ตอนที่ 39 พี่น้องแยกจากกัน
ตอนที่ 39 พี่น้องแยกจากกัน
ทางเข้าแดนลับจักรพรรดิคุนคือรอยแยกในมิติขนาดสูงสิบกว่าเมตร ตั้งอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งบริเวณเขตแดนระหว่างทะเลนอกและทะเลใน
เมื่อกู้ฉางชิงและคณะเดินทางมาถึง พวกเขาต่างประหลาดใจกับภาพตรงหน้า
ผู้คน…มีผู้คนอยู่ทุกหนแห่ง
พวกเขามาจากทั่วทุกสารทิศ ไม่เพียงแต่ผู้ฝึกตนจากหมื่นอสูรทะเลใต้เท่านั้น ยังรวมถึงผู้ฝึกตนจากอาณาจักรอีกเจ็ดถึงแปดแห่งที่มีเขตแดนติดกับหมื่นอสูรทะเลใต้ รวมถึงขุมกำลังอีกนับไม่ถ้วน
“คนเยอะอะไรขนาดนี้…”
กู้หลิงตบหน้าอกของตนเองด้วยความตกใจ นางไม่เคยเห็นผู้คนมากมายเช่นนี้มาก่อน แม้แต่เมืองเจียงหลินที่ตระกูลกู้อาศัยอยู่ ซึ่งรวมประชากรทั้งหมดแล้วยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของที่นี่ และนี่ยังไม่นับรวมผู้ที่เข้าไปในแดนลับแล้ว
“เมื่อเข้าไป หากพบคนจากตระกูลเรา พยายามรวมกลุ่มกันเข้าไว้ และหากพบผู้คนจากสำนักใจพิสุทธิ์ก็สามารถขอให้พวกเขาช่วยคุ้มครองได้” ก่อนจะเข้าไป กู้ฉางชิงกำชับอย่างจริงจัง
เรื่องที่สำนักใจพิสุทธิ์เป็นขุมกำลังในสังกัดของกู้ฉางชิง เพิ่งถูกเปิดเผยให้คนในตระกูลกู้ทราบเมื่อไม่นานมานี้ เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย
“รับทราบ!”
“เข้าไปกันเถอะ”
กู้ฉางชิงกล่าวพลางก้าวเดินไปยังรอยแยกในมิติ แต่จู่ๆ เขาก็หยุดลงและมองไปยังทิศทางหนึ่ง
ตรงนั้นมีสตรีสองคนยืนอยู่ รูปร่างงดงามสง่า
สตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้า มีความงามที่ไม่ด้อยไปกว่าเจียงเหลียนซินเลย หากจะเปรียบเทียบกัน ในบรรดาสตรีทั้งหมดที่กู้ฉางชิงเคยพบ นางถือว่าเป็นรองเจียงเหลียนซินเพียงเล็กน้อย
ถ้าความงามของเจียงเหลียนซินเต็มร้อย นางก็คงอยู่ที่ 98
แต่สิ่งที่ทำให้กู้ฉางชิงสนใจในตัวพวกนางไม่ใช่เพียงความงาม แต่คือพลังของพวกนาง
โดยเฉพาะหญิงสาวในชุดสีฟ้าที่อยู่ด้านหน้า
นางดูอายุใกล้เคียงกับกู้ฉางชิง และที่สำคัญคือ…นางอยู่ในระดับราชาลึกลับ เช่นเดียวกับเขา
“น่าสนใจ ผู้หญิงคนนี้อาจเป็นอัจฉริยะที่อยู่ในทำเนียบวิญญาณ แต่ไม่รู้ว่านางอยู่อันดับที่เท่าไร” กู้ฉางชิงพึมพำกับตัวเองอย่างสนใจ
ขณะเดียวกันที่กู้ฉางชิงมองดูพวกนาง พวกนางเองก็กำลังมองเขาอยู่
“คุณหนู มองอะไรอยู่หรือ? หรือหัวใจของท่านเริ่มหวั่นไหวแล้ว?” หญิงสาวด้านหลังในชุดสีฟ้าหัวเราะเบาๆ
หญิงสาวในชุดสีฟ้าชำเลืองมองคนสนิทของนางด้วยความไม่พอใจ ก่อนตอบเบาๆ ว่า “คนผู้นี้ ข้าดูไม่ออก…ไม่นึกเลยว่าทะเลใต้นี้จะมีบุคคลระดับนี้อยู่”
“แม้แต่คุณหนูก็ดูไม่ออกหรือ?”
คนสนิทของนางประหลาดใจมาก นางเพ่งพินิจไปยังกู้ฉางชิง แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่พบอะไรที่พิเศษออกไป สิ่งเดียวที่นางรู้สึกคือ…กู้ฉางชิงหน้าตาดีมากเท่านั้นเอง
ทางเข้าแดนลับจักรพรรดิคุนต้อนรับผู้ฝึกตนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไป สองพี่น้องที่ขี่อสูรทะเลก็เดินทางมาถึงที่นี่เช่นกัน
“ที่นี่คือแดนลับจักรพรรดิคุนอย่างนั้นหรือ? คนเยอะจริงๆ!” กู้ชิงเฉินมองดูฝูงชนที่แออัดไปทั่ว ดวงตาสีดำกลมโตเบิกกว้าง ปากอ้ากลายเป็นรูปตัวโอ
“เมื่อเข้าไปแล้ว เจ้าต้องตามข้าให้ติด เข้าใจไหม?”
