ตอนที่แล้วบทที่ 29 สืบสาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 จากลาชั่วคราว

บทที่ 30 อูยา


ทางหลวงอันเงียบสงัด

เซี่ยอวี่หลิงและซูไป๋อีที่ได้ยินน้ำเสียงของเฟิงจั่วจวินถึงกับหันกลับไปมอง เห็นเจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อหยุดมือแล้วถอยกลับไปยืนอีกฝั่ง ส่วนหนานกงซีเอ๋อร์ก็เก็บกระบี่และหันหลังกลับ

ท่ามกลางหมอกควันที่ปกคลุมทางหลวง มีเงาร่างสามคนปรากฏขึ้นจากความสลัว

“หัวหน้า ดูเหมือนมีคนชิงลงมือก่อนเราแล้ว” ชายคนหนึ่งที่ถือดาบยาวเดินนำออกมาจากหมอก กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “โอ้ ดูสิ หลวงจีนสู้กับสตรี น่าสนใจยิ่งนัก”

“หลวงจีน” อีกคนหนึ่งเดินตามออกมา เสียงของเขาดูสุขุมกว่า “เจ้า…คุ้นหน้านัก…”

เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อที่ยังคงรักษาสีหน้าสงบตลอดการต่อสู้กับหนานกงซีเอ๋อร์ ทันทีที่เห็นชายสองคนนี้ สีหน้ากลับเริ่มเคร่งเครียดขึ้น

“ทำไมต้องเป็นพวกเขา?” เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อพึมพำ

“พวกเขาเป็นใคร?” หนานกงซีเอ๋อร์ถาม แม้จะเพิ่งต่อสู้กับเจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อมา แต่นางกลับไม่ได้รู้สึกเป็นศัตรูเท่าใดนัก ทว่าเมื่อเห็นชายสองคนนี้กลับรู้สึกไม่ไว้วางใจ

“ตำหนักชิงหมิงฝ่ายปีก” เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อกล่าวเสียงหนักแน่น “ทุกคนในฝ่ายนี้ถูกตั้งชื่อเป็นนก ทั้งหมดล้วนจัดการยาก คนหนึ่งชื่อ ชื่ออู อีกคนซาเชวี่ย พวกเขาเก่งทั้งคู่ ไม่ง่ายเลยที่จะรับมือ”

“ตำหนักชิงหมิงหรือ” หนานกงซีเอ๋อร์หัวเราะเย็น “ดูจากท่าทีของเจ้า ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่ได้เป็นพวกเดียวกันจริงๆ อย่างที่ศิษย์พี่ห้าของข้าบอกไว้ สำนักสวรรค์ซ่างหลินบัดนี้แตกคอ ต่างคนต่างแว้งกัดกันเอง”

“แม่นางกล่าวเช่นนี้เกรงจะไม่ถูกต้อง” เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อกระแอมเบาๆ “พวกเขามาที่นี่ ไม่ว่าจะฆ่าหรือจับตัวซูไป๋อี ข้าก็ไม่เหมือนพวกเขา”

“ไม่เหมือนอย่างไร?”

“ข้ามาเพื่อพาซูไป๋อีไปพบอาจารย์ของเขา”

“ใครกัน ช่างพูดจาเหลวไหล” เสียงที่สามดังขึ้น ชายผู้สะพายดาบยาวบนบ่าทั้งสองเดินออกมาจากหมอก ท่าทีเซื่องซึมเหมือนจะหลับไปทุกขณะ แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าสหายทั้งสอง เขาก็เงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาที่เฉียบคม

“พวกเจ้า ใครคือซูไป๋อี?” เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

ซูไป๋อีเกาศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่คิดเลยว่าการเข้าสู่ยุทธภพครั้งแรกของข้า จะทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังเช่นนี้ เจอใครก็ล้วนตามหาข้ากันทั้งนั้น”

“หัวหน้า หลวงจีนรูปนั้นดูเหมือน…”

“หืม?” ชายที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าเลิกคิ้วขึ้น “หลวงจีน?”

“เจ้านั่นเอง” ทั้งชายหนุ่มและเจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อพูดพร้อมกัน

“คนคุ้นเคยเก่าหรือ?” หนานกงซีเอ๋อร์ถาม

“ไม่ใช่แค่คุ้นเคย พวกเราเคยแลกเปลี่ยนฝีมือกัน” เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อพูดพลางมุมปากกระตุก “แม่นางดูแลซูไป๋อีให้ดีคนผู้นี้บ้าคลั่ง เขาคืออูยา นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งฝ่ายปีกของตำหนักชิงหมิง”

“เจ้าเซ่อ ห่างหายไปนาน” อูยาเลิกคิ้ว ยกดาบจากบ่าลงมา แสงจันทร์สะท้อนกับใบดาบจนขาวโพลน ราวกับหิมะ “เจ้าลงเขาไปครานั้นไม่ส่งข่าวกลับมา ข้านึกว่าเจ้าตายไปแล้ว”

“นามทางธรรมอาตมาคือเจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อ ช่วยเรียกให้เต็มด้วย อูยาก็ยังเป็นอูยาเช่นเดิม” เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อถอยหลังหนึ่งก้าว

“แต่คำพูดของอูยานั้นแม่นยำ โดยเฉพาะเรื่องการประกาศลางร้าย” อูยาหรี่ตามองซูไป๋อีและเหล่าศิษย์น้องของหนานกงซีเอ๋อร์ “น่าเสียดาย วันนี้ข้ามิได้มาหาเจ้า”

