ยอดระบบรีเฟรชพลังพิเศษสุดแกร่ง ตอนที่ 0021 ตบะทะลวงผ่าน นักรบระดับสี่
ยอดระบบรีเฟรชพลังพิเศษสุดแกร่ง ตอนที่ 0021 ตบะทะลวงผ่าน นักรบระดับสี่
หนิงอันไม่ใช่อัจฉริยะฟ้าประทาน เขาเป็นแค่นักรบระดับสามระยะสูงสุดธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
อย่างมากก็แค่มีเล่ห์เหลี่ยมนิดหน่อย!
แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว บนโลกนี้มีอัจฉริยะฟ้าประทานสักกี่คนกัน
ในเทือกเขาหมอกพิษ หนิงอันค่อย ๆ สังหารและหลอมรวมกระแสวิทยายุทธ์ของตนเอง
แน่นอนว่าเพราะการสังหารเผ่าคนเถื่อนจำนวนมาก
ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มากมาย!
แต่เนื่องจากสิ่งของที่เขาสามารถพกพาได้มีจำกัด
เขาจึงเลือกเฉพาะสิ่งของที่มีราคาแพง
ด้วยเหตุนี้ หนิงอันจึงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะก้าวสู่ระดับสี่
เพราะมีเพียงการก้าวสู่ระดับสี่และมีพลังจิต ถึงจะสามารถใช้สมบัติวิญญาณประเภทมิติได้
ด้วยเหตุนี้ หนิงอันจึงสังหารอย่างต่อเนื่องในเทือกเขาหมอกพิษ!
หากพบเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งเกินไป เขาก็จะเลือกหลีกเลี่ยงและรอคอยโอกาส
การสังหารเช่นนี้ดำเนินไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม
ในตอนนี้ หนิงอันมีปราณอาฆาตเต็มใบหน้า กลิ่นอายรอบตัวล้วนเป็นจิตสังหาร
ยิ่งสังหารมากเท่าไหร่!
เขาก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงขอบเขตระหว่างระดับสามและสี่
“อีกนิดเดียว!!”
“อีกไม่นานแล้ว!”
ดวงตาของหนิงอันเป็นประกาย เผยความรู้สึกออกมาเล็กน้อย
ตอนนี้ พรสวรรค์วิทยายุทธ์สองเท่าของเขากำลังจะหมดลง
หากไม่สามารถทะลวงผ่านได้ ก็เท่ากับล้มเหลว
ในแง่หนึ่ง ตอนนี้เขากำลังตกที่นั่งลำบาก
เพราะหากไม่สามารถทะลวงผ่านได้ในคราวเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหน
และมันยังส่งผลต่อการพยายามทะลวงผ่านในครั้งต่อไปอีกด้วย
หนิงอันไม่ลังเล เขาเร่งฝีเท้าในการสังหารเผ่าคนเถื่อน
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน จิตสังหารก็มาถึงขีดสุด
“ตูม!”
กลิ่นอายของหนิงอันเริ่มพุ่งสูงขึ้น
รวมถึงในห้วงสมุทรแห่งปัญญา ก็มีพลังมากมายหลั่งไหลออกมา
นี่คือพลังจิต!
ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างระดับสี่และระดับสามก็คือสิ่งนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้กระแสวิทยายุทธ์ มันสามารถสั่นคลอนนักรบที่ต่ำกว่าระดับสี่ได้
กล่าวได้ว่านักรบระดับต่ำนั้นเทียบไม่ได้กับนักรบระดับกลาง
“ในที่สุดก็ทะลวงผ่านแล้ว!”
