ตอนที่ 150 อิวาน นายเป็นเทพผู้สร้าง!
ตอนที่ 150 อิวาน นายเป็นเทพผู้สร้าง!
ใช่แล้ว! หลังจากที่ควบคุมพลังแห่งสี่พื้นฐานได้สำเร็จ เอริคก็เริ่มหันความสนใจไปยังจักรวาลอันกว้างใหญ่ แต่ยังมีหลายสิ่งบนโลกที่เขายังไม่ได้จัดการ และที่สำคัญ สกาย ลูกสาวตัวน้อยของเขาก็ยังเด็กเกินไป ทำให้เขาไม่อาจปล่อยวางได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการใครสักคนไปบุกเบิกเส้นทางในดินแดนต่างดาวแทนเขาก่อน
และโอบาไดอาห์ก็เป็นคนมีฝีมือ เขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ มีทั้งสติปัญญา ความกล้าหาญ และความทะเยอทะยาน แต่ถ้าจะให้เขาไปบุกเบิกดินแดนต่างดาว มันยังต้องเตรียมตัวอีกมาก เช่น การเรียนรู้ภาษาต่างดาว ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม มารยาท และแน่นอนความแข็งแกร่งที่เพียงพอ
ซึ่งเอริคได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วไม่ว่าจะเป็น เซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ที่เคยถูกพิสูจน์แล้วว่ามีผลข้างเคียงร้ายแรง และเขาก็ไม่อยากใช้กับคนใกล้ตัว แต่จะทิ้งไปมันก็เสียดาย ดังนั้นการฉีดเซรุ่มตัวนี้ให้โอบาไดอาห์จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะมันจะยิ่งช่วยเสริมแรงขับเคลื่อนให้ความอิจฉาในตัวโทนี่หยั่งลึกลงไปในกระดูก และผลักดันให้โอบาไดอาห์มีแรงจูงใจที่จะก้าวหน้าอยู่เสมอ
ในส่วนของการฝึกฝนประวัติศาสตร์ ภาษา วัฒนธรรม และมารยาท เอริคเลือกใช้ชาวสครัลล์ที่อาศัยอยู่บนดาววอร์เมียร์มาช่วยเหลือ เพราะชาวสครัลล์เคยเป็นคนที่หลบหนีจากการตามล่าของพวกครี ทำให้พวกเขาเคยผ่านการพบเจอและเรียนรู้มาจากสิ่งมีชีวิตทุกระดับในจักรวาล ดังนั้นชาวสครัลล์จึงเป็นครูที่ดีที่สุดสำหรับโอบาไดอาห์
เมื่อส่งโอบาไดอาห์ออกเดินทางเสร็จ เอริคก็เทเลพอร์ตตัวเองไปยังห้องทดลองลับในอวกาศที่เดิมทีเป็นยานของพวกครี ที่นี่มีนักวิทยาศาสตร์ไฮดรากว่าร้อยคน และบุคคลสำคัญอีกสองคน หนึ่งในนั้นคือ อีริค เซลวิก นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ผู้มีนิสัยแปลกประหลาดที่ชื่นชอบทำวิจัยโดยไม่สวมกางเกง และเอริคก็เคยเชิญเขามาช่วยศึกษาความลึกลับของแรงโน้มถ่วง
หลังจากที่เอริคพัฒนาพลังควบคุมแรงโน้มถ่วงจนเทียบเท่ากับพลังแม่เหล็ก งานวิจัยของเซลวิกก็ชะงักไป และถูกย้ายไปยังห้องทดลองลับนี้เพื่อทำการวิจัยลับใหม่ นั่นก็คือ เทสเซอแรคต์
ซึ่งตอนที่เขากำลังจัดการเรื่องของฮาเวิร์ดอยู่ เขาได้ให้เซลวิกยืมเทสเซอแรคต์มาใช้ชั่วคราว และตอนนี้ก็ถึงเวลานำมันกลับคืนแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาไปถึงห้องทดลอง เซลวิกที่กำลังนั่งจิบกาแฟด้วยท่าทีเบื่อหน่าย พอเห็นเอริคมาถึง เขาก็ลุกขึ้นทันทีจนลืมดึงกางเกงขึ้น
“ขอบคุณพระเจ้า! ในที่สุดคุณก็กลับมา!”