“หนี!” เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อตะโกน

ซูไป๋อีเงื้อมแส้ขึ้น แต่ยังไม่ทันลงมือ อูยาก็สะบัดดาบในมือออกไป ดาบพุ่งทะลุเข้ากลางหลังรถม้า สะบั้นรถม้าส่วนหลังจนแหลกเป็นชิ้นๆ

“เจ้าอย่าคิดเชียว!” หนานกงซีเอ๋อร์สะบัดกระบี่ในมือออก

อูยาตะโกนเสียงดัง “สกัดพวกมันไว้!” ก่อนกระโจนออกไป

หนานกงซีเอ๋อร์ฟาดกระบี่ใส่ดาบยาวเล่มหนึ่งที่มีห่วงเหล็กห้อยอยู่สิบกว่าห่วง เสียงห่วงกระทบกันดัง

ติ๊ง! ติ๊ง!

“โฮ่ แม่นางคนงาม ท่าทางคู่ต่อสู้ของเจ้าจะเป็นข้าสินะ” ชื่ออูเลียริมฝีปากพลางชมเปาะ “เจ้าช่างงดงามน่าลิ้มลองนัก”

“เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อ” ซาเชวี่ยขวางหน้าพระหนุ่ม “ไม่ได้พบกันเสียนาน เป็นอย่างไรบ้างหลังจากลงเขา?”

“ใครอยากสนทนาเรื่องเก่ามิทราบ!” เจี้ยชิงปู้เจี้ยเซ่อฟาดฝ่ามือใส่

อูยามุ่งตรงไปยังดาบยาวที่ปักอยู่บนรถม้า เฟิงจั่วจวินรีบหยิบดาบที่ซื้อมาระหว่างทางออกมา พร้อมตะโกน “เพลงดาบมหาวาโย สายลมโบกสามหมื่นลี้!”

ดาบฟันลงด้วยพลังมหาศาล

ในสำนักศึกษา เฟิงจั่วจวินเคยพยายามใช้เพลงดาบมหาวาโย แต่ไม้ไผ่อันเปราะบางมักจะทนแรงปราณดาบไม่ได้และแตกเป็นเสี่ยงๆ เสมอ คราวนี้เขาใช้ดาบเหล็กมั่นใจว่าต้องต้านชายคนนี้ได้

แต่คิ้วของอูยาเลิกขึ้นเล็กน้อย สีหน้าเต็มไปด้วยความดูแคลน “โอ้? เพลงดาบมหาวาโยแห่งสำนักเมฆาสางสวรรค์รึ? ว่ากันว่าดาบมหาวาโยนี้สามารถพัดพาฝุ่นทรายไกลกว่าสามหมื่นลี้ แต่เหตุใดสายลมของเจ้าจึงไม่สามารถแม้แต่จะพัดผมเส้นเดียวของข้าได้กัน?”

อูยาสะบัดสองนิ้ว จับดาบของเฟิงจั่วจวินไว้แน่น

“เจ้าติดกับแล้ว” เฟิงจั่วจวินยิ้ม

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด เซี่ยอวี่หลิงปรากฏตัวขึ้นข้างอูยา ถือพัดยาวฟาดใส่ด้านหลังของอูยา

“เขลานัก! ในเมื่อพลังห่างชั้นกันอย่างสิ้นเชิง คำว่า ‘ติดกับ’ ย่อมไร้ความหมาย” อูยาหมุนข้อมือเบาๆ ปลายดาบหักสะบั้น ก่อนปาดดาบไปยังใบหน้าของเซี่ยอวี่หลิง

“ระวัง!” เฟิงจั่วจวินตะโกนลั่น คาดไม่ถึงว่าอูยาจะเมินพลังดาบของเขาแล้วใช้เพียงนิ้วหักดาบได้ง่ายดาย

แต่สายเกินไปแล้ว เศษดาบพุ่งเข้าปะทะเซี่ยอวี่หลิง ศีรษะของเขาหงายไปด้านหลัง ร่างโอนเอนเหมือนจะล้ม

“ยังดีที่ไม่ใช่ซูไป๋อี” อูยาเอียงตัว ดึงดาบยาวที่ปักอยู่บนรถม้าออกมา หันไปทางเฟิงจั่วจวิน “หากเจ้าไม่อยากตาย…”

ยังพูดไม่ทันจบ อูยาก็รู้สึกถึงอันตรายบางอย่าง รีบหันกลับยกดาบขึ้นมาป้องกันลำคอ

เซี่ยอวี่หลิงที่ดูเหมือนจะล้ม กลับตั้งตัวตรงขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เขากัดปลายดาบที่หักไว้ในปาก ฟันยังกัดแน่น ก่อนสะบัดเศษดาบใส่อูยา

อูยาใช้ดาบเบี่ยงเศษดาบออก แต่ช้าไปเล็กน้อย เศษดาบเฉือนแก้มของเขา

อูยาวางดาบลง ลูบเลือดที่แก้มแล้วหัวเราะ “เจ้าชื่ออะไร?”

“เซี่ยอวี่หลิงแห่งตระกูลเซี่ย แคว้นเจียงหนาน” เซี่ยอวี่หลิงเช็ดเลือดออกจากริมฝีปาก

“ตระกูลเซี่ยที่มีแต่พวกไร้ค่านั่นหรือ?” อูยากล่าวพลางเช็ดเลือดบนหน้า

“ตระกูลเซี่ยที่ให้กำเนิดเซี่ยคั่นฮวาผู้เลื่องชื่อต่างหาก!” เซี่ยอวี่หลิงตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด