของในห้องด้วยตัวเอง

ทหารโครงกระดูกที่ค้นหาห้องนั้นไม่สุภาพเท่าไรนัก

บางทีสำหรับพวกมัน คำสั่งให้ค้นหาอาจหมายถึงการหา "สมบัติ" เท่านั้น

โดยไม่รวมถึงการดูแลของที่อยู่ในห้องอย่างระมัดระวัง

ห้องทำงานกลายเป็นระเบียบรกขึ้นอย่างรวดเร็ว และฟาง ฮ่าวก็ได้ของมาอีกสองสามชิ้น

[ม้วนคาถาเคลื่อนย้ายทิศทาง]

[โพชั่นรักษา]

[เหรียญวอร์ไฟร์ x27]

[หินเลือด x5]

ในห้องทำงานนี้ไม่มีของมีค่าอื่นๆ นอกจากเฟอร์นิเจอร์

สิ่งที่เขาได้คือม้วนคาถาเวทมนตร์

[ม้วนคาถาเคลื่อนย้าย]

[หมวดหมู่: ม้วนคาถาเวทมนตร์]

(คำอธิบาย: สามารถบันทึกตำแหน่งเป้าหมายไว้ เมื่อใช้จะเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่เป้าหมาย)

ม้วนคาถาเคลื่อนย้ายนี้เหมือนกับ ม้วนเปิดประตูเมือง ที่ฟาง ฮ่าวเคยใช้ในเกมมาก่อน

เมื่อใช้แล้ว มันจะพาเขาไปยังตำแหน่งที่กำหนดไว้

ถือว่าค่อนข้างดี คุณไม่มีทางรู้ว่ามันจะเป็นประโยชน์เมื่อไหร่

เขาเก็บม้วนคาถาเคลื่อนย้ายไว้ และเริ่มตรวจสอบของชิ้นต่อไป

[โพชั่นรักษา]

[หมวดหมู่: ยาโพชั่น]

(คำอธิบาย: สามารถรักษาอาการบาดเจ็บบางอย่างได้)

ฟาง ฮ่าวดูแลมันอย่างดีและรีบเก็บโพชั่นรักษาไว้

ในโลกที่พวกเขาข้ามมา ไม่มีโรงพยาบาลหรือหมอ

แม้แต่อาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจทำให้ถึงตายได้

เหมือนกับที่มีผู้เล่นคนหนึ่งถูกฝูงหมาป่าทุ่งหญ้าทำร้ายที่นอกอาณาเขต

แม้ว่าเขาจะวิ่งเข้ามาในกำแพงป้องกันได้อย่างปลอดภัย แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ถ้าในตอนนั้นมีโพชั่นรักษา ก็คงช่วยให้เขาหายจากบาดแผลได้เร็วขึ้นและดีขึ้น

อีกชิ้นที่ได้มาคือเหรียญวอร์ไฟร์ 27 เหรียญ

การที่ได้อยู่ในปราสาทขนาดมหึมา แต่กลับเหลือเงินเพียงแค่นี้ ดูจะประหยัดเกินไปหน่อย

[หินเลือด]

[ประเภท: แร่]

(คำอธิบาย: แร่หายากที่จำเป็นสำหรับการสร้างอาคารของฝ่ายตระกูลเลือด)

การทำงานของหินเลือดนั้นคล้ายกับหินเงา

ความแตกต่างคือหินเงาใช้สำหรับการสร้างอาคารของฝ่ายอันเดด

ส่วนหินเลือดใช้สำหรับฝ่ายแวมไพร์

“เอาล่ะ ตามข้าขึ้นไปชั้นสาม” ฟาง ฮ่าวสั่ง

ปราสาทนี้มีสามชั้น แต่โครงสร้างของแต่ละชั้นนั้นสูงกว่าปกติ

โครงสร้างห้องโถงใหญ่บนชั้นหนึ่งสูงประมาณ 6-7 เมตร

ส่วนห้องต่างๆ บนชั้นสองมีความสูงกว่า 4 เมตร

ทหารโครงกระดูกวางของที่อยู่ในมือแล้วตามฟาง ฮ่าวออกจากห้อง

พวกเขาเดินขึ้นบันไดไปต่อ

ที่ทางเข้าบันไดสู่ชั้นสาม มีรูปปั้นสองตัวที่อ้าปากแยกเขี้ยวยืนอยู่

พวกมันมีลักษณะคล้ายค้างคาวหมาป่ากระหายเลือดที่พบในชั้นหนึ่ง

แต่ตัวเล็กกว่าและไม่ใหญ่โตมาก

แม้ว่ารูปปั้นจะดูดุร้าย แต่เนื่องจากไม่ได้รับการทำความสะอาดเป็นเวลานาน

จึงมีฝุ่นปกคลุมอยู่

เมื่อมาถึงชั้นสาม ฟาง ฮ่าวก็เดินต่อไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว

เขาหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง

ประตูขนาดใหญ่ของห้องนั้นถูกแกะสลักด้วยลวดลายที่ประณีต

รวมถึงดอกไม้และพืชพรรณต่างๆ และรูปมนุษย์หลายแบบ

แม้ว่ามันจะไม่ใหญ่เท่าประตูปราสาท แต่มันก็ยังคงมีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งมาก

“ประตูนี้ดูมีค่าแฮะ”

ฟาง ฮ่าวออกแรงผลักเล็กน้อย แต่ประตูไม้ไม่ขยับเลย ยกเว้นฝุ่นที่หล่นลงมาบนหัวฟาง ฮ่าว

“มาช่วยกันผลักประตู!” ฟาง ฮ่าวถอยออกไปหนึ่งก้าว ปล่อยให้ทหารโครงกระดูกทำงานแทน

ทหารโครงกระดูกก้าวเข้ามาข้างหน้าและร่วมกันผลักประตู

พร้อมกับฝุ่นที่ปลิวไปทั่ว ประตูเปิดออกเพียงเล็กน้อย ฟาง ฮ่าวเอียงศีรษะมองเข้าไปข้างใน

และพบว่ามีโลงศพสีดำขนาดใหญ่ตั้งอยู่

“หยุดก่อน” ฟาง ฮ่าวกระซิบ

จากสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาพบก่อนหน้านี้ คำอธิบายของไอเท็ม

และภาพเหมือนที่แขวนอยู่ตามกำแพงปราสาท

เขาสามารถสันนิษฐานได้ว่าเจ้าของปราสาทนี้เป็นสมาชิกของ

ตระกูลเลือดแห่งกองทัพราตรีนิรันดร์

ดังนั้น ในห้องนอนใหญ่ที่มีโลงศพประณีตนี้

ย่อมทำให้เขาสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือว่าแวมไพร์จะกำลังหลับอยู่ข้างใน?

แต่ด้วยการต่อสู้อันรุนแรงที่เกิดขึ้นด้านนอก แม้แต่ประตูปราสาทก็ถูกทำลาย

ใครก็ตามที่หูตึงแค่ไหนก็ต้องได้ยินบ้างแล้วใช่ไหม?

“พวกเจ้ารออยู่ตรงประตู” ฟาง ฮ่าวพูดเบาๆ

ขณะเดินเข้าไปเบาๆ ใกล้ผ้าม่านหลังจากเข้าไปในห้อง