กู้หยุนซีจับมือน้องชายแน่นก่อนจะก้าวเข้าสู่รอยแยกในมิติ
ทันใดนั้น สภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และตามมาด้วยแสงจ้าที่ทำให้ทั้งคู่ต้องปิดตา
เมื่อกู้ชิงเฉินลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทุกสิ่งรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงไป
เขาไม่ได้อยู่บนเกาะเล็กๆ ที่แห้งแล้งอีกต่อไป แต่กลับมาอยู่ในป่าทึบอันเขียวชอุ่ม
“ที่นี่คือแดนลับจักรพรรดิคุนอย่างนั้นหรือ? พี่หญิง…”
พี่หญิง?
กู้ชิงเฉินรู้ตัวว่า มือที่พี่หญิงเคยจับไว้นั้นว่างเปล่า กู้หยุนซีไม่ได้อยู่ข้างเขาอีกต่อไป
เขามองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เห็นมีเพียงความว่างเปล่า รอบตัวไม่มีใครเลย นอกจากตัวเขาเอง
“พี่หญิง!?”
เสียงของกู้ชิงเฉินดังขึ้น ความตื่นกลัวเริ่มปรากฏในน้ำเสียงของเขา
“ฮือ…พี่หญิง…พี่หญิง…”
น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลลงจากแก้มของเขาที่เหมือนตุ๊กตาเคลือบ
ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน กู้หยุนซีก็อยู่เคียงข้างเขาเสมอ เขาเป็นเหมือนเงาของพี่หญิง
แม้ตอนอยู่บนทะเล เขาจะดื้อซุกซนและไม่รู้จักคำว่ากลัว แต่ทั้งหมดนั้นก็เพราะพี่หญิงของเขาอยู่ด้วย
แต่ตอนนี้ เขากลับมาอยู่ในสถานที่แปลกประหลาดเพียงลำพัง พี่หญิงไม่รู้ว่าหายไปไหน ความหวาดกลัวเข้ามาแทนที่หัวใจทันที
ทั้งกู้ชิงเฉินและกู้หยุนซีต่างไม่รู้มาก่อนว่า การเข้าสู่แดนลับจักรพรรดิคุนจะถูกสุ่มส่งไปยังพื้นที่ต่างๆ ในแดนลับ
“ฮืออออ…”
กู้ชิงเฉินทรุดตัวลงกับพื้น ร้องไห้ออกมาเสียงดัง เขาเรียกหาพี่หญิงอยู่ตลอดเวลา
แต่เสียงร้องไห้ของเขาไม่ได้ดึงพี่หญิงกลับมา มีเพียงเด็กสาวคนหนึ่ง อายุประมาณ 16-17 ปี ที่เดินตามเสียงร้องไห้ของเขามา
เมื่อมาถึง เด็กสาวเห็นเด็กชายที่ร้องไห้จนหน้าเปื้อนน้ำตา นางถึงกับหยุดชะงักและมองเขาด้วยความแปลกใจ
‘เด็กหรือ’
หญิงสาวที่พูดคือ เหยียนเมิ่งฉี ศิษย์ชั้นนอกจากตำหนักแห่งจันทร์
ตำหนักแห่งจันทร์ เป็นสำนักระดับครึ่งราชาในเขตหมื่นอสูรทะเลใต้ มีศิษย์อยู่หลายพันคน ในการเปิดแดนลับจักรพรรดิคุนครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ศิษย์ชั้นในและศิษย์หลัก แม้แต่ศิษย์ชั้นนอกก็ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม
เหยียนเมิ่งฉีเป็นหนึ่งในนั้น
ด้วยพรสวรรค์ที่ไม่โดดเด่นนัก ครอบครัวของนางจึงวางแผนจับคู่ให้แต่งงานกับบุคคลที่นางไม่ชอบใจ
แม้นางไม่ยินยอม แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
การเปิดแดนลับจักรพรรดิคุนครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของนาง
ตราบใดที่นางสามารถคว้าโอกาสในแดนลับมาได้ แม้จะไม่ใช่โอกาสยิ่งใหญ่ ขอเพียงให้นางเลื่อนขั้นเป็นศิษย์ชั้นในได้ นางก็จะมีความมั่นใจพอที่จะปฏิเสธการแต่งงานนี้ และควบคุมชีวิตของตัวเอง
ไม่นานหลังจากเข้ามาในแดนลับ เหยียนเมิ่งฉีก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก นางจึงเดินตามเสียงมาและพบกับเด็กชายตัวน้อย
เมื่อมองดู เด็กชายตัวนี้น่าจะอายุแค่สี่หรือห้าขวบเท่านั้น
ในใจนางอดไม่ได้ที่จะตำหนิพ่อแม่ของเด็กคนนี้
พวกเขาต้องไม่แยแสแค่ไหน ถึงได้ส่งเด็กเล็กขนาดนี้เข้ามาในแดนลับจักรพรรดิคุน
ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี
เหยียนเมิ่งฉีรีบเดินเข้ามาหา
กู้ชิงเฉินที่ได้ยินเสียงฝีเท้าคิดว่าเป็นพี่หญิง รีบเช็ดน้ำตาแล้ววิ่งไปหา แต่เมื่อวิ่งไปครึ่งทางกลับพบว่าคนที่มานั้นไม่ใช่กู้หยุนซี แต่เป็นหญิงสาวแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จัก
เขาจึงหยุดนิ่ง ก่อนจะร้องไห้ดังขึ้นกว่าเดิม
เหยียนเมิ่งฉีรีบอุ้มกู้ชิงเฉินขึ้นมา
“อย่าร้องเลยนะ เจ้าเด็กน้อย เจ้ากำลังหาพี่หญิงอยู่หรือ พี่หญิงของเจ้าก็อยู่ในแดนลับจักรพรรดิคุนนี้ใช่หรือไม่?”