หนิงอันไม่มีเวลาที่จะดีใจหรือเสริมสร้างระดับตบะ เขาจึงรีบออกจากที่นั่นทันที
เพราะการทะลวงผ่านในสมรภูมินั้นมีความเสี่ยงมากมาย
ก่อนหน้านี้ เขารีบหาสถานที่เพื่อทะลวงผ่าน
แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครเข้าใกล้ในช่วงเวลานั้น
ที่นี่เป็นพื้นที่ที่นักรบระดับสามมีข้อตกลงร่วมกัน มันไม่ใช่สถานที่ที่ดีนัก
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาได้ทะลวงผ่านแล้ว จุดประสงค์ในการมาที่สมรภูมิก็สำเร็จแล้ว
แต่หลังจากที่หนิงอันจากไป ก็มีเผ่าคนเถื่อนจำนวนมากมาถึง
ส่วนใหญ่เป็นเพราะกลิ่นอายตอนที่เขาทะลวงผ่าน!
“มีเผ่ามนุษย์ทะลวงผ่านระดับสี่ที่นี่”
“มาสายไปแล้ว!”
เผ่าคนเถื่อนหลายคนต่างพูดออกมาด้วยความเสียดาย
นักรบระดับสี่ที่เพิ่งทะลวงผ่านนั้น ยังไม่สามารถควบคุมพลังของตนเองได้อย่างเต็มที่
หากมีไพ่ตายบางอย่าง ก็อาจจะสามารถโจมตีอีกฝ่ายได้
บางทีอาจจะทำให้นักรบระดับสี่คนนี้ตบะถดถอยก็เป็นได้
น่าเสียดายที่ตอนนี้พลาดโอกาสนี้ไปแล้ว!
โชคดีที่เป็นแค่นักรบระดับสี่ เผ่าคนเถื่อนหลายคนจึงรู้สึกเสียดายเพียงเล็กน้อย
ไม่ได้คิดอะไรมาก!
หลังจากกลับมาที่เมืองหนานเจียง หนิงอันนำสิ่งของที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ไปแลกเปลี่ยน
และแลกเปลี่ยนบางอย่างเป็นคะแนนสะสมของกองทัพสหพันธ์
นำคะแนนสะสมเหล่านี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นถุงเก็บของ
“ถุงมิติ!”
หลังจากก้าวสู่ระดับสี่ สิ่งที่หนิงอันต้องการมากที่สุด
สิ่งของพิเศษบางอย่าง มีเพียงสหพันธ์เท่านั้นที่ขาย!
เช่น ข้าววิญญาณ และถุงมิติ
ตอนนี้ ถุงมิติในมือของหนิงอันมีขนาดเพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตร
แต่มูลค่าหากแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณ ก็อย่างน้อยห้าแสนก้อน
หากไม่ใช่เพราะครั้งนี้หนิงอันสังหารเผ่าคนเถื่อนระดับสามได้มากพอ และได้รับสิ่งของมากมาย เขาก็คงไม่สามารถซื้อได้
ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงถุงมิติที่มีขนาดเล็กที่สุด
หากต้องการขนาดที่ใหญ่ขึ้น มูลค่าก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
แต่พื้นที่เพิ่มขึ้นหนึ่งลูกบาศก์เมตร ช่วยให้หนิงอันสามารถเก็บสิ่งของได้มากขึ้น
ไม่เหมือนครั้งนี้ ที่ต้องทิ้งสิ่งของหลายอย่างไป
เลือกเฉพาะสิ่งของที่มีค่าที่สุด!
“กลับมหาวิทยาลัยก่อน!”
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หนิงอันก็กลับไปที่มหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียง
ผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์กว่า ๆ แต่มันแตกต่างออกไปสำหรับหนิงอัน
ในสมรภูมิ ครั้งนี้หนิงอันไม่ได้หลบซ่อนตัวเหมือนเมื่อก่อน
ดังนั้น หลายครั้งเขาต้องอยู่ในสภาพตึงเครียด
หวาดกลัวการโจมตีจากที่มืด
หลังจากออกจากสมรภูมิ เขาถึงจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากกลับมาคือการเสริมสร้างระดับตบะ
และใช้ความรู้สึกตอนที่ทะลวงผ่าน ฝึกฝนเพิ่มเติม!
แต่น่าเสียดายที่หลังจากกลับมา ผลของพรสวรรค์วิทยายุทธ์สองเท่าก็หมดลงเช่นกัน