บทที่ 104 : พบสัตว์อสูรตัวใหม่!
บทที่ 104 : (ตอนฟรี) พบสัตว์อสูรตัวใหม่!
ใกล้ๆกับภูเขาไฟใต้ทะเล วาฬเพลิงจักรพรรดินอนหลับสนิทอยู่บนลาวาร้อนๆ…เเต่กลับดูสงบสุขอย่างน่าประหลาด
ถึงแม้ขนาดตัวของมันจะเทียบไม่ได้กับเทพเเห่งท้องทะเล-ลิเวียธานของพลเรือเอกมู่หรงจิน แต่มันก็ยังคงดูใหญ่โตมโหฬารมากอยู่ดี
ในขณะที่หลับใหล วาฬเพลิงจักรพรรดิจะอ้าปากออกเป็นระยะๆ จนเผยให้เห็นฟันที่แหลมคมและลุกโชนด้วยเปลวเพลิง
เปลวเพลิงที่สามารถลุกไหม้ในน้ำได้นั้นหาได้ยากยิ่ง เเละเปลวเพลิงของวาฬเพลิงจักรพรรดิก็เป็นหนึ่งในนั้น
ณ ขณะนี้…เดลลูตบบ่าเซียวซิงหยู แล้วส่งสายตาเป็นเชิงบอกให้เขาลงมือ
เเต่เซียวซิงหยูยังคงลังเล ไม่กล้าเข้าไปใกล้
เเต่เมื่อต้องเจอสายตาของเดลลูที่ราวกับจะบอกว่า "มีพวกข้าสองคนอยู่ จะกลัวอะไรนักหนา"
สุดท้าย, เซียวซิงหยูที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็โดนเดลลูผลักจนเสียหลักไปข้างหน้า
เซียวซิงหยูล้มลงไปตรงที่ปากปล่องภูเขาไฟใต้ทะเล พอดีกับที่อยู่ตรงหน้าวาฬเพลิงจักรพรรดิ
ที่นี่คือก้นทะเล ร่างกายของมนุษย์อย่างเซียวซิงหยูไม่สามารถทนต่อแรงดันน้ำได้ เดลลูจึงต้องสร้างเกราะป้องกันรูปทรงกลมขึ้นมารอบตัวเซียวซิงหยูโดยใช้เปลวเพลิงมังกร
เปลวเพลิงมังกรเป็นเปลวเพลิงที่พิเศษที่สุดในโลก มันสามารถลุกไหม้ได้แม้กระทั่งในน้ำ หรือแม้แต่ในอวกาศก็ไม่มีปัญหาใดๆ
ครืนนนนน!!!
ทันใดนั้นที่ก้นทะเลก็เริ่มสั่นสะเทือน อสูรน้ำรอบๆ ต่างพากันหนีตายอย่างบ้าคลั่ง
เเละในตอนนี้…วาฬเพลิงจักรพรรดิกำลังจะตื่นขึ้นเเล้ว!
ในวินาทีที่มันลืมตาขึ้น ความมืดมิดใต้ทะเลก็ถูกแทนที่ด้วยแสงสีแดงฉานสองดวง พร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
วาฬเพลิงจักรพรรดิชอบนอนเป็นชีวิตจิตใจ ใครก็ตามที่มารบกวนการนอนของมัน จะต้องเจอกับความโหดร้ายที่ยากเกินจะบรรยาย
และเซียวซิงหยูก็คือต้นเหตุที่ทำลายความฝันอันแสนหวานของมัน…เเละเมื่อฝันดีถูกทำลาย วาฬเพลิงจักรพรรดิก็เดือดดาลเป็นอย่างมาก มันปลดปล่อยพลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวออกมา พร้อมกับจ้องมองเซียวซิงหยูด้วยสายตาอาฆาต
“ฮึ่มมมมม”
“หงึก!!!”