เอริครู้ดีว่าเซลวิกไม่ได้คิดถึงเขาแน่ ๆ เขาจึงเดินไปหยิบเทสเซอแรคต์ออกมา แต่เซลวิกก็รีบคว้ามันไปแล้วเดินเข้าห้องทดลองโดยไม่หันกลับมามอง
เอริคยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจ เพราะความหมกมุ่นในงานวิจัยเป็นทั้งข้อเสียและข้อดีของนักวิทยาศาสตร์ และนั่นก็คือสิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นเอริคจึงเดินตามเซลวิกเข้าไปในห้องทดลอง
“เป็นยังไงบ้าง ด็อกเตอร์ ยังต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน?”
เอริคไม่ได้ต้องการใช้เทสเซอแรคต์เพื่อพัฒนาอาวุธแบบนิค ฟิวรี ซึ่งเขามองว่าเป็นการใช้งานที่ไร้ประโยชน์ โดยเป้าหมายของเขาคือการหาพิกัดของแอสการ์ด เพราะ เปลวเพลิงนิรันดร์ ยังถูกเก็บไว้ในคลังสมบัติของโอดิน
เซลวิกติดตั้งเทสเซอแรคต์กลับเข้าไปในเครื่องมือซับซ้อน ก่อนส่ายหัวอย่างเสียดาย “คุณเอริค เทสเซอแรคต์เก็บพิกัดไว้มากมายมหาศาล เราเชื่อมต่อและตรวจสอบได้ทีละตำแหน่งเท่านั้นโดยไม่มีทางลัด และต้องพึ่งโชคอย่างเดียว ผมเสียใจจริง ๆ ที่ไม่สามารถให้ระยะเวลาที่แน่นอนได้”
พิกัดทั้งหมดในเทสเซอแรคต์ถูกบันทึกไว้ทุกครั้งที่มันถูกใช้งานในที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งเอริคเคยใช้วิธีนี้เพื่อหาพิกัดของดาววอร์เมียร์ ซึ่งเป็นพิกัดล่าสุดและชัดเจนที่สุด แต่พิกัดที่เก่ากว่านั้นกลับเบลอจนแทบแยกแยะไม่ได้
เอริคขมวดคิ้วด้วยความกังวล เขาต้องรอให้ธอร์เดินทางมายังโลกเองงั้นเหรอ? ถ้าจำไม่ผิด เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นในปี 2008 แต่ตอนนี้เพิ่งปี 2001 นั่นหมายความว่าเขาต้องรอถึงเจ็ดปีเต็ม
“ด็อกเตอร์ มีทางเร่งกระบวนการนี้ได้ไหม?”
“จนถึงตอนนี้ ผมยังหาไม่เจอวิธีที่ดีกว่า” เซลวิกยักไหล่อย่างจนปัญญา
เอริคครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะนึกถึงวิธีหนึ่ง “ด็อกเตอร์ ผมรู้จักคนคนหนึ่งที่มาจากที่นั่น ถ้าหาเขาเจอ พอจะช่วยเร่งกระบวนการได้ไหม?”
เขาจำได้เลือนลางว่ามีช่างตีเหล็กจากแอสการ์ดคนหนึ่งที่ลี้ภัยมาอาศัยบนโลก ชายผู้นี้เบื่อชีวิตในแอสการ์ดและหนีมาอยู่บนโลกนับพันปี แถมอาวุธของเขายังเคยสร้างความวุ่นวายให้ทีมของโคลสันไม่น้อย
“น่าจะลองดูได้ แต่ผมก็ไม่กล้ารับประกัน” เซลวิกตอบก่อนจะกลับไปมุ่งมั่นกับงานวิจัยของเขาอีกครั้ง
เอริคส่ายหัวเบา ๆ แล้วเดินออกมาจากห้องทดลอง ก่อนจะมุ่งหน้าไปอีกห้องหนึ่งเพื่อเยี่ยมเยียนลูกน้องคนสำคัญที่หายตัวไปหลายปีอย่าง อิวาน แวนโก
ตั้งแต่วันที่เอริคหลอกล่อเขาด้วยภาพวาดแผนผังเพียงใบเดียว อิวานก็ขลุกตัวอยู่ในห้องทดลองแห่งนี้เป็นเวลาหลายปี ทำให้ผู้คนภายนอกต่างลือกันว่า นักวิทยาศาสตร์ผู้มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของ สกาย อินดัสตรีส์ อาจถูกเจ้านายจอมเจ้าเล่ห์อย่างเอริคกำจัดเพื่อปกปิดความลับไปแล้ว