“ข้าจะช่วยเจ้าหาพี่หญิงของเจ้าดีไหม?”
กู้ชิงเฉินที่หน้าตาน่ารักมากอยู่แล้ว เมื่อร้องไห้กลับยิ่งทำให้เหยียนเมิ่งฉีรู้สึกหัวใจอ่อนยวบ
นางกอดเขาแน่นพลางปลอบโยน
หลังจากได้ยินคำพูดอ่อนโยนของเหยียนเมิ่งฉี เสียงร้องของกู้ชิงเฉินก็ค่อยๆ เบาลง จนในที่สุดก็หยุดร้อง
ดวงตาที่บวมแดงเล็กน้อยจ้องมองเหยียนเมิ่งฉีไม่กะพริบ พร้อมกับถามด้วยเสียงสะอื้นว่า
“พี่หญิงคนสวย ท่านจะช่วยข้าหาพี่หญิงของข้าจริงๆ หรือ?”
"แน่นอนสิ เจ้าหนูน้อย เจ้าชื่ออะไรล่ะ แล้วพี่หญิงของเจ้าชื่ออะไร อายุเท่าไหร่? เดี๋ยวข้าคนนี้จะช่วยเจ้าตามหาพี่หญิงเอง" เหยียนเมิ่งฉีวางกู้ชิงเฉินลงก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เขา พร้อมถามด้วยรอยยิ้ม
"ข้าชื่อ...ข้าชื่อเฉินอ๋อง พี่หญิงของข้าชื่อซีหวง นางอายุเท่าข้า เราเป็นฝาแฝดกัน" กู้ชิงเฉินพูดไปครึ่งหนึ่ง ก่อนจะนึกถึงคำเตือนของพี่หญิงที่บอกว่าอย่าเปิดเผยชื่อจริงให้ใครรู้
"เฉินอ๋อง?"
"ซีหวง?"
เหยียนเมิ่งฉีอ้าปากค้างเล็กน้อย ชื่อช่างแปลกเสียจริง
"พี่หญิงของเจ้าอายุเท่าเจ้า? แล้วพ่อแม่ของเจ้าล่ะ?" คำตอบของเด็กน้อยไม่เหมือนที่นางคาดไว้เลย ตอนแรกนางคิดว่าพี่หญิงของเขาน่าจะอายุไล่เลี่ยกับนางเอง แต่กลับกลายเป็นเด็กเล็กอีกคน
"พ่อแม่ของข้า…อืม พวกเขาก็อยู่ในแดนลับเหมือนกัน"
"เอาเถอะ เจ้าตามข้ามาก่อน ข้าจะช่วยเจ้าตามหาพี่หญิงของเจ้า และหาพ่อแม่ของเจ้าด้วยนะ เอาล่ะ ข้านามว่าเหยียนเมิ่งฉี เจ้าจะเรียกว่าพี่หญิงเหยียนก็ได้"
แม้จะพูดอย่างนั้น แต่เหยียนเมิ่งฉีก็รู้ดีว่า การช่วยเด็กคนนี้หาพี่หญิงและพ่อแม่ในแดนลับจักรพรรดิคุนนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
แดนลับแห่งนี้กว้างใหญ่มาก หากไม่มีโชคดีอย่างยิ่ง ความเป็นไปได้ที่จะพบกันก็น้อยเสียจนแทบไม่มีหวัง
แต่ให้นางปล่อยเด็กคนนี้ไว้ตามลำพัง นางทำไม่ลงเพราะด้วยความที่เป็นคนจิตใจดี
ดังนั้น นางจึงตัดสินใจพาเขาไปด้วยก่อน หากหาไม่เจอจริงๆ ค่อยว่ากันอีกทีหลังจากแดนลับจักรพรรดิคุนปิดตัวลง
เช่นนี้เอง ทีมเล็กๆ ที่ประกอบด้วยคนหนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กก็ได้เริ่มต้นการผจญภัยในแดนลับจักรพรรดิคุนด้วยกัน