แต่ในวินาทีต่อมา บรรยากาศก็เปลี่ยนไป
แววตาที่น่ากลัวของวาฬเพลิงจักรพรรดิหายไป พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวก็ถูกเก็บเข้าที่…แถมมันยังทำหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสอีกด้วย
ตอนนี้อสูรระดับเทพเจ้าตัวนี้ดูน่ารักและขี้เล่นอย่างบอกไม่ถูก
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เซียวซิงหยูถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
เเต่เมื่อเซียวซิงหยูหันหลังกลับไปมอง, เขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
เบื้องหลังของเขาตอนนี้ มีงูยักษ์สีดำขนาดมหึมาตัวหนึ่งขดตัวอยู่…ส่วนอีกตัวหนึ่งคือจิ้งจอกเก้าหาง ที่ลำตัวลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงสีม่วงทอง พร้อมดวงตาสีทองที่กำลังจ้องมองวาฬเพลิงจักรพรรดิอย่างไม่วางตา
ถึงแม้ทั้งสามตัวจะเป็นอสูรระดับเทพเจ้าเหมือนกัน แต่สายเลือดของเดลลูและเมดูซ่าเหนือกว่าวาฬเพลิงจักรพรรดิมาก
โดยเฉพาะเดลลู เพียงแค่เธอปลดปล่อยพลังมังกรออกมา…มันก็สามารถทำให้จิตวิญญาณของวาฬเพลิงจักรพรรดิสั่นสะท้านได้แล้ว
การมีเดลลูและเมดูซ่าคอยหนุนหลัง มันก็ทำให้วาฬเพลิงจักรพรรดิกลายเป็นเด็กดีเเละเป็นมิตรในทันที
"นี่แหละ พลังการกดข่มจากสายเลือด!" เซียวซิงหยูพึมพำในใจ
จากนั้นเซียวซิงหยูก็เดินอ้อมไปด้านหลังของวาฬเพลิงจักรพรรดิ แล้วเก็บอุจจาระที่อยู่บนหน้าผาภูเขาไฟมาได้จำนวนมาก
อุจจาระของวาฬเพลิงจักรพรรดิไม่มีกลิ่นเหม็นเลย…เเละนั่นเป็นเพราะระบบย่อยอาหารที่พิเศษของมัน
"เรียบร้อย!"
เซียวซิงหยูเก็บถุงอุจจาระที่เต็มปรี่ใส่แหวนมิติ
สำหรับผู้ฝึกอสูรคนอื่น อุจจาระของอสูรระดับเทพเจ้าคงจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย…แต่สำหรับเซียวซิงหยู มันคือปุ๋ยชั้นดีสำหรับการเพาะพันธุ์เถาวัลย์วิญญาณสวรรค์
…..
หลังจากนั้นไม่นาน
ฉ่าาาาา!
งูยักษ์ได้โผล่หัวขึ้นมาจากผิวน้ำ โดยมีเซียวซิงหยูนั่งอยู่บนหัวด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ณ เวลานี้…แสงสีส้มปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า
มันเเสดงให้เห็นว่าอรุณรุ่งมาเยือนแล้ว
นอกจากนี้ มันยังหมายความว่าเหลือเวลาอีกประมาณ 10 ชั่วโมงก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันซูเปอร์โนวาจะเริ่มขึ้น
"ซาซ่า ไปกันเลย!"
ความเร็วในการเดินทางในน้ำของงูยักษ์ภัยพิบัติ เร็วกว่าเรือประจัญบานที่เร็วที่สุดของกองบัญชาการกองทัพเรือหลายเท่า
โดยการใช้เวลาเพียงห้าชั่วโมง เซียวซิงหยูก็กลับมาถึงชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศมังกรเรียบร้อยแล้ว
หลังจากขึ้นฝั่ง เมดูซ่าก็กลับร่างเป็นมนุษย์…เเละมันก็ถึงตาของเดลลูที่จะต้องเปลี่ยนร่างเป็นอสูรบ้างแล้ว
เส้นทางที่ใกล้ที่สุดในการเดินทางกลับไปยังเมืองสี่วิญญาณ คือการเดินทางผ่านเทือกเขาสายฟ้า ซึ่งเป็นเขตอันตรายที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
เทือกเขาสายฟ้า มีสภาพอากาศที่แปลกประหลาด ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน มันก็มักจะมีสายฟ้าผ่าลงมาในหุบเขาอยู่ตลอดเวลา
ภายในป่าลึก จิ้งจอกเก้าหางตัวหนึ่งกำลังเคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
ส่วนเซียวซิงหยูและเมดูซ่าที่อยู่ในร่างมนุษย์ นั่งอยู่บนหลังของจิ้งจอกเก้าหางอย่างสบายใจ
"ลูลู่ เร็วกว่านี้อีกหน่อยสิ!" เซียวซิงหยูพูด
"หุบปากไปเลย ข้าวิ่งเร็วที่สุดแล้ว" เดลลูตอบกลับ
"เร็วกว่านี้อีกนิดนะ ฉันชอบอากาศเย็นๆ!"
"..."
เมดูซาหัวเราะคิกคัก สาวน้อยงูผู้เย็นชาคนนี้ หลังจากที่ได้ร่วมเดินทางไปกับเซียวซิงหยู…เธอก็เริ่มยิ้มเเละหัวเราะบ่อยขึ้น
"หืม….ข้างหน้านั่นมีน้ำตก เราแวะพักกันหน่อยเถอะ!" เซียวซิงหยูเอ่นขึ้นมา
ทรัพยากรน้ำจืดหายากมากในทะเล, เซียวซิงหยูจึงต้องดื่มแต่น้ำนมอสูรเพื่อดับกระหาย
ตอนนี้ในปากของเซียวซิงหยูจึงเต็มไปด้วยกลิ่นคาวนม คอของเขารู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เมื่อเห็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผา เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นเเละต้องการลงไปเล่นน้ำเป็นอย่างมาก
เเละเมื่อพูดจบ, เซียวซิงหยูก็กระโดดลงจากหลังจิ้งจอกเก้าหาง…วิ่งไปที่แอ่งน้ำข้างน้ำตก เเล้วกวักน้ำใสสะอาดเข้าปากอย่างกระหาย
นี่คือน้ำแร่จากธรรมชาติที่บริสุทธิ์... เซียวซิงหยูจึงดื่มมันอย่างเอร็ดอร่อย
"ฉันพักฟื้นในช่องแคบอสูรมาตลอดสองสามวันจนร่างกายของฉันเหม็นมาก…ฉันจะอาบน้ำ!"
เซียวซิงหยูพูดจบก็ถอดเสื้อผ้าออก แล้วกระโดดลงไปในแอ่งน้ำทันที
น้ำตกที่ไหลลงมาจากเบื้องบน เปรียบเสมือนฝักบัวในห้องน้ำ
"ลูลู่…มาอาบด้วยกันสิ!"
"ไม่เอา!" เดลลูปฏิเสธด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เมื่อเห็นเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็หันไปมองเมดูซ่าที่ยืนอยู่ริมตลิ่ง
"ซาซ่า อยากลงมาอาบน้ำด้วยกันไหม?...ถ้ามาฉันจะขัดหลังให้ แถมฉันยังสามารถนวดเพิ่มขนาดหน้าอกแบบแพทย์แผนจีนได้ด้วยนะ!"
เมดูซ่านั่งอยู่บนโขดหิน มุมปากยกยิ้มเยาะกับเเผนการร้ายของเซียวซิงหยู
"หึหึ ข้าพอใจกับรูปร่างของตัวเองแล้ว…ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดหน้าอกหรอก!"
เมื่อเดลลูและเมดูซ่าไม่ยอมลงน้ำ เซียวซิงหยูจึงต้องเล่นน้ำคนเดียว
ร่างกายของเด็กหนุ่มที่เปลือยท่อนบน กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรงเผยให้เห็นอย่างเด่นชัด
"อายุยังน้อยก็ดีอย่างนี้นี่เอง" เมดูซ่าถอนหายใจ
เดลลูเบะปาก ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเมดูซ่า
"ดีตรงไหนกัน เจ้านี่ชอบสร้างเรื่องตลอด…ข้ารับรองเลยว่าในอนาคตพวกเราจะต้องยุ่งยากมากแน่ๆ"
…..
กรรรรร!!!
ทันใดนั้น มันก็มีเสียงคำรามของอสูรและเสียงฝีเท้าหนักๆดังมาจากป่าข้างๆแอ่งน้ำ
ฟุ่บ!
เงาเล็กๆเงาหนึ่งพุ่งออกมาจากป่า แล้วตกลงบนหัวของเซียวซิงหยูพอดี!
"อะไรเนี่ย?"
เซียวซิงหยิบสิ่งมีชีวิตขนปุยตัวเล็กๆ ออกมาจากหัวของเขา…เเละมันคือกระต่ายตัวเล็กๆขนาดเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่
ขนของกระต่ายมีสีขาวราวกับหิมะ จุดเด่นของมันอยู่ที่หูทั้งสองข้างที่มีรูปร่างคล้ายกับสายฟ้าฟาด!
"กระต่ายสายฟ้า?"
เซียวซิงหยูและกระต่ายสายฟ้าจ้องมองกันและกัน
เสียงคำรามของอสูรจากในป่าดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
เซียวซิงหยูมองกระต่ายสายฟ้าอย่างพิจารณา มันขดตัวด้วยความกลัวเเละมีดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดผวา
ในโลกของอสูร กฎของผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอยังคงใช้ได้เสมอ
เซียวซิงหยูเดาได้ไม่ยากว่ากระต่ายสายฟ้าตัวน้อย คงกำลังหนีการตามล่าของอสูรระดับสูงอยู่
สำหรับกระต่ายสายฟ้า เด็กหนุ่มที่ดูอ่อนโยนตรงหน้ามัน คือความหวังเดียวที่จะช่วยชีวิตมันไว้ได้
………………..