ถึงแม้จะยังไม่ทันถึงห้องทดลอง แต่เสียงสบถด่าของอิวานก็ดังมาไกลมากจนเอริคได้ยิน ทำให้เขายิ้มบาง ๆ อย่างไม่แปลกใจ เพราะแม้พ่อของอิวานจะเคยทำงานให้กับหน่วยชีลด์ แต่ก็ออกจากองค์กรไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม ครอบครัวแวนโกก็ยังคงมีทัศนคติต่อต้านไฮดราอย่างชัดเจน ส่งผลให้อิวานเองก็ไม่ชอบขี้หน้ากลุ่มนักวิทยาศาสตร์ไฮดราเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นนิสัยเดิม ๆ ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนของอิวานจึงยิ่งทำให้เขาปะทะคารมและใช้กำลังกับนักวิทยาศาสตร์ไฮดราอยู่บ่อยครั้ง ทว่าคนพวกนั้นกลับทำได้แค่กล้ำกลืนความโกรธไม่กล้าตอบโต้
แน่นอนว่าเอริคไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะเขามองว่าคนที่ใช้เลือดของเด็กมาสังเวยชีวิตสมควรถูกลงโทษ และการที่เขายังไม่ส่งพวกนี้ลงนรกก็ถือว่าเป็นความเมตตาที่มากเกินพอแล้ว
“บอส วัสดุทดลองที่คุณสัญญาจะส่งมาให้ผมน่ะ เมื่อไหร่จะมา? ทุกวันนี้ผมต้องทำการทดลองกับหนู มันน่าเบื่อจนผมทนไม่ไหว ถ้ายังไม่มีอะไรมาเพิ่มอีก ผมคงต้องใช้พวกเขาแทน!”
อิวานพูดจบก็คว้าตัวนักวิทยาศาสตร์ไฮดราคนหนึ่งมาใกล้ ๆ พร้อมจ้องตาอีกฝ่ายด้วยสายตาโหดเหี้ยม ราวกับนักล่าที่กำลังมองเหยื่อ จนนักวิทยาศาสตร์คนนั้นตัวสั่นแทบทรงตัวไม่อยู่
เอริคถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ในใจเขารู้ดีว่าอิวานเป็นคนที่มีด้านมืดอยู่ในตัว ถ้าหากไม่ได้เขาควบคุมไว้ อิวานอาจจะลงมือทำเรื่องแบบนั้นจริง ๆ ไปแล้วก็ได้
“อิวาน เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทำการทดลองกับมนุษย์ จำได้ไหม? ว่าแต่ งานวิจัยของนายตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว?”
“บอสมาได้ถูกจังหวะพอดีเลย!” อิวานหัวเราะเยาะ ก่อนจะปล่อยตัวนักวิทยาศาสตร์ไฮดราที่หน้าซีดเผือดให้เป็นอิสระ และหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาจากโต๊ะแล้วยื่นให้เอริคดู
“โครงสร้างพื้นฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ยังขาดวัสดุทดลองที่คุณสัญญาจะส่งมา!”
เอริครับแท็บเล็ตมา ก่อนจะเลื่อนดูรายงานทีละหน้า พลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ยอดเยี่ยมมาก อิวาน พาฉันไปดูตัวทดลองหน่อยสิ”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ตัวทดลอง’ ใบหน้าของอิวานก็ฉายแววภาคภูมิใจอย่างชัดเจน เขาผลักนักวิทยาศาสตร์ไฮดราที่ขวางทางออกไป ก่อนจะนำทางเอริคเข้าสู่ส่วนลึกที่สุดของห้องทดลอง
หลังจากผ่านการป้องกันหลายชั้นพวกเขาทั้งสองคนก็มาถึงพื้นที่ส่วนกลางที่ซึ่งเต็มไปด้วยตู้กระจกใสเรียงรายหลายร้อยตู้ และในแต่ละตู้นั้นมีหนูทดลองที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมอยู่
เอริคเดินเข้าไปใกล้ พลางใช้สัมผัสของตนตรวจสอบหนูทดลองทีละตัว ก่อนที่เขาจะพยักหน้าอย่างพอใจ “อิวาน นายทำสำเร็จแล้ว นายได้สร้างสปีชีส์ใหม่ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ ยินดีด้วย นายคือเทพผู้สร้าง